สิ่งที่เหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างมาจากที่ผ่าน ๆ มาของการตีกันของเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ในครั้งนี้เท่าที่ผมทราบคือ
1.เกาหลีใต้เปิดเครื่องขยายเสียง ที่ไม่ได้เปิดใช้มานานกว่า 11 ปี
2.การเคลื่อนย้ายปืนใหญ่เข้าเขต DMZ ตั้งแต่มีสัญญาหยุดยิง ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
3.การคเลื่อนกำลังขนาดใหญ่อย่างเรือดำน้ำกว่า 50 ลำ นับเป็น 10 เท่าของกิจกรรมทางการทหารปรกติ ซึ่งที่ผ่านมาเวลาขู่ จะเคลื่อนย้ายแค่ฐานยิงจรด "แตโปดอง" ที่เป็นขีปนาวุธระยะไกล และติดหัวรบนิวเคลียร์ได้
4.มีการเจรจามาราธอน 2 ครั้งติด ๆ
5.มีกำลัง "พี่ใหญ่หนุนหลัง" ของทั้งสองขั้วอยู่ใกล้ ๆ กัน เป็นครั้งแรกนั้บตั้งแต่ช่วงสงคราเย็นมา ที่เกิดวิกฤติการณ์ความเสี่ยงสงคราม ในขณะที่ทั้ง สหรัฐ และ เกาหลีใต้ ซ้อมรบ เกาหลีเหนือขู่เป็นปรกติ แต่ครั้งนี้ มี พี่จีน-รัสเซีย ซ้อมรบอยู่ในทะเลญี่ปุ่นไม่ห่างกันด้วย แถมสหรัฐก็ออกตัวพร้อมหนุนเกาหลีใต้แล้วด้วย
ครั้งนี้น่าสนใจ ๆ สงครามตัวแทนรอบใหม่ ใครจะไปรู้ ยิ่งดูท่าทางของรัสเซียในสงครามตัวแทนยูเครนที่ไม่สนใจต่ออียูแล้วด้วย หึหึ
สิ่งที่ผมสังเกตุในสถาการณ์เกาหลีเหนือ-ใต้ ในครั้งนี้
1.เกาหลีใต้เปิดเครื่องขยายเสียง ที่ไม่ได้เปิดใช้มานานกว่า 11 ปี
2.การเคลื่อนย้ายปืนใหญ่เข้าเขต DMZ ตั้งแต่มีสัญญาหยุดยิง ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
3.การคเลื่อนกำลังขนาดใหญ่อย่างเรือดำน้ำกว่า 50 ลำ นับเป็น 10 เท่าของกิจกรรมทางการทหารปรกติ ซึ่งที่ผ่านมาเวลาขู่ จะเคลื่อนย้ายแค่ฐานยิงจรด "แตโปดอง" ที่เป็นขีปนาวุธระยะไกล และติดหัวรบนิวเคลียร์ได้
4.มีการเจรจามาราธอน 2 ครั้งติด ๆ
5.มีกำลัง "พี่ใหญ่หนุนหลัง" ของทั้งสองขั้วอยู่ใกล้ ๆ กัน เป็นครั้งแรกนั้บตั้งแต่ช่วงสงคราเย็นมา ที่เกิดวิกฤติการณ์ความเสี่ยงสงคราม ในขณะที่ทั้ง สหรัฐ และ เกาหลีใต้ ซ้อมรบ เกาหลีเหนือขู่เป็นปรกติ แต่ครั้งนี้ มี พี่จีน-รัสเซีย ซ้อมรบอยู่ในทะเลญี่ปุ่นไม่ห่างกันด้วย แถมสหรัฐก็ออกตัวพร้อมหนุนเกาหลีใต้แล้วด้วย
ครั้งนี้น่าสนใจ ๆ สงครามตัวแทนรอบใหม่ ใครจะไปรู้ ยิ่งดูท่าทางของรัสเซียในสงครามตัวแทนยูเครนที่ไม่สนใจต่ออียูแล้วด้วย หึหึ