มันดูแปลกไปหน่อยนะครับ ปล่อยให้พยานเห็นหน้าตาชัดเจนมากถึงสามคน
พยานคนแรกคือ คนขับตุ๊กตุ๊กคันแรก แต่คุยไม่รู้เรื่องจึงเปลี่ยนไปคันที่สอง
พยานคนที่สอง คือ คนขับรถตุ๊กตุ๊กที่รับจากสถานีหัวลำโพงไปยังหน้าโรงแรมเอราวัณ ถ้าใครเคยนั่งรถตุ๊กตุ๊กจะรู้ดี ว่าระยะคนขับกับผู้โดยสารมันใกล้กันมาก ยิ่งจะสทนาทีก็แค่มองผ่านกระจก ก็มองเห็นหน้าผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจน
แล้วก็พยานคนสุดท้าย วินมอเตอร์ไซต์ที่รับไปส่งที่สีลม ซอย9 อีก
รู้สึกเหมือน
เขากลัวมีพิรุธมากกว่าถูกตามจับเสียอีก
เขาคงอาจจะคิดว่า แค่วางระเบิดสำเร็จ ทุกอย่างก็จะจบ
ราวกับว่า เขาได้วางแผนการหลบหนีเอาไว้แล้ว
และเลือกเวลาลงมือช่วงหัวค่ำ จังหวะมืดพอดิบพอดี
เข้าใจว่าเพื่อให้ง่ายต่อการหลบหนี บางทีเขาอาจจะวางแผนออกจากประเทศไปตั้งแต่คืนนั้นแล้วก็ได้
ทำไมมือวางระเบิด ถึงไม่กลัวที่จะถูกจดจำใบหน้า?
พยานคนแรกคือ คนขับตุ๊กตุ๊กคันแรก แต่คุยไม่รู้เรื่องจึงเปลี่ยนไปคันที่สอง
พยานคนที่สอง คือ คนขับรถตุ๊กตุ๊กที่รับจากสถานีหัวลำโพงไปยังหน้าโรงแรมเอราวัณ ถ้าใครเคยนั่งรถตุ๊กตุ๊กจะรู้ดี ว่าระยะคนขับกับผู้โดยสารมันใกล้กันมาก ยิ่งจะสทนาทีก็แค่มองผ่านกระจก ก็มองเห็นหน้าผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจน
แล้วก็พยานคนสุดท้าย วินมอเตอร์ไซต์ที่รับไปส่งที่สีลม ซอย9 อีก
รู้สึกเหมือน เขากลัวมีพิรุธมากกว่าถูกตามจับเสียอีก
เขาคงอาจจะคิดว่า แค่วางระเบิดสำเร็จ ทุกอย่างก็จะจบ
ราวกับว่า เขาได้วางแผนการหลบหนีเอาไว้แล้ว
และเลือกเวลาลงมือช่วงหัวค่ำ จังหวะมืดพอดิบพอดี
เข้าใจว่าเพื่อให้ง่ายต่อการหลบหนี บางทีเขาอาจจะวางแผนออกจากประเทศไปตั้งแต่คืนนั้นแล้วก็ได้