
2 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบปริญญาโทที่สก๊อตแลนด์ ผมได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำและไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้ทำ นั่นก็คือการแบ็คแพ็คจากสก๊อตแลนด์กลับกรุงเทพ กว่า 2 เดือนที่โลดแล่นอยู่บนถนนหนทางที่ไม่คุ้นเคย เจอคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นตา และทำในสิ่งที่ไม่คุ้นชิน
ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเวลามานานแล้ว แต่ความรู้สึกสุข เศร้า เหงา ฟิน ที่เกิดขึ้นระหว่างทริปมันยังคงอยู่เสมอมาและคงจะอยู่เสมอไป ยิ่งช่วงนี้ที่ต้องทำงานหนัก มันทำให้ผมค่อนข้างหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำในอดีตมากเป็นพิเศษ ครั้นจะระบายความหมกมุ่นนี้ด้วยการหยุดทุกอย่างแล้วแบกกระเป๋าออกเดินทางมันก็ดูเป็นไปได้ยาก สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นได้แค่เพียงการระบายผ่านตัวอักษรไปพลางๆ ก่อน
หวังว่าการระบายครั้งนี้ จะช่วยระบายสีในจิตใจเพื่อนๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะ
1. No friend, no gain
ผมลืมเล่าให้ฟังไปว่า ผมไม่ได้ผจญภัยในต่างแดนตัวคนเดียว แต่มีเพื่อนสนิทไปด้วยอีก 2 คน ผมจินตนาการออกเลยว่าถ้าขาด 2 คนนี้ไปจะเป็นยังไง… ทริปนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นยังไงล่ะ! ถือว่าผมโชคดีมากๆ ที่ได้ออกเดินทางกับเพื่อนที่มีจริตคล้ายกัน
“ขาดเพื่อน ความทรงจำดีๆ ก็คงจะหายไป”
2. Good plan, better travel
ก่อนออกเดินทางผมใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 3 เดือน กลางวันปั่นดิสเซอร์ (โปรเจคต์จบ) กลางคืนก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ค้างคาวมานั่งวางแผน เปิดไปเปิดมาอยู่หลายเว็บทั้ง Trip advisor เอย Lonely Planet เอย ซึ่งแผนที่พวกผมวางไว้นั้นดีและละเอียดมากๆ เลยล่ะ (ไม่ได้หลงตัวเองนะ ฮ่าๆ) แต่มันก็ยังจะมีข้อมูลบางอย่างที่ผมหาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ เช่น จะนั่งรถไฟจากคุนหมิงเข้ามาไทยยังไง สุดท้ายเลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าแทน ตอนออกเดินทางจริง เส้นทางตั้งแต่สก๊อตแลนด์ไปจนถึงคุนหมิงนั้นพวกผมแทบไม่เจอปัญหาเลย แต่พอจะออกจากคุนหมิงเข้ามาไทยเท่านั้นแหละ ความบรรลัยบังเกิด ทั้งขึ้นรถเมล์ผิดป้าย 3 รอบ ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 พร้อมกับเป้ใบใหญ่ๆ อีก 4 ใบ กว่าจะกลับไทยได้ โคตรเหนื่อย!
“วางแผนให้ดี ใช้เวลากับการค้นพบที่ไม่คาดฝัน ไม่ใช่ปัญหาที่ไม่คาดฝัน”
3. Monopoly is never good
จริงๆ ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวเลย แต่เป็นเรื่องที่ผมฝังใจเป็นพิเศษ เลยต้องเอ่ยถึงสักหน่อย
บนรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียนที่ผมใช้ชีวิตอยู่ประมาณ 4 วันครึ่ง (จากมอสโกว์ไปอูลานบาตอร์) จะมีอยู่โบกี้นึงซึ่งเป็นโบกี้ของภัตตาคารที่หรูที่สุดบนรถไฟ (ทั้งขบวนมีอยู่ร้านเดียว) ภัตตาคารระดับ 5 ดาวนี้ถูกบริหารโดยชายแก่ชาวรัสเซียคนนึงซึ่งผมตั้งชื่อว่า “ไอ้ลุง” สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อว่า “ไอ้ลุง” ก็เพราะว่าการตั้งราคาที่มหาโหด ในเมนูมีอยู่สิบกว่าอย่าง แต่ไอ้ลุงแกเล่นขายอยู่แค่อย่างเดียวคือข้าวสเต๊กไก่ (ข้าวแฉะๆ พร้อมไก่หนึ่งชิ้น กับผักอีกนิดหน่อย) ราคาจานละ 1,000 รูเบิ้ล ในตอนนั้นถ้าคิดเป็นเงินบาทก็ตกอยู่ที่ 1,000 บาท! ราคานี้สามารถซื้อกระเพราไก่ไข่ดาวได้ประมาณ 20 จาน ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่กิน แต่สุดท้ายก็โดนไป 3-4 มื้อ เพราะทนกินมาม่าเกาหลีแค่อย่างเดียวไม่ไหว
“…และนี่คือบทเรียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยเรียนมา”
4. Buying tours isn’t always bad for backpackers
แบ็คแพ็คเกอร์หลายๆ คนคงจะคิดว่าการซื้อทัวร์เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองเกินกว่าเหตุ เรื่องอะไรจะเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเสียตั้งเท่าตัว ศึกษาข้อมูลให้เยอะหน่อยแล้วเที่ยวเอง เอาเงินที่เหลือไปเสียค่าของกินหรือของที่อยากได้ดีกว่า ผมก็เคยคิดแบบนั้น แต่ประสบการณ์ในอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป
สาเหตุที่พวกผมแวะประเทศนี้แทนที่จะยิงยาวไปปักกิ่งนั้นเป็นเพราะว่าว่าเพื่อนสุดรักของผมทั้ง 2 คนอยากท่องทะเลทรายโกบี พวกผมตัดสินใจซื้อทัวร์เพราะคำว่าทะเลทรายโกบีมันเป็นคำที่ฟังดูกว้างใหญ่มากๆ และเมื่อไปอยู่กลางทะเลทรายจริงๆ ก็ทำให้รู้ว่าพวกผมคิดไม่ผิด ตอนนั้นหิมะตกหนักมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย เข็มทิศก็ใช้ไม่ได้ จนทำให้คนขับรถทัวร์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลทรายมาทั้งชีวิตหลงทาง กว่าจะคลำทางกันเจอใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ถ้าพวกผมเช่ารถขับเข้ามาเองคงจะได้เป็นอาหารอันโอชะของหมาป่าในทะเลทรายเป็นแน่แท้
“บางที… การซื้อทัวร์ก็ดีกว่าการไปมั่วเอง แต่ก็แค่บางทีนะ”
5. Polish girls are polished!
ตั้งแต่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมา เห็นสาวเอเชียมาก็เยอะ สาวฝรั่งมาก็แยะ สาวที่ตราตรึงสายตาที่สุดผมยกให้สาวโปแลนด์ สวยขนาดที่ว่าเดินมา 10 คนจะสวยสัก 7 คน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบสไตล์ฝรั่ง (ไม่ถามตัวเองสักคำว่าฝรั่งจะชอบเรามั้ย ฮ่าๆ) แต่สำหรับสาวประเทศนี้ผมยอมจริงๆ รัสเซียที่ว่าสวยยังชิดซ้ายเลย
ป.ล. 1 จริงๆ ข้อนี้มันค่อนข้างจะ subjective นะ หลายๆ คนอาจจะเห็นไม่ตรงกันกับผม แต่ที่คือประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัวและอยากจะเอามาแบ่งปัน
ป.ล. 2 การชื่นชมอันนี้เป็นการชื่มชมโดยสุจริตนะ ไม่ได้เป็นการชื่มชมโดยเสน่หาแม้แต่นิดเดียว ฮ่าๆ
6. There is no place as warm as home
แต่ก่อนเคยได้ยินคนพูดอยู่บ่อยๆ ว่า “ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเรา” ตอนนั้นผมรู้สึกเฉยๆ กับคำนี้มาก อาจเป็นเพราะว่าผมไม่เคยจากบ้านไปไกลเกิน 3 วัน 7 วัน ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศผมก็ยังไม่รู้สึกอะไร อาจเป็นเพราะว่ามันอยู่ที่เดิมซ้ำๆ เป็นปี แต่หลังจากเดินทางไกล นอนกลางดิน กินกลางทราย มาได้ประมาณ 2 เดือน คืนแรกที่บ้าน ประโยคนี้มันแว๊บขึ้นมาในสมองทันทีที่หัวถึงหมอนเลยล่ะ มันสุขแบบบอกไม่ถูกจริงๆ
7. But you gain memories and experiences only when you roam
หลังจากสุข ความรู้สึกต่อมาคือเคว้งคว้าง แบบว่า ‘จบแล้วจริงๆ เหรอ ทริปกลับบ้านด้วยรถไฟ’ มันหวิวแบบบอกไม่ถูก วันพรุ่งนี้ตื่นมาโลกของผมคงเป็นเหมือนเคย ไม่มีแล้วการผจญภัย ไม่มีแล้วการนั่งรถไฟ วันนั้นจนถึงวันนี้ หลายๆ ครั้งเวลาผมนึกถึงช่วงเวลานั้น ผมก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว (จนคนที่อยู่แถวนั้น อาจจะคิดว่า

บ้า ฮ่าๆ) หลายๆ ครั้งอีกเช่นกันที่ผมมองย้อนกลับไป ผมยังรู้สึกเสียดายกับสิ่งที่ไม่ได้ทำและที่ที่ไม่ได้ไป
“ถ้าเป็นไปได้…. อยากแบกเป้เที่ยวอีกสักครั้ง”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูเรื่องเกี่ยวกับการแบกเป้เที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง ท่องเที่ยว หรือว่าที่พักได้ที่
http://www.facebook.com/blogpackers
http://www.blogpackers.com
แผนที่ดีจะทำให้การเดินทางดีขึ้นกว่าที่เคย
7 สิ่งที่ผมเรียนรู้หลังจากเดินทางมาครึ่งค่อนโลก
2 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบปริญญาโทที่สก๊อตแลนด์ ผมได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำและไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้ทำ นั่นก็คือการแบ็คแพ็คจากสก๊อตแลนด์กลับกรุงเทพ กว่า 2 เดือนที่โลดแล่นอยู่บนถนนหนทางที่ไม่คุ้นเคย เจอคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นตา และทำในสิ่งที่ไม่คุ้นชิน
ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเวลามานานแล้ว แต่ความรู้สึกสุข เศร้า เหงา ฟิน ที่เกิดขึ้นระหว่างทริปมันยังคงอยู่เสมอมาและคงจะอยู่เสมอไป ยิ่งช่วงนี้ที่ต้องทำงานหนัก มันทำให้ผมค่อนข้างหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำในอดีตมากเป็นพิเศษ ครั้นจะระบายความหมกมุ่นนี้ด้วยการหยุดทุกอย่างแล้วแบกกระเป๋าออกเดินทางมันก็ดูเป็นไปได้ยาก สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นได้แค่เพียงการระบายผ่านตัวอักษรไปพลางๆ ก่อน
หวังว่าการระบายครั้งนี้ จะช่วยระบายสีในจิตใจเพื่อนๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะ
1. No friend, no gain
ผมลืมเล่าให้ฟังไปว่า ผมไม่ได้ผจญภัยในต่างแดนตัวคนเดียว แต่มีเพื่อนสนิทไปด้วยอีก 2 คน ผมจินตนาการออกเลยว่าถ้าขาด 2 คนนี้ไปจะเป็นยังไง… ทริปนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นยังไงล่ะ! ถือว่าผมโชคดีมากๆ ที่ได้ออกเดินทางกับเพื่อนที่มีจริตคล้ายกัน
“ขาดเพื่อน ความทรงจำดีๆ ก็คงจะหายไป”
2. Good plan, better travel
ก่อนออกเดินทางผมใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 3 เดือน กลางวันปั่นดิสเซอร์ (โปรเจคต์จบ) กลางคืนก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ค้างคาวมานั่งวางแผน เปิดไปเปิดมาอยู่หลายเว็บทั้ง Trip advisor เอย Lonely Planet เอย ซึ่งแผนที่พวกผมวางไว้นั้นดีและละเอียดมากๆ เลยล่ะ (ไม่ได้หลงตัวเองนะ ฮ่าๆ) แต่มันก็ยังจะมีข้อมูลบางอย่างที่ผมหาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ เช่น จะนั่งรถไฟจากคุนหมิงเข้ามาไทยยังไง สุดท้ายเลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าแทน ตอนออกเดินทางจริง เส้นทางตั้งแต่สก๊อตแลนด์ไปจนถึงคุนหมิงนั้นพวกผมแทบไม่เจอปัญหาเลย แต่พอจะออกจากคุนหมิงเข้ามาไทยเท่านั้นแหละ ความบรรลัยบังเกิด ทั้งขึ้นรถเมล์ผิดป้าย 3 รอบ ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 พร้อมกับเป้ใบใหญ่ๆ อีก 4 ใบ กว่าจะกลับไทยได้ โคตรเหนื่อย!
“วางแผนให้ดี ใช้เวลากับการค้นพบที่ไม่คาดฝัน ไม่ใช่ปัญหาที่ไม่คาดฝัน”
3. Monopoly is never good
จริงๆ ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวเลย แต่เป็นเรื่องที่ผมฝังใจเป็นพิเศษ เลยต้องเอ่ยถึงสักหน่อย
บนรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียนที่ผมใช้ชีวิตอยู่ประมาณ 4 วันครึ่ง (จากมอสโกว์ไปอูลานบาตอร์) จะมีอยู่โบกี้นึงซึ่งเป็นโบกี้ของภัตตาคารที่หรูที่สุดบนรถไฟ (ทั้งขบวนมีอยู่ร้านเดียว) ภัตตาคารระดับ 5 ดาวนี้ถูกบริหารโดยชายแก่ชาวรัสเซียคนนึงซึ่งผมตั้งชื่อว่า “ไอ้ลุง” สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อว่า “ไอ้ลุง” ก็เพราะว่าการตั้งราคาที่มหาโหด ในเมนูมีอยู่สิบกว่าอย่าง แต่ไอ้ลุงแกเล่นขายอยู่แค่อย่างเดียวคือข้าวสเต๊กไก่ (ข้าวแฉะๆ พร้อมไก่หนึ่งชิ้น กับผักอีกนิดหน่อย) ราคาจานละ 1,000 รูเบิ้ล ในตอนนั้นถ้าคิดเป็นเงินบาทก็ตกอยู่ที่ 1,000 บาท! ราคานี้สามารถซื้อกระเพราไก่ไข่ดาวได้ประมาณ 20 จาน ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่กิน แต่สุดท้ายก็โดนไป 3-4 มื้อ เพราะทนกินมาม่าเกาหลีแค่อย่างเดียวไม่ไหว
“…และนี่คือบทเรียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยเรียนมา”
4. Buying tours isn’t always bad for backpackers
แบ็คแพ็คเกอร์หลายๆ คนคงจะคิดว่าการซื้อทัวร์เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองเกินกว่าเหตุ เรื่องอะไรจะเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเสียตั้งเท่าตัว ศึกษาข้อมูลให้เยอะหน่อยแล้วเที่ยวเอง เอาเงินที่เหลือไปเสียค่าของกินหรือของที่อยากได้ดีกว่า ผมก็เคยคิดแบบนั้น แต่ประสบการณ์ในอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป
สาเหตุที่พวกผมแวะประเทศนี้แทนที่จะยิงยาวไปปักกิ่งนั้นเป็นเพราะว่าว่าเพื่อนสุดรักของผมทั้ง 2 คนอยากท่องทะเลทรายโกบี พวกผมตัดสินใจซื้อทัวร์เพราะคำว่าทะเลทรายโกบีมันเป็นคำที่ฟังดูกว้างใหญ่มากๆ และเมื่อไปอยู่กลางทะเลทรายจริงๆ ก็ทำให้รู้ว่าพวกผมคิดไม่ผิด ตอนนั้นหิมะตกหนักมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย เข็มทิศก็ใช้ไม่ได้ จนทำให้คนขับรถทัวร์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลทรายมาทั้งชีวิตหลงทาง กว่าจะคลำทางกันเจอใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ถ้าพวกผมเช่ารถขับเข้ามาเองคงจะได้เป็นอาหารอันโอชะของหมาป่าในทะเลทรายเป็นแน่แท้
“บางที… การซื้อทัวร์ก็ดีกว่าการไปมั่วเอง แต่ก็แค่บางทีนะ”
5. Polish girls are polished!
ตั้งแต่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมา เห็นสาวเอเชียมาก็เยอะ สาวฝรั่งมาก็แยะ สาวที่ตราตรึงสายตาที่สุดผมยกให้สาวโปแลนด์ สวยขนาดที่ว่าเดินมา 10 คนจะสวยสัก 7 คน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบสไตล์ฝรั่ง (ไม่ถามตัวเองสักคำว่าฝรั่งจะชอบเรามั้ย ฮ่าๆ) แต่สำหรับสาวประเทศนี้ผมยอมจริงๆ รัสเซียที่ว่าสวยยังชิดซ้ายเลย
ป.ล. 1 จริงๆ ข้อนี้มันค่อนข้างจะ subjective นะ หลายๆ คนอาจจะเห็นไม่ตรงกันกับผม แต่ที่คือประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัวและอยากจะเอามาแบ่งปัน
ป.ล. 2 การชื่นชมอันนี้เป็นการชื่มชมโดยสุจริตนะ ไม่ได้เป็นการชื่มชมโดยเสน่หาแม้แต่นิดเดียว ฮ่าๆ
6. There is no place as warm as home
แต่ก่อนเคยได้ยินคนพูดอยู่บ่อยๆ ว่า “ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเรา” ตอนนั้นผมรู้สึกเฉยๆ กับคำนี้มาก อาจเป็นเพราะว่าผมไม่เคยจากบ้านไปไกลเกิน 3 วัน 7 วัน ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศผมก็ยังไม่รู้สึกอะไร อาจเป็นเพราะว่ามันอยู่ที่เดิมซ้ำๆ เป็นปี แต่หลังจากเดินทางไกล นอนกลางดิน กินกลางทราย มาได้ประมาณ 2 เดือน คืนแรกที่บ้าน ประโยคนี้มันแว๊บขึ้นมาในสมองทันทีที่หัวถึงหมอนเลยล่ะ มันสุขแบบบอกไม่ถูกจริงๆ
7. But you gain memories and experiences only when you roam
หลังจากสุข ความรู้สึกต่อมาคือเคว้งคว้าง แบบว่า ‘จบแล้วจริงๆ เหรอ ทริปกลับบ้านด้วยรถไฟ’ มันหวิวแบบบอกไม่ถูก วันพรุ่งนี้ตื่นมาโลกของผมคงเป็นเหมือนเคย ไม่มีแล้วการผจญภัย ไม่มีแล้วการนั่งรถไฟ วันนั้นจนถึงวันนี้ หลายๆ ครั้งเวลาผมนึกถึงช่วงเวลานั้น ผมก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว (จนคนที่อยู่แถวนั้น อาจจะคิดว่า
“ถ้าเป็นไปได้…. อยากแบกเป้เที่ยวอีกสักครั้ง”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูเรื่องเกี่ยวกับการแบกเป้เที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง ท่องเที่ยว หรือว่าที่พักได้ที่
http://www.facebook.com/blogpackers
http://www.blogpackers.com
แผนที่ดีจะทำให้การเดินทางดีขึ้นกว่าที่เคย