ความเดิมตอนที่แล้ว -->
http://pantip.com/topic/34108068
********************
บาหลีไม่มีเธอ: ปะทะคารม (ตอนที่ 5)
ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือร้านให้เช่ารถปิดทำการ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าร้านให้เช่ารถปิดทำการคือ
นี่กุอยู่ที่ไหน?
ผมเพิ่งจะลงจากเครื่อง ออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวา คุณลุงก็พาขึ้นมอเตอร์ไซด์บึ่งมานี่ ยังไม่ทันรู้พิกัดละติจูดลองติจูดเหนือใต้ออกตกอะไรเลย มือถือก็ยังอยู่ในสภาวะทุพพลภาพ iPhone ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตนี่มันก็ที่ทับกระดาษดี ๆ นี่เอง
สิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้คือเดินย้อนกลับไปตามทางเดิม
ผมกลับมาถึงสนามบินอีกครั้ง อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น เราเสียเงิน 30 บาทให้คุณลุงไปส่งเราตรงนั้นเพื่ออะไร ผมเดินทะลุรั้วเข้าสนามบินจากอีกฝั่งหนึ่ง ร้อนก็ร้อน หิวก็หิว ตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้กินอะไร ผมใช้สัญชาตญาณสัตว์ฝูง พยายามเดินไปที่ที่มีคนเยอะ ๆ โดยเชื่อว่าที่ไหนมีคนเยอะที่นั่นต้องมีอาหาร และก็จริงดังคาด ผมเห็นร้านเบอร์เกอร์คิงร้านหนึ่งตั้งอยู่ ผมรีบพุ่งหลาวชายเข้าไปจัดเบอร์เกอร์ชุดใหญ่ อาหารพื้นมงพื้นเมืองเอาไว้ก่อน ที่ร่างกายกุต้องการตอนนี้คือพลังงาน แล้วก็ต้องการเยอะซะด้วย ดูแววแล้วผมน่าจะต้องสู้รบปรบมือกับอีกหลายสิ่งเลยนะเนี่ย
กระเพาะอาหารค่อย ๆ ย่อยเบอร์เกอร์เนื้ออย่างช้า ๆ สองเท้าของผมก้าวสลับไปมา สองตามองหาบริษัทให้เช่ารถที่ไม่ได้ ‘เพียบ!!’ เหมือนคำร่ำลือ
ผมเดินหาอยู่ซักพักก็เหลือบไปเห็นป้ายเขียนว่า ‘Car Rental’ รู้สึกดีใจเหมือนได้เจอน้องชายฝาแฝดที่พลัดพรากกันมานาน
พื้นที่ตรงนั้นมีทั้งบริษัทให้เช่ารถยนต์ บริษัททัวร์ และร้านแลกเงินอยู่หลายร้าน ผมค่อย ๆ ไล่สำรวจราคารถเช่าทีละร้าน ๆ เพื่อหาบริษัทที่ให้ราคาดีที่สุด
ร้านแรกไม่มีให้เช่ารถอย่างเดียว มีแต่ให้เช่าพร้อมคนขับ
ร้านที่สองมีรถให้เช่า แต่คนเช่าต้องมีใบขับขี่สากล
ร้านที่สามมีแต่รถเกียร์กระปุก ไม่มีเกียร์ออโต้
ส่วนร้านที่สี่มีเกียร์ออโต้ แต่ไม่มีรถว่าง
เจริญพร
นี่มันอะไรกัน การหารถเช่ายากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ ที่บาหลีถ้าคุณขับรถเกียร์กระปุกได้ คุณจะมีอำนาจการต่อรองสูงมาก แต่ถ้าคุณขับได้เฉพาะเกียร์ออโต้แบบผมแล้วล่ะก็ คุณจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอดในทันที
ผมพบว่าเหลือแค่สองร้านที่มีรถเกียร์ออโต้พร้อมให้เช่า สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน หรือประมาณ 400,000 รูเปียห์ ผมถามพนักงานว่า
“เฮ้ ยู ทำไมไอดูในเว็บไซต์ มันบอกว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 14 ดอลลาร์ต่อวันเองล่ะ”
“อันนั้นมันรถเกียร์กระปุกนะนาย ร้านฉันก็มีให้เช่าเหมือนกันนะ สนใจไหมนาย”
เอาเรื่องเกียร์มาอ้างแบบนี้ ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ใช่สิ ไอ้เรามันขับเกียร์กระปุกไม่ได้นี่
ยอบรับว่าผมเตรียมงบสำหรับเช่ารถไว้แค่ 14 ดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น ถ้าขืนต้องเช่ารถด้วยราคา 35 ดอลลาร์ตลอดสี่วันแบบนี้ ผมคงไม่มีเงินเหลือไปใช้ในการอื่น มีหวังได้แต่นอนดูซีรี่ย์อินโด ฯ อยู่ที่โรงแรมตลอดห้าวันแน่ ๆ
“ยู ๆ ครับ ไอขอเช่ารถที่ราคา 250,000 รูเปียห์ต่อวันได้ไหมครับ”
ผมต่อราคาแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ต่อราคาจาก 400,000 รูเปียห์เหลือ 250,000 รูเปียห์ หรือจาก 1,200 บาทเหลือ 750 บาท
พนักงานคนนั้นทำท่าตกใจ ถ้าเขาพูดภาษาไทยได้คงพูดว่า ‘ถ้าเมิงจะต่อราคาขนาดนี้ เมิงปล้นเงินกุเลยมั้ย’
“ไม่ได้นะนาย”
“แต่ไอเช่ารถยูตั้งสี่วันเลยนะ”
“งั้นฉันให้ 350,000 รูเปียห์นะนาย”
“เอาน่า ไอขอ 270,000 รูเปียห์น่า คนประชาคมเศรษฐกิจเดียวกัน”
“330,000 รูเปียห์แล้วกันนะนาย”
“300,000 ได้ปะ”
“โอเค ดีล”
“อ๊ะ ๆ 280,000 ได้ไหม”
“No!! Last price!!”
โอเค ๆ ก่อนที่ผมจะโดนหมกป่าข้อหาต่อราคากวนตีน ผมยอมตกลงราคาเช่ารถที่ 300,000 รูเปียห์ต่อวัน เกินงบไปหน่อย กินน้อยใช้น้อยเอาก็แล้วกัน
ตอนนั้นผมต้องจ่ายเงินสดเป็นจำนวนเงินถึง 300,000 x 4 = 1,200,000 รูเปียห์เพื่อเป็นค่าเช่ารถตลอดสี่วันในบาหลี ตอนนั้นผมมีเงินสดไม่พอก็เลยต้องออกไปหาร้านแลก เงินดอลลาร์ทั้งหมดในกระเป๋าถูกแปลงค่าเป็นเงินรูเปียห์จำนวนสองล้านกว่า ๆ
เอาวะ ได้เป็นเศรษฐีเงินล้านก็คราวนี้ แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ก็ยังดี
อ้อ มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแลกเงินนิดนึงครับ ผมได้ยินมาว่าการแลกเงินดอลลาร์จากที่ไทย แล้วค่อยเอาดอลลาร์มาแลกเป็นรูเปียห์ที่บาหลี จะได้เรตที่ดีกว่าแลกเงินบาทเป็นรูเปียห์โดยตรง ซึ่งร้านแลกเงินที่ให้เรตดีสุดในเกาะบาหลีมีชื่อว่า ‘Central Kuta’ จะมีอยู่หลายร้าน เห็นได้ทั่วไป หาไม่ยาก ใครไปบาหลีก็ลองแลกเงินที่ร้านนี้ดูนะครับ
หลังจากแลกเงินเสร็จ ผมก็เดินกลับไปที่ร้านให้เช่ารถ
“ยู ๆ แล้วไอต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง”
“ใบขับขี่ นะนาย”
********************
ภาพตัดกลับมาที่ประเทศไทย ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะเช่ารถขับเอง ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับใบขับขี่สากล ตอนแรกผมลองโทรไปถามบริษัทที่รับทำใบขับขี่สากลก่อน
“สวัสดีครับ อยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับใบขับขี่สากลนะครับ”
“ค่ะ”
“ไม่ทราบว่า ใบขับขี่สากลที่ว่านี่สามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้รึเปล่าครับ”
“ซักครู่นะคะ”
เจ้าหน้าที่คนนั้นหายไปประมาณ 3 นาที เธอกลับมาพร้อมคำตอบที่ว่า
“ใบขับขี่สากลของเราสามารถใช้ได้ในทุกประเทศที่มีสถานทูตไทยค่ะ”
“แล้วใบขับขี่สากลที่ว่านี่สามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้รึเปล่าครับ”
“ซักครู่นะคะ”
แล้วเธอก็หายไปอีก 3 นาที และกลับมาพร้อมกับคำตอบที่ว่า
"ใบขับขี่สากลของเราสามารถใช้ได้ในทุกประเทศที่มีสถานทูตไทยค่ะ”
จ้ะ สวัสดีจ้ะ
เดี๋ยวกุไปหาข้อมูลสถานทูตไทยในอินโดนีเซียเองก็ได้จ้ะ
ที่จริงผมเชื่อว่าน่าจะมีสถานทูตไทยในอินโด ฯ อยู่แล้วนะครับ แต่ตราบใดที่ผมยังไม่ได้รับการยืนยันจากปากกูรูที่รู้ลึกรู้จริงอย่างเป็นทางการว่าใบขับขี่สากลสามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้ ผมคงนอนไม่หลับแน่ ๆ ว่าแล้วผมก็ลองโทรไปที่กรมการขนส่งทางบก ไอ้ที่เราไปทำใบขับขี่นั่นแหละครับ
ผมโทรติดต่อกรมการขนส่งทางบกอยู่หลายครั้ง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชาติครึ่ง ค่อยมีคุณป้าคนหนึ่งรับสายด้วยน้ำเสียงเบื่อสากลโลกที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา
“สวัสดีครับ รบกวนสอบถามข้อมูลครับ พอดีผมจะเช่ารถขับที่ประเทศอินโดนีเซีย เลยอยากขอข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการขอใบขับขี่สากลนะครับ”
“ที่จริงแล้ว ถ้าประเทศในอาเซียน ไม่ต้องขอใบขับขี่สากลก็ได้นะคะ ใช้แค่ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ ก็พอแล้ว”
“เอ๊ะ? ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ เหรอครับ แล้วมันเล็กแค่ไหนอะครับ“
“ก็ใบเล็ก ๆ อะค่ะ”
ผมหยิบใบขับขี่ของผมขึ้นมาดู การที่มันมีขนาดเท่าบัตรประชาชนนี่เรียกว่าเล็กรึเปล่าวะ
ตอนนั้นคิดเอาเองว่าใบขับขี่ที่อยู่ในมือนั้นใช้ได้เฉพาะในประเทศไทย ผมอาจต้องไปขึ้นทะเบียนอะไรซักอย่างที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อให้ได้ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ แบบที่คุณป้าบอก ที่สามารถใช้ในประเทศแถบอาเซียนได้ ผมก็เลยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
“ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนในการขอใบขับขี่เล็ก ๆ นี่ยังไงบ้างครับ”
“คุณมาที่อาคาร 5 ชั้น 2 กรมการขนส่งทางบกที่หมอชิต เอาใบขับขี่ของคุณมาเปลี่ยนได้เลยค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
วันรุ่งขึ้น ผมขับรถฝ่าพายุไปที่กรมการขนส่งทางบก มุ่งหน้าไปยังอาคาร 5 ชั้น 2
ข่าวดี คือ ผมเจออาคาร 5
ข่าวร้าย คือ อาคาร 5 มีแค่ชั้นเดียว
สรุปคือคุณป้าที่เบื่อสากลโลกคนนั้นจำตึกผิด ที่จริงต้องอาคาร 4 ชั้น 2 ก็คือตึกที่เราทำใบขับขี่นั่นแหละ ผมยื่นใบขับขี่ของผมให้เจ้าหน้าที่ น้องคนนั้นตอบกลับมาว่า
“พี่คะ ใบขับขี่ของพี่เป็นแบบ Smart Card สามารถใช้ในประเทศกลุ่มอาเซียนได้อยู่แล้วค่ะ”
“เอ ไม่มีใบขับขี่ที่เล็กกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ”
น้องครับ ศูนย์ Call Center ของกรมการขนส่งทางบกอยู่อาคารไหนครับ พี่อยากพบคุณป้าคนหนึ่ง พี่อยากรู้ว่าถ้าใบขับขี่อันนี้เรียกว่า ‘เล็ก’ แล้ว ไอ้ใบขับขี่อัน ‘ใหญ่’ ของคุณป้ามันจะใหญ่ขนาดไหน
ประกาศนียบัตรโครงการขับขี่ปลอดภัยเรอะ!!
กลับมาที่บาหลี ผมยื่นเอกสารต่าง ๆ ได้แก่ ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ หนังสือเดินทาง และ Boarding Pass ขากลับให้กับพนักงานร้านให้เช่ารถถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่งมอบเงิน 1,200,000 รูเปียห์เพื่อแลกกับสิทธิในการใช้รถตลอด 4 วันจากนี้
“อ้อ ต้องมีค่ามัดจำอีก 650,000 รูเปียห์นะนาย คือถ้ารถเกิดอุบัติเหตุหรือมีรอยขีดข่วนฉันจะริบเงินมัดจำนี้นะนาย แต่ถ้าไม่มีปัญหาฉันจะคืนเงินนี้ให้ตอนวันกลับนะนาย”

ละ ค่าเช่ารถกับค่ามัดจำปาเข้าไปเกือบ 2 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 6,000 บาท กุพกเงินมาแค่ 6,500 บาท โอเค เดี๋ยวกุนอนที่สนามบินนี่แหละ อีกสี่วันเจอกัน บั๊ยยย
ขณะที่ผมกำลังหมดหวัง ลำแสงสีเทาจากกระเป๋าเงินก็สาดส่องเข้าสองตา
“อุ๊ย ฝากซื้อครีมที่สนามบินด้วยนะ”
แม่เอากล่องครีมมาให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อมกับฝากเงินไว้ 3,000 บาท
เวลาที่มีปัญหา แม่มักจะเข้ามาทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเสมอ
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
ผมตัดสินใจเอาเงินค่าครีมของแม่ก้อนนี้วางเป็นหลักประกันไว้ก่อน มีเงื่อนไขว่าขอมัดจำเป็นเงินบาทจำนวน 2,000 บาทเพราะผมไม่อยากขาดทุนจากการแลกเงินไปมาอีกแล้ว ผมจะพยายามขับรถอย่างระมัดระวังแล้วกัน จะได้มีเงินกลับไปซื้อครีมให้แม่นะครับ
“ยู ๆ รถคันนี้มี GPS ด้วยรึเปล่า”
“ไม่มีนะนาย แต่ฉันแนะนำว่าให้ซื้อซิมการ์ดจากฉัน แล้วใช้ Google Map นำทางเอานะนาย”
“ไอใช้แผนที่กระดาษไม่ได้เหรอ ไอปริ้นมานะ”
“หลงแน่นอนนะนาย”
เอาวะ ลงทุนหน่อย เราคงไม่อยากบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อหลงทางที่บาหลี ก็เลยโดนค่าซิมการ์ดไปอีก 60,000 รูเปียห์
“ซิมการ์ดนี้นะนาย นายจะสามารถใช้อินเตอร์เน็ต 3G ได้ 3 กิ๊กนะนาย”
“ห้ะ!! 3 กิ๊ก!!”
ซิมการ์ดราคา 180 บาท เล่น 3G ได้ถึง 3GB!!
พี่บาหลีรู้ไหมครับ ทุกวันนี้ผมใช้อินเตอร์เน็ตรายเดือนที่ประเทศไทย ตกเดือนละ 590 บาท ใช้ 3G ปลอม ๆ ได้เดือนละ 1GB!! เท่านั้น โหลดคลิปนิดหน่อยก็หมดแล้ว นี่ไม่นับรวมอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วประหนึ่งหอยทากคลานถอยหลังนะ อยากจะขึ้นทะเบียน 3G เป็นของดีเมืองไทยจริง ๆ
กว่าจะเจรจาต่อรองทุกสิ่งอย่างเสร็จ ใช้เวลาสิริรวมสองชั่วโมงกว่า นี่กุมาเจรจาขอเช่ารถหรือมาขอลูกสาวเมิงเนี่ย ใช้เวลานานมาก
พี่พนักงานเดินพาผมไปที่รถ ระหว่างทางผมก็ถามขึ้นมาว่า
“ยู ๆ ทำไมยูไม่ไปเปิดร้านเช่ารถในสนามบินล่ะ ตรงนี้มันไกลจากที่ไอลงเครื่องมาเยอะเลยนะ”
“อ๋อ สนามบินที่นายลงมานั้นเป็นสนามบินใหม่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วเองนะนาย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันก็จะย้ายเข้าไปที่นั่นแล้วนะนาย ที่ตรงนี้เป็นบริเวณสนามบินเก่า ที่จริงออกจากสนามบินมาแล้วเลี้ยวขวาก็เจอร้านฉันแล้วนะนาย”
‘ออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวา มีบริษัทให้เช่ารถเพียบ!!’ คำพูดของน้องคนนั้นลอยมา
ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว ที่แท้สนามบินนี้เพิ่งสร้างเสร็จนี่เอง มิน่าห้องน้ำใหม่เอี่ยมน่านอนเชียว
ผมถ่ายรูปรอยขีดข่วนต่าง ๆ รอบรถ เพื่อเป็นหลักฐานว่ามันมีรอยพวกนี้อยู่แล้วนะ อย่ายึดเงิน 2,000 บาทของแม่ผมนะ
ผมสวมแว่นตาดำ Ray Ban คู่ใจ
เพลงอินโดนีเซียในจังหวะสามช่าภารตะดังขึ้น ผมรู้สึกคึกคักจนอยากจะระบำแขกไปแอบหลังต้นไม้
รถยนต์ New Suzuki SX4: X-over สีดำหมายเลขทะเบียน DK1175DS เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน มุ่งหน้าสู่ตอนใต้ของเกาะบาหลี
พาหนะคู่ใจตลอดห้าวันสี่คืนในบาหลี
ระหว่างทางมุ่งหน้าลงใต้
To be continued
บาหลีไม่มีเธอ: วัดอูลูวาตู (ตอนที่ 6) -->
http://pantip.com/topic/34107629
*** ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ได้ที่เพจ นายอุ๊ย!! นะครับ -->
https://www.facebook.com/lovenaioui ***
บาหลีไม่มีเธอ: ปะทะคารม (ตอนที่ 5)
บาหลีไม่มีเธอ: ปะทะคารม (ตอนที่ 5)
ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือร้านให้เช่ารถปิดทำการ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าร้านให้เช่ารถปิดทำการคือ
นี่กุอยู่ที่ไหน?
ผมเพิ่งจะลงจากเครื่อง ออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวา คุณลุงก็พาขึ้นมอเตอร์ไซด์บึ่งมานี่ ยังไม่ทันรู้พิกัดละติจูดลองติจูดเหนือใต้ออกตกอะไรเลย มือถือก็ยังอยู่ในสภาวะทุพพลภาพ iPhone ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตนี่มันก็ที่ทับกระดาษดี ๆ นี่เอง
สิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้คือเดินย้อนกลับไปตามทางเดิม
ผมกลับมาถึงสนามบินอีกครั้ง อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น เราเสียเงิน 30 บาทให้คุณลุงไปส่งเราตรงนั้นเพื่ออะไร ผมเดินทะลุรั้วเข้าสนามบินจากอีกฝั่งหนึ่ง ร้อนก็ร้อน หิวก็หิว ตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้กินอะไร ผมใช้สัญชาตญาณสัตว์ฝูง พยายามเดินไปที่ที่มีคนเยอะ ๆ โดยเชื่อว่าที่ไหนมีคนเยอะที่นั่นต้องมีอาหาร และก็จริงดังคาด ผมเห็นร้านเบอร์เกอร์คิงร้านหนึ่งตั้งอยู่ ผมรีบพุ่งหลาวชายเข้าไปจัดเบอร์เกอร์ชุดใหญ่ อาหารพื้นมงพื้นเมืองเอาไว้ก่อน ที่ร่างกายกุต้องการตอนนี้คือพลังงาน แล้วก็ต้องการเยอะซะด้วย ดูแววแล้วผมน่าจะต้องสู้รบปรบมือกับอีกหลายสิ่งเลยนะเนี่ย
กระเพาะอาหารค่อย ๆ ย่อยเบอร์เกอร์เนื้ออย่างช้า ๆ สองเท้าของผมก้าวสลับไปมา สองตามองหาบริษัทให้เช่ารถที่ไม่ได้ ‘เพียบ!!’ เหมือนคำร่ำลือ
ผมเดินหาอยู่ซักพักก็เหลือบไปเห็นป้ายเขียนว่า ‘Car Rental’ รู้สึกดีใจเหมือนได้เจอน้องชายฝาแฝดที่พลัดพรากกันมานาน
พื้นที่ตรงนั้นมีทั้งบริษัทให้เช่ารถยนต์ บริษัททัวร์ และร้านแลกเงินอยู่หลายร้าน ผมค่อย ๆ ไล่สำรวจราคารถเช่าทีละร้าน ๆ เพื่อหาบริษัทที่ให้ราคาดีที่สุด
ร้านแรกไม่มีให้เช่ารถอย่างเดียว มีแต่ให้เช่าพร้อมคนขับ
ร้านที่สองมีรถให้เช่า แต่คนเช่าต้องมีใบขับขี่สากล
ร้านที่สามมีแต่รถเกียร์กระปุก ไม่มีเกียร์ออโต้
ส่วนร้านที่สี่มีเกียร์ออโต้ แต่ไม่มีรถว่าง
เจริญพร
นี่มันอะไรกัน การหารถเช่ายากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ ที่บาหลีถ้าคุณขับรถเกียร์กระปุกได้ คุณจะมีอำนาจการต่อรองสูงมาก แต่ถ้าคุณขับได้เฉพาะเกียร์ออโต้แบบผมแล้วล่ะก็ คุณจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอดในทันที
ผมพบว่าเหลือแค่สองร้านที่มีรถเกียร์ออโต้พร้อมให้เช่า สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน หรือประมาณ 400,000 รูเปียห์ ผมถามพนักงานว่า
“เฮ้ ยู ทำไมไอดูในเว็บไซต์ มันบอกว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 14 ดอลลาร์ต่อวันเองล่ะ”
“อันนั้นมันรถเกียร์กระปุกนะนาย ร้านฉันก็มีให้เช่าเหมือนกันนะ สนใจไหมนาย”
เอาเรื่องเกียร์มาอ้างแบบนี้ ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ใช่สิ ไอ้เรามันขับเกียร์กระปุกไม่ได้นี่
ยอบรับว่าผมเตรียมงบสำหรับเช่ารถไว้แค่ 14 ดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น ถ้าขืนต้องเช่ารถด้วยราคา 35 ดอลลาร์ตลอดสี่วันแบบนี้ ผมคงไม่มีเงินเหลือไปใช้ในการอื่น มีหวังได้แต่นอนดูซีรี่ย์อินโด ฯ อยู่ที่โรงแรมตลอดห้าวันแน่ ๆ
“ยู ๆ ครับ ไอขอเช่ารถที่ราคา 250,000 รูเปียห์ต่อวันได้ไหมครับ”
ผมต่อราคาแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ต่อราคาจาก 400,000 รูเปียห์เหลือ 250,000 รูเปียห์ หรือจาก 1,200 บาทเหลือ 750 บาท
พนักงานคนนั้นทำท่าตกใจ ถ้าเขาพูดภาษาไทยได้คงพูดว่า ‘ถ้าเมิงจะต่อราคาขนาดนี้ เมิงปล้นเงินกุเลยมั้ย’
“ไม่ได้นะนาย”
“แต่ไอเช่ารถยูตั้งสี่วันเลยนะ”
“งั้นฉันให้ 350,000 รูเปียห์นะนาย”
“เอาน่า ไอขอ 270,000 รูเปียห์น่า คนประชาคมเศรษฐกิจเดียวกัน”
“330,000 รูเปียห์แล้วกันนะนาย”
“300,000 ได้ปะ”
“โอเค ดีล”
“อ๊ะ ๆ 280,000 ได้ไหม”
“No!! Last price!!”
โอเค ๆ ก่อนที่ผมจะโดนหมกป่าข้อหาต่อราคากวนตีน ผมยอมตกลงราคาเช่ารถที่ 300,000 รูเปียห์ต่อวัน เกินงบไปหน่อย กินน้อยใช้น้อยเอาก็แล้วกัน
ตอนนั้นผมต้องจ่ายเงินสดเป็นจำนวนเงินถึง 300,000 x 4 = 1,200,000 รูเปียห์เพื่อเป็นค่าเช่ารถตลอดสี่วันในบาหลี ตอนนั้นผมมีเงินสดไม่พอก็เลยต้องออกไปหาร้านแลก เงินดอลลาร์ทั้งหมดในกระเป๋าถูกแปลงค่าเป็นเงินรูเปียห์จำนวนสองล้านกว่า ๆ
เอาวะ ได้เป็นเศรษฐีเงินล้านก็คราวนี้ แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ก็ยังดี
อ้อ มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแลกเงินนิดนึงครับ ผมได้ยินมาว่าการแลกเงินดอลลาร์จากที่ไทย แล้วค่อยเอาดอลลาร์มาแลกเป็นรูเปียห์ที่บาหลี จะได้เรตที่ดีกว่าแลกเงินบาทเป็นรูเปียห์โดยตรง ซึ่งร้านแลกเงินที่ให้เรตดีสุดในเกาะบาหลีมีชื่อว่า ‘Central Kuta’ จะมีอยู่หลายร้าน เห็นได้ทั่วไป หาไม่ยาก ใครไปบาหลีก็ลองแลกเงินที่ร้านนี้ดูนะครับ
หลังจากแลกเงินเสร็จ ผมก็เดินกลับไปที่ร้านให้เช่ารถ
“ยู ๆ แล้วไอต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง”
“ใบขับขี่ นะนาย”
ภาพตัดกลับมาที่ประเทศไทย ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะเช่ารถขับเอง ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับใบขับขี่สากล ตอนแรกผมลองโทรไปถามบริษัทที่รับทำใบขับขี่สากลก่อน
“สวัสดีครับ อยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับใบขับขี่สากลนะครับ”
“ค่ะ”
“ไม่ทราบว่า ใบขับขี่สากลที่ว่านี่สามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้รึเปล่าครับ”
“ซักครู่นะคะ”
เจ้าหน้าที่คนนั้นหายไปประมาณ 3 นาที เธอกลับมาพร้อมคำตอบที่ว่า
“ใบขับขี่สากลของเราสามารถใช้ได้ในทุกประเทศที่มีสถานทูตไทยค่ะ”
“แล้วใบขับขี่สากลที่ว่านี่สามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้รึเปล่าครับ”
“ซักครู่นะคะ”
แล้วเธอก็หายไปอีก 3 นาที และกลับมาพร้อมกับคำตอบที่ว่า
"ใบขับขี่สากลของเราสามารถใช้ได้ในทุกประเทศที่มีสถานทูตไทยค่ะ”
จ้ะ สวัสดีจ้ะ
เดี๋ยวกุไปหาข้อมูลสถานทูตไทยในอินโดนีเซียเองก็ได้จ้ะ
ที่จริงผมเชื่อว่าน่าจะมีสถานทูตไทยในอินโด ฯ อยู่แล้วนะครับ แต่ตราบใดที่ผมยังไม่ได้รับการยืนยันจากปากกูรูที่รู้ลึกรู้จริงอย่างเป็นทางการว่าใบขับขี่สากลสามารถใช้ในประเทศอินโดนีเซียได้ ผมคงนอนไม่หลับแน่ ๆ ว่าแล้วผมก็ลองโทรไปที่กรมการขนส่งทางบก ไอ้ที่เราไปทำใบขับขี่นั่นแหละครับ
ผมโทรติดต่อกรมการขนส่งทางบกอยู่หลายครั้ง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชาติครึ่ง ค่อยมีคุณป้าคนหนึ่งรับสายด้วยน้ำเสียงเบื่อสากลโลกที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา
“สวัสดีครับ รบกวนสอบถามข้อมูลครับ พอดีผมจะเช่ารถขับที่ประเทศอินโดนีเซีย เลยอยากขอข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการขอใบขับขี่สากลนะครับ”
“ที่จริงแล้ว ถ้าประเทศในอาเซียน ไม่ต้องขอใบขับขี่สากลก็ได้นะคะ ใช้แค่ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ ก็พอแล้ว”
“เอ๊ะ? ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ เหรอครับ แล้วมันเล็กแค่ไหนอะครับ“
“ก็ใบเล็ก ๆ อะค่ะ”
ผมหยิบใบขับขี่ของผมขึ้นมาดู การที่มันมีขนาดเท่าบัตรประชาชนนี่เรียกว่าเล็กรึเปล่าวะ
ตอนนั้นคิดเอาเองว่าใบขับขี่ที่อยู่ในมือนั้นใช้ได้เฉพาะในประเทศไทย ผมอาจต้องไปขึ้นทะเบียนอะไรซักอย่างที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อให้ได้ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ แบบที่คุณป้าบอก ที่สามารถใช้ในประเทศแถบอาเซียนได้ ผมก็เลยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
“ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนในการขอใบขับขี่เล็ก ๆ นี่ยังไงบ้างครับ”
“คุณมาที่อาคาร 5 ชั้น 2 กรมการขนส่งทางบกที่หมอชิต เอาใบขับขี่ของคุณมาเปลี่ยนได้เลยค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
วันรุ่งขึ้น ผมขับรถฝ่าพายุไปที่กรมการขนส่งทางบก มุ่งหน้าไปยังอาคาร 5 ชั้น 2
ข่าวดี คือ ผมเจออาคาร 5
ข่าวร้าย คือ อาคาร 5 มีแค่ชั้นเดียว
สรุปคือคุณป้าที่เบื่อสากลโลกคนนั้นจำตึกผิด ที่จริงต้องอาคาร 4 ชั้น 2 ก็คือตึกที่เราทำใบขับขี่นั่นแหละ ผมยื่นใบขับขี่ของผมให้เจ้าหน้าที่ น้องคนนั้นตอบกลับมาว่า
“พี่คะ ใบขับขี่ของพี่เป็นแบบ Smart Card สามารถใช้ในประเทศกลุ่มอาเซียนได้อยู่แล้วค่ะ”
“เอ ไม่มีใบขับขี่ที่เล็กกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ”
น้องครับ ศูนย์ Call Center ของกรมการขนส่งทางบกอยู่อาคารไหนครับ พี่อยากพบคุณป้าคนหนึ่ง พี่อยากรู้ว่าถ้าใบขับขี่อันนี้เรียกว่า ‘เล็ก’ แล้ว ไอ้ใบขับขี่อัน ‘ใหญ่’ ของคุณป้ามันจะใหญ่ขนาดไหน
ประกาศนียบัตรโครงการขับขี่ปลอดภัยเรอะ!!
กลับมาที่บาหลี ผมยื่นเอกสารต่าง ๆ ได้แก่ ใบขับขี่ใบเล็ก ๆ หนังสือเดินทาง และ Boarding Pass ขากลับให้กับพนักงานร้านให้เช่ารถถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่งมอบเงิน 1,200,000 รูเปียห์เพื่อแลกกับสิทธิในการใช้รถตลอด 4 วันจากนี้
“อ้อ ต้องมีค่ามัดจำอีก 650,000 รูเปียห์นะนาย คือถ้ารถเกิดอุบัติเหตุหรือมีรอยขีดข่วนฉันจะริบเงินมัดจำนี้นะนาย แต่ถ้าไม่มีปัญหาฉันจะคืนเงินนี้ให้ตอนวันกลับนะนาย”
ขณะที่ผมกำลังหมดหวัง ลำแสงสีเทาจากกระเป๋าเงินก็สาดส่องเข้าสองตา
“อุ๊ย ฝากซื้อครีมที่สนามบินด้วยนะ”
แม่เอากล่องครีมมาให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อมกับฝากเงินไว้ 3,000 บาท
เวลาที่มีปัญหา แม่มักจะเข้ามาทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเสมอ
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
ผมตัดสินใจเอาเงินค่าครีมของแม่ก้อนนี้วางเป็นหลักประกันไว้ก่อน มีเงื่อนไขว่าขอมัดจำเป็นเงินบาทจำนวน 2,000 บาทเพราะผมไม่อยากขาดทุนจากการแลกเงินไปมาอีกแล้ว ผมจะพยายามขับรถอย่างระมัดระวังแล้วกัน จะได้มีเงินกลับไปซื้อครีมให้แม่นะครับ
“ยู ๆ รถคันนี้มี GPS ด้วยรึเปล่า”
“ไม่มีนะนาย แต่ฉันแนะนำว่าให้ซื้อซิมการ์ดจากฉัน แล้วใช้ Google Map นำทางเอานะนาย”
“ไอใช้แผนที่กระดาษไม่ได้เหรอ ไอปริ้นมานะ”
“หลงแน่นอนนะนาย”
เอาวะ ลงทุนหน่อย เราคงไม่อยากบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อหลงทางที่บาหลี ก็เลยโดนค่าซิมการ์ดไปอีก 60,000 รูเปียห์
“ซิมการ์ดนี้นะนาย นายจะสามารถใช้อินเตอร์เน็ต 3G ได้ 3 กิ๊กนะนาย”
“ห้ะ!! 3 กิ๊ก!!”
ซิมการ์ดราคา 180 บาท เล่น 3G ได้ถึง 3GB!!
พี่บาหลีรู้ไหมครับ ทุกวันนี้ผมใช้อินเตอร์เน็ตรายเดือนที่ประเทศไทย ตกเดือนละ 590 บาท ใช้ 3G ปลอม ๆ ได้เดือนละ 1GB!! เท่านั้น โหลดคลิปนิดหน่อยก็หมดแล้ว นี่ไม่นับรวมอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วประหนึ่งหอยทากคลานถอยหลังนะ อยากจะขึ้นทะเบียน 3G เป็นของดีเมืองไทยจริง ๆ
กว่าจะเจรจาต่อรองทุกสิ่งอย่างเสร็จ ใช้เวลาสิริรวมสองชั่วโมงกว่า นี่กุมาเจรจาขอเช่ารถหรือมาขอลูกสาวเมิงเนี่ย ใช้เวลานานมาก
พี่พนักงานเดินพาผมไปที่รถ ระหว่างทางผมก็ถามขึ้นมาว่า
“ยู ๆ ทำไมยูไม่ไปเปิดร้านเช่ารถในสนามบินล่ะ ตรงนี้มันไกลจากที่ไอลงเครื่องมาเยอะเลยนะ”
“อ๋อ สนามบินที่นายลงมานั้นเป็นสนามบินใหม่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วเองนะนาย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันก็จะย้ายเข้าไปที่นั่นแล้วนะนาย ที่ตรงนี้เป็นบริเวณสนามบินเก่า ที่จริงออกจากสนามบินมาแล้วเลี้ยวขวาก็เจอร้านฉันแล้วนะนาย”
‘ออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวา มีบริษัทให้เช่ารถเพียบ!!’ คำพูดของน้องคนนั้นลอยมา
ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว ที่แท้สนามบินนี้เพิ่งสร้างเสร็จนี่เอง มิน่าห้องน้ำใหม่เอี่ยมน่านอนเชียว
ผมถ่ายรูปรอยขีดข่วนต่าง ๆ รอบรถ เพื่อเป็นหลักฐานว่ามันมีรอยพวกนี้อยู่แล้วนะ อย่ายึดเงิน 2,000 บาทของแม่ผมนะ
ผมสวมแว่นตาดำ Ray Ban คู่ใจ
เพลงอินโดนีเซียในจังหวะสามช่าภารตะดังขึ้น ผมรู้สึกคึกคักจนอยากจะระบำแขกไปแอบหลังต้นไม้
รถยนต์ New Suzuki SX4: X-over สีดำหมายเลขทะเบียน DK1175DS เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน มุ่งหน้าสู่ตอนใต้ของเกาะบาหลี
To be continued
บาหลีไม่มีเธอ: วัดอูลูวาตู (ตอนที่ 6) --> http://pantip.com/topic/34107629
*** ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ได้ที่เพจ นายอุ๊ย!! นะครับ --> https://www.facebook.com/lovenaioui ***