คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จุดกำเนิดธงฟ้าราคาประหยัด
จากการดำเนินโครงการส่งเสริมสินค้า และโครงการสินค้าราคาประหยัดสู่ชนบท ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ทั้งประเทศ ซึ่งกรมการค้าภายใน ได้ใช้กลไกดังกล่าวในการดูแลประชาชนมาต่อเนื่อง จะมากบ้าง น้อยบ้าง ก็แล้วแต่ว่าสถานการณ์ค่าครองชีพในช่วงนั้นๆ เป็นอย่างไร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าหรือไม่
สถานการณ์ราคาสินค้านับจากปีพ.ศ.2531 ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่พอถึงปี พ.ศ.2533 ประเทศไทยได้ประสบกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมากกว่า 9% โดยคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติในวันที่ 31 ตุลาคม 2532 ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดหาสินค้าราคาถูกให้กับประชาชน จึงได้มีการเริ่มต้น โครงการคาราวานสินค้าลดค่าครองชีพปี 2533 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาต่ำกว่าปกติและเพิ่มหรือขยายช่องทางการตลาดได้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
โครงการดังกล่าวพัฒนามาจากโครงการคาราวานสินค้าเดิม โดยเน้นให้มีกาจัดทำแผนให้ต่อเนื่องให้สามารถจัดงานในจังหวัดต่างๆ ให้มากที่สุด สามารถดำเนินการได้ถึง 48 จังหวัด เริ่มมีการรับสมัครผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่ายหรือร้านค้า ให้เข้าร่วมงานในระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนจัดซื้อสินค้า ประชาสัมพันธ์สร้างยอดขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลดราคาสินค้าให้ถูกกว่าท้องตลาดได้ โดยการดำเนินการผลเป็นที่น่าพอใจ มีการเพิ่มระยะเวลาจัดงานจาก 2-3 วัน เป็น 3-7 วัน และมีการปรับปรุงแนวทางดำเนินการ เช่น การจัดหาเต็นท์เป็นของกรมฯ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันกำหนดเวลาที่จะต้องจัดงานติดต่อกัน
เมื่อประเมินจากยอดขายในวันจำหน่ายสินค้า 172 วัน สำหรับปี 2533 และประเมินจากจำนวนผู้เข้าชมงานในแต่ละวันแล้ว เจ้าหน้าที่รับผิดชอบมีความมั่นใจว่าโครงการคาราวานสินค้าลดค่าครองชีพ 2533 ได้รับความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ บรรลุวัตถุประสงค์หลัก คือ ช่วยส่งเสริมการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในจังหวัดที่จัดงาน เพราะโครงการสามารถสร้างความตื่นตัวและผู้มีอาชีพจัดงานในลักษณะเดียวกันได้ถือโอกาสจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าเป็นพิเศษในช่วงก่อนหรือขณะที่ขบวนคาราวานสินค้าของกรมการค้าภายในได้เดินทางไปถึงจังหวัดนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก็ก่อให้เกิดการร้องเรียนจากผู้ประกอบการภายในจังหวัดว่าได้รับผลกะทบจากการจัดคาราวานสินค้าประกอบกับในระยะต่อมากรมฯ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณดังกล่าวลดลง การดำเนินการโครงการดังกล่าวจึงต้องลดลงตามไปด้วย
จากนั้น ในปี พ.ศ.2534 ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นอีกครั้ง กรมการค้าภายในจึงได้จัดทำ “โครงการธงฟ้าราคาประหยัด” ขึ้น เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2534 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายโดยตรงในราคาประหยัด ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นของคำว่า “ธงฟ้า” เป็นครั้งแรก
โดย “ธงฟ้า” มาจาก ธงสีมอคราม ซึ่งเป็นสีกระทรวงพาณิชย์ และยังสอดคล้องกับสีประจำพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสีฟ้าเป็นสีแห่งความเอื้ออาทร และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายรับรอง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2535 ผู้ประสงค์จะใช้ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายใน หากผู้ใดนำไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นรายกรณีไป
โครงการธงฟ้าราคาประหยัด ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อมุ่งช่วยเหลือภาระค่าครองชีพและเพิ่มช่องทางเลือกในการซื้อสินค้าของประชาชน โดยดำเนินการเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นโดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมของพื้นที่เป็นหลัก
หลังจากที่โครงการธงฟ้าราคาประหยัดได้กำเนิดขึ้น ก็ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนถึงปีพ.ศ.2547 ภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (ดูไบ) เพิ่มจาก 28.89 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ในเดือนมกราคม 2547 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 60.12 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ในเดือนกันยายน 2549 รัฐบาลในขณะนั้นได้จัดทำโครงการเอื้ออาทรขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้า และเคยมีแนวคิดจะเปลี่ยนชื่อธงฟ้าราคาประหยัดเป็นสินค้าเอื้ออาทรเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในยังคงใช้ชื่อโครงการ ธงฟ้าราคาประหยัด เป็นมาตรการเสริมในการกำกับดูแลราคาสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม โดยขยายการดำเนินการโครงการธงฟ้าราคาประหยัดมากขึ้นในหลายกิจกรรมดำเนินการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการอย่างทั่วถึง อาทิเช่น ตลาดนัดธงฟ้าเพื่อผู้บริโภค ธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชน ร้านอาหารธงฟ้า อิ่มทั่วฟ้าราคาเดียว มุมธงฟ้า ธงฟ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การดำเนินงานจัดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดให้กับประชาชนเป็นการนำสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรที่จำเป็นต่อการครองชีพจากผู้ผลิตโดยตรงไปจำหน่ายให้กับประชาชน ในราคาถูกกว่าราคาตลาดทั่วไปร้อยละ 20–40 ในพื้นที่ต่างๆ ดำเนินการเป็นการครั้งคราวตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อมุ่งช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าของประชาชน กระตุ้นให้มีการแข่งขันในตลาด ประชาชนมีอำนาจต่อรองในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ผลจากการดำเนินโครงการ ส่งผลให้ช่วยชะลอการปรับราคาสินค้าโดยทั่วไป และทำให้ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (CPI) อยู่ในระดับที่เหมาะสม อาทิ CPI เดือนกันยายน 2549 ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2549 ร้อยละ 0.3 และเมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนกันยายน 2548 สูงขึ้นเพียงร้อยละ 2.7 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบปี 2549 และจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงดังกล่าว พบว่าโครงการธงฟ้าในรูปแบบตลาดนัดธงฟ้าเพื่อผู้บริโภค โครงการอิ่มทั่วฟ้าราคาเดียวได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของประชาชนทั่วประเทศ
หมายเหตุ ครม.มีมติปี 2533 ให้จัดทำโครงการสินค้าราคาถูกช่วยประชาชน ช่วงรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ
แต่มาเริ่มใช้ คำว่า "ธงฟ้า" เมื่อปี 2534 ช่วงรัฐบาล อานันท์ ปันยารชุน
จากการดำเนินโครงการส่งเสริมสินค้า และโครงการสินค้าราคาประหยัดสู่ชนบท ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ทั้งประเทศ ซึ่งกรมการค้าภายใน ได้ใช้กลไกดังกล่าวในการดูแลประชาชนมาต่อเนื่อง จะมากบ้าง น้อยบ้าง ก็แล้วแต่ว่าสถานการณ์ค่าครองชีพในช่วงนั้นๆ เป็นอย่างไร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าหรือไม่
สถานการณ์ราคาสินค้านับจากปีพ.ศ.2531 ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่พอถึงปี พ.ศ.2533 ประเทศไทยได้ประสบกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมากกว่า 9% โดยคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติในวันที่ 31 ตุลาคม 2532 ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดหาสินค้าราคาถูกให้กับประชาชน จึงได้มีการเริ่มต้น โครงการคาราวานสินค้าลดค่าครองชีพปี 2533 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาต่ำกว่าปกติและเพิ่มหรือขยายช่องทางการตลาดได้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
โครงการดังกล่าวพัฒนามาจากโครงการคาราวานสินค้าเดิม โดยเน้นให้มีกาจัดทำแผนให้ต่อเนื่องให้สามารถจัดงานในจังหวัดต่างๆ ให้มากที่สุด สามารถดำเนินการได้ถึง 48 จังหวัด เริ่มมีการรับสมัครผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่ายหรือร้านค้า ให้เข้าร่วมงานในระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนจัดซื้อสินค้า ประชาสัมพันธ์สร้างยอดขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลดราคาสินค้าให้ถูกกว่าท้องตลาดได้ โดยการดำเนินการผลเป็นที่น่าพอใจ มีการเพิ่มระยะเวลาจัดงานจาก 2-3 วัน เป็น 3-7 วัน และมีการปรับปรุงแนวทางดำเนินการ เช่น การจัดหาเต็นท์เป็นของกรมฯ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันกำหนดเวลาที่จะต้องจัดงานติดต่อกัน
เมื่อประเมินจากยอดขายในวันจำหน่ายสินค้า 172 วัน สำหรับปี 2533 และประเมินจากจำนวนผู้เข้าชมงานในแต่ละวันแล้ว เจ้าหน้าที่รับผิดชอบมีความมั่นใจว่าโครงการคาราวานสินค้าลดค่าครองชีพ 2533 ได้รับความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ บรรลุวัตถุประสงค์หลัก คือ ช่วยส่งเสริมการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในจังหวัดที่จัดงาน เพราะโครงการสามารถสร้างความตื่นตัวและผู้มีอาชีพจัดงานในลักษณะเดียวกันได้ถือโอกาสจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าเป็นพิเศษในช่วงก่อนหรือขณะที่ขบวนคาราวานสินค้าของกรมการค้าภายในได้เดินทางไปถึงจังหวัดนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก็ก่อให้เกิดการร้องเรียนจากผู้ประกอบการภายในจังหวัดว่าได้รับผลกะทบจากการจัดคาราวานสินค้าประกอบกับในระยะต่อมากรมฯ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณดังกล่าวลดลง การดำเนินการโครงการดังกล่าวจึงต้องลดลงตามไปด้วย
จากนั้น ในปี พ.ศ.2534 ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้นอีกครั้ง กรมการค้าภายในจึงได้จัดทำ “โครงการธงฟ้าราคาประหยัด” ขึ้น เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2534 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายโดยตรงในราคาประหยัด ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นของคำว่า “ธงฟ้า” เป็นครั้งแรก
โดย “ธงฟ้า” มาจาก ธงสีมอคราม ซึ่งเป็นสีกระทรวงพาณิชย์ และยังสอดคล้องกับสีประจำพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสีฟ้าเป็นสีแห่งความเอื้ออาทร และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายรับรอง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2535 ผู้ประสงค์จะใช้ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายใน หากผู้ใดนำไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นรายกรณีไป
โครงการธงฟ้าราคาประหยัด ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อมุ่งช่วยเหลือภาระค่าครองชีพและเพิ่มช่องทางเลือกในการซื้อสินค้าของประชาชน โดยดำเนินการเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นโดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมของพื้นที่เป็นหลัก
หลังจากที่โครงการธงฟ้าราคาประหยัดได้กำเนิดขึ้น ก็ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนถึงปีพ.ศ.2547 ภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (ดูไบ) เพิ่มจาก 28.89 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ในเดือนมกราคม 2547 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 60.12 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ในเดือนกันยายน 2549 รัฐบาลในขณะนั้นได้จัดทำโครงการเอื้ออาทรขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้า และเคยมีแนวคิดจะเปลี่ยนชื่อธงฟ้าราคาประหยัดเป็นสินค้าเอื้ออาทรเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในยังคงใช้ชื่อโครงการ ธงฟ้าราคาประหยัด เป็นมาตรการเสริมในการกำกับดูแลราคาสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม โดยขยายการดำเนินการโครงการธงฟ้าราคาประหยัดมากขึ้นในหลายกิจกรรมดำเนินการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการอย่างทั่วถึง อาทิเช่น ตลาดนัดธงฟ้าเพื่อผู้บริโภค ธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชน ร้านอาหารธงฟ้า อิ่มทั่วฟ้าราคาเดียว มุมธงฟ้า ธงฟ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การดำเนินงานจัดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดให้กับประชาชนเป็นการนำสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรที่จำเป็นต่อการครองชีพจากผู้ผลิตโดยตรงไปจำหน่ายให้กับประชาชน ในราคาถูกกว่าราคาตลาดทั่วไปร้อยละ 20–40 ในพื้นที่ต่างๆ ดำเนินการเป็นการครั้งคราวตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อมุ่งช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าของประชาชน กระตุ้นให้มีการแข่งขันในตลาด ประชาชนมีอำนาจต่อรองในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ผลจากการดำเนินโครงการ ส่งผลให้ช่วยชะลอการปรับราคาสินค้าโดยทั่วไป และทำให้ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (CPI) อยู่ในระดับที่เหมาะสม อาทิ CPI เดือนกันยายน 2549 ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2549 ร้อยละ 0.3 และเมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนกันยายน 2548 สูงขึ้นเพียงร้อยละ 2.7 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบปี 2549 และจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงดังกล่าว พบว่าโครงการธงฟ้าในรูปแบบตลาดนัดธงฟ้าเพื่อผู้บริโภค โครงการอิ่มทั่วฟ้าราคาเดียวได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของประชาชนทั่วประเทศ
หมายเหตุ ครม.มีมติปี 2533 ให้จัดทำโครงการสินค้าราคาถูกช่วยประชาชน ช่วงรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ
แต่มาเริ่มใช้ คำว่า "ธงฟ้า" เมื่อปี 2534 ช่วงรัฐบาล อานันท์ ปันยารชุน
Stryder ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2407724 ถูกใจ, น้องมะปราง ถูกใจ, Nass Nanphiphat ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1133113 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1281572 ถูกใจ, แมวหอบ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2093872 ทึ่ง
แสดงความคิดเห็น
รัฐบาลชุดไหนเป็นผู้คิดโครงการธงฟ้าคะ
รบกวนผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำค่ะ เนื่องจากหนูจะเอาข้อมูลไปใช้ในการสัมมนานโยบายการพัฒนาประเทศไทยค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะที่กรุณา