ผมลอง search ใน google แล้วปรากฏว่ายังไม่มีใครเขียนถึงภาพยนตร์โทรทัศน์ของไทยเลย ผมเลยคิดว่าน่าจะเขียนถึงเรื่องนี้บ้าง เพื่อคนรุ่นหลังจะได้ทราบ ดีกว่าปล่อยให้ลืมเลือนไปกับกาลเวลา
มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ
วงการโทรทัศน์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีสิ่งที่เสนอความบันเทิงแนวการแสดงมีอยู่ 3 แบบคือ ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie) ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera) และซีรีส์ (TV series) ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie)
ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie) สามารถถ่ายทำด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องวีดีโอหรือกล้องอื่น ๆ ก็ได้ เพียงแต่ไม่ใช้เสียงจริงของนักแสดง จะมาใส่เสียงพากย์ทีหลัง จะถ่ายทำในสถานที่จริงหรือในสตูดิโอก็ได้ ภาพยนตร์โทรทัศน์ส่วนใหญ่จะเดินเรื่องต่อเนื่อง ไม่แบ่งเป็นเหตุการณ์ แล้วเดินจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดจบของเรื่อง โดยมีจุดจบที่ชัดเจน ภาพยนตร์โทรทัศน์จะออกอากาศเป็นตอน ๆ เหมือนละครโทรทัศน์ ตัวอย่างภาพยนตร์โทรทัศน์ เช่น ขุนแผนผจญภัย ,สางเขียว 2523.ซ่อนกลิ่น 2524, สุวรรณหงส์ 2525,หุ่นไล่กา 2518,นกกระจาบ 2525 ,อุบัติเหตุ 2526
คลิปตัวอย่างภาพยนตร์โทรทัศน์
คลิปแรกนี้คือภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดนกกระจาบ ปี 2525 ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. ใช้เสียงพากย์
คลิปที่ 2 นี้คือภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดอุบัติเหตุ ปี 2526 ที่ถ่ายกล้องวีดีโอ VHS ใช้เสียงพากย์
ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera)
ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera) สมัยก่อนวงการบันเทิงของไทยจะมีการแบ่งประเภทว่าถ้าใช้เสียงจริงของนักแสดงจะถูกจัดให้เป็นละครโทรทัศน์ทันที จะถ่ายทำนอกสถานที่หรือในสตูดิโอก็ได้ จะมีการบันทึกเทปหรือจะเล่นกันกันสด ๆ ก็ได้ ลักษณะละครโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะเดินเรื่องต่อเนื่อง ไม่แบ่งเป็นเหตุการณ์ แล้วเดินจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดจบของเรื่อง โดยมีจุดจบที่ชัดเจนเช่นเดียวกับภาพยนตร์โทรทัศน์ ตัวอย่างละครโทรทัศน์ เช่น สวรรค์เบี่ยง,เจ้านาง,เลื่อมสลับลาย,อาญารัก,นางทาส
คลิปตัวอย่างละครโทรทัศน์
ละครโทรทัศน์ชุดนํ้าตาลไหม้ ทางช่อง3 ปี 2526
ละครโทรทัศน์ชุดผู้กองยอดรัก 2558 ทางช่อง 3
ซีรีส์,ละครซีรีย์ (TV series)
ซีรีส์,ละครซีรีย์ (TV series) ลักษณะสำคัญคือมีเนื้อเรื่องเป็นตอน ๆ แต่ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อาจจะไม่มีตอนจบ หรือกว่าจะจบก็ใช้เวลานาน ฉายข้ามปีหรือหลายปีไปเลย ที่เรียกว่าซีรี่ส์เพราะมันผูกต่อกันเป็นชุดเรียงลำดับกันไปเรื่อย ๆ ตัวอย่างซีรีย์ เช่น ศีล 5 ท้าอธรรม,เซนสื่อรักสื่อวิญญาณ, บันทึกกรรม,มิติมืด,วงเวียนกรรม ส่วน สภาพบุรุษจุฑาเทพที่เรียกเป็นซีรี่ส์เพราะเป็นละครที่มี 5 เรื่องต่อกัน จริง ๆ คำว่าซีรี่ส์มันยังแยกย่อยเป็นรายการทีวีทั่ว ๆ ไปที่มีต่อเนื่องมายาวนานก็ได้ ไม่ได้ใช้เรียกแค่ละครเท่านั้น
คลิปตัวอย่างละครซีรีย์ของไทย
ซีรีย์ศีล 5 ท้าอธรรมทางช่อง 5
แต่ในกระทู้นี้ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะภาพยนตร์โทรทัศน์เท่านั้น
ภาพยนตร์โทรทัศน์ยุคเฟื่องฟูของไทย
คือช่วงปี 2511-2525
ภาพยนตร์โทรทัศน์ของไทยส่วนมากจะถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 16 มม. ใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดง จึงเรียกว่า “ภาพยนตร์ไทยชุด...” สำหรับ ภาพยนตร์โทรทัศน์สมัยนั้นยาวประมาณ 40-60 ตอนจบ
ค่ายที่ทำภาพยนตร์โทรทัศน์มีหลายค่ายด้วยกัน เช่น ค่ายไชโยภาพยนตร์ของคุณสมโพธิ์ แสงเดือนฉาย,ค่ายพร้อมมิตรภาพยนตร์ ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล,ค่ายของคุณชาลี อินทรวิจิตร ฯลฯ
แต่ค่ายยักษ์ใหญ๋ที่โด่งดังในการผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ของไทย ซึ่งผู้ชมรู้จักอย่างดีจะมีอยู่ 2 ค่ายคือ บริษัทรัชฟิล์มทีวี และบริษัทดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ)
1 บริษัทรัชฟิล์มทีวี
บริษัทรัชฟิล์มทีวี ของคุณพยุง พึ่งศิลป์ ส่วนมากจะผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์แนวชีวิต หรือแนวสะท้อนปัญหาสังคม เช่น หุ่นไล่กา ฟากสวนสีชมพู,ฝันกลางฤดูฝน,เหมือนคนละฟากฟ้า,ช้างเพื่อนรัก ผลิตป้อนช่อง 5 มาตลอด
ผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์ของรัชฟิล์มทีวี
หุ่นไล่กา
พิภพมัจจุราช
เจ้าต๋องจอมยุ่ง
เบื้องการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ของรัชฟิล์มทีวี
ต่อมาภาพยนตร์โทรทัศน์เสื่อมความนิยมลง ทางรัชฟิล์มทีวีก็หันมาผลิตละครโทรทัศน์แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จึงหันไปเอาดีด้านเกมส์โชว์ เช่น เกมส์มาตามนัด และนำรายการต่างประเทศ เช่น เกมส์โหดมันส์ฮา และภาพยนตร์ต่างประเทศ เช่น ภ.ญ่ปุ่นชุด สงครามชีวิตโอชิน มาออกอากาศทางช่อง 5
2 บริษัทดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ)
บริษัทดาราฟิล์มของคุณไพรัช สังวริบุตร ส่วนมากจะผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์แนวจักร ๆ วงศ์ ๆ และแนวจิตวิญญาณ เช่น ปลาบู่ทอง ยอพระกลิ่น บัวแก้วบัวทอง ขุนแผนผจญภัย อมฤตาลัย ปอบผีฟ้า ช่วงหลังก็มีแนวชีวิต เช่น ขมิ้นกับปูน ดาวพระศุกร์ ดอกโศก ผลิตป้อนให้ช่อง 7
ผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิล์ม
อุทัยเทวี
ขุนแผนผจญภัย
พระทิณวงศ์
พระทิณวงศ์
ดาวพระศุกร์
เจ้าหญิงแตงอ่อน
แม่นาคพระโขนง
เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ) ซึ่งไม่มีแล้วในปัจจุบัน
ตากล้องเสื้อขาวที่เห็นในภาพคือคุณนนทนัน สังข์สวัสดิ์ผู้กำกับละครเรื่องโดมทอง
การบอกบท
รัชฟิล์ม กับดาราฟิล์มบริษัทไหนดังกว่า
ยุคแรก ๆ ช่อง 5 ช่อง 7 ผู้ชมจะรับสัญญานได้เฉพาะในกรุงเทพ ฯ และภาคกลาง ภาคตะวันออก ตก บางจังหวัด ยังไม่ได้ขยายเครือข่ายทั่วประเทศก็เลยต้องนำหนังทีวีเหล่านี้ไปแพร่ภาพทางทีวีท้องถิ่น เช่น ช่อง 5 ขอนแก่น ช่อง 8 ลำปาง ช่อง 10 หาดใหญ่ (วันหน้าถ้ามีเวลาจะเขียนกระทู้ถึงช่องเหล่านี้ให้อ่านกัน)
แต่ถึงอย่างนั้นดาราฟิล์มก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมมาก เพราะผู้ชมชอบหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ กัน
ต่อมาช่อง 7 มีโอกาสได้ขยายเครือข่ายได้ทั่วประเทศก่อนช่อง 5 เลยทำให้ดาราฟิล์มโด่งดังมากขึ้น ส่วนรัชฟิล์มช่วงหลังกลับหันไปเอาดีด้านเกมส์โชว์ เช่น เกมส์มาตามนัด และนำรายการต่างประเทศและภาพยนตร์ต่างประเทศมาฉาย ส่วนดาราฟิล์มก็ยังผลิตหนังทีวีและละครโทรทัศน์กันต่อไป
ภาพยนตร์โทรทัศน์ได้รับความนิยมมากกว่าละครโทรทัศน์
ที่ภาพยนตร์โทรทัศน์ได้รับความนิยมมากกว่าละครโทรทัศน์อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยนั้นละครโทรทัศน์ซึ่งใช้เสียงจริงจะมีระบบบันทึกเสียงที่ไม่ทันสมัย จึงมักจะถ่ายแต่ในสตูดิโอเพราะกลัวเสียงรบกวน และยังมีการบอกบทอีกด้วย ไม่ได้ให้นักแสดงท่องบทแล้วมาแสดงแบบทุกวันนี้ ถ้าไปถ่ายนอกสถานที่คนดูคงฟังเสียงสนทนาของนักแสดงไม่รู้เรือง เพราะมีทั้งเสียงบอกบท เสียงรถเสียงราแทรกเข้ามาเต็ม
ภาพยนตร์โทรทัศน์จะถ่ายทำนอกสถานที่ทำให้สมจริงและไม่มีเสียงตะโกนบอกบทด้วย ก็เลยทำให้ได้รับความนิยมมากกว่า
นี่ผังรายการทีวีของช่อง 7 เดือนกุมภาพันธ์ 2524
ในผังรายการจะเห็นว่ามีการเขียนคำนำหน้าชื่อเรื่องแยกกันชัดเจนว่าเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ (สีฟ้า)
ภ.ไทยชุด เจ้าหญิงแตงอ่อน หรือเป็นละครโทรทัศน์ (สีแดง) เช่น
ละครชุดข้าวนอกนา
ละครชุดชาวเขื่อน
จะเห็นชัดว่าภาพยนตร์โทรทัศน์จะถูกให้อยู่เวลาดี ๆ หลังข่าว ส่วนละครโทรทัศน์ไปอยู่ช่วง 4 ทุ่ม
และภาพยนตร์โทรทัศน์หลังข่าวที่เห็นในกรอบสีฟ้าก็เป็นผลงานของดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ) ทั้งหมดเรียกว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของดาราฟิล์มเลยล่ะ
ละครโทรทัศน์เพิ่งมาหมดยุคบอกบทโดยคูณภัทราวดี ศรีไตรรัตน์นำร่อง จากเรื่องตุ๊กตาเสียกบาล เมื่อปี 2520 จึงได้ให้นักแสดงพูดบทเอง
ช่อง 7 มีละครโทรทัศน์ที่บอกบทเรื่องสุดท้ายคือ ห้วงรักเหวลึก เมื่อปี 2523 ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
ปี 252ุ6 ดาราฟิล์มเปลี่ยนมาเป็นดาราวีดีโอ
บริษัท "ดาราฟิล์ม" ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 16 มม. มาตั้งแต่ปี 2511 ถึง 2525 ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงมาใช้กล้องวีดีโอแทน แต่ก็ใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดงเช่นเดิม และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น "ดาราวีดีโอ"
เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็เพราะว่าการถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. นั้นมีค่าใช้จ่ายมากมาย ฟิล์มถ้าเสียแล้วแล้วก็เสียเลยถ่ายแก้ไม่ได้ ต้องทิ้งไปเลย แต่วีดีโอสามารถถ่ายทับได้ และผู้กำกับยังสามารถดูภาพในมอนิเตอร์ได้ทันทีเลยว่าดีไม่ดี ผ่านไม่ผ่าน ผิดกับฟิล์มต้องนำมาล้างก่อน จึงจะเห็นภาพได้ ถ้าภาพเสียก็ต้องไปถ่ายใหม่ การถ่ายด้วยฟิล์มจึงต้องอาศัยผู้กำกับภาพหรือตากล้องที่เก่งมาก ๆ ทุกอย่างจึงฝากไว้ให้กับผู้กำกับภาพหรือตากล้องนี่ล่ะ
แต่คุณไพรัชเล่าว่า"ยังโชคดีที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ฟิล์มเสียหรือภาพเสียซึ่งจะต้องมาเห็นตอนล้างฟิล์มแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ได้แพร่ภาพ เพราะส่งหนังไม่ทัน"
"นกกระจาบ" (เจ้าหญิงนกกระจาบ)
ภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด "นกกระจาบ" 2525 ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องสุดท้ายของดาราฟิล์มและของไทยที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 ม.ม
คมสัน สุริยา และทัศนีย์ สีดาสมุทรจากเรื่องนกกระจาบ
นี่คือคลิปหนังทีวีชุด "นกกระจาบ" ที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 ม.มเรื่องสุดท้าย และใช้เสียงพากย์ ซึ่งหาดูได้ยากมาก รีบดาวน์โหลดไว้นะครับ

อ่านรายละเอียดภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด "นกกระจาบ 2525" ได้ตาม link นี้ครับ
http://pantip.com/topic/34084677
(เกร็ดประวัติศาสตร์) ภาพยนตร์โทรทัศน์ใช้เสียงพากย์ ซึ่งไม่มีแล้วในปัจจุบัน
มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ
วงการโทรทัศน์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีสิ่งที่เสนอความบันเทิงแนวการแสดงมีอยู่ 3 แบบคือ ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie) ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera) และซีรีส์ (TV series) ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie)
ภาพยนตร์โทรทัศน์ (TV Movie) สามารถถ่ายทำด้วยกล้องฟิล์มหรือกล้องวีดีโอหรือกล้องอื่น ๆ ก็ได้ เพียงแต่ไม่ใช้เสียงจริงของนักแสดง จะมาใส่เสียงพากย์ทีหลัง จะถ่ายทำในสถานที่จริงหรือในสตูดิโอก็ได้ ภาพยนตร์โทรทัศน์ส่วนใหญ่จะเดินเรื่องต่อเนื่อง ไม่แบ่งเป็นเหตุการณ์ แล้วเดินจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดจบของเรื่อง โดยมีจุดจบที่ชัดเจน ภาพยนตร์โทรทัศน์จะออกอากาศเป็นตอน ๆ เหมือนละครโทรทัศน์ ตัวอย่างภาพยนตร์โทรทัศน์ เช่น ขุนแผนผจญภัย ,สางเขียว 2523.ซ่อนกลิ่น 2524, สุวรรณหงส์ 2525,หุ่นไล่กา 2518,นกกระจาบ 2525 ,อุบัติเหตุ 2526
คลิปตัวอย่างภาพยนตร์โทรทัศน์
คลิปแรกนี้คือภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดนกกระจาบ ปี 2525 ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. ใช้เสียงพากย์
คลิปที่ 2 นี้คือภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดอุบัติเหตุ ปี 2526 ที่ถ่ายกล้องวีดีโอ VHS ใช้เสียงพากย์
ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera)
ละครโทรทัศน์ (TV Drama , Soap Opera) สมัยก่อนวงการบันเทิงของไทยจะมีการแบ่งประเภทว่าถ้าใช้เสียงจริงของนักแสดงจะถูกจัดให้เป็นละครโทรทัศน์ทันที จะถ่ายทำนอกสถานที่หรือในสตูดิโอก็ได้ จะมีการบันทึกเทปหรือจะเล่นกันกันสด ๆ ก็ได้ ลักษณะละครโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะเดินเรื่องต่อเนื่อง ไม่แบ่งเป็นเหตุการณ์ แล้วเดินจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดจบของเรื่อง โดยมีจุดจบที่ชัดเจนเช่นเดียวกับภาพยนตร์โทรทัศน์ ตัวอย่างละครโทรทัศน์ เช่น สวรรค์เบี่ยง,เจ้านาง,เลื่อมสลับลาย,อาญารัก,นางทาส
คลิปตัวอย่างละครโทรทัศน์
ละครโทรทัศน์ชุดนํ้าตาลไหม้ ทางช่อง3 ปี 2526
ละครโทรทัศน์ชุดผู้กองยอดรัก 2558 ทางช่อง 3
ซีรีส์,ละครซีรีย์ (TV series)
ซีรีส์,ละครซีรีย์ (TV series) ลักษณะสำคัญคือมีเนื้อเรื่องเป็นตอน ๆ แต่ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อาจจะไม่มีตอนจบ หรือกว่าจะจบก็ใช้เวลานาน ฉายข้ามปีหรือหลายปีไปเลย ที่เรียกว่าซีรี่ส์เพราะมันผูกต่อกันเป็นชุดเรียงลำดับกันไปเรื่อย ๆ ตัวอย่างซีรีย์ เช่น ศีล 5 ท้าอธรรม,เซนสื่อรักสื่อวิญญาณ, บันทึกกรรม,มิติมืด,วงเวียนกรรม ส่วน สภาพบุรุษจุฑาเทพที่เรียกเป็นซีรี่ส์เพราะเป็นละครที่มี 5 เรื่องต่อกัน จริง ๆ คำว่าซีรี่ส์มันยังแยกย่อยเป็นรายการทีวีทั่ว ๆ ไปที่มีต่อเนื่องมายาวนานก็ได้ ไม่ได้ใช้เรียกแค่ละครเท่านั้น
คลิปตัวอย่างละครซีรีย์ของไทย
ซีรีย์ศีล 5 ท้าอธรรมทางช่อง 5
แต่ในกระทู้นี้ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะภาพยนตร์โทรทัศน์เท่านั้น
ภาพยนตร์โทรทัศน์ยุคเฟื่องฟูของไทย
คือช่วงปี 2511-2525
ภาพยนตร์โทรทัศน์ของไทยส่วนมากจะถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 16 มม. ใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดง จึงเรียกว่า “ภาพยนตร์ไทยชุด...” สำหรับ ภาพยนตร์โทรทัศน์สมัยนั้นยาวประมาณ 40-60 ตอนจบ
ค่ายที่ทำภาพยนตร์โทรทัศน์มีหลายค่ายด้วยกัน เช่น ค่ายไชโยภาพยนตร์ของคุณสมโพธิ์ แสงเดือนฉาย,ค่ายพร้อมมิตรภาพยนตร์ ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล,ค่ายของคุณชาลี อินทรวิจิตร ฯลฯ
แต่ค่ายยักษ์ใหญ๋ที่โด่งดังในการผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ของไทย ซึ่งผู้ชมรู้จักอย่างดีจะมีอยู่ 2 ค่ายคือ บริษัทรัชฟิล์มทีวี และบริษัทดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ)
1 บริษัทรัชฟิล์มทีวี
บริษัทรัชฟิล์มทีวี ของคุณพยุง พึ่งศิลป์ ส่วนมากจะผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์แนวชีวิต หรือแนวสะท้อนปัญหาสังคม เช่น หุ่นไล่กา ฟากสวนสีชมพู,ฝันกลางฤดูฝน,เหมือนคนละฟากฟ้า,ช้างเพื่อนรัก ผลิตป้อนช่อง 5 มาตลอด
ผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์ของรัชฟิล์มทีวี
หุ่นไล่กา
พิภพมัจจุราช
เจ้าต๋องจอมยุ่ง
เบื้องการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ของรัชฟิล์มทีวี
ต่อมาภาพยนตร์โทรทัศน์เสื่อมความนิยมลง ทางรัชฟิล์มทีวีก็หันมาผลิตละครโทรทัศน์แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จึงหันไปเอาดีด้านเกมส์โชว์ เช่น เกมส์มาตามนัด และนำรายการต่างประเทศ เช่น เกมส์โหดมันส์ฮา และภาพยนตร์ต่างประเทศ เช่น ภ.ญ่ปุ่นชุด สงครามชีวิตโอชิน มาออกอากาศทางช่อง 5
2 บริษัทดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ)
บริษัทดาราฟิล์มของคุณไพรัช สังวริบุตร ส่วนมากจะผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์แนวจักร ๆ วงศ์ ๆ และแนวจิตวิญญาณ เช่น ปลาบู่ทอง ยอพระกลิ่น บัวแก้วบัวทอง ขุนแผนผจญภัย อมฤตาลัย ปอบผีฟ้า ช่วงหลังก็มีแนวชีวิต เช่น ขมิ้นกับปูน ดาวพระศุกร์ ดอกโศก ผลิตป้อนให้ช่อง 7
ผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิล์ม
อุทัยเทวี
ขุนแผนผจญภัย
พระทิณวงศ์
พระทิณวงศ์
ดาวพระศุกร์
เจ้าหญิงแตงอ่อน
แม่นาคพระโขนง
เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ) ซึ่งไม่มีแล้วในปัจจุบัน
ตากล้องเสื้อขาวที่เห็นในภาพคือคุณนนทนัน สังข์สวัสดิ์ผู้กำกับละครเรื่องโดมทอง
การบอกบท
รัชฟิล์ม กับดาราฟิล์มบริษัทไหนดังกว่า
ยุคแรก ๆ ช่อง 5 ช่อง 7 ผู้ชมจะรับสัญญานได้เฉพาะในกรุงเทพ ฯ และภาคกลาง ภาคตะวันออก ตก บางจังหวัด ยังไม่ได้ขยายเครือข่ายทั่วประเทศก็เลยต้องนำหนังทีวีเหล่านี้ไปแพร่ภาพทางทีวีท้องถิ่น เช่น ช่อง 5 ขอนแก่น ช่อง 8 ลำปาง ช่อง 10 หาดใหญ่ (วันหน้าถ้ามีเวลาจะเขียนกระทู้ถึงช่องเหล่านี้ให้อ่านกัน)
แต่ถึงอย่างนั้นดาราฟิล์มก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมมาก เพราะผู้ชมชอบหนังทีวีแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ กัน
ต่อมาช่อง 7 มีโอกาสได้ขยายเครือข่ายได้ทั่วประเทศก่อนช่อง 5 เลยทำให้ดาราฟิล์มโด่งดังมากขึ้น ส่วนรัชฟิล์มช่วงหลังกลับหันไปเอาดีด้านเกมส์โชว์ เช่น เกมส์มาตามนัด และนำรายการต่างประเทศและภาพยนตร์ต่างประเทศมาฉาย ส่วนดาราฟิล์มก็ยังผลิตหนังทีวีและละครโทรทัศน์กันต่อไป
ภาพยนตร์โทรทัศน์ได้รับความนิยมมากกว่าละครโทรทัศน์
ที่ภาพยนตร์โทรทัศน์ได้รับความนิยมมากกว่าละครโทรทัศน์อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยนั้นละครโทรทัศน์ซึ่งใช้เสียงจริงจะมีระบบบันทึกเสียงที่ไม่ทันสมัย จึงมักจะถ่ายแต่ในสตูดิโอเพราะกลัวเสียงรบกวน และยังมีการบอกบทอีกด้วย ไม่ได้ให้นักแสดงท่องบทแล้วมาแสดงแบบทุกวันนี้ ถ้าไปถ่ายนอกสถานที่คนดูคงฟังเสียงสนทนาของนักแสดงไม่รู้เรือง เพราะมีทั้งเสียงบอกบท เสียงรถเสียงราแทรกเข้ามาเต็ม
ภาพยนตร์โทรทัศน์จะถ่ายทำนอกสถานที่ทำให้สมจริงและไม่มีเสียงตะโกนบอกบทด้วย ก็เลยทำให้ได้รับความนิยมมากกว่า
นี่ผังรายการทีวีของช่อง 7 เดือนกุมภาพันธ์ 2524
ในผังรายการจะเห็นว่ามีการเขียนคำนำหน้าชื่อเรื่องแยกกันชัดเจนว่าเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ (สีฟ้า) ภ.ไทยชุด เจ้าหญิงแตงอ่อน หรือเป็นละครโทรทัศน์ (สีแดง) เช่น ละครชุดข้าวนอกนา ละครชุดชาวเขื่อน
จะเห็นชัดว่าภาพยนตร์โทรทัศน์จะถูกให้อยู่เวลาดี ๆ หลังข่าว ส่วนละครโทรทัศน์ไปอยู่ช่วง 4 ทุ่ม
และภาพยนตร์โทรทัศน์หลังข่าวที่เห็นในกรอบสีฟ้าก็เป็นผลงานของดาราฟิล์ม (ดาราวีดีโอ) ทั้งหมดเรียกว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของดาราฟิล์มเลยล่ะ
ละครโทรทัศน์เพิ่งมาหมดยุคบอกบทโดยคูณภัทราวดี ศรีไตรรัตน์นำร่อง จากเรื่องตุ๊กตาเสียกบาล เมื่อปี 2520 จึงได้ให้นักแสดงพูดบทเอง
ช่อง 7 มีละครโทรทัศน์ที่บอกบทเรื่องสุดท้ายคือ ห้วงรักเหวลึก เมื่อปี 2523 ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
ปี 252ุ6 ดาราฟิล์มเปลี่ยนมาเป็นดาราวีดีโอ
บริษัท "ดาราฟิล์ม" ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม 16 มม. มาตั้งแต่ปี 2511 ถึง 2525 ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงมาใช้กล้องวีดีโอแทน แต่ก็ใช้เสียงพากย์ ยังไม่ได้ใช้เสียงจริงของนักแสดงเช่นเดิม และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น "ดาราวีดีโอ"
เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็เพราะว่าการถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. นั้นมีค่าใช้จ่ายมากมาย ฟิล์มถ้าเสียแล้วแล้วก็เสียเลยถ่ายแก้ไม่ได้ ต้องทิ้งไปเลย แต่วีดีโอสามารถถ่ายทับได้ และผู้กำกับยังสามารถดูภาพในมอนิเตอร์ได้ทันทีเลยว่าดีไม่ดี ผ่านไม่ผ่าน ผิดกับฟิล์มต้องนำมาล้างก่อน จึงจะเห็นภาพได้ ถ้าภาพเสียก็ต้องไปถ่ายใหม่ การถ่ายด้วยฟิล์มจึงต้องอาศัยผู้กำกับภาพหรือตากล้องที่เก่งมาก ๆ ทุกอย่างจึงฝากไว้ให้กับผู้กำกับภาพหรือตากล้องนี่ล่ะ
แต่คุณไพรัชเล่าว่า"ยังโชคดีที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ฟิล์มเสียหรือภาพเสียซึ่งจะต้องมาเห็นตอนล้างฟิล์มแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ได้แพร่ภาพ เพราะส่งหนังไม่ทัน"
"นกกระจาบ" (เจ้าหญิงนกกระจาบ)
ภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด "นกกระจาบ" 2525 ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องสุดท้ายของดาราฟิล์มและของไทยที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 ม.ม
คมสัน สุริยา และทัศนีย์ สีดาสมุทรจากเรื่องนกกระจาบ
นี่คือคลิปหนังทีวีชุด "นกกระจาบ" ที่ถ่ายด้วยฟิล์ม 16 ม.มเรื่องสุดท้าย และใช้เสียงพากย์ ซึ่งหาดูได้ยากมาก รีบดาวน์โหลดไว้นะครับ
อ่านรายละเอียดภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด "นกกระจาบ 2525" ได้ตาม link นี้ครับ http://pantip.com/topic/34084677