เข้าสู่ซีซั่นของการรับปริญญาอีกปี และที่สำคัญ ปีนี้มันเป็นปีของเรา!
เราว่าเราต้องเตรียมตัวเพื่อที่ให้ทุกอย่างมันวุ่นวายน้อยที่สุด
เห็นจากพี่ๆบัณฑิตปีก่อนๆ ท่าทางวันรับปริญญาจริงๆจะไม่ง่ายเลย..
ระหว่างที่ยังว่างๆช่วงปิดเทอมแล้ว งานก็ยังไม่มี ( โถถถ ร้องไห้หนักมากT______T)
เราก็ได้ทำการหาข้อมูล ทำการบ้านมาอย่างดี(ที่สุดเท่าที่ทำได้) มาสรุปเอาไว้ในนี้
ความตั้งใจคือ ทุกอย่างต้องดี แบบที่จะไม่มีเสียใจทีหลัง และที่สำคัญ ต้องไม่แพง! (เพราะไม่มีงานไม่มีเงิน อิ___อิ)
เป้าหมายสำคัญคือ ทุกอย่างต้องง่าย ไม่เหนื่อยมาก เพราะขี้เกียจ5555555555 (แต่ก็อยากปังในวันสำคัญนึกออกมะ?)
ส่วนใหญ่จะถามจากรุ่นพี่ คนรู้จัก บางอย่างเราก็กังวลไปก่อน เราก็หาข้อมูลในเน็ตเผื่อไว้5555 (แพนิคสุด)
หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับว่าที่บัณฑิตทุกคนนะคะ
ผิว:
1 ดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย3สิ่งนี้
-ครีมกันแดด is the must! ต้องทาทุกวัน และสำหรับคนที่ไม่เคยทา “เริ่ม”ทาให้เร็วที่สุด แดดทุกวันโหดร้ายกับผิวเรามาก บางคนดำขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ก็ได้
-ครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่น หลายๆคนเป็นสาวบีซี่(หรือขี้เกียจมากอย่างเรา555555) ไม่ค่อยมีเวลาทาครีม ทั้งหน้าทั้งตัว แต่อย่างน้อยซักอาทิตย์หรือ 2อาทิตย์ก่อนหน้าก็น่าจะทากันซักหน่อยเพื่อความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง (จริงๆก็ทำไม่ได้เหมือนกัน)
-น้ำเปล่า -กิน-ให้-บ่อย-ที่-สุด-เท่า-ที่-จะ-มาก-ได้- เพราะผิวต้องการน้ำมาก ไม่ว่าจะวันไหนๆ อย่างน้อยถ้าขี้เกียจทาครีมมากจริงๆ ก็ดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยๆ ไม่ต้องปริมาณมากก็ได้ แต่ยิ่งบ่อยยิ่งดี ดวงตาจะสดใส ผิวจะดูชุ่มชื่นขึ้นทั้งหน้าและตัว (ดีจริงๆ ดีจริงๆ เชื่อเราเถอะ)
2 วันก่อนงานรับปริญญา
-งดยาทาสิว หรือยาหมออื่นๆที่จะทำให้หน้าแห้งทุกชนิด คงไม่เวิร์คเท่าไหร่ งดทายาซัก 2-3วันล่วงหน้า เพราะยาหมอบางตัวมีผลทำให้เครื่องสำอางไม่ค่อยติดหน้า หน้าแห้ง ลอกเป็นขลุยๆ อิ๊ววววว~ เป็นปัญหาที่เจอได้บ่อยมากค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนไม่ค่อยรู้ก็จะทายาหนักมากกลัวสิว
-ถ้าจะแต่งหน้าเอง ใช้เครื่องสำอางที่มีลองแต่งบ่อยๆ ดูตามวีดีโอที่สอนรับแต่งหน้าก็ได้ค่ะ ช่วยได้มาก หรือถ้าจะซื้อใหม่ ควรลองแต่งล่วงหน้านานๆหน่อย ป้องกันการแพ้เครื่องสำอาง(ระวัง!!!!! ถ้าแพ้ช่วงใกล้ๆจะหายไม่ทันเอานะ)
-ถ้าจะจ้างช่างแต่งหน้า(ซึ่งมนุษย์ขี้เกียจอย่างเราคงจ้าง5555555) วันงานแค่ทาครีมบำรุงไปก็พอ อย่าแต่งหน้าหรือลงรองพื้นไปก่อน เพราะยังไงช่างก็ต้องลบแล้วแต่งใหม่อยู่ดี เสียเวลาและผิวจะดูสดใสน้อยลงด้วย
ส่วนการหาช่างแต่งหน้าที่ถูกใจแนะนำว่า “ให้ไปดูแบบหน้าจากรุ่นพี่ แล้วถามหาช่างตามสไตล์ที่เราชอบ” หรือไม่ เดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกมากมายที่เราจะสามารถหาดูตัวอย่างงานจากช่างทั่วไป ในเฟสบุ้คหรือเว็บไซต์ได้ ก็ลองเลือกให้ดี ตกลงกันให้ละเอียดนะคะ สภาพผิวเรามันแห้งยังไง หรืออยากได้โทนสีไหน จะได้ไม่ผิดหวัง วันนี้เราก็รวบรวมบางส่วนที่พอจะรู้มาให้ค่ะ
หุ่น:
1 เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ (โดยเฉพาะบัณฑิตจากสถาบันที่ชุดครุยโปร่งๆ) ช่วงนี้จะเป็นช่วงมหาวิปโยคมาก เพื่อนๆเริ่มทำงานหมดแล้ว เราว่าง ก็ไปทุกนัด ทุกมีตติ้ง ทุกดินเนอร์ ทุกปาร์ตี้ ใครชวนไปไหนไปกันหมด จนช่วงนึงเราน้ำหนักขึ้น พอเริ่มมีคนทักว่าอ้วนขึ้นเราก็เริ่มเครียด5555 (พิม5ไปน้ำตาไหลไปT_______T) หลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน ก็พยายามจะออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ก็นั่นแหละ ขี้เกียจไง
น้ำหนักก็ขึ้นไม่ได้!!!! ไม่ได้จีจี (เห็นใจพี่เถอะ ขึ้นมาทั้งชีวิตแล้ว) ตอนนั้นเราไปเจออาหารเสริมกระชับสัดส่วนอันนึงที่เพื่อนเรากินอยู่เป็นปกติพอดี เราเลยลองถามๆเพื่อน ถามๆกูเกิ้ล เข้าไปดูเว็บไซต์ (ปกติไม่เคยสนใจอะไรพรรค์นี้หรอกนะ เพราะไม่ค่อยเชื่อว่าทำได้จริง แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก55555) แล้วก็ลองซื้อมา
(*************เราซื้อตอนเซลล์*************) กินมา2ขวด จะเดือนนึงละ ร่วมกับออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆก่อนนอนตามสูตรที่เค้ามีให้ในเว็บ เป็นคู่มือการทานอาหารเสริม เราก็ทำตามไป เออ เวิร์คอ่ะ! กินหนักมากปกติ(สัตว์สังคม) แต่น้ำหนักไม่เพิ่ม (แอบลดไปครึ่งกิโลด้วยอิอิ) ที่สำคัญรู้สึกซิกแพคมา (เหวยยยยยย นิ๊ดดดดเดียก็นับว่ามา5555555)
ใครจะทานอาหารเสริมประเภทนี้ *********ต้องดูให้ดีว่าไม่ใช่ยาลดน้ำหนักนะคะ********** ต้องเลือกดีๆ เลือกที่ปลอดภัยไม่โยโย่และไม่เป็นอันตรายนะ ดูส่วนประกอบที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดู อย ก่อนด้วย ทางที่ดีถามคนรู้จักที่ทานสม่ำเสมอมาแล้วดีกว่า ส่วนเรารู้จักอันเดียวจริงๆ555555555 เผื่อใครสนใจก็ดูไว้เป็นทางเลือกได้ค่ะ
http://www.chev-diet.com
2 ท่าออกกำลังกายบางท่าทำง่ายมากจริงๆ มีผลจริงๆ ขี้เกียจก็ทำได้ ด๊อกๆแด๊กๆก่อนล้มตัวลงนอน ลดพุง ลดขา สู้! (เห้อออ เอาจริงๆก็ขี้เกียจ ทำบ้างละกัน ไม่ลด อย่างน้อยก็ไม่เพิ่ม)
วันนี้มีมานำเสนอท่าที่ง่ายและได้ผลที่สุดค่ะ (จริงๆช่วงแรกๆก็ไม่ง่ายเลย55) ลองทำดูนะคะ
ผม:
1 อย่า ตัด ดัด ซอย หรือทำสีใดๆ ที่จะเป็นการยากต่อการแก้ไข หรือเป็นอุปสรรคต่อการทำผมทรงสวย ผมทำสี ไม่แนะนำให้ย้อมดำ เพราะจะดูแห้ง ใช้พวกน้ำยาเคลือบผมดีกว่า มีหลายสีให้เลือก ดำ น้ำตาลแก่ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านบู๊ทหรือวัตสันก็มี แล้วก็ดูเป็นธรรมชาติกว่ามาก ไม่หลอกตาค่ะ
2 คืนก่อนหน้าวันงาน งดสระผม ถ้าจะสระก็อย่าใช้ครีมนวด เพราะจะทำให้ผมลื่นและจัดทรงลำบาก
3 ทรงผมเลือกได้ตามใจชอบ แต่แนะนำ “เก็บผมหมด”เซฟสุด! เพราะวันงานแดดจะร้อน วิ่งไปวิ่งมาซักพักก็อาจจะร่วงบังหน้าได้ ยังไงลองเลือกดูกันให้ดีๆนะคะ ถ้าจะทำเองก็ลองทำก่อนซักครั้งก็ได แต่ถ้าจะจ้างช่างก็แนะนำให้ดูให้ดีว่าจะได้ตามแบบมั้ย (ก็ลองทำกับช่างคนนั้นดูซักครั้งนึงก่อนวันจริงก็ได้ค่ะ)
เผื่อใครอยากได้ไอเดียเพิ่มเติม ลองหาดูนะคะ
http://www.girlsfriendclub.com/hair-idea-graduation-day/
4 Hairpiece is an interesting choice! ช่วยได้นะ มีคนบอกมา ผมจะดูหนานุ่มมมมมีวอลลุ่มอย่างน่าเหลือเชื่อ (แต่ถ้าไม่เคยติดมาก่อน อย่าติดเองเลย เสี่ยงจะหลุดระหว่างวัน555)
ของจุกจิกกันการแป้กของบัณฑิตระหว่างวัน:
1 วันงานเตรียมรองเท้าแตะไปเปลี่ยนด้วย ลืมคือจบ เตรียมเดินเท่าเปล่าได้! (พี่เค้าขู่หนูมาค่ะ)
2 ถุงน่อง เตรียมเผื่อไปอีกซักคู่ก็ดีนะคะ ในวันงานร้อยละ 50% กลับบ้านมาละพบว่ามีรอยฉีกขาด (เผื่อใครไม่มั่นใจ)
3 กาวติดขนตาปลอม (สำหรับสถาบันที่สามารถติดได้) ควรมีกาวติดกระเป๋า เพราะแน่นอนว่ากว่าจะจบวัน มีหลุดชัวร์
4 กระดาษทิชชู่ เอาไว้ซับหน้า **หลีกเลี่ยงกระดาษซับหน้ามัน เพราะจะทำให้หน้าเป็นคราบได้ ถ้าจะใช้ก็ต้องระวัง
5 ลิปสติก หายไปตามกาลเวลา เตรียมไปเติมให้เรียบร้อยจะได้สวยปังทั้งวันได้ค่ะ แนะนำว่าลิปกรอสจะเซฟสุดในทุกกรณี ไม่เลอะ ไม่ทำให้สีเดิมที่ทามาเพี้ยน (ไม่งั้นตอนเย็นซีดเป็นไก่ต้มแน่ๆ)
6 พัด (พัดเอง มีคนพัด หรือพัดลมอัตโนมัติอันเล็กๆก็ได้)
อัพเดท แอบไปถ่ายนอกรอบมาแล้วจ้า อิอิ
ไม่รู้ว่าทำขนาดนี้ยังเรียกมนุษย์ขี้เกียจอยู่มั้ย555555
แต่เชื่อเถอะ ถ้าเราทำได้ ทุกคนทำได้อยู่ละ
ใครมีอะไรมาแชร์มาได้เลยนะคะ ตัวช่วยใดๆก็ได้ ยิ่งถ้ามีข้อติติงแนะนำ หรือมีทางเลือกที่ดีกว่า เรายินดีเลยค่ะ (จริงๆเราก็ไม่เคยรับปริญญา ไม่ได้expertอะไร ถามคนนู้นคนนี้เค้ามา5555 รอเก็บข้อมูลเหมือนกัน อิอิ)
ไม่ว่าจะบัณฑิตสถาบันไหนก็ต้องสู้ๆนะคะ ยินดีกับความสำเร็จและความปังของทุกคนล่วงหน้าค่ะ
HOOREYYYYYYYY!
<3
ว่าที่บัณฑิตใหม่ เตรียมตัวรับปริญญายังไงให้รอดให้ปัง! (สไตล์มนุษย์ขี้เกียจ)
เราว่าเราต้องเตรียมตัวเพื่อที่ให้ทุกอย่างมันวุ่นวายน้อยที่สุด
เห็นจากพี่ๆบัณฑิตปีก่อนๆ ท่าทางวันรับปริญญาจริงๆจะไม่ง่ายเลย..
ระหว่างที่ยังว่างๆช่วงปิดเทอมแล้ว งานก็ยังไม่มี ( โถถถ ร้องไห้หนักมากT______T)
เราก็ได้ทำการหาข้อมูล ทำการบ้านมาอย่างดี(ที่สุดเท่าที่ทำได้) มาสรุปเอาไว้ในนี้
ความตั้งใจคือ ทุกอย่างต้องดี แบบที่จะไม่มีเสียใจทีหลัง และที่สำคัญ ต้องไม่แพง! (เพราะไม่มีงานไม่มีเงิน อิ___อิ)
เป้าหมายสำคัญคือ ทุกอย่างต้องง่าย ไม่เหนื่อยมาก เพราะขี้เกียจ5555555555 (แต่ก็อยากปังในวันสำคัญนึกออกมะ?)
ส่วนใหญ่จะถามจากรุ่นพี่ คนรู้จัก บางอย่างเราก็กังวลไปก่อน เราก็หาข้อมูลในเน็ตเผื่อไว้5555 (แพนิคสุด)
หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับว่าที่บัณฑิตทุกคนนะคะ
ผิว:
1 ดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย3สิ่งนี้
-ครีมกันแดด is the must! ต้องทาทุกวัน และสำหรับคนที่ไม่เคยทา “เริ่ม”ทาให้เร็วที่สุด แดดทุกวันโหดร้ายกับผิวเรามาก บางคนดำขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ก็ได้
-ครีมบำรุงเพื่อความชุ่มชื่น หลายๆคนเป็นสาวบีซี่(หรือขี้เกียจมากอย่างเรา555555) ไม่ค่อยมีเวลาทาครีม ทั้งหน้าทั้งตัว แต่อย่างน้อยซักอาทิตย์หรือ 2อาทิตย์ก่อนหน้าก็น่าจะทากันซักหน่อยเพื่อความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง (จริงๆก็ทำไม่ได้เหมือนกัน)
-น้ำเปล่า -กิน-ให้-บ่อย-ที่-สุด-เท่า-ที่-จะ-มาก-ได้- เพราะผิวต้องการน้ำมาก ไม่ว่าจะวันไหนๆ อย่างน้อยถ้าขี้เกียจทาครีมมากจริงๆ ก็ดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยๆ ไม่ต้องปริมาณมากก็ได้ แต่ยิ่งบ่อยยิ่งดี ดวงตาจะสดใส ผิวจะดูชุ่มชื่นขึ้นทั้งหน้าและตัว (ดีจริงๆ ดีจริงๆ เชื่อเราเถอะ)
2 วันก่อนงานรับปริญญา
-งดยาทาสิว หรือยาหมออื่นๆที่จะทำให้หน้าแห้งทุกชนิด คงไม่เวิร์คเท่าไหร่ งดทายาซัก 2-3วันล่วงหน้า เพราะยาหมอบางตัวมีผลทำให้เครื่องสำอางไม่ค่อยติดหน้า หน้าแห้ง ลอกเป็นขลุยๆ อิ๊ววววว~ เป็นปัญหาที่เจอได้บ่อยมากค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนไม่ค่อยรู้ก็จะทายาหนักมากกลัวสิว
-ถ้าจะแต่งหน้าเอง ใช้เครื่องสำอางที่มีลองแต่งบ่อยๆ ดูตามวีดีโอที่สอนรับแต่งหน้าก็ได้ค่ะ ช่วยได้มาก หรือถ้าจะซื้อใหม่ ควรลองแต่งล่วงหน้านานๆหน่อย ป้องกันการแพ้เครื่องสำอาง(ระวัง!!!!! ถ้าแพ้ช่วงใกล้ๆจะหายไม่ทันเอานะ)
-ถ้าจะจ้างช่างแต่งหน้า(ซึ่งมนุษย์ขี้เกียจอย่างเราคงจ้าง5555555) วันงานแค่ทาครีมบำรุงไปก็พอ อย่าแต่งหน้าหรือลงรองพื้นไปก่อน เพราะยังไงช่างก็ต้องลบแล้วแต่งใหม่อยู่ดี เสียเวลาและผิวจะดูสดใสน้อยลงด้วย
ส่วนการหาช่างแต่งหน้าที่ถูกใจแนะนำว่า “ให้ไปดูแบบหน้าจากรุ่นพี่ แล้วถามหาช่างตามสไตล์ที่เราชอบ” หรือไม่ เดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกมากมายที่เราจะสามารถหาดูตัวอย่างงานจากช่างทั่วไป ในเฟสบุ้คหรือเว็บไซต์ได้ ก็ลองเลือกให้ดี ตกลงกันให้ละเอียดนะคะ สภาพผิวเรามันแห้งยังไง หรืออยากได้โทนสีไหน จะได้ไม่ผิดหวัง วันนี้เราก็รวบรวมบางส่วนที่พอจะรู้มาให้ค่ะ
หุ่น:
1 เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ (โดยเฉพาะบัณฑิตจากสถาบันที่ชุดครุยโปร่งๆ) ช่วงนี้จะเป็นช่วงมหาวิปโยคมาก เพื่อนๆเริ่มทำงานหมดแล้ว เราว่าง ก็ไปทุกนัด ทุกมีตติ้ง ทุกดินเนอร์ ทุกปาร์ตี้ ใครชวนไปไหนไปกันหมด จนช่วงนึงเราน้ำหนักขึ้น พอเริ่มมีคนทักว่าอ้วนขึ้นเราก็เริ่มเครียด5555 (พิม5ไปน้ำตาไหลไปT_______T) หลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน ก็พยายามจะออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ก็นั่นแหละ ขี้เกียจไง
น้ำหนักก็ขึ้นไม่ได้!!!! ไม่ได้จีจี (เห็นใจพี่เถอะ ขึ้นมาทั้งชีวิตแล้ว) ตอนนั้นเราไปเจออาหารเสริมกระชับสัดส่วนอันนึงที่เพื่อนเรากินอยู่เป็นปกติพอดี เราเลยลองถามๆเพื่อน ถามๆกูเกิ้ล เข้าไปดูเว็บไซต์ (ปกติไม่เคยสนใจอะไรพรรค์นี้หรอกนะ เพราะไม่ค่อยเชื่อว่าทำได้จริง แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก55555) แล้วก็ลองซื้อมา
(*************เราซื้อตอนเซลล์*************) กินมา2ขวด จะเดือนนึงละ ร่วมกับออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆก่อนนอนตามสูตรที่เค้ามีให้ในเว็บ เป็นคู่มือการทานอาหารเสริม เราก็ทำตามไป เออ เวิร์คอ่ะ! กินหนักมากปกติ(สัตว์สังคม) แต่น้ำหนักไม่เพิ่ม (แอบลดไปครึ่งกิโลด้วยอิอิ) ที่สำคัญรู้สึกซิกแพคมา (เหวยยยยยย นิ๊ดดดดเดียก็นับว่ามา5555555)
ใครจะทานอาหารเสริมประเภทนี้ *********ต้องดูให้ดีว่าไม่ใช่ยาลดน้ำหนักนะคะ********** ต้องเลือกดีๆ เลือกที่ปลอดภัยไม่โยโย่และไม่เป็นอันตรายนะ ดูส่วนประกอบที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดู อย ก่อนด้วย ทางที่ดีถามคนรู้จักที่ทานสม่ำเสมอมาแล้วดีกว่า ส่วนเรารู้จักอันเดียวจริงๆ555555555 เผื่อใครสนใจก็ดูไว้เป็นทางเลือกได้ค่ะ
http://www.chev-diet.com
2 ท่าออกกำลังกายบางท่าทำง่ายมากจริงๆ มีผลจริงๆ ขี้เกียจก็ทำได้ ด๊อกๆแด๊กๆก่อนล้มตัวลงนอน ลดพุง ลดขา สู้! (เห้อออ เอาจริงๆก็ขี้เกียจ ทำบ้างละกัน ไม่ลด อย่างน้อยก็ไม่เพิ่ม)
วันนี้มีมานำเสนอท่าที่ง่ายและได้ผลที่สุดค่ะ (จริงๆช่วงแรกๆก็ไม่ง่ายเลย55) ลองทำดูนะคะ
ผม:
1 อย่า ตัด ดัด ซอย หรือทำสีใดๆ ที่จะเป็นการยากต่อการแก้ไข หรือเป็นอุปสรรคต่อการทำผมทรงสวย ผมทำสี ไม่แนะนำให้ย้อมดำ เพราะจะดูแห้ง ใช้พวกน้ำยาเคลือบผมดีกว่า มีหลายสีให้เลือก ดำ น้ำตาลแก่ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านบู๊ทหรือวัตสันก็มี แล้วก็ดูเป็นธรรมชาติกว่ามาก ไม่หลอกตาค่ะ
2 คืนก่อนหน้าวันงาน งดสระผม ถ้าจะสระก็อย่าใช้ครีมนวด เพราะจะทำให้ผมลื่นและจัดทรงลำบาก
3 ทรงผมเลือกได้ตามใจชอบ แต่แนะนำ “เก็บผมหมด”เซฟสุด! เพราะวันงานแดดจะร้อน วิ่งไปวิ่งมาซักพักก็อาจจะร่วงบังหน้าได้ ยังไงลองเลือกดูกันให้ดีๆนะคะ ถ้าจะทำเองก็ลองทำก่อนซักครั้งก็ได แต่ถ้าจะจ้างช่างก็แนะนำให้ดูให้ดีว่าจะได้ตามแบบมั้ย (ก็ลองทำกับช่างคนนั้นดูซักครั้งนึงก่อนวันจริงก็ได้ค่ะ)
เผื่อใครอยากได้ไอเดียเพิ่มเติม ลองหาดูนะคะ
http://www.girlsfriendclub.com/hair-idea-graduation-day/
4 Hairpiece is an interesting choice! ช่วยได้นะ มีคนบอกมา ผมจะดูหนานุ่มมมมมีวอลลุ่มอย่างน่าเหลือเชื่อ (แต่ถ้าไม่เคยติดมาก่อน อย่าติดเองเลย เสี่ยงจะหลุดระหว่างวัน555)
ของจุกจิกกันการแป้กของบัณฑิตระหว่างวัน:
1 วันงานเตรียมรองเท้าแตะไปเปลี่ยนด้วย ลืมคือจบ เตรียมเดินเท่าเปล่าได้! (พี่เค้าขู่หนูมาค่ะ)
2 ถุงน่อง เตรียมเผื่อไปอีกซักคู่ก็ดีนะคะ ในวันงานร้อยละ 50% กลับบ้านมาละพบว่ามีรอยฉีกขาด (เผื่อใครไม่มั่นใจ)
3 กาวติดขนตาปลอม (สำหรับสถาบันที่สามารถติดได้) ควรมีกาวติดกระเป๋า เพราะแน่นอนว่ากว่าจะจบวัน มีหลุดชัวร์
4 กระดาษทิชชู่ เอาไว้ซับหน้า **หลีกเลี่ยงกระดาษซับหน้ามัน เพราะจะทำให้หน้าเป็นคราบได้ ถ้าจะใช้ก็ต้องระวัง
5 ลิปสติก หายไปตามกาลเวลา เตรียมไปเติมให้เรียบร้อยจะได้สวยปังทั้งวันได้ค่ะ แนะนำว่าลิปกรอสจะเซฟสุดในทุกกรณี ไม่เลอะ ไม่ทำให้สีเดิมที่ทามาเพี้ยน (ไม่งั้นตอนเย็นซีดเป็นไก่ต้มแน่ๆ)
6 พัด (พัดเอง มีคนพัด หรือพัดลมอัตโนมัติอันเล็กๆก็ได้)
อัพเดท แอบไปถ่ายนอกรอบมาแล้วจ้า อิอิ
ไม่รู้ว่าทำขนาดนี้ยังเรียกมนุษย์ขี้เกียจอยู่มั้ย555555
แต่เชื่อเถอะ ถ้าเราทำได้ ทุกคนทำได้อยู่ละ
ใครมีอะไรมาแชร์มาได้เลยนะคะ ตัวช่วยใดๆก็ได้ ยิ่งถ้ามีข้อติติงแนะนำ หรือมีทางเลือกที่ดีกว่า เรายินดีเลยค่ะ (จริงๆเราก็ไม่เคยรับปริญญา ไม่ได้expertอะไร ถามคนนู้นคนนี้เค้ามา5555 รอเก็บข้อมูลเหมือนกัน อิอิ)
ไม่ว่าจะบัณฑิตสถาบันไหนก็ต้องสู้ๆนะคะ ยินดีกับความสำเร็จและความปังของทุกคนล่วงหน้าค่ะ
HOOREYYYYYYYY!
<3