เริ่มต้นยังไงดีล่ะ...
หลายคนรอหน้าหนาวเพื่อออกทริป อากาศเย็นๆ ไปเล่นโค้งสวยๆ ทางเหนือ...
แต่เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงนะ...จุดที่เราเฉยๆกับการเล่นโค้ง แต่สนุกกับการเลอะๆ ทั้งคน ทั้งรถ
เพราะฉะนั้น หน้าฝน น่าจะตอบโจทย์
เลยเลือกที่จะมา ปิล็อกครับ มานอนที่บ้านอิต่อง ฤดูนี้ที่นี่ฝนตก 4 เดือนติดๆ ตกหนักตลอด ลมแรง หมอกจัด ไปก็มองไม่เห็นไรหรอก...(แล้วเอ็งจะไปทำไม)
นั่นสิ แต่ก็อยากไปเพราะใจมันเรียกร้องงงงงงง กระทู้สั้นๆนะครับ แค่อยากมาแชร์
รถคันนี้ได้มาก็ใช้ไปหลายทริปแล้ว...ซึ่งช่วงแรกๆ จะเป็นการซ้ำทริปที่เคยไป...เพราะบางที่เคยไปแล้วเราไม่สนุกตอนขี่ เพราะห่วงรถ กลัวพัง หรือไม่ก็ขี่แล้วเครียด รถมันใช้ไม่เหมาะกับเส้นทาง...อย่างปิล็อกเองก็เคยเอาคันอื่นๆมา แต่พอได้เอาคันนี้มา มันสนุกไปอีกขึ้นอีกเยอะเลย
ทริปนี้ ผมออกเดินทางวันเช้าวันเสาร์ จากกรุงเทพ มุ่งหน้า ทองผาภูมิ คันเดียวโดดๆ ขี่ไปเรื่อยๆชิลๆ
แต่จะไป นัดเจอเพื่อนๆพี่ๆ อีก 3 คันที่จะลงมาจากสังขละ พิกัด ปตท. ทองผาภูมิ ( เค้าล่วงหน้ามากันตั้งวันศุกร์ ไปนอนสังขละกันก่อน)
ออกจากบ้านมาเติมน้ำมัน ที่ปตท. ก่อนเข้านครชัยศรี 1 ถัง เด่วจะมาสรุปค่าน้ำมันตอนท้ายๆ (ถ่ายรุปไว้ก่อน ตอนที่มันยังสะอาดๆ)
ขี่คนเดียว เรื่อยๆ เจอฝนตั้งแต่ พ้นตัวเมืองกาญ มา แต่ไม่เป็นปัญหาอุปกรณ์เราพร้อม
ไม่ต้องรู้ว่าเสื้อมันดียังไง แต่ให้รู้ไว้ว่ามันเรียกฝน สุดๆ ใส่ทุกทริปเจอฝนทุกทริป (ก็รู้แล้วป่ะวันมันกันน้ำ จะทดสอบอะไรนักหนา)
ทริปก่อนก็ฝน เอามาคอนเฟริมว่าเรียกฝน อันนี้ไป นครนายก
สำหรับ เส้นทาง ไปกาญจนบุรี หลักๆที่เคยไปจะมี 2 เส้นทาง คือ นครปฐม-บ้านโป่ง-กาญ และ บางเลน-กำแพงแสน-กาญ
ถ้าขี่คันเดียวหรือ สองสามคัน ผมจะไปเส้นแรก เพราะไม่เหงา มีอะไรให้จอดแวะได้ตลอดทาง แต่ถ้าไปกลุ่มใหญ่ๆ ไปทางบางเลนนี่สะดวกกว่า ยิ่งช่วงกำแพงแสนไปกาญนะ โล่งยาวๆ ตรงอย่างเดียว ขี่คนเดียว น่าเบื่อสุดๆ
ก็ลองเลือกดูครับ...ว่าจะไปทางไหน
วิ่งยาวๆจากปั๊ม ปตท.นครชัยศรี จนถึง ปตท.ทองผาภูมิ ก็ 228 กิโลเมตร (ตาม gps) ก็มาถึงประมาณ 11 โมง
วิ่งสองข้างทางก็ประมาณนี้ ชุ่มช่ำดี หน้าฝนนี่เขียวดีจริงๆ
พอมาถึงปั๊มก็นะ จะเพียบเลย อบอุ่นดี ท่ามกลางสายฝน ไม่รู้จักกันคุยกันได้ แถมจุดหมายคือที่เดียวกัน ที่ปิล็อก
ระหว่างรอก็จิบกาแฟไป บังคับใจตัวเองไม่ให้กินกาแฟ ตั้งแต่ออกมาจากบ้าน เพราะตั้งใจจะมากินที่นี่
ไม่ใช่มันอร่อยกว่า แต่เพราะยังไงก็ต้องมานั่งรอ ก็ต้องสั่งกาแฟอยู่ดี ไม่งั้นจะต้องกิน สองแก้วติดๆกัน เด๋วมือไม้สั่นหมด
นั่งรอได้สักพักใหญ่ นั่งคุยกัยกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ไป ก็เพลินๆดี ข้อดีของการขี่มอเตอร์ไซค์
ชุดพร้อมลุยมากกวันนี้
ไม่นานมาก สมาชิกที่ 3 คันก็มาจากสังขละ ซึ่งฝนตกตลอดทาง และระหว่างที่นั่งรอที่ปั๊มนี่ก็ตกตลอด นึกสภาพทางขึ้นไปปิล็อกแล้วคงจะเละน่าดู
ระยะทางจาก ที่ปั๊ม ไปปิล็อก ประมาณ 70 กว่าโล แต่คงใช้เวลาน่าดู
สภาพเส้นทาง จากที่ไป ก็ขึ้นเขา ถนนราดยางแคบๆ แต่เป็นหลุมขอบคมๆ เยอะ ตลอดดส้นทาง พยายามหลบกันดีๆนะครับ เห็นเป็นแอ่งน้ำ นี่จะคิดว่าจะตื้นๆ gs ผมนี่โช็คหน้ายุบเกือบสุด 555++
ขี่มาได้สักพัก แวะเช็คพ้อย ที่จุดชมวิวก่อน ขออภัยลืมเช็คว่ามีหยดน้ำเกาะที่เลนส์ แต่ให้รู้ว่าฝนมันตกตลอดจริงๆ 55++
ฟินมากๆ คร้าบบบบ ดูหน้าผมสิ
และเราก็มาเจอกันอีกรอบ กลุ่มที่เจอที่ปั๊ม แต่เราให้พี่ๆเค้าล่วงหน้าไปก่อนสักพัก เพราะกลุ่มใหญ่กว่า
กลัวไปติดกันบนเขา

ระหว่างรอ ถ่ายรูปเล่นสิคร้าบบรอไรกันอยู่
ขอเท่ๆหน่อย
พร้อมๆๆ ออกเดินทางไป อีก 10 กว่าโล ถึงบ้านอิต่อง จะไปนอนที่นั่น
จอดเช็คอินที่ป้ายอุทยานก่อนน
พอมาถึงบ้านอิต่อง มองอะไรไม่เห็นเลย หมอกจัดสุดๆ ฝนก็ยังตกไม่หยุด ถามว่ามาแล้วเห็นอะไรสวยๆมั้ย บอกเลยว่าไม่เห็นนนนนน
แต่มาทำไม มาเอาบรรยากาศครับ นี่ๆๆ ดูสภาพครับ
มองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าใครเคยมา ตรงกลางนั้นจะเป็นบ่อน้ำใหญ่ๆ
คือ พูดเลย งง หาที่พักไม่เจอ ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้า 55++
แต่พอมาถึงแล้วได้ อาบน้ำ เปลี่ยนชุดแล้วก็ชิลๆ ดีนะครับ
ไม่ต้องทำไรมาก นอนเล่นสักแปปก่อน รอเย็นๆ หมอกหาย แล้วจะขึ้นไปเนินช้างศึก
เราเจอเพื่อนชาวมอเตอร์ไซค์หลายกลถ่มที่นี่ พูดคุยทักทายกันประสา เรื่องเส้นทางบ้าง เรื่องรถบ้าง
slow life สุดๆ
และแล้ว หมอกก็จากหายไป ก็ตัดสินใจไหนๆก็มาแล้ว เห็นอะไรรึป่าวก็ยังไม่รู้ แต่ไปขี่รถเล่นดีกว่า ไปเนินช้างศึก
ซึ่งก้อคิดผิด 555 ไม่เห็นอะไรเลย หมอกจัด ลมก็แรงสุดๆ หนาวมากกก
ระหว่างทางที่ลงมา เป็นแบบนี้ครับ
อยู่นานไม่ได้ หนาวหูเย็นกลัวจะป่วยขี่กลับไม่ไหว ลงดีกว่า ซึ่งพอลงมาที่หมู่บ้านหมอกมันไม่มีก็เลยขึ้นไปตรงลาดจอด ฮ.
โอ้วว วิวดีอีกแล้ว ถ่ายรูปสิครับ
ถ่ายคนบ้างงง
ยืนชิลๆ ถ่ายรุปได้สักพัก หมอกก็เริ่มมา เวลาก็ผ่านไปจนค่ำ ฝนก็ยังตกมาอีก
กลางคืนเลยทำไรไม่ได้ นอกจาก นับเลข
แต่ได้กินข้าวต้มร้อนๆ จากร้านป้าฝั่งตรงข้ามที่พัก อร่อยสุด ข้ามต้ม ร้อนๆ อากาศเย็นๆ
บรรยากาศตอนกลาคืนครับ
ตื่นเช้ามาอีกวัน ฝนก็ยังตกไม่หยุด ตั้งแต่เมื่อคืน กะว่าสัก 10 โมงก็ลุยต่อครับ กลับบ้านดีกว่า
บ๊ายบาย ปิล็อก
ไว้จะมาใหม่ นะ
ขี่ยาวๆ ลงมา ถึงตัวเมืองกาญ บ่ายๆ หิวๆๆๆ พอดีว่าพี่ไปด้วยกันรู้จักกันกับเจ้าของร้านนี้ ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน แวะอุดหนุนสิครับ
อร่อยด้วยย
อยู่ตรงเส้นบายพาส นะครับ ใครผ่านแวะได้เลย
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ายาวๆ เข้ากรุงเทพ บ้านใครบ้านมัน
สรุประยะทางไป-กลับประมาณ 700 โล
ค่าน้ำมันขาไป 340 บาท
ค่าน้ำมันขากลับ 280 บาท
รวม 620 บาท
เหลือถึงบ้านอีกพอสมควร ก็ประหยัดใช้ได้นะ f800gs
ใช้รถให้ถูกประเภท ผมว่าจะขี่สนก และไม่เหนื่อยมาก คันนี้ทางดำทำให้ผมขี่ช้าลงเยอะ ส่วนทางขรุขระทำให้ผมสบายและมั่นใจขึ้นเยอะ ช่วงล่างดีสุดๆ
แต่ถ้ารักความเร็วนี่ไม่เหมาะอย่างแรง...555++
ไว้ทริปหน้าจะพาแกไปลุยใหม่
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทริปนี้นะครับ
พี่โอม
พี่เอ
พี่เอี่ยว
แอฟ
พี่ดาร์ก
Trip ครับ...ปิ ล็ อ ก เ ป็ น ที่ ชิค ๆ...กับ BMW f800gs
หลายคนรอหน้าหนาวเพื่อออกทริป อากาศเย็นๆ ไปเล่นโค้งสวยๆ ทางเหนือ...
แต่เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงนะ...จุดที่เราเฉยๆกับการเล่นโค้ง แต่สนุกกับการเลอะๆ ทั้งคน ทั้งรถ
เพราะฉะนั้น หน้าฝน น่าจะตอบโจทย์
เลยเลือกที่จะมา ปิล็อกครับ มานอนที่บ้านอิต่อง ฤดูนี้ที่นี่ฝนตก 4 เดือนติดๆ ตกหนักตลอด ลมแรง หมอกจัด ไปก็มองไม่เห็นไรหรอก...(แล้วเอ็งจะไปทำไม)
นั่นสิ แต่ก็อยากไปเพราะใจมันเรียกร้องงงงงงง กระทู้สั้นๆนะครับ แค่อยากมาแชร์
รถคันนี้ได้มาก็ใช้ไปหลายทริปแล้ว...ซึ่งช่วงแรกๆ จะเป็นการซ้ำทริปที่เคยไป...เพราะบางที่เคยไปแล้วเราไม่สนุกตอนขี่ เพราะห่วงรถ กลัวพัง หรือไม่ก็ขี่แล้วเครียด รถมันใช้ไม่เหมาะกับเส้นทาง...อย่างปิล็อกเองก็เคยเอาคันอื่นๆมา แต่พอได้เอาคันนี้มา มันสนุกไปอีกขึ้นอีกเยอะเลย
ทริปนี้ ผมออกเดินทางวันเช้าวันเสาร์ จากกรุงเทพ มุ่งหน้า ทองผาภูมิ คันเดียวโดดๆ ขี่ไปเรื่อยๆชิลๆ
แต่จะไป นัดเจอเพื่อนๆพี่ๆ อีก 3 คันที่จะลงมาจากสังขละ พิกัด ปตท. ทองผาภูมิ ( เค้าล่วงหน้ามากันตั้งวันศุกร์ ไปนอนสังขละกันก่อน)
ออกจากบ้านมาเติมน้ำมัน ที่ปตท. ก่อนเข้านครชัยศรี 1 ถัง เด่วจะมาสรุปค่าน้ำมันตอนท้ายๆ (ถ่ายรุปไว้ก่อน ตอนที่มันยังสะอาดๆ)
ขี่คนเดียว เรื่อยๆ เจอฝนตั้งแต่ พ้นตัวเมืองกาญ มา แต่ไม่เป็นปัญหาอุปกรณ์เราพร้อม
ไม่ต้องรู้ว่าเสื้อมันดียังไง แต่ให้รู้ไว้ว่ามันเรียกฝน สุดๆ ใส่ทุกทริปเจอฝนทุกทริป (ก็รู้แล้วป่ะวันมันกันน้ำ จะทดสอบอะไรนักหนา)
ทริปก่อนก็ฝน เอามาคอนเฟริมว่าเรียกฝน อันนี้ไป นครนายก
สำหรับ เส้นทาง ไปกาญจนบุรี หลักๆที่เคยไปจะมี 2 เส้นทาง คือ นครปฐม-บ้านโป่ง-กาญ และ บางเลน-กำแพงแสน-กาญ
ถ้าขี่คันเดียวหรือ สองสามคัน ผมจะไปเส้นแรก เพราะไม่เหงา มีอะไรให้จอดแวะได้ตลอดทาง แต่ถ้าไปกลุ่มใหญ่ๆ ไปทางบางเลนนี่สะดวกกว่า ยิ่งช่วงกำแพงแสนไปกาญนะ โล่งยาวๆ ตรงอย่างเดียว ขี่คนเดียว น่าเบื่อสุดๆ
ก็ลองเลือกดูครับ...ว่าจะไปทางไหน
วิ่งยาวๆจากปั๊ม ปตท.นครชัยศรี จนถึง ปตท.ทองผาภูมิ ก็ 228 กิโลเมตร (ตาม gps) ก็มาถึงประมาณ 11 โมง
วิ่งสองข้างทางก็ประมาณนี้ ชุ่มช่ำดี หน้าฝนนี่เขียวดีจริงๆ
พอมาถึงปั๊มก็นะ จะเพียบเลย อบอุ่นดี ท่ามกลางสายฝน ไม่รู้จักกันคุยกันได้ แถมจุดหมายคือที่เดียวกัน ที่ปิล็อก
ระหว่างรอก็จิบกาแฟไป บังคับใจตัวเองไม่ให้กินกาแฟ ตั้งแต่ออกมาจากบ้าน เพราะตั้งใจจะมากินที่นี่
ไม่ใช่มันอร่อยกว่า แต่เพราะยังไงก็ต้องมานั่งรอ ก็ต้องสั่งกาแฟอยู่ดี ไม่งั้นจะต้องกิน สองแก้วติดๆกัน เด๋วมือไม้สั่นหมด
นั่งรอได้สักพักใหญ่ นั่งคุยกัยกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ไป ก็เพลินๆดี ข้อดีของการขี่มอเตอร์ไซค์
ชุดพร้อมลุยมากกวันนี้
ไม่นานมาก สมาชิกที่ 3 คันก็มาจากสังขละ ซึ่งฝนตกตลอดทาง และระหว่างที่นั่งรอที่ปั๊มนี่ก็ตกตลอด นึกสภาพทางขึ้นไปปิล็อกแล้วคงจะเละน่าดู
ระยะทางจาก ที่ปั๊ม ไปปิล็อก ประมาณ 70 กว่าโล แต่คงใช้เวลาน่าดู
สภาพเส้นทาง จากที่ไป ก็ขึ้นเขา ถนนราดยางแคบๆ แต่เป็นหลุมขอบคมๆ เยอะ ตลอดดส้นทาง พยายามหลบกันดีๆนะครับ เห็นเป็นแอ่งน้ำ นี่จะคิดว่าจะตื้นๆ gs ผมนี่โช็คหน้ายุบเกือบสุด 555++
ขี่มาได้สักพัก แวะเช็คพ้อย ที่จุดชมวิวก่อน ขออภัยลืมเช็คว่ามีหยดน้ำเกาะที่เลนส์ แต่ให้รู้ว่าฝนมันตกตลอดจริงๆ 55++
ฟินมากๆ คร้าบบบบ ดูหน้าผมสิ
และเราก็มาเจอกันอีกรอบ กลุ่มที่เจอที่ปั๊ม แต่เราให้พี่ๆเค้าล่วงหน้าไปก่อนสักพัก เพราะกลุ่มใหญ่กว่า
กลัวไปติดกันบนเขา
ระหว่างรอ ถ่ายรูปเล่นสิคร้าบบรอไรกันอยู่
ขอเท่ๆหน่อย
พร้อมๆๆ ออกเดินทางไป อีก 10 กว่าโล ถึงบ้านอิต่อง จะไปนอนที่นั่น
จอดเช็คอินที่ป้ายอุทยานก่อนน
พอมาถึงบ้านอิต่อง มองอะไรไม่เห็นเลย หมอกจัดสุดๆ ฝนก็ยังตกไม่หยุด ถามว่ามาแล้วเห็นอะไรสวยๆมั้ย บอกเลยว่าไม่เห็นนนนนน
แต่มาทำไม มาเอาบรรยากาศครับ นี่ๆๆ ดูสภาพครับ
มองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าใครเคยมา ตรงกลางนั้นจะเป็นบ่อน้ำใหญ่ๆ
คือ พูดเลย งง หาที่พักไม่เจอ ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้า 55++
แต่พอมาถึงแล้วได้ อาบน้ำ เปลี่ยนชุดแล้วก็ชิลๆ ดีนะครับ
ไม่ต้องทำไรมาก นอนเล่นสักแปปก่อน รอเย็นๆ หมอกหาย แล้วจะขึ้นไปเนินช้างศึก
เราเจอเพื่อนชาวมอเตอร์ไซค์หลายกลถ่มที่นี่ พูดคุยทักทายกันประสา เรื่องเส้นทางบ้าง เรื่องรถบ้าง
slow life สุดๆ
และแล้ว หมอกก็จากหายไป ก็ตัดสินใจไหนๆก็มาแล้ว เห็นอะไรรึป่าวก็ยังไม่รู้ แต่ไปขี่รถเล่นดีกว่า ไปเนินช้างศึก
ซึ่งก้อคิดผิด 555 ไม่เห็นอะไรเลย หมอกจัด ลมก็แรงสุดๆ หนาวมากกก
ระหว่างทางที่ลงมา เป็นแบบนี้ครับ
อยู่นานไม่ได้ หนาวหูเย็นกลัวจะป่วยขี่กลับไม่ไหว ลงดีกว่า ซึ่งพอลงมาที่หมู่บ้านหมอกมันไม่มีก็เลยขึ้นไปตรงลาดจอด ฮ.
โอ้วว วิวดีอีกแล้ว ถ่ายรูปสิครับ
ถ่ายคนบ้างงง
ยืนชิลๆ ถ่ายรุปได้สักพัก หมอกก็เริ่มมา เวลาก็ผ่านไปจนค่ำ ฝนก็ยังตกมาอีก
กลางคืนเลยทำไรไม่ได้ นอกจาก นับเลข
แต่ได้กินข้าวต้มร้อนๆ จากร้านป้าฝั่งตรงข้ามที่พัก อร่อยสุด ข้ามต้ม ร้อนๆ อากาศเย็นๆ
บรรยากาศตอนกลาคืนครับ
ตื่นเช้ามาอีกวัน ฝนก็ยังตกไม่หยุด ตั้งแต่เมื่อคืน กะว่าสัก 10 โมงก็ลุยต่อครับ กลับบ้านดีกว่า
บ๊ายบาย ปิล็อก
ไว้จะมาใหม่ นะ
ขี่ยาวๆ ลงมา ถึงตัวเมืองกาญ บ่ายๆ หิวๆๆๆ พอดีว่าพี่ไปด้วยกันรู้จักกันกับเจ้าของร้านนี้ ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน แวะอุดหนุนสิครับ
อร่อยด้วยย
อยู่ตรงเส้นบายพาส นะครับ ใครผ่านแวะได้เลย
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ายาวๆ เข้ากรุงเทพ บ้านใครบ้านมัน
สรุประยะทางไป-กลับประมาณ 700 โล
ค่าน้ำมันขาไป 340 บาท
ค่าน้ำมันขากลับ 280 บาท
รวม 620 บาท
เหลือถึงบ้านอีกพอสมควร ก็ประหยัดใช้ได้นะ f800gs
ใช้รถให้ถูกประเภท ผมว่าจะขี่สนก และไม่เหนื่อยมาก คันนี้ทางดำทำให้ผมขี่ช้าลงเยอะ ส่วนทางขรุขระทำให้ผมสบายและมั่นใจขึ้นเยอะ ช่วงล่างดีสุดๆ
แต่ถ้ารักความเร็วนี่ไม่เหมาะอย่างแรง...555++
ไว้ทริปหน้าจะพาแกไปลุยใหม่
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทริปนี้นะครับ
พี่โอม
พี่เอ
พี่เอี่ยว
แอฟ
พี่ดาร์ก