ช่วงนี้หลายคนได้ทำการยื่นขอวีช่าอเมริกากันเยอะเลยครับผมคิดว่า
มีหลายคนที่ทำวีช่าผ่านและก็ไม่ผ่านกันเยอะและอยากให้เพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่เคยยื่น
วีช่าที่ทั้งผ่านและก็ไม่ผ่านมาแชร์เพราะสาเหตุอะไรบ้างหรือตกบกพล่องอะไรไปบ้างเพื่อ
เผื่อให้กับหลายๆคนที่กำลังจะไปยื่นมีข้อคิดเพิ่มเติมในการสอบสัมภาษณ์ได้และเพื่อสร้างความ
มั่นใจในการไปสัมภาษณ์ครับ
ผิดพลาดประมการใดขออภัยด้วยนะครับ อยากให้เพื่อนๆทุกคนสมหวังครับ
ขอฝากเพจไว้ด้วยนะครับผม
https://www.facebook.com/YasoGoInter
ผมจะยกตัวอย่างของผมว่า
ทำไมวีช่าผมถึงไม่ผ่าน ตั้ง สองครั้ง
ส่วนตัวผม ได้ยื่นขอวีช่าไปเที่ยวเมกา มา ทั้งหมด 3 รอบครับ ( เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ) ขอบอกก่อนเลยว่าเหนื่อยเครียดและท้อแท้มากมายว่าทำไม่มันถึงขอยากอย่างนี้ ไม่เหมือนที่อื่นที่ทำมา แต่ใจผมก็คิดครับว่ามันเป็นประเทศที่อยากไปสักครั้งในชีวิต ผมเลยบอกกับตัวเองว่า
ไม่ว่าจะไม่ผ่านยังไง ผมก็จะขอยื่นจนผมขอผ่านได้วีช่าเเหละครับ ขอเขียนเล่าเท่าที่จำได้นะครับ
สถานะตัวเองในตอนนั้นนะครับ ( ผมคิดว่า โปรไฟน์ ผมแน่นก็น่าจะขอวีช่าเมกาผ่านอยู่หลายเปอร์เซ็น ) ผมอยู่กับเเฟนประมาณ 4-5 ปีได้ครับ ( ยังไม่จดทะเบียนเเบบพาสเนอร์ ) ชึ่งทุกอย่างเเฟนออกให้หมดเพราะว่าผมไม่มีงานทำหรือยังทำงานไม่ได้ ( เเฟนคนเยอรมัน ) ในระหว่าง สี่ห้าปีนี้ผมได้มีโอกาศได้เที่ยวตลอดครับไปหลายๆที่ อยู่ จีน เกือบสองปีเข้าๆออกทุกเดือน ( ก่อนนั้นเเฟนทำงานที่เชี่ยงไฮ้ จากนั้นก็ย้ายกลับเยอรมัน ) และ เที่ยวแถบๆเอเชียประเทศเพื่อนบ้านที่ขอวีช่าไม่อยาก เข้าออกเยอรมันบ่อยมาก ทำวีช่ามาเรียนภาษาที่เยอรมันเพื่อที่จะอยู่กับเเฟนได้ จนประมาณว่า ที่พาสผมเต็มและต้องต่อเล่ม (สมัยก่อนต่อเล่มได้) และจนต้องทำเล่มใหม่ครับ พอเรียนภาษาจบผมก็ทำเรื่องที่จะจดทะเบียนกับเเฟนที่นี่ครับ หลังจากจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้วก็เเพลนกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนดี ส่วนตัวอยากไปเที่ยวที่เมกามากๆเพราะเป็นประเทศในฝันตั้งแต่เด็กๆเลย ตอนเด็กๆคิดว่า คำว่าฝรั่งคงอยู่ที่เดียวกันหมดอยู่ประเทศเดียวและมีภาษาเแค่อังกิจเท่านั้น 5555 เลยฝังใจอยากไป
ขอวีช่าครั้งที่ 1
เเฟนช่วยกรอก DS 160 โดยให้ผมนั่งดูข้างว่ากรอกอะไรไปบ้างเวลาที่ จนท ถามผมจะได้ตอบได้ครับ ผมกับเเฟนก็กรอกตามเป็นจริงทุกอย่างที่จะต้องกรอกเข้าไป จากนั้นเราก็ได้วันนัดสัมภาษ์ที่ เยอรมัน ณ เเฟร์งเฟริต เมืองหลวงเยอรมัน ผมนัดรอบเช้าครับ
ผมก็ไม่รู้นะครับว่าขั้นตอนการทำที่ไทยกับเยอรมันมันเหมือนกันหรือเปล่า ที่กงศุล ผมก็ทำการรอคิวยื่นบัตรต่างๆ เเสกนทุกอย่างห้ามนำสิ่งต้องห้ามโน่นนี่นั้นเข้าไปด้วย แม้แต่มือถือ ผมพกแต่ปากกากับกระดาษที่เตรียมตัวมาเท่านั้น กระดาษที่ผมเตรียมไปเพิ่มเติมก็เป็นใบรับรองที่เเฟนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ทำบัตรเคดิตให้ ใบจดทะเบียนไปด้วย
เข้าไปก็ยื่นโน่นนี่นั่น เราก็รอให้เขาเรียกหมายเลขของเรา โชคดีตอนนั้นภาษา เยอรมันค่อนข้างฟังเข้าใจ และภาษาอังกิจพอเอาตัวรอดไม่เก่งเพราะผมเรียนภาษาอังกิจด้วยตัวเองครับ หัวใจก็เต้นตุบๆครับเพราะเป็นประเทศในฝัน เต้นเหมือนเวลาที่เราได้ออกไปเที่ยวนอกประเทศครั้งเเรกประมาณนั้นครับ
เเหละเเล้วเขาก็เรียกหมายเลขเราให้ไปช่องนั้นก่อน เราก็ยิ้มและทักทาย เขาพูดภาษาเยอรมันกับเรา ( ในใจคิดว่าโล่งอกพูดเยอรมัน )
พนักงานเขาก็เรียงกระดาษให้เราถามจะเอากระดาษอันนั้นอันนี้ เราก็หยิบให้เขา
( โชคดีมากเเฟนเตรียมและบอกให้เราเรียงกระดาษเองที่บ้านมากอ่น เพราะผมนะโง่มั่งๆครับไม่ฉลาดความรู้น้อย 555 )
พนักงานใจดีมากถามและยิ้ม ถามว่าจะไปเมกาหรือ ไปทำไม ไปเที่ยวที่ไหน ผมก็ตอบตามจริง สักพักเรียกดูดาษจนครบ บอกว่า กรุณา นั่งรอที่โน่นและรอเรียกอีกที่เพื่อทำการสัมภาษ์

ผมก็ ห่วย!! พ่อหยั่ยนี่เเหม๋ เราก็นึกว่าเป็นคนที่จะออกวีช่าให้เรา ดีใจหมด ทำไมมันพูดดีจัง
สักพักใหญ่ๆก็เรียกผมเข้าไป ขอบอกว่าสั่นครับแต่ผมคุมสติเอาไว้ได้ เพราะก่อนหน้าผมมีคนไม่ผ่านอยู่หลายคน ส่วนมากจะเป็น ต่างชาติครับคือพวกหัวดำๆอย่างผมนี่เเหละ เจอกับเจ้าหน้าที่ ผู้หญิง ท่าทางใจดึ
A. คือเจ้าหน้าที่ B. ผม
B. hallo คิดในใจเกือบยกมือไหว้ ไม่รู้ว่าจะทักทายยังไงดี จะทักทายยกมือไหว้เหมือนที่ไทยก็กลัวนางตกใจว่าทำไรเเหว๊ะ
A. คุณต้องการที่จะสัมภาษ์เป็นภาษาอังกิจ หรือภาษาเยรมันดี
B. เลิสสสสส อะ มีช๊อยให้เลือกได้ด้วย เลยตอบไปว่าเอาภาษาเยรมันแน่นอน
A. โอเค คุณไปทำอะไรที่เมกา
B. ไปเที่ยว
A. ไปกับใคร ไปเมืองไหน ไปนานไหม
B. ไปกับเเฟน อยากไป นิวยอค์ ไปสองอาทิตย์
A. ทำไมเลือกเมกา
B. เมกาเป็นเมืองที่ยากไปเที่ยวสักครั้ง
A. เป็นไรกับเเฟน รู้จักกันนานแค่ไหน
B. พึ่งจดทะเบียนกันได้สี่ห้าเดือนเลยอยากหาที่ โฮนิมูน อยู่กันมาสี่ปีกว่าๆ แล้วพึ่งจดทะเบียน
B. ทุกอย่างที่พูดไปนางก็ก้มๆเงยๆคีย์ๆเข้าคอมไป ผมโดนถามประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ
A. ทำงานอะไร
B. ไม่ได้ทำงานตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆทุกอย่างเเฟนดูเเล
A. คุณพูดภาษาอังกิจ ได้ไหม
B. ได้ครับไม่เก่ง
และนางก็พูดภาษาอังกิจมาเเบบ เบสิกๆ ครับ ผมก็โต้ตอบได้หมด สักพักนางก็บอกเป็นภาษาอังกิจว่า ขอโทษด้วยวีช่าคนไม่ผ่าน
ผมฟังเเบบอ๋อๆ ถามเขาอีกรอบว่าอะไรนะฉันฟังไม่ชัด นางตอบช้าๆว่า วี ช่ า ไ ม่ ผ่ า น
หูอึ้มากๆครับเพราะความหวังความตั่งใจที่ผมเเพลนเอาไว้มันพังทะลายมาทันที เพราะทั้งชีวิตผมถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วจะได้และผ่านเสมอ มีครั้งนี้ที่ทำให้เสียใจ พนักก็บอกว่ามันไม่เพียงพอที่คุณจะขอได้
ผมคิดในใจว่าแมร่ง ไหนใครบอกว่าถ้าไปเที่ยวหรือออกนอกประเทศได้อยู่โน่นนี่นั้นแล้วจะขอวีช่าง่ายขึ้นไง นี่เราก็อยู่เยอรมัน เข้าออกตลอดไม่เคยมีประวัติเสียยังไม่ผ่าน คอตกเดินไปบอกเเฟนที่รอล้นอยู่ด้านนอกกงสุลว่าไม่ผ่าน เเฟนก็ปรอบใจว่าไม่เป็นไร รอบหน้าค่อยทำใหม่
รอบที่สอง ขอเล่ารวบๆเลยแล้วกันนะครับเพราะคำถามรอบสองก็เจอเเบบเดียวกัน แต่แตกต่าง ที่ว่า ขอวีช่าเเบบ โอเเพร์ เเละไปเรียนภาษาอังกิจ
รอบที่ 2 นี้ผมทำห่างกันอยู่ประมาณปีหนึ่งครับ ครั้งนี้เเฟนไปเรียน ป. โท ที่เมกาเป็นคอส หนึ่งเดือน ผมก็เลยอยากตามไปด้วยเพราะยังไม่ได้ทำงานเหมือนเดิม เเฟนก็ทำทุกอย่างให้ว่าต้องติดต่อกับ โอเเพร์ยังไง เอกสารที่จะไปสัมภาษ์เสร็จเรียบรอ้ยทุกอย่าง
วันนัดสัมภาษ์ เจอผู้หญิงเช่นเดิม หน้าตาน่าใจดีเช่นเดิม คนใหม่ ถาม ตอบ ถาม ตอบ ประมาณครึ่งชั่วโมงเหมือนเดิม ตอนนั้นเหมือนเป็นนักโทษที่มีเจ้าหน้าที่ถามเรื่องโน่นนี่นั่นถามวกไปวนมา
ผมก็ตอบความจริง สักพัก จนท. ก็ตอบกลับมากว่า วีช่า คุณ ไม่ผ่าน ตอนนั้นเเหละหน้าชาาาาา มึนไปหมดทั้งตัว มันเเบบว่าเเวปเข้ามาในหัวเลยว่า เเฟนไปอยู่เมกาตั้งเดือนเราจะทำไรดีละโน่นนี่นั่น ร้อยเเปดพันเก้า ทุกอย่างที่เตรียมมานี่มันเสียเปล่าเลยใช่ไหม
ตั้งสติอีกรอบ ถามเจ้าหน้าที่ไปว่า ผมมารอบสองแล้วทำไมผมไม่ผ่านละวีช่า ผมเข้าออกหรือไปเที่ยวก็หลายประเทศประวัติไม่เคยเสียเข้าออกตรงกับวีช่าที่ให้มาแต่ละที่ ถึงไม่มีงานเเฟนผมก็ยังดูเเลเรื่องเงินได้ทุกอย่าง บราๆๆๆๆ
( ตอนนี้พูดเเบบว่าไม่สนใจแล้วครับเพราะว่ายังไงวีช่าก็ไม่ผ่านจะถามบอกเหตุผมให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย )
เจ้าหน้าที่ก็อึ่งครับประมาณว่า ไอ้นี่ มาจากไหนเเหว๊ะ ฉอดๆๆใส่ไม่ยั้งเลย จนเขาไปเรียนเจ้านายใหญ่มาคุย และบอกเหตุผมว่า
คุณจดทะเบียนได้ไม่นาน ไม่มีวีช่าถาวร อีกอย่างงานไม่ได้ทำ สาเหตุนี้ผมจึงออกวีช่าให้ไม่ได้
สักครู่ผมก็ เคๆ เข้าใจละ เหตุผลเเบบนี้เองหรือที่ไม่ได้ผมนะ ผมก็เลยถามไปว่าถ้าผมมีงานและมีวีช่าถาวร
ผมจะได้วีใช่ไหม จนท. ตอบว่าก็90 เปอร์เช็น ( สามปีถึงได้วีช่าถาวร ) ผมก็คอตกบอกเเฟนเหมือนเดิม และบอกเเฟนไปว่า
คอยดูนะ ฉันจะยื่นเรื่องขอวีช่าจนกว่าจะได้เลยทีเดียวฉันไม่ยอมเเพ้แน่นอน และถ้าฉันได้จะไปให้ครบ 10 ครั้งเลย ขอยากนัก
รอบที่ 3. ผ่านมาสามปีนับแต่เริ่มทำครั้งเเรก ผมได้วีช่าถาวร มีงานทำเป็นงาน เมคโดนัล เงินเดือนขั้นต่ำ ได้บรรจุงาน
คราวนี้ผมคิดในใจว่าสิ่งที่ผมถามเหตุผลว่าวีช่าไม่ผ่านนี้ฉันมีครบแล้ว ดูชิว่ามันจะได้หรือเปล่า ฉันทำเพื่ออยากได้วีช่านะเนี๊ย ไม่เคยตั้งใจทำเท่านี้มาก่อนเลย ยังไงก็ต้องไปเหยียบเมกาให้ได้เลย
วันสัมภาษ์ รอบนี้เป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดูดี แต่ดู ท่าท่างตุ่งติ่งๆนะ ฮ๋าๆๆๆ คือเเบบว่าดูออกนะ ถามปกติเช่นเคย รอบนี้ไม่ถึง 10 นาที บอกว่า วีช่าคุณผ่านแล้วนะรอรับที่บ้านได้เลย
ผมฟังไม่ออกครับเพราะรอบนี้พูดภาษาอังกิจตลอด มาเจอประโยคว่าวีช่าผ่านเลยไม่ชินหู ฟังไปคิดว่าวีช่าไม่ผ่านๆๆๆ มันหลอน 555
เลยต้องถามย้ำอีกรอบ เจ้าหน้าที่ยิ้มและพูดอย่างช้าๆอีกรอบว่า วี ช่ า ผ่ า น
ผมเเทบจะกระโดดผ่านกระจกกั้นเข้าไปกอดเลย ดีใจที่สุดในโลก ดีใจเเบบว่าได้มาอยู่เยอรมันชีวิตเมืองนอนยังไม่เท่าครับ บรรยายออกมาเป็นตัวอังษรไม่ได้ ยิ้มหน้าลอยบานนนนมาแต่ไกล เเฟนนั่งรอในรถเห็นเราหน้าบานวิ่งมานางก็ดีใจสุดๆ ฝันผมได้เป็นจริงชะที
แล้วผมก็รอพาสที่มาส่งจดหมายที่บ้าน รอทุกวัน ไม่ไปไหน เพื่อนชวนไปไหน รอให้เขามากดกริ่งที่บ้าน ไปษณีที่นี่เขาจะมาส่งตามเวลาครับ
พอใกล้เวลาหัวใจเต้นตุบๆ อยากลุ้นว่าได้วีช่ากี่ปี วันที่สาม เขามาส่ง เสียงกดกริ่ง กริ๊งๆๆๆๆ ตกใจรีบวิ่งไปเปิด มือสั้นมากๆจำได้เเม่นเลย
คิดในใจประเทศในฝันของฉันนนนนนน ไม่อยากเชื่อเลย ลูกอีสานคนบ้านนอกอย่างฉัน จนๆอย่างฉันจะได้มีโอกาศไปกับเขา เคยเห็นแต่ในทีวี
นี่เเหละว่าาาา บักหล่าตาดำๆ และ ผมก็ค่อยๆเเกะชองออกมา รีบเปิดดู ว้าวววววววว ยิ้มเเก้มปริ 10 ปี ครั้บบบบ รีบโทรบอกเเฟนด้วยน้ำเสียงที่ดีใจที่สุดในสามโลก เเฟนก้ย้ำบอกว่าทีนี้เวลาจะไปเที่ยวก็ไปเที่ยวได้เลยไม่ต้องไปขอวีช่าให้ยุ่งยากในระยะเวลาสิบปีนี้
เราก็บอกว่า จิงงงงดี๊ๆๆๆ เลิสสสสส อาทิตย์เเรกๆเราก็เอาวีชาขี้นหิ้งพระเลยครับกราบทุกวันเปิดดูทุกวันกลัวหายยยย ไม่เคยดีใจเท่านี้มาก่อน
สุดท้ายผมก็ไปเที่ยวเมกา 4 ปีช้อน ล่าสุดไปมาเมื่อ 15.05.2015 ชึ่งผมทำงานออกค่าเครื่องเองทุกอย่างมันภูมิใจมากๆ แต่เว้นปีหนึ่งครับเพราะติดลางานไม่ตรงกันเลยไม่ได้ไป กะว่าจะไปให้ครบสิบครั้งปีละครั้งไปเลยประชด5555
นี่เเหละครับความใฝ่ฝันของผมมันอาจจะดูเหมือนง่ายหรือว่าแค่เมริกาสำหรับใครบางคนก็ตามนะครับส่วนตัวผมเป็นที่ผมชอบมากที่สุด
และตั้งใจที่สุด ผมได้ไปอย่างสมใจ ทั้ง ฝั่ง นิวยอค์ หรือฝั่ง West Coast และแม้แต่ ทาง Miami ขับรถไปเรื่อยๆมันมีความสุขมากๆ
เก็บความทรงจำที่ดีๆเอาไว้
และขอเป็นเเรงใจให้กับทุกคนให้โชคดีกับการขอวีช่า และถ้าได้ก้ขอให้เที่ยวให้สนุกๆนะครับ
ขอลงภาพประกอบด้วยละกันนะครับ
Visa America มาแรงนะครับช่วงนี้จึงอยากให้เพื่อนๆมาเล่าประสบการณ์เป็นหลักการให้กับคนที่กำลังจะยื่น
ช่วงนี้หลายคนได้ทำการยื่นขอวีช่าอเมริกากันเยอะเลยครับผมคิดว่า
มีหลายคนที่ทำวีช่าผ่านและก็ไม่ผ่านกันเยอะและอยากให้เพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่เคยยื่น
วีช่าที่ทั้งผ่านและก็ไม่ผ่านมาแชร์เพราะสาเหตุอะไรบ้างหรือตกบกพล่องอะไรไปบ้างเพื่อ
เผื่อให้กับหลายๆคนที่กำลังจะไปยื่นมีข้อคิดเพิ่มเติมในการสอบสัมภาษณ์ได้และเพื่อสร้างความ
มั่นใจในการไปสัมภาษณ์ครับ
ผิดพลาดประมการใดขออภัยด้วยนะครับ อยากให้เพื่อนๆทุกคนสมหวังครับ
ขอฝากเพจไว้ด้วยนะครับผม https://www.facebook.com/YasoGoInter
ผมจะยกตัวอย่างของผมว่า
ทำไมวีช่าผมถึงไม่ผ่าน ตั้ง สองครั้ง
ส่วนตัวผม ได้ยื่นขอวีช่าไปเที่ยวเมกา มา ทั้งหมด 3 รอบครับ ( เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ) ขอบอกก่อนเลยว่าเหนื่อยเครียดและท้อแท้มากมายว่าทำไม่มันถึงขอยากอย่างนี้ ไม่เหมือนที่อื่นที่ทำมา แต่ใจผมก็คิดครับว่ามันเป็นประเทศที่อยากไปสักครั้งในชีวิต ผมเลยบอกกับตัวเองว่า
ไม่ว่าจะไม่ผ่านยังไง ผมก็จะขอยื่นจนผมขอผ่านได้วีช่าเเหละครับ ขอเขียนเล่าเท่าที่จำได้นะครับ
สถานะตัวเองในตอนนั้นนะครับ ( ผมคิดว่า โปรไฟน์ ผมแน่นก็น่าจะขอวีช่าเมกาผ่านอยู่หลายเปอร์เซ็น ) ผมอยู่กับเเฟนประมาณ 4-5 ปีได้ครับ ( ยังไม่จดทะเบียนเเบบพาสเนอร์ ) ชึ่งทุกอย่างเเฟนออกให้หมดเพราะว่าผมไม่มีงานทำหรือยังทำงานไม่ได้ ( เเฟนคนเยอรมัน ) ในระหว่าง สี่ห้าปีนี้ผมได้มีโอกาศได้เที่ยวตลอดครับไปหลายๆที่ อยู่ จีน เกือบสองปีเข้าๆออกทุกเดือน ( ก่อนนั้นเเฟนทำงานที่เชี่ยงไฮ้ จากนั้นก็ย้ายกลับเยอรมัน ) และ เที่ยวแถบๆเอเชียประเทศเพื่อนบ้านที่ขอวีช่าไม่อยาก เข้าออกเยอรมันบ่อยมาก ทำวีช่ามาเรียนภาษาที่เยอรมันเพื่อที่จะอยู่กับเเฟนได้ จนประมาณว่า ที่พาสผมเต็มและต้องต่อเล่ม (สมัยก่อนต่อเล่มได้) และจนต้องทำเล่มใหม่ครับ พอเรียนภาษาจบผมก็ทำเรื่องที่จะจดทะเบียนกับเเฟนที่นี่ครับ หลังจากจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้วก็เเพลนกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนดี ส่วนตัวอยากไปเที่ยวที่เมกามากๆเพราะเป็นประเทศในฝันตั้งแต่เด็กๆเลย ตอนเด็กๆคิดว่า คำว่าฝรั่งคงอยู่ที่เดียวกันหมดอยู่ประเทศเดียวและมีภาษาเแค่อังกิจเท่านั้น 5555 เลยฝังใจอยากไป
ขอวีช่าครั้งที่ 1
เเฟนช่วยกรอก DS 160 โดยให้ผมนั่งดูข้างว่ากรอกอะไรไปบ้างเวลาที่ จนท ถามผมจะได้ตอบได้ครับ ผมกับเเฟนก็กรอกตามเป็นจริงทุกอย่างที่จะต้องกรอกเข้าไป จากนั้นเราก็ได้วันนัดสัมภาษ์ที่ เยอรมัน ณ เเฟร์งเฟริต เมืองหลวงเยอรมัน ผมนัดรอบเช้าครับ
ผมก็ไม่รู้นะครับว่าขั้นตอนการทำที่ไทยกับเยอรมันมันเหมือนกันหรือเปล่า ที่กงศุล ผมก็ทำการรอคิวยื่นบัตรต่างๆ เเสกนทุกอย่างห้ามนำสิ่งต้องห้ามโน่นนี่นั้นเข้าไปด้วย แม้แต่มือถือ ผมพกแต่ปากกากับกระดาษที่เตรียมตัวมาเท่านั้น กระดาษที่ผมเตรียมไปเพิ่มเติมก็เป็นใบรับรองที่เเฟนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ทำบัตรเคดิตให้ ใบจดทะเบียนไปด้วย
เข้าไปก็ยื่นโน่นนี่นั่น เราก็รอให้เขาเรียกหมายเลขของเรา โชคดีตอนนั้นภาษา เยอรมันค่อนข้างฟังเข้าใจ และภาษาอังกิจพอเอาตัวรอดไม่เก่งเพราะผมเรียนภาษาอังกิจด้วยตัวเองครับ หัวใจก็เต้นตุบๆครับเพราะเป็นประเทศในฝัน เต้นเหมือนเวลาที่เราได้ออกไปเที่ยวนอกประเทศครั้งเเรกประมาณนั้นครับ
เเหละเเล้วเขาก็เรียกหมายเลขเราให้ไปช่องนั้นก่อน เราก็ยิ้มและทักทาย เขาพูดภาษาเยอรมันกับเรา ( ในใจคิดว่าโล่งอกพูดเยอรมัน )
พนักงานเขาก็เรียงกระดาษให้เราถามจะเอากระดาษอันนั้นอันนี้ เราก็หยิบให้เขา
( โชคดีมากเเฟนเตรียมและบอกให้เราเรียงกระดาษเองที่บ้านมากอ่น เพราะผมนะโง่มั่งๆครับไม่ฉลาดความรู้น้อย 555 )
พนักงานใจดีมากถามและยิ้ม ถามว่าจะไปเมกาหรือ ไปทำไม ไปเที่ยวที่ไหน ผมก็ตอบตามจริง สักพักเรียกดูดาษจนครบ บอกว่า กรุณา นั่งรอที่โน่นและรอเรียกอีกที่เพื่อทำการสัมภาษ์
ผมก็ ห่วย!! พ่อหยั่ยนี่เเหม๋ เราก็นึกว่าเป็นคนที่จะออกวีช่าให้เรา ดีใจหมด ทำไมมันพูดดีจัง
สักพักใหญ่ๆก็เรียกผมเข้าไป ขอบอกว่าสั่นครับแต่ผมคุมสติเอาไว้ได้ เพราะก่อนหน้าผมมีคนไม่ผ่านอยู่หลายคน ส่วนมากจะเป็น ต่างชาติครับคือพวกหัวดำๆอย่างผมนี่เเหละ เจอกับเจ้าหน้าที่ ผู้หญิง ท่าทางใจดึ
A. คือเจ้าหน้าที่ B. ผม
B. hallo คิดในใจเกือบยกมือไหว้ ไม่รู้ว่าจะทักทายยังไงดี จะทักทายยกมือไหว้เหมือนที่ไทยก็กลัวนางตกใจว่าทำไรเเหว๊ะ
A. คุณต้องการที่จะสัมภาษ์เป็นภาษาอังกิจ หรือภาษาเยรมันดี
B. เลิสสสสส อะ มีช๊อยให้เลือกได้ด้วย เลยตอบไปว่าเอาภาษาเยรมันแน่นอน
A. โอเค คุณไปทำอะไรที่เมกา
B. ไปเที่ยว
A. ไปกับใคร ไปเมืองไหน ไปนานไหม
B. ไปกับเเฟน อยากไป นิวยอค์ ไปสองอาทิตย์
A. ทำไมเลือกเมกา
B. เมกาเป็นเมืองที่ยากไปเที่ยวสักครั้ง
A. เป็นไรกับเเฟน รู้จักกันนานแค่ไหน
B. พึ่งจดทะเบียนกันได้สี่ห้าเดือนเลยอยากหาที่ โฮนิมูน อยู่กันมาสี่ปีกว่าๆ แล้วพึ่งจดทะเบียน
B. ทุกอย่างที่พูดไปนางก็ก้มๆเงยๆคีย์ๆเข้าคอมไป ผมโดนถามประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ
A. ทำงานอะไร
B. ไม่ได้ทำงานตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆทุกอย่างเเฟนดูเเล
A. คุณพูดภาษาอังกิจ ได้ไหม
B. ได้ครับไม่เก่ง
และนางก็พูดภาษาอังกิจมาเเบบ เบสิกๆ ครับ ผมก็โต้ตอบได้หมด สักพักนางก็บอกเป็นภาษาอังกิจว่า ขอโทษด้วยวีช่าคนไม่ผ่าน
ผมฟังเเบบอ๋อๆ ถามเขาอีกรอบว่าอะไรนะฉันฟังไม่ชัด นางตอบช้าๆว่า วี ช่ า ไ ม่ ผ่ า น
หูอึ้มากๆครับเพราะความหวังความตั่งใจที่ผมเเพลนเอาไว้มันพังทะลายมาทันที เพราะทั้งชีวิตผมถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วจะได้และผ่านเสมอ มีครั้งนี้ที่ทำให้เสียใจ พนักก็บอกว่ามันไม่เพียงพอที่คุณจะขอได้
ผมคิดในใจว่าแมร่ง ไหนใครบอกว่าถ้าไปเที่ยวหรือออกนอกประเทศได้อยู่โน่นนี่นั้นแล้วจะขอวีช่าง่ายขึ้นไง นี่เราก็อยู่เยอรมัน เข้าออกตลอดไม่เคยมีประวัติเสียยังไม่ผ่าน คอตกเดินไปบอกเเฟนที่รอล้นอยู่ด้านนอกกงสุลว่าไม่ผ่าน เเฟนก็ปรอบใจว่าไม่เป็นไร รอบหน้าค่อยทำใหม่
รอบที่สอง ขอเล่ารวบๆเลยแล้วกันนะครับเพราะคำถามรอบสองก็เจอเเบบเดียวกัน แต่แตกต่าง ที่ว่า ขอวีช่าเเบบ โอเเพร์ เเละไปเรียนภาษาอังกิจ
รอบที่ 2 นี้ผมทำห่างกันอยู่ประมาณปีหนึ่งครับ ครั้งนี้เเฟนไปเรียน ป. โท ที่เมกาเป็นคอส หนึ่งเดือน ผมก็เลยอยากตามไปด้วยเพราะยังไม่ได้ทำงานเหมือนเดิม เเฟนก็ทำทุกอย่างให้ว่าต้องติดต่อกับ โอเเพร์ยังไง เอกสารที่จะไปสัมภาษ์เสร็จเรียบรอ้ยทุกอย่าง
วันนัดสัมภาษ์ เจอผู้หญิงเช่นเดิม หน้าตาน่าใจดีเช่นเดิม คนใหม่ ถาม ตอบ ถาม ตอบ ประมาณครึ่งชั่วโมงเหมือนเดิม ตอนนั้นเหมือนเป็นนักโทษที่มีเจ้าหน้าที่ถามเรื่องโน่นนี่นั่นถามวกไปวนมา
ผมก็ตอบความจริง สักพัก จนท. ก็ตอบกลับมากว่า วีช่า คุณ ไม่ผ่าน ตอนนั้นเเหละหน้าชาาาาา มึนไปหมดทั้งตัว มันเเบบว่าเเวปเข้ามาในหัวเลยว่า เเฟนไปอยู่เมกาตั้งเดือนเราจะทำไรดีละโน่นนี่นั่น ร้อยเเปดพันเก้า ทุกอย่างที่เตรียมมานี่มันเสียเปล่าเลยใช่ไหม
ตั้งสติอีกรอบ ถามเจ้าหน้าที่ไปว่า ผมมารอบสองแล้วทำไมผมไม่ผ่านละวีช่า ผมเข้าออกหรือไปเที่ยวก็หลายประเทศประวัติไม่เคยเสียเข้าออกตรงกับวีช่าที่ให้มาแต่ละที่ ถึงไม่มีงานเเฟนผมก็ยังดูเเลเรื่องเงินได้ทุกอย่าง บราๆๆๆๆ
( ตอนนี้พูดเเบบว่าไม่สนใจแล้วครับเพราะว่ายังไงวีช่าก็ไม่ผ่านจะถามบอกเหตุผมให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย )
เจ้าหน้าที่ก็อึ่งครับประมาณว่า ไอ้นี่ มาจากไหนเเหว๊ะ ฉอดๆๆใส่ไม่ยั้งเลย จนเขาไปเรียนเจ้านายใหญ่มาคุย และบอกเหตุผมว่า
คุณจดทะเบียนได้ไม่นาน ไม่มีวีช่าถาวร อีกอย่างงานไม่ได้ทำ สาเหตุนี้ผมจึงออกวีช่าให้ไม่ได้
สักครู่ผมก็ เคๆ เข้าใจละ เหตุผลเเบบนี้เองหรือที่ไม่ได้ผมนะ ผมก็เลยถามไปว่าถ้าผมมีงานและมีวีช่าถาวร
ผมจะได้วีใช่ไหม จนท. ตอบว่าก็90 เปอร์เช็น ( สามปีถึงได้วีช่าถาวร ) ผมก็คอตกบอกเเฟนเหมือนเดิม และบอกเเฟนไปว่า
คอยดูนะ ฉันจะยื่นเรื่องขอวีช่าจนกว่าจะได้เลยทีเดียวฉันไม่ยอมเเพ้แน่นอน และถ้าฉันได้จะไปให้ครบ 10 ครั้งเลย ขอยากนัก
รอบที่ 3. ผ่านมาสามปีนับแต่เริ่มทำครั้งเเรก ผมได้วีช่าถาวร มีงานทำเป็นงาน เมคโดนัล เงินเดือนขั้นต่ำ ได้บรรจุงาน
คราวนี้ผมคิดในใจว่าสิ่งที่ผมถามเหตุผลว่าวีช่าไม่ผ่านนี้ฉันมีครบแล้ว ดูชิว่ามันจะได้หรือเปล่า ฉันทำเพื่ออยากได้วีช่านะเนี๊ย ไม่เคยตั้งใจทำเท่านี้มาก่อนเลย ยังไงก็ต้องไปเหยียบเมกาให้ได้เลย
วันสัมภาษ์ รอบนี้เป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดูดี แต่ดู ท่าท่างตุ่งติ่งๆนะ ฮ๋าๆๆๆ คือเเบบว่าดูออกนะ ถามปกติเช่นเคย รอบนี้ไม่ถึง 10 นาที บอกว่า วีช่าคุณผ่านแล้วนะรอรับที่บ้านได้เลย
ผมฟังไม่ออกครับเพราะรอบนี้พูดภาษาอังกิจตลอด มาเจอประโยคว่าวีช่าผ่านเลยไม่ชินหู ฟังไปคิดว่าวีช่าไม่ผ่านๆๆๆ มันหลอน 555
เลยต้องถามย้ำอีกรอบ เจ้าหน้าที่ยิ้มและพูดอย่างช้าๆอีกรอบว่า วี ช่ า ผ่ า น
ผมเเทบจะกระโดดผ่านกระจกกั้นเข้าไปกอดเลย ดีใจที่สุดในโลก ดีใจเเบบว่าได้มาอยู่เยอรมันชีวิตเมืองนอนยังไม่เท่าครับ บรรยายออกมาเป็นตัวอังษรไม่ได้ ยิ้มหน้าลอยบานนนนมาแต่ไกล เเฟนนั่งรอในรถเห็นเราหน้าบานวิ่งมานางก็ดีใจสุดๆ ฝันผมได้เป็นจริงชะที
แล้วผมก็รอพาสที่มาส่งจดหมายที่บ้าน รอทุกวัน ไม่ไปไหน เพื่อนชวนไปไหน รอให้เขามากดกริ่งที่บ้าน ไปษณีที่นี่เขาจะมาส่งตามเวลาครับ
พอใกล้เวลาหัวใจเต้นตุบๆ อยากลุ้นว่าได้วีช่ากี่ปี วันที่สาม เขามาส่ง เสียงกดกริ่ง กริ๊งๆๆๆๆ ตกใจรีบวิ่งไปเปิด มือสั้นมากๆจำได้เเม่นเลย
คิดในใจประเทศในฝันของฉันนนนนนน ไม่อยากเชื่อเลย ลูกอีสานคนบ้านนอกอย่างฉัน จนๆอย่างฉันจะได้มีโอกาศไปกับเขา เคยเห็นแต่ในทีวี
นี่เเหละว่าาาา บักหล่าตาดำๆ และ ผมก็ค่อยๆเเกะชองออกมา รีบเปิดดู ว้าวววววววว ยิ้มเเก้มปริ 10 ปี ครั้บบบบ รีบโทรบอกเเฟนด้วยน้ำเสียงที่ดีใจที่สุดในสามโลก เเฟนก้ย้ำบอกว่าทีนี้เวลาจะไปเที่ยวก็ไปเที่ยวได้เลยไม่ต้องไปขอวีช่าให้ยุ่งยากในระยะเวลาสิบปีนี้
เราก็บอกว่า จิงงงงดี๊ๆๆๆ เลิสสสสส อาทิตย์เเรกๆเราก็เอาวีชาขี้นหิ้งพระเลยครับกราบทุกวันเปิดดูทุกวันกลัวหายยยย ไม่เคยดีใจเท่านี้มาก่อน
สุดท้ายผมก็ไปเที่ยวเมกา 4 ปีช้อน ล่าสุดไปมาเมื่อ 15.05.2015 ชึ่งผมทำงานออกค่าเครื่องเองทุกอย่างมันภูมิใจมากๆ แต่เว้นปีหนึ่งครับเพราะติดลางานไม่ตรงกันเลยไม่ได้ไป กะว่าจะไปให้ครบสิบครั้งปีละครั้งไปเลยประชด5555
นี่เเหละครับความใฝ่ฝันของผมมันอาจจะดูเหมือนง่ายหรือว่าแค่เมริกาสำหรับใครบางคนก็ตามนะครับส่วนตัวผมเป็นที่ผมชอบมากที่สุด
และตั้งใจที่สุด ผมได้ไปอย่างสมใจ ทั้ง ฝั่ง นิวยอค์ หรือฝั่ง West Coast และแม้แต่ ทาง Miami ขับรถไปเรื่อยๆมันมีความสุขมากๆ
เก็บความทรงจำที่ดีๆเอาไว้
และขอเป็นเเรงใจให้กับทุกคนให้โชคดีกับการขอวีช่า และถ้าได้ก้ขอให้เที่ยวให้สนุกๆนะครับ
ขอลงภาพประกอบด้วยละกันนะครับ