เมื่อ 'พระพรหม' เริ่มบันดาล.... เปลว สีเงิน ไทยโพสต์ออนไลน์
ด้วยเหตุผล-หลักฐานในมือ ตำรวจสามารถ "แยกปลา-แยกน้ำ" ในเหตุการณ์ "บอมบ์ราชประสงค์" ได้งวดเข้า
เมื่อตัดประเด็นก่อการร้ายและการเมืองระหว่างประเทศออกไป ที่เหลือผลุบๆ โผล่ๆ ในปากอวน-ปากแหตำรวจ คือ
-ขัดแย้งการเมืองภายใน
-ขบวนการโค่นล้มรัฐบาล คสช.!?
นั่นเพียงประเด็นมีความน่าจะเป็นนำสู่ "สิ่งที่เกิด" แต่ที่เป็นจริงๆ และที่เกิดขึ้นแล้ว
ประเด็นและคนลงมือ จะเป็นขบวนการเดียวกัน.....
หรือ ประเด็นเดียวกัน แต่คนละขบวนการ แต่ฉกฉวยความขัดแย้งสร้างสถานการณ์หวังตอกลิ่ม เพื่อเป็น
"ตาอยู่" คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลัง
มันก็เป็นได้ทั้งนั้น?
จนกว่า...จับมิสเตอร์ X เสื้อยืดเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดได้แล้วนั่นแหละ ประเด็นจะแจ้ง!
ความจริง การวินาศกรรมราชประสงค์ ตรงศาลท่านท้าวมหาพรหม เป็นเรื่องใหญ่ ด้านสูญเสียบนความเป็น
มนุษยชาติร่วมโลก
แต่เกือบครบสัปดาห์........
ไม่ปรากฏว่า ทั้งยูเอ็น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้ง
CNN และ BBC
จะแถลงหรือออกข่าวประณามผู้บอมบ์ราชประสงค์ในพลัน ให้เห็นท่าทีว่า "ไม่สนับสนุนและต่อต้าน"
ความโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรมนั้น
ต่างกัน ๑๐๐% กับที่ องค์กรเหล่านี้เคยทำ.........?
คือ ครั้งใดที่ตำรวจจับผู้ต้องหาในความผิดมาตรา ๑๑๒ หรือศาลตัดสินคดีว่าด้วยมาตรา ๑๑๒
หรือจับแก๊งปฏิบัติการทางการเมือง ที่สร้างเงื่อนไขหวังยั่วให้ตำรวจจับ ด้วยฝืนคำสั่ง คสช.
โฆษกต่างประเทศสหรัฐฯ ยูเอ็น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ CNN BBC
จะเรียงหน้าประสานเสียง ไม่รั้งรอที่จะแถลงการณ์-แถลงข่าว ประณามไทยโดยพลัน
บีบให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ ด้วยอ้างสิทธิมนุษยชน ให้น้ำหนักร้ายแรงยิ่งกว่าระเบิดฆ่าคนตาย-เจ็บเป็นร้อยๆ
เสียอีก?
จ้องจับ จ้องจิก เฉพาะเรื่องสถาบัน..........
และคอยใช้ "กระแสโลก" คุ้มกันให้ฝ่ายปฏิบัติการเป็นปฏิปักษ์ต่อ "ชาติ-ศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์"
ชนิดออกนอกหน้า จนเห็นชัด!
น่าสังเกตกว่านั้น ระเบิดตูมหน้าพระพรหม............
แก๊งหนึ่งในประเทศ กับขบวนการ "ซื้อ-ขาย" ข่าวต่างประเทศ ออกข่าวปุ๊บ ไทยส่งตัวอุยกูร์ให้จีน
น่าจะเป็นชนวน "ตูมมมมม" เพื่อตอบโต้!
มีความพยายามผลักและยกประเด็นและการลงมือ ให้เป็นเรื่องก่อการร้ายบ้าง เป็นเรื่องการเมืองระหว่าง
ประเทศบ้าง คนลงมือเป็นชาวต่างชาติบ้าง
เมื่อตำรวจ "สรุป" ประเด็นงวดเข้า....!
การเมืองระหว่างประเทศ ตัดทิ้งไป ประเด็นก่อการร้าย ตัดทิ้งไป ประเด็นอุยกูร์ ชนิดหนังสือพิมพ์ฝรั่งใน
ไทยพาดหัวตัวหม้อแกง ตัดทิ้งไป
กระทั่ง มือระเบิดเสื้อเหลือง จากที่ระบุว่า "ชาวต่างชาติ" ก็ชักไม่แน่ มีประเด็นตบแต่งหน้า-ผมเผ้า-ดัดสำเนียง
เข้ามาเป็นเงื่อนไขต้องเคลียร์
ถึงตอนนี้ ตัวละครในเงาดำ ออกโรงทันที!
คงเห็นข่าววัน-สองวันนี้กันแล้ว นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าว BBC ไปทำข่าวที่เกิดเหตุ หน้าศาลท่านท้าว
มหาพรหม พบชิ้นส่วนระเบิด ๓-๔ ชิ้น
ออกข่าว "ดิสเครดิต" ทันที!
ตำรวจไทยทำงานไม่ละเอียด และเร็วเกินไปที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้ เป็นการ "ทำลายหลักฐาน"
ในที่เกิดเหตุ
เรียกว่า เริ่มปฏิบัติการออกข่าว "ทำลายความน่าเชื่อถือ" ด้านหลักฐานที่มีในมือตำรวจและการทำงาน
ของเจ้าหน้าที่ไทย
แถมเอาที่อ้างว่าเก็บได้ไปมอบให้ตำรวจ เมื่อตำรวจไม่รับ ก็ขยายข่าวต่อ เชิงว่าปฏิเสธหลักฐาน
นี่...เริ่มสร้างประเด็นไว้ ถ้าตำรวจทะเล่อ-ทะล่า เห็นฝรั่งเป็นเทวดา เอามาให้ ไม่รู้ขี้หมู-ขี้หมา ก็ครับๆๆๆ
รับไว้เป็นหลักฐานหมด
คดีพังแต่เริ่มทันที!
การจะรับเอาอะไรเข้าไปอยู่ในบัญชีพยาน-หลักฐานจากที่เกิดเหตุ ไม่ใช่รับจากใคร หรือใครก็เอามาเติม
หรือเอาออกไปภายหลังโดยพลการได้
ขืนทำอย่างนั้น จะเป็นพิรุธ เป็นช่องโหว่ ให้จำเลยแย้งในชั้นศาลได้ว่าเป็น "หลักฐานปรักปรำ" ไม่น่าเชื่อถือ
โจนาธาน เฮด คือใคร?
ฝรั่งอังกฤษผู้นี้ เป็นนักข่าวสถานีโทรทัศน์ BBC ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ที่ตั้งอยู่แถวๆ เพลินจิต
เมื่อตอน กปปส.ออกมา ๔-๕ ล้านคน นายเฮด รายงานข่าว BBC ว่า มีคนแค่ ๑๕๐,๐๐๐ คน
ประมาณปี ๕๐-๕๑ เคยถูกแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์
กรณี นำคำบรรยายภาษาอังกฤษนายจักรภพ เพ็ญแข บรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศไปเผยแพร่
รวมทั้งจัดแปลบทเสวนานายวีระ มุสิกพงศ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง เป็นภาษา
อังกฤษออกเผยแพร่
รู้ปูมแค่นี้ ก็คงพอเข้าใจมิใช่หรือ มีอีกประเด็นที่อยากพูด.....
คือตอนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งรางวัล ๑ ล้านบาท ให้คนที่ชี้เบาะแสจับกุมมือบอมบ์ราชประสงค์
ต่อมา มีผู้ร่วมสมทบอีก ๒ ราย รายละ ๑ ล้าน รวมตอนนี้ เป็นสินบนนำจับ ๓ ล้านบาท
แต่เมื่อวาน (๒๑ ส.ค.๕๘) เห็นสื่อรายงานพร้อมเพรียง คุณโอ๊คหรือนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายทักษิณ
โพสต์ fb ด้วยข้อความท่อนหนึ่งว่า...
"........กรณีที่มีการโยนความผิดว่าเป็นฝีมือคนไทยด้วยกัน และทำไปเพราะเสียประโยชน์ทางการเมือง
ตั้งแต่ฝุ่นควันระเบิดยังไม่ทันจางลงนั้น ถือเป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย ซึ่งสมควร
ได้รับการประณามเป็นอย่างยิ่ง หากยังปล่อยให้คนไทยด้วยกันฉวยโอกาสใช้วิกฤติของประเทศมาใส่ร้าย
กันเองแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยคงเข้าใกล้คำว่า Fail State .....
อีกทั้งทราบว่าขณะนี้ มีการตั้งรางวัลนำจับผู้แจ้งเบาะแสมือวางระเบิด รวมกันถึง 3 ล้านบาทแล้ว ซึ่งถือ
เป็นการมีส่วนร่วมที่ดีของผู้ที่ต้องการให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว จึงอยากมีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย
โดยได้ขออนุมัติจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสนับสนุนรางวัลนำจับอีก 7 ล้านบาท เพื่อให้ครบ 10 ล้านบาท
แบ่งเป็นผู้ที่ให้เบาะแส 2 ล้านบาท รวมกับของเดิม 3 ล้าน เป็น 5 ล้านบาท และอีก 5 ล้านบาท สำหรับ
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนจับกุมในครั้งนี้"
ความจริง ผมไม่เคย-ไม่สนใจข้อความที่นายโอ๊คเขียนเลย แต่ครั้งนี้ขอนิดด้วยเหตุ ๒ ประการ
ประการแรก ดีใจ...ที่เห็นคุณโอ๊ค "เลือดพล่าน" เมื่อได้ยินใครเอ่ยถึงคนไทยในแง่ไม่ดี
แค่ตำรวจตั้งประเด็น "ขัดประโยชน์การเมือง" เป็นปมหนึ่งในการบอมบ์เลือดไทยคุณโอ๊คระอุ
ถึงขั้นโพสต์ fb ........
"หากยังปล่อยให้คนไทยด้วยกันฉวยโอกาสใช้วิกฤติของประเทศมาใส่ร้ายกันเองแบบนี้ต่อไป
ประเทศไทยคงเข้าใกล้คำว่า Fail State"
ก็ใจเย็นๆ....
รักชาติบ้านเมือง รักความเป็นไทยน่ะดี แต่ไม่ต้องเป็นเจ็บ-เป็นแค้นถึงขั้นต้องใช้คำว่า
"ใส่ร้ายกันเอง" หรอก!?
ข้อสันนิษฐานนี้ ใส่ร้ายใครหรือ หรือคุณโอ๊ครู้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ก็บอกกับตำรวจ
หรือกับนายกฯ ลุงตู่ ก็ได้นี่นะ
ประการที่สอง.....
คุณโอ๊คยังมีศรัทธาแรงกล้า ขออนุมัติเงิน ๗ ล้าน จากคุณพ่อทักษิณมาเป็นสินบนนำจับ
อยากจะบอกว่า แค่โพสต์ตัวโตๆ ทั้งโอ๊คและพ่อก็ชิงพื้นที่ข่าวได้ "เกินคุ้ม" แล้ว!
แต่ที่อยากบอก และบอกไปถึง ผบ.ตร.สมยศเลยว่า เงิน ๗ ล้านนี้ รับได้เพียงเจตนาเท่านั้น
แต่ "รับตัวเงิน" ๗ ล้าน ไม่ได้เด็ดขาด!
ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย เงินที่จะรับ ต้องเป็นเงินในกฎหมาย เงินบริสุทธิ์ จากคนบริสุทธิ์ ไม่ใช่เงิน
จากผู้ต้องหา หรือจากโจรผู้ร้าย
แล้วทักษิณอยู่ในสถานะอะไร....?
ต้องมลทินเกี่ยวกับเงินอันเป็นรายได้แผ่นดินขนาดไหน-อย่างไร ๒๖ สิงหาก็จะถูกตัดสินอีกคดี
และ ผบ.ตร.ก็บอกเองว่า...ก่อนเกษียณนี้ จะถอดยศทักษิณกะมือ!
ถ้าจะรับเงินโจรสมทบเงินตำรวจเช่นนี้....
ถูกต้อง-สมควรหรือ?
ให้คุณโอ๊คขออนุมัติคุณพ่อเก็บไว้เอง จับได้เมื่อไหร่ ให้คนได้รับรางวัลไปทวงถาม และมอบ
กันเองก็แล้วกัน!
ทำไป-ทำมา ชนวนบอมบ์ราชประสงค์ จะกลายเป็นปรอทวัดไข้ทั้งในและนอกประเทศ เข้าทำนอง
"โอกาสในวิกฤติ" ไปซะแล้วก็ไม่รู้?.
เปลว สีเงิน ...ว่ายังไง กับรางวัลนำจับจาก โอ๊ค ...พานทองแท้ .../sao..เหลือ..noi
ด้วยเหตุผล-หลักฐานในมือ ตำรวจสามารถ "แยกปลา-แยกน้ำ" ในเหตุการณ์ "บอมบ์ราชประสงค์" ได้งวดเข้า
เมื่อตัดประเด็นก่อการร้ายและการเมืองระหว่างประเทศออกไป ที่เหลือผลุบๆ โผล่ๆ ในปากอวน-ปากแหตำรวจ คือ
-ขัดแย้งการเมืองภายใน
-ขบวนการโค่นล้มรัฐบาล คสช.!?
นั่นเพียงประเด็นมีความน่าจะเป็นนำสู่ "สิ่งที่เกิด" แต่ที่เป็นจริงๆ และที่เกิดขึ้นแล้ว
ประเด็นและคนลงมือ จะเป็นขบวนการเดียวกัน.....
หรือ ประเด็นเดียวกัน แต่คนละขบวนการ แต่ฉกฉวยความขัดแย้งสร้างสถานการณ์หวังตอกลิ่ม เพื่อเป็น
"ตาอยู่" คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลัง
มันก็เป็นได้ทั้งนั้น?
จนกว่า...จับมิสเตอร์ X เสื้อยืดเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดได้แล้วนั่นแหละ ประเด็นจะแจ้ง!
ความจริง การวินาศกรรมราชประสงค์ ตรงศาลท่านท้าวมหาพรหม เป็นเรื่องใหญ่ ด้านสูญเสียบนความเป็น
มนุษยชาติร่วมโลก
แต่เกือบครบสัปดาห์........
ไม่ปรากฏว่า ทั้งยูเอ็น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้ง
CNN และ BBC
จะแถลงหรือออกข่าวประณามผู้บอมบ์ราชประสงค์ในพลัน ให้เห็นท่าทีว่า "ไม่สนับสนุนและต่อต้าน"
ความโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรมนั้น
ต่างกัน ๑๐๐% กับที่ องค์กรเหล่านี้เคยทำ.........?
คือ ครั้งใดที่ตำรวจจับผู้ต้องหาในความผิดมาตรา ๑๑๒ หรือศาลตัดสินคดีว่าด้วยมาตรา ๑๑๒
หรือจับแก๊งปฏิบัติการทางการเมือง ที่สร้างเงื่อนไขหวังยั่วให้ตำรวจจับ ด้วยฝืนคำสั่ง คสช.
โฆษกต่างประเทศสหรัฐฯ ยูเอ็น ยูเอ็นเอชซีอาร์ ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ CNN BBC
จะเรียงหน้าประสานเสียง ไม่รั้งรอที่จะแถลงการณ์-แถลงข่าว ประณามไทยโดยพลัน
บีบให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ ด้วยอ้างสิทธิมนุษยชน ให้น้ำหนักร้ายแรงยิ่งกว่าระเบิดฆ่าคนตาย-เจ็บเป็นร้อยๆ
เสียอีก?
จ้องจับ จ้องจิก เฉพาะเรื่องสถาบัน..........
และคอยใช้ "กระแสโลก" คุ้มกันให้ฝ่ายปฏิบัติการเป็นปฏิปักษ์ต่อ "ชาติ-ศาสนา-สถาบันพระมหากษัตริย์"
ชนิดออกนอกหน้า จนเห็นชัด!
น่าสังเกตกว่านั้น ระเบิดตูมหน้าพระพรหม............
แก๊งหนึ่งในประเทศ กับขบวนการ "ซื้อ-ขาย" ข่าวต่างประเทศ ออกข่าวปุ๊บ ไทยส่งตัวอุยกูร์ให้จีน
น่าจะเป็นชนวน "ตูมมมมม" เพื่อตอบโต้!
มีความพยายามผลักและยกประเด็นและการลงมือ ให้เป็นเรื่องก่อการร้ายบ้าง เป็นเรื่องการเมืองระหว่าง
ประเทศบ้าง คนลงมือเป็นชาวต่างชาติบ้าง
เมื่อตำรวจ "สรุป" ประเด็นงวดเข้า....!
การเมืองระหว่างประเทศ ตัดทิ้งไป ประเด็นก่อการร้าย ตัดทิ้งไป ประเด็นอุยกูร์ ชนิดหนังสือพิมพ์ฝรั่งใน
ไทยพาดหัวตัวหม้อแกง ตัดทิ้งไป
กระทั่ง มือระเบิดเสื้อเหลือง จากที่ระบุว่า "ชาวต่างชาติ" ก็ชักไม่แน่ มีประเด็นตบแต่งหน้า-ผมเผ้า-ดัดสำเนียง
เข้ามาเป็นเงื่อนไขต้องเคลียร์
ถึงตอนนี้ ตัวละครในเงาดำ ออกโรงทันที!
คงเห็นข่าววัน-สองวันนี้กันแล้ว นายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าว BBC ไปทำข่าวที่เกิดเหตุ หน้าศาลท่านท้าว
มหาพรหม พบชิ้นส่วนระเบิด ๓-๔ ชิ้น
ออกข่าว "ดิสเครดิต" ทันที!
ตำรวจไทยทำงานไม่ละเอียด และเร็วเกินไปที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้ เป็นการ "ทำลายหลักฐาน"
ในที่เกิดเหตุ
เรียกว่า เริ่มปฏิบัติการออกข่าว "ทำลายความน่าเชื่อถือ" ด้านหลักฐานที่มีในมือตำรวจและการทำงาน
ของเจ้าหน้าที่ไทย
แถมเอาที่อ้างว่าเก็บได้ไปมอบให้ตำรวจ เมื่อตำรวจไม่รับ ก็ขยายข่าวต่อ เชิงว่าปฏิเสธหลักฐาน
นี่...เริ่มสร้างประเด็นไว้ ถ้าตำรวจทะเล่อ-ทะล่า เห็นฝรั่งเป็นเทวดา เอามาให้ ไม่รู้ขี้หมู-ขี้หมา ก็ครับๆๆๆ
รับไว้เป็นหลักฐานหมด
คดีพังแต่เริ่มทันที!
การจะรับเอาอะไรเข้าไปอยู่ในบัญชีพยาน-หลักฐานจากที่เกิดเหตุ ไม่ใช่รับจากใคร หรือใครก็เอามาเติม
หรือเอาออกไปภายหลังโดยพลการได้
ขืนทำอย่างนั้น จะเป็นพิรุธ เป็นช่องโหว่ ให้จำเลยแย้งในชั้นศาลได้ว่าเป็น "หลักฐานปรักปรำ" ไม่น่าเชื่อถือ
โจนาธาน เฮด คือใคร?
ฝรั่งอังกฤษผู้นี้ เป็นนักข่าวสถานีโทรทัศน์ BBC ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ที่ตั้งอยู่แถวๆ เพลินจิต
เมื่อตอน กปปส.ออกมา ๔-๕ ล้านคน นายเฮด รายงานข่าว BBC ว่า มีคนแค่ ๑๕๐,๐๐๐ คน
ประมาณปี ๕๐-๕๑ เคยถูกแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์
กรณี นำคำบรรยายภาษาอังกฤษนายจักรภพ เพ็ญแข บรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศไปเผยแพร่
รวมทั้งจัดแปลบทเสวนานายวีระ มุสิกพงศ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง เป็นภาษา
อังกฤษออกเผยแพร่
รู้ปูมแค่นี้ ก็คงพอเข้าใจมิใช่หรือ มีอีกประเด็นที่อยากพูด.....
คือตอนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งรางวัล ๑ ล้านบาท ให้คนที่ชี้เบาะแสจับกุมมือบอมบ์ราชประสงค์
ต่อมา มีผู้ร่วมสมทบอีก ๒ ราย รายละ ๑ ล้าน รวมตอนนี้ เป็นสินบนนำจับ ๓ ล้านบาท
แต่เมื่อวาน (๒๑ ส.ค.๕๘) เห็นสื่อรายงานพร้อมเพรียง คุณโอ๊คหรือนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายทักษิณ
โพสต์ fb ด้วยข้อความท่อนหนึ่งว่า...
"........กรณีที่มีการโยนความผิดว่าเป็นฝีมือคนไทยด้วยกัน และทำไปเพราะเสียประโยชน์ทางการเมือง
ตั้งแต่ฝุ่นควันระเบิดยังไม่ทันจางลงนั้น ถือเป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย ซึ่งสมควร
ได้รับการประณามเป็นอย่างยิ่ง หากยังปล่อยให้คนไทยด้วยกันฉวยโอกาสใช้วิกฤติของประเทศมาใส่ร้าย
กันเองแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยคงเข้าใกล้คำว่า Fail State .....
อีกทั้งทราบว่าขณะนี้ มีการตั้งรางวัลนำจับผู้แจ้งเบาะแสมือวางระเบิด รวมกันถึง 3 ล้านบาทแล้ว ซึ่งถือ
เป็นการมีส่วนร่วมที่ดีของผู้ที่ต้องการให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว จึงอยากมีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย
โดยได้ขออนุมัติจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสนับสนุนรางวัลนำจับอีก 7 ล้านบาท เพื่อให้ครบ 10 ล้านบาท
แบ่งเป็นผู้ที่ให้เบาะแส 2 ล้านบาท รวมกับของเดิม 3 ล้าน เป็น 5 ล้านบาท และอีก 5 ล้านบาท สำหรับ
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนจับกุมในครั้งนี้"
ความจริง ผมไม่เคย-ไม่สนใจข้อความที่นายโอ๊คเขียนเลย แต่ครั้งนี้ขอนิดด้วยเหตุ ๒ ประการ
ประการแรก ดีใจ...ที่เห็นคุณโอ๊ค "เลือดพล่าน" เมื่อได้ยินใครเอ่ยถึงคนไทยในแง่ไม่ดี
แค่ตำรวจตั้งประเด็น "ขัดประโยชน์การเมือง" เป็นปมหนึ่งในการบอมบ์เลือดไทยคุณโอ๊คระอุ
ถึงขั้นโพสต์ fb ........
"หากยังปล่อยให้คนไทยด้วยกันฉวยโอกาสใช้วิกฤติของประเทศมาใส่ร้ายกันเองแบบนี้ต่อไป
ประเทศไทยคงเข้าใกล้คำว่า Fail State"
ก็ใจเย็นๆ....
รักชาติบ้านเมือง รักความเป็นไทยน่ะดี แต่ไม่ต้องเป็นเจ็บ-เป็นแค้นถึงขั้นต้องใช้คำว่า
"ใส่ร้ายกันเอง" หรอก!?
ข้อสันนิษฐานนี้ ใส่ร้ายใครหรือ หรือคุณโอ๊ครู้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ก็บอกกับตำรวจ
หรือกับนายกฯ ลุงตู่ ก็ได้นี่นะ
ประการที่สอง.....
คุณโอ๊คยังมีศรัทธาแรงกล้า ขออนุมัติเงิน ๗ ล้าน จากคุณพ่อทักษิณมาเป็นสินบนนำจับ
อยากจะบอกว่า แค่โพสต์ตัวโตๆ ทั้งโอ๊คและพ่อก็ชิงพื้นที่ข่าวได้ "เกินคุ้ม" แล้ว!
แต่ที่อยากบอก และบอกไปถึง ผบ.ตร.สมยศเลยว่า เงิน ๗ ล้านนี้ รับได้เพียงเจตนาเท่านั้น
แต่ "รับตัวเงิน" ๗ ล้าน ไม่ได้เด็ดขาด!
ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย เงินที่จะรับ ต้องเป็นเงินในกฎหมาย เงินบริสุทธิ์ จากคนบริสุทธิ์ ไม่ใช่เงิน
จากผู้ต้องหา หรือจากโจรผู้ร้าย
แล้วทักษิณอยู่ในสถานะอะไร....?
ต้องมลทินเกี่ยวกับเงินอันเป็นรายได้แผ่นดินขนาดไหน-อย่างไร ๒๖ สิงหาก็จะถูกตัดสินอีกคดี
และ ผบ.ตร.ก็บอกเองว่า...ก่อนเกษียณนี้ จะถอดยศทักษิณกะมือ!
ถ้าจะรับเงินโจรสมทบเงินตำรวจเช่นนี้....
ถูกต้อง-สมควรหรือ?
ให้คุณโอ๊คขออนุมัติคุณพ่อเก็บไว้เอง จับได้เมื่อไหร่ ให้คนได้รับรางวัลไปทวงถาม และมอบ
กันเองก็แล้วกัน!
ทำไป-ทำมา ชนวนบอมบ์ราชประสงค์ จะกลายเป็นปรอทวัดไข้ทั้งในและนอกประเทศ เข้าทำนอง
"โอกาสในวิกฤติ" ไปซะแล้วก็ไม่รู้?.