ว้าว ว้าวว ว้าววว ... มีงานตลาดนัดอาชีวะจัดขึ้นที่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ดูจากข่าวเห็นว่าขนของเด่นของดี นวัตกรรมสุดเจ๋งมาโชว์กันล้นตลาด คนที่ชอบเดินงานแบบฉันบอกกับตัวเองเลยว่าพลาดไม่ได้ จัดแจงเช็คตารางงานเคลียร์ตัวเองให้ว่างเพื่อไปตะลุยงานนี้โดยเฉพาะ
หลังจากวางแผนการเดินทางก็โทรนัดคู่หูเสร็จสรรพว่าเราจะนั่งเรือไปลงสะพานผ่านฟ้า(คลองแสนแสบ) กัน อื้อหือออ...ไม่ได้นั่งนานกลิ่นยังเหมือนเดิมเป๊ะ!! หลังจากถึงสะพานผ่านฟ้าแล้วก็เดินตรงดิ่งไปขึ้นพี่ตุ๊กๆ ได้นั่งไปในราคา 60 บาท
ระหว่างใช้บริการผ่านพี่ตุ๊กๆ ก็ผ่านร้านกล้วยทอดเจ้าต่างๆ คุ้นๆ เคยได้ยินว่าเจ้าแรก คือ ถุงแดง เมื่อพี่ตุ๊กๆ ของเราจอดติดไฟแดงก็จัดสิคะ 1 ถุง 20 บาท
นั่งตุ๊กๆ ไปก็กินไป ไม่นานเราก็เห็นกระทรวงศึกษาธิการอยู่ข้างหน้าก็บอกพี่ตุ๊กๆ “พี่ๆ จอดหน้างานตลาดนัดอาชีวะ งานข้างหน้าอะคะ ”
ยืนหันซ้ายหันขวามองทางเข้า ในใจ “อื้อหือ งานยิ่งใหญ่อลังการสมเป็นตลาดนัดอาชีวะ ” แชะๆเก็บภาพหน้างานกันหน่อย
มาถึงงานประมาณเที่ยงกว่าๆ คนกำลังเยอะเลย เสียงเพลงดังกระหึ่มเร้าใจมาก เราก็นึกว่าซุปตาร์ที่ไหนมาร้องเพลงเลยตรงเข้าไปอ่านตารางงาน ในที่สุดก็ถึงบางอ้อ อ๋ออออตอนนี้มีประกวดร้องเพลง “ฝีมือชน คนสร้างชาติ” กันอยู่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องๆ พวกนี้เรียนอาชีวะ ฝีไม้ลายมือการเล่นดนตรีไม่เป็นสองรองใคร พูดได้คำเดียวว่าสุดยอด
เดินต่อเข้าไปชมบรรยากาศอื่นๆ ในงานกันบ้าง มีของจากน้องๆ อาชีวะที่ยกของเด็ดของดีมาขาย มีหลายอย่างยั่วน้ำลายให้ชวนชิมลิ้มลองทั้งอาหารคาว อาทิ หอยทอดกระทะยักษ์ กระหรี่พัฟอวบๆ
ตามมาด้วยของหวาน..... ที่ขนมาเติมน้ำตาลในเลือด ทั้งชาชัก ทองม้วนสด ลอดช่องข้าวไรซ์เบอรี่ กินหมดนี้มีจุก
ก่อนจะอิ่มมากไปกว่านี้ รีบจ้ำเท้าเดินมาดูงานหัตถกรรม สิ่งประดิษฐ์และอื่นๆ กันบ้างดีกว่า
มาเริ่มที่ชิ้นนี้ เราเห็นว่าน่าสนใจ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ที่ต้องซ้อนมอไซค์พ่อแม่อีกด้วย โดยนำแนวคิดจากเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เจ้าเครื่องนี้เรียกว่า “Baby Safety Belt” เข็มขัดนิรภัยจักรยานยนต์สำหรับเด็ก ฝีมือนักเรียนอาชีวะ ใช้วัสดุในการผลิตที่มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย
คุณสมบัติของเข็มขัดนิรภัยนี้จะมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เก็บไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ได้ วัสดุที่ผลิตก็แข็งแรงทนทานต่อแรงดึง สีเหลืองสดใสเห็นชัด มีระบบปลดล็อค 2 ชั้น ป้องกันเด็กปลดล็อค ตามภาพเลย
เดินจนเมื่อยแล้ว ก็มองหาของขวัญของฝาก ก็มาจบที่ของกินที่เก๋ชิคเท่ไม่ซ้ำใครกับส้มตำพกพา ที่ทานง่ายและสะดวก พกพาไปได้ทุกที่ เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางต่างประเทศนานๆและเกิดนึกถึงบ้าน กรรมวิธีง่ายแสนง่ายแค่เอาเส้นอบแห้งไปแช่ในน้ำร้อน ในชุดหนึ่งมีทั้งมะละกออบแห้งและแครอท น้ำส้มตำ(อะ!! จะขึ้นเครื่องไม่ได้ก็เพราะน้ำส้มตำนี่ละเค้าห้าม) เครื่องเคียงพวกกุ้งแห้ง ถั่ว เมื่อมะละกอกับแครอทพองตัวก็เอามาคลุกๆ รวมกันเราก็จะได้ส้มตำแสนอร่อยรสแซ่บเวอร์เป็นที่เรียบร้อย
ตบท้ายด้วยชิ้นสุดท้าย ข้าวเม่าซีเรียล Smart Brain และ Smart Grain ทั้งสูตรต้นตำรับและสแน็คผลไม้ แค่ใส่นมก็กินได้แล้ว ข้าวเม่าก็เอามาทำเป็นซีเรียลได้นะเนี่ย ต้องขอบคุณน้องๆ อาชีวะที่ช่วยนำพามาปรับโชว์ใหม่ในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยน่าซื้อหามารับประทาน
สำหรับภายในงานก็มีโชว์ฝีมือของน้องๆ อาชีวะ เช่น บริการนวด ตัดผม เพ้นท์เล็บ ที่สำคัญมีการจัดฝึกอบรมอาชีพการจัดงาน แต่เราไม่ได้เข้าไม่ร่วมเพราะว่าร้อนนั่นเอง 5555 เลยตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน
หลังจากที่ได้เดินดูผลงานของน้องๆแล้ว ต้องบอกว่าวนับถือในไอเดีย และฝีมือของน้องๆ มากกว่าจะก้าวมาถึงตรงจุดนี้ได้ กว่าจะแสดงสินค้าที่ตัวเองคิด และผลิตขึ้นมาได้ต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง
แบบนี้สิที่เราเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า “ฝีมือชน ในอนาคต” จริงๆ
สุดท้ายของท้ายสุด ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ^^
วันว่างเดินชิล ริมคลองผดุงกรุงเกษม ที่งานตลาดนัดอาชีวะ!!!
หลังจากวางแผนการเดินทางก็โทรนัดคู่หูเสร็จสรรพว่าเราจะนั่งเรือไปลงสะพานผ่านฟ้า(คลองแสนแสบ) กัน อื้อหือออ...ไม่ได้นั่งนานกลิ่นยังเหมือนเดิมเป๊ะ!! หลังจากถึงสะพานผ่านฟ้าแล้วก็เดินตรงดิ่งไปขึ้นพี่ตุ๊กๆ ได้นั่งไปในราคา 60 บาท
ระหว่างใช้บริการผ่านพี่ตุ๊กๆ ก็ผ่านร้านกล้วยทอดเจ้าต่างๆ คุ้นๆ เคยได้ยินว่าเจ้าแรก คือ ถุงแดง เมื่อพี่ตุ๊กๆ ของเราจอดติดไฟแดงก็จัดสิคะ 1 ถุง 20 บาท
นั่งตุ๊กๆ ไปก็กินไป ไม่นานเราก็เห็นกระทรวงศึกษาธิการอยู่ข้างหน้าก็บอกพี่ตุ๊กๆ “พี่ๆ จอดหน้างานตลาดนัดอาชีวะ งานข้างหน้าอะคะ ”
ยืนหันซ้ายหันขวามองทางเข้า ในใจ “อื้อหือ งานยิ่งใหญ่อลังการสมเป็นตลาดนัดอาชีวะ ” แชะๆเก็บภาพหน้างานกันหน่อย
มาถึงงานประมาณเที่ยงกว่าๆ คนกำลังเยอะเลย เสียงเพลงดังกระหึ่มเร้าใจมาก เราก็นึกว่าซุปตาร์ที่ไหนมาร้องเพลงเลยตรงเข้าไปอ่านตารางงาน ในที่สุดก็ถึงบางอ้อ อ๋ออออตอนนี้มีประกวดร้องเพลง “ฝีมือชน คนสร้างชาติ” กันอยู่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องๆ พวกนี้เรียนอาชีวะ ฝีไม้ลายมือการเล่นดนตรีไม่เป็นสองรองใคร พูดได้คำเดียวว่าสุดยอด
เดินต่อเข้าไปชมบรรยากาศอื่นๆ ในงานกันบ้าง มีของจากน้องๆ อาชีวะที่ยกของเด็ดของดีมาขาย มีหลายอย่างยั่วน้ำลายให้ชวนชิมลิ้มลองทั้งอาหารคาว อาทิ หอยทอดกระทะยักษ์ กระหรี่พัฟอวบๆ
ตามมาด้วยของหวาน..... ที่ขนมาเติมน้ำตาลในเลือด ทั้งชาชัก ทองม้วนสด ลอดช่องข้าวไรซ์เบอรี่ กินหมดนี้มีจุก
ก่อนจะอิ่มมากไปกว่านี้ รีบจ้ำเท้าเดินมาดูงานหัตถกรรม สิ่งประดิษฐ์และอื่นๆ กันบ้างดีกว่า
มาเริ่มที่ชิ้นนี้ เราเห็นว่าน่าสนใจ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ที่ต้องซ้อนมอไซค์พ่อแม่อีกด้วย โดยนำแนวคิดจากเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เจ้าเครื่องนี้เรียกว่า “Baby Safety Belt” เข็มขัดนิรภัยจักรยานยนต์สำหรับเด็ก ฝีมือนักเรียนอาชีวะ ใช้วัสดุในการผลิตที่มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย
คุณสมบัติของเข็มขัดนิรภัยนี้จะมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เก็บไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ได้ วัสดุที่ผลิตก็แข็งแรงทนทานต่อแรงดึง สีเหลืองสดใสเห็นชัด มีระบบปลดล็อค 2 ชั้น ป้องกันเด็กปลดล็อค ตามภาพเลย
เดินจนเมื่อยแล้ว ก็มองหาของขวัญของฝาก ก็มาจบที่ของกินที่เก๋ชิคเท่ไม่ซ้ำใครกับส้มตำพกพา ที่ทานง่ายและสะดวก พกพาไปได้ทุกที่ เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางต่างประเทศนานๆและเกิดนึกถึงบ้าน กรรมวิธีง่ายแสนง่ายแค่เอาเส้นอบแห้งไปแช่ในน้ำร้อน ในชุดหนึ่งมีทั้งมะละกออบแห้งและแครอท น้ำส้มตำ(อะ!! จะขึ้นเครื่องไม่ได้ก็เพราะน้ำส้มตำนี่ละเค้าห้าม) เครื่องเคียงพวกกุ้งแห้ง ถั่ว เมื่อมะละกอกับแครอทพองตัวก็เอามาคลุกๆ รวมกันเราก็จะได้ส้มตำแสนอร่อยรสแซ่บเวอร์เป็นที่เรียบร้อย
ตบท้ายด้วยชิ้นสุดท้าย ข้าวเม่าซีเรียล Smart Brain และ Smart Grain ทั้งสูตรต้นตำรับและสแน็คผลไม้ แค่ใส่นมก็กินได้แล้ว ข้าวเม่าก็เอามาทำเป็นซีเรียลได้นะเนี่ย ต้องขอบคุณน้องๆ อาชีวะที่ช่วยนำพามาปรับโชว์ใหม่ในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยน่าซื้อหามารับประทาน
สำหรับภายในงานก็มีโชว์ฝีมือของน้องๆ อาชีวะ เช่น บริการนวด ตัดผม เพ้นท์เล็บ ที่สำคัญมีการจัดฝึกอบรมอาชีพการจัดงาน แต่เราไม่ได้เข้าไม่ร่วมเพราะว่าร้อนนั่นเอง 5555 เลยตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน
หลังจากที่ได้เดินดูผลงานของน้องๆแล้ว ต้องบอกว่าวนับถือในไอเดีย และฝีมือของน้องๆ มากกว่าจะก้าวมาถึงตรงจุดนี้ได้ กว่าจะแสดงสินค้าที่ตัวเองคิด และผลิตขึ้นมาได้ต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง
แบบนี้สิที่เราเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า “ฝีมือชน ในอนาคต” จริงๆ
สุดท้ายของท้ายสุด ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ^^