สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมได้มาเล่าประสบการในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยรถจักยานยนตร์ และผองเพื่อน หากผิดพลาด หรือ แทร็กผิดห้อง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ (ขออภัยรูปภาพอาจจะไม่ค่อยชัด)
ต้องเท้าความไปเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว ตอนที่เข้าศึกษาปีที่ 1 ที่มหาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ตอนที่ยังสนิทกันใหม่ๆ เพิ่มเริ่มรู้จักกันใหม่ๆ ต่างคนต่างสถานที่กันต่างภูมิลำเนา ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในคาบเรียนช่วงเช้าวันศุกร์ ของเดือนพฤศจิกายน ปี 53 และมันเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพเล็กๆของพวกเราที่ออกเดินทาง ในอุดมคติเดียวกัน
2st Children's Day Camp survey in นาศิริ 2011 -->
http://pantip.com/topic/34098414
2st.1 Children's Day Camp in นาศิริ 2011 [Part 2] -->
http://pantip.com/topic/34100388
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
First Trip จุดหมายที่เราจะไปก็คืออำเภอแม่ฮองสอน มอเตอร์ไซด์ 7ขันกับผู้ร่วมเดินทาง 13 คน จุดหมายแรกของเราคือ ดอยแม่อูคอ ช่วงนั้นดอกบัวตอง กำลังบานเต็มที่ เราเริ่มออกเดินทางเวลา 19.00 น. จากในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งท้องฟ้ามืดสนิด และอากาศก็เริ่มเย็นลง โดยเราใช้เส้นทาง อ.หางดง มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สะเรียง

เราไปถึง อ.แม่สะเรียง ราวๆ 21.30 น. ตัวเมืองเงียบมาก พวกเรากะไว้ว่าจะแวะเต็มน้ำมัน ณ จุดนี้ แต่เป็นฝันร้ายกับเราเพราะปั้มปิดหมด เอาละสิครับ แต่ละคันน้ำมันก็จะหมดกันแล้ว แต่เราก็ตกลงที่จะไปตายเอาดาบหน้า ก็ได้เดินทางกันต่อ ฝนเริ่มตกเล็กน้อย ต่อมาจนถึง อ.ขุนยวมแยกทางขึ้น ดอยแม่อูคอ ราวเที่ยงคืนกว่าๆ เราก็เจอปั้มน้ำมันหยอดเหรียญ ( oh !เหมื่อนสวรรค์มาโปรด )
หลังจากที่เราเต็มน้ำมันกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังดอยแม่อุคอ ทางมืดสนิท มีแต่แสงไฟจากรถที่เราขี่ และดวงดาวบนท้องฟ้าเล็กน้อย จนเวลาล่วงเลยมาถึงประมานตี 2 กว่าๆ เราก็ได้มาถึงดอยแม่อูคออากาศหนาวมาก ราวๆ 15 องศา แน่นอนแหละครับ ดึกขนาดนี้ ก็คงต้องหาที่พักข้างทาง พอเราหาสถานที่นอนพักได้ก็เริ่มตั้งเต้นท์ ก่อกองไฟ และนั่งปรึกษาการเดินทางของวันพรุ่งนี้ต่อไป และนอนพักเอาแรกสำหรับวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้นพวกเราก็ตื่นกันประมาน 6โมงเช้า ฟ้าสว่างแล้วแต่ก็ยังเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา อากาศดีมากๆ โชคดีของพวกเราแถวๆที่เราพักนั้นก็มีน้ำประปาภูเขาให้เราล้างหน้าล้างตาแปลงฟัน และตอนนี้ก็เริ่มเห็น "ดอกบัวตอง" ตามข้างถนนแล้ว เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวแล้วพวกเราก็เก็บสัมภาระและเตรียมตัวออกเดินทาง
เราก็ได้มาถึงจุดหมายแรกของเราแล้วก็คือ ทุ่งดอกบัวตอง แห่งดอยแม่อูคอ ก็แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
ต่อจากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือ จ.แม่ฮองสอน ต้องยอมรับว่าทางไปแม่ฮองสอนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ขึ้นเขา ทางโค้ง ทางลาดชัน มีทุกรูปแบบ แต่พอใกล้ถึงก็เป็นทางราบปกติ แล้วตลอดเส้นทางพวกเราก็แวะสถานที่ต่างๆ อากาศเย็นสบาย

จนมาถึงจุดหมาย จ.แม่ฮองสอน ก็แวะกินข้าวพักผ่อนบ้านเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันต่อด้วย
ขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยกองมู แล้วออกเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ และออกเดินทางต่อไป
เพลานี้ก็ล่วงเลยมาใกล้ตะวันจะลับฟ้าแล้ว เวลาประมาน 15.00 จุดหมายต่อไปของเรา คือ อ.ปาย ที่นั้นคือจุดหมายที่เราจะปักหลักตั้งแคมป์วันที่ 2 พวกเราก็เดินทางออกจาก อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ผ่านทาง ดอยกิ่วลม
ถ่ายรูปที่ดอยกิ่วลมสักคู่หนึ่ง ก็ออกเดินทางเพราะใกล้จะมืดแล้ว
ตอนนี้เราก็มาถึง อ.ปายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งเราบอกก่อนว่า พวกเราอินดี้ครับ + เงินไม่ค่อยมีกัน ก็เลยหาพื้นที่สาธารณะ ในการตั้งแคมป์ พวกเราเลือกสถานที่ไกล้แม่น้ำและห่างไกลจากบ้านเรือนนิดหนึ่ง กลัวเสียงจะไปรบกวนชาวบ้านเค้า เราก็ได้สถานที่ ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองนัก เราแบ่งหน้าที่กันคือ แบ่งที่ 1 ใครอยากไปเที่ยวในเมืองก็ ไปซื้อข้าวซื้อน้ำ ฯลฯ และอีกกลุ่มก็ตั้งเต้นท์ หาฝืนก่อกองไฟในบามค่ำคืน กินข้าวกินน้ำกันเสร็จเราก็นั่งคุยกันปกติ สรรค์สันต์กันประสาแคมป์ปิ้ง และพักผ่อนเอาแรกสู่จุดหมายต่อไป
[ ปล . เจ้าของกระทู้ได้หมวกลิงกันหนาว ที่เพื่อนๆรวมเงินกันซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ประทับใจมากๆ >,< และทุกครั้งที่ออกทริป หมวกลิงจะตามไปทุกที่ซะด้วย ]
รุ่งเช้าหนาวที่ปาย เข้าสู่วันที่เราเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่แล้ว พวกเราเก็บข้าวของสัมภาระ และออกเดินทาง สู่จุดหมายนั้นก็คือ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เป็นจุดสุดท้ายของ First trip ครึ่งนี้ [ ปล. ขากลับจากปายดันลืมทิ้งเพื่อนไว้กลางปาย งานนี้กลับมารับอีกรอบ ฮากันไป
พวกเราก็ได้เดินทางถึง จ.เชียงใหม่ ราวๆ 19.00 น เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายสุดๆ เพราะเส้นทางไกลพอสมควร และทางโค้งมากกว่า 1,000 โค้ง แต่ปลอดภัยกันทุกคน
- End First trip -
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบพระคุณ ยาหม่องตราถ้วยทอง (เห้ย! ไม่ใช่)
-/\- ที่ติดตามอ่านจนจบกับประสมการณ์การเดินทางของพวกเรา
แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าว่างเมื่อไรจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางตลอด 4-5ปี ที่เรียนในรั่วมหาลัยเดียวกันให้ฟังอีก
- S e e Y o u -
ปฐมฤกษ์การท่องเที่ยวสมัยปี 1-4 :: First trip in Mae Hong Son [- 2มือถือกระเป๋า 2เท้าสตาร์รถ -]
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมได้มาเล่าประสบการในการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยรถจักยานยนตร์ และผองเพื่อน หากผิดพลาด หรือ แทร็กผิดห้อง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ (ขออภัยรูปภาพอาจจะไม่ค่อยชัด)
ต้องเท้าความไปเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว ตอนที่เข้าศึกษาปีที่ 1 ที่มหาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ตอนที่ยังสนิทกันใหม่ๆ เพิ่มเริ่มรู้จักกันใหม่ๆ ต่างคนต่างสถานที่กันต่างภูมิลำเนา ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในคาบเรียนช่วงเช้าวันศุกร์ ของเดือนพฤศจิกายน ปี 53 และมันเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพเล็กๆของพวกเราที่ออกเดินทาง ในอุดมคติเดียวกัน
2st Children's Day Camp survey in นาศิริ 2011 -->http://pantip.com/topic/34098414
2st.1 Children's Day Camp in นาศิริ 2011 [Part 2] -->http://pantip.com/topic/34100388
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
First Trip จุดหมายที่เราจะไปก็คืออำเภอแม่ฮองสอน มอเตอร์ไซด์ 7ขันกับผู้ร่วมเดินทาง 13 คน จุดหมายแรกของเราคือ ดอยแม่อูคอ ช่วงนั้นดอกบัวตอง กำลังบานเต็มที่ เราเริ่มออกเดินทางเวลา 19.00 น. จากในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งท้องฟ้ามืดสนิด และอากาศก็เริ่มเย็นลง โดยเราใช้เส้นทาง อ.หางดง มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สะเรียง
เราไปถึง อ.แม่สะเรียง ราวๆ 21.30 น. ตัวเมืองเงียบมาก พวกเรากะไว้ว่าจะแวะเต็มน้ำมัน ณ จุดนี้ แต่เป็นฝันร้ายกับเราเพราะปั้มปิดหมด เอาละสิครับ แต่ละคันน้ำมันก็จะหมดกันแล้ว แต่เราก็ตกลงที่จะไปตายเอาดาบหน้า ก็ได้เดินทางกันต่อ ฝนเริ่มตกเล็กน้อย ต่อมาจนถึง อ.ขุนยวมแยกทางขึ้น ดอยแม่อูคอ ราวเที่ยงคืนกว่าๆ เราก็เจอปั้มน้ำมันหยอดเหรียญ ( oh !เหมื่อนสวรรค์มาโปรด )
วันรุ่งขึ้นพวกเราก็ตื่นกันประมาน 6โมงเช้า ฟ้าสว่างแล้วแต่ก็ยังเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา อากาศดีมากๆ โชคดีของพวกเราแถวๆที่เราพักนั้นก็มีน้ำประปาภูเขาให้เราล้างหน้าล้างตาแปลงฟัน และตอนนี้ก็เริ่มเห็น "ดอกบัวตอง" ตามข้างถนนแล้ว เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวแล้วพวกเราก็เก็บสัมภาระและเตรียมตัวออกเดินทาง
เราก็ได้มาถึงจุดหมายแรกของเราแล้วก็คือ ทุ่งดอกบัวตอง แห่งดอยแม่อูคอ ก็แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
ต่อจากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือ จ.แม่ฮองสอน ต้องยอมรับว่าทางไปแม่ฮองสอนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ขึ้นเขา ทางโค้ง ทางลาดชัน มีทุกรูปแบบ แต่พอใกล้ถึงก็เป็นทางราบปกติ แล้วตลอดเส้นทางพวกเราก็แวะสถานที่ต่างๆ อากาศเย็นสบาย
จนมาถึงจุดหมาย จ.แม่ฮองสอน ก็แวะกินข้าวพักผ่อนบ้านเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันต่อด้วย
ขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยกองมู แล้วออกเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ และออกเดินทางต่อไป
เพลานี้ก็ล่วงเลยมาใกล้ตะวันจะลับฟ้าแล้ว เวลาประมาน 15.00 จุดหมายต่อไปของเรา คือ อ.ปาย ที่นั้นคือจุดหมายที่เราจะปักหลักตั้งแคมป์วันที่ 2 พวกเราก็เดินทางออกจาก อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ผ่านทาง ดอยกิ่วลม
ถ่ายรูปที่ดอยกิ่วลมสักคู่หนึ่ง ก็ออกเดินทางเพราะใกล้จะมืดแล้ว
ตอนนี้เราก็มาถึง อ.ปายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งเราบอกก่อนว่า พวกเราอินดี้ครับ + เงินไม่ค่อยมีกัน ก็เลยหาพื้นที่สาธารณะ ในการตั้งแคมป์ พวกเราเลือกสถานที่ไกล้แม่น้ำและห่างไกลจากบ้านเรือนนิดหนึ่ง กลัวเสียงจะไปรบกวนชาวบ้านเค้า เราก็ได้สถานที่ ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองนัก เราแบ่งหน้าที่กันคือ แบ่งที่ 1 ใครอยากไปเที่ยวในเมืองก็ ไปซื้อข้าวซื้อน้ำ ฯลฯ และอีกกลุ่มก็ตั้งเต้นท์ หาฝืนก่อกองไฟในบามค่ำคืน กินข้าวกินน้ำกันเสร็จเราก็นั่งคุยกันปกติ สรรค์สันต์กันประสาแคมป์ปิ้ง และพักผ่อนเอาแรกสู่จุดหมายต่อไป
[ ปล . เจ้าของกระทู้ได้หมวกลิงกันหนาว ที่เพื่อนๆรวมเงินกันซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ประทับใจมากๆ >,< และทุกครั้งที่ออกทริป หมวกลิงจะตามไปทุกที่ซะด้วย ]
รุ่งเช้าหนาวที่ปาย เข้าสู่วันที่เราเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่แล้ว พวกเราเก็บข้าวของสัมภาระ และออกเดินทาง สู่จุดหมายนั้นก็คือ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เป็นจุดสุดท้ายของ First trip ครึ่งนี้ [ ปล. ขากลับจากปายดันลืมทิ้งเพื่อนไว้กลางปาย งานนี้กลับมารับอีกรอบ ฮากันไป
พวกเราก็ได้เดินทางถึง จ.เชียงใหม่ ราวๆ 19.00 น เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายสุดๆ เพราะเส้นทางไกลพอสมควร และทางโค้งมากกว่า 1,000 โค้ง แต่ปลอดภัยกันทุกคน
- End First trip -
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบพระคุณ ยาหม่องตราถ้วยทอง (เห้ย! ไม่ใช่)
-/\- ที่ติดตามอ่านจนจบกับประสมการณ์การเดินทางของพวกเรา
แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าว่างเมื่อไรจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางตลอด 4-5ปี ที่เรียนในรั่วมหาลัยเดียวกันให้ฟังอีก