ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
ซ้องกั๋ง.....เสือร้ายซ่อนเล็บ
ตอนที่ ๖ หนีไปก็ไม่พ้น
"เล่าเซี่ยงชุน"
ทางฝ่ายพวกเขาเนียซัวเปาะ เมื่อรู้เรื่องที่ ซ้องกั๋ง กับ ไตจง กำลังจะถูกประหารชีวิต ก็คุมไพร่พลรีบเดินทางมาใกล้จะถึงเมืองกังจิว แล้วแยกกันออกเป็นสี่พวกตามอุบายของโงวหยง ซินแสผู้เป็นกุนซือใหญ่
ให้ เตียวไก่ กับพวกอีกสี่คน ปลอมเป็นพ่อค้าเกวียน พวกที่สอง เอียนสุน กับเพื่อนอีกสามนาย ปลอมเป็นคนขายยากอเอี๊ยะและรำเพลงอาวุธ พวกที่สามให้ จูกุย กับเพื่อนอีกสามนาย ปลอมเป็นคนหาบฟืน พวกที่สี่นั้นให้ อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา อวนเซียวชิด กับ แปะสิน ปลอมเป็นขอทาน
กับมีไพร่พลเป็นชาวบ้านอีกห้าร้อยคอยสนับสนุน แยกเข้าเมืองคนละทิศ แล้วให้ไปถึงลานประหารพร้อมกัน พวกเหล่านั้นเข้าไปมุงดูการประหารปะปนกับชาวบ้านทั่วไป และได้พยายามดันแทรกเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ
ชัวเกาก็ไม่ได้สงสัยแต่ให้ทหารกั้นไว้ไม่เข้ามาใกล้นัก
ฝ่าย ลีขุย เห็นทหารคุมตัวซ้องกั๋งกับไตจงไปจากคุก ก็เอาขวานซ่อนไว้ในอกเสื้อติดตามไปจนถึงลานประหาร เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเป็นอันมาก รู้ว่าเป็นพวกเขาเนียซัวเปาะ ก็ดีใจเฝ้าคอยเวลาอยู่
พอเจ้าเมืองสั่งให้ทหารลงดาบ พวกเขาเนียซัวเปาะที่ห้อมล้อมอยู่โดยรอบก็ชักอาวุธที่ซ่อนมากรูกันเข้าไปฆ่าฟันทหารเป็นการตลุมบอน ลีขุยเห็นได้ทีก็ควงขวานสองมือบุกเข้าไปฆ่าทหารล้มตายเป็นอันมาก
เจ้าเมืองก็ตกใจ วิ่งหนีเปิดไปแต่ตัวคนเดียว เตียวไก่กับพวกพ้องเข้าแก้มัดซ้องกั๋งกับไตจง แล้วพากันตามลีขุยที่ไล่ฆ่าฟันทหารเมืองกังจิว แหวกออกไปเป็นระยะทางประมาณแปดลี้ ถึงริมแม่น้ำ
เตียวไก่ก็ร้องห้ามลีขุยไม่ให้ฆ่าฟันราษฎรให้เดือดร้อน ลีขุยจึงเดินเข้าไปใกล้ผู้ที่แบกซ้องกั๋งกับไตจง เตียวไก่จึงปรึกษาว่าถ้าพวกทหารไล่ตามมาทัน จะทำประการใด ลีขุยก็พาเข้าไปในศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียว แล้วบอกว่าพักอาศัยอยู่ในนี้ก่อน จากนั้นก็ช่วยกันแก้ไขซ้องกั๋งกับไตจงซึ่งสิ้นสติไปด้วยความตกใจ ให้ฟื้นขึ้นมา
ทั้งสองนักโทษสำคัญว่าตนต้องตายแน่ จึงไม่รู้สึกตัว เมื่อมีผู้ร้องเรียกจึงลืมตาขึ้น เห็นเตียวไก่กับพี่น้องทั้งปวงก็ร้องไห้ บอกว่าครั้งนี้คิดว่าคงตายแน่แล้ว เป็นบุญหนักหนาที่พี่น้องทั้งหลายมาช่วยชีวิตไว้ได้ เตียวไก่บอกว่า
".....เดิมข้าพเจ้ากับพี่น้องชักชวนให้พี่อยู่ด้วยกันก็ไม่อยู่ จึงได้มาทนทุกข์เวทนาดังนี้...."
แล้วถามซ้องกั๋งว่าคนที่หน้าดำสูงใหญ่นั้นผู้ใด ซ้องกั๋งก็แนะนำลีขุยให้รู้จักกับ เตียวไก่และเพื่อนพ้องทั้งปวง ลีขุยก็คุกเข่าคำนับเตียวไก่แล้วว่าอย่าถือเลยข้าพเจ้าเป็นคนเขลาไม่รู้จักธรรมเนียม
ฮวยหยงนายโจรคนหนึ่งปรารภว่า พวกเรามาพักกันอยู่ที่นี่เห็นจะไม่ได้ ลีขุยบอกว่าอย่าตกใจ ถ้าพวกทหารยกมาเราก็ช่วยกันบุกเข้าไปในเมือง จับตัวชัวเกาตีฮูฆ่าเสียก็สิ้นเรื่อง เตียวไก่ท้วงว่า ทหารในเมืองกังจิวยังมีอยู่อีกประมาณแปดพันคน ที่ไหนพวกเราจะต้านทานได้ จะต้องรีบหาเรือข้ามฟากไปก่อน สามพี่น้องแซ่อวนก็รับอาสาไปหาเรือมาให้
พอดี เตียสุน เตียหวย กับพวกพ้องอีกเจ็ดคน ได้ข่าวว่าซ้องกั๋งกับไตจงจะถูกประหาร จึงนำไพร่พลแปดสิบคนลงเรือสามลำล่องตามแม่น้ำมาถึง ซ้องกั๋งก็แนะนำให้รู้จักกับเตียวไก่ แล้วปรึกษากันที่จะต่อสู้กับทหารเมืองกังจิว
ขณะนั้นได้ข่าวว่าชัวเกาสั่งให้นายทหารคุมพลแปดพันมาจวนจะถึงอยู่แล้ว ลีขุยจึงรับอาสาออกไปต้านทานทหารกองนั้นไว้ก่อน ให้เตียวไก่พาซ้องกั๋งกับ ไตจงซึ่งเจ็บป่วย ลงไปรออยู่ในเรือ แล้วพวกที่เหลือก็ตามลีขุย ไปช่วยกันรบกับทหารของชัวเกาอย่างเข้มแข็ง
ฮวยหยงกลัวจะเสียที จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงนายทหารผู้ควบคุมตกม้าตาย ทหารเลวก็ตกใจแตกตื่นวิ่งกลับกันอลหม่าน ลีขุยกับพวกก็ไล่ฆ่าฟันไปจนเข้าประตูเมือง แล้วปิดประตูลงดานไว้มั่นคง ลีขุยจึงพาพวกพ้องกลับมาที่ศาลเจ้า
พวกเขาเนียซัวเปาะทั้งหมดจึงลงเรือ ล่าถอยไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของ มกหอง บิดาของมกหองก็ต้อนรับเป็นอันดี ซ้องกั๋งมีความแค้นอึงบุนเปงเป็นอันมาก อยากจะแก้แค้นเสียก่อนจึงค่อยกลับ เตียวไก่แย้งว่าคราวนี้แย่งตัวซ้องกั๋งกับไตจงสำเร็จแล้ว น่าจะกลับไปเขาเนียซัวเปาะก่อน แล้วค่อยยกมาแก้แค้นจะดีกว่า
ซ้องกั๋งว่ายกมาใหม่ก็จะเสียเวลาเพราะทางไกล และเจ้าเมืองอาจจะบอกไปทางเมืองหลวงให้จัดทหารมาเพิ่ม เพื่อคอยจัดการกับพวกเรา ที่ไหนจะสำเร็จ
สิย้ง ก็รับอาสาจะไปสืบหาอึงบุนเปงที่ตำบลบออุยกุนให้แน่ก่อน ซ้องกั๋งก็อนุญาตให้ไป
สิย้งไปไม่นานนักก็พา โฮวเกียน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ฝึกเพลงอาวุธ กลับมาหาซ้องกั๋ง บอกว่าเป็นคนเย็บเสื้อกางเกง ให้คนในบ้านอึงบุนเปงบ่อย ๆ อึงบุนเปงมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งแต่เป็นคนใจบุญ ชอบสร้างวัดทำสะพานและถนน ผู้ใดยากจนก็อุปถัมภ์ช่วยเหลือ ชาวบ้านรักใคร่ สองพี่น้องนี้ไม่ถูกกัน เพราะอึงบุนเปงคอยคิดร้ายต่อคนทั้งหลายอยู่เสมอ จึงแยกบ้านกันอยู่คนละหลัง แต่เข้าออกทางเดียวกัน
ขณะนี้อึงบุนเปงไปเยี่ยมชัวเกาตีฮู และค้างคืนอยู่ในเมืองกังจิวยังไม่กลับบ้าน ซ้องกั๋งก็บอกว่า
"......พี่น้องทั้งหลายจะยกไปช่วยครั้งนี้ มีเหตุแต่อึงบุนเปงคนเดียว นอกนั้นไม่เกี่ยวข้องสิ่งใดอย่าทำให้ผู้อื่นได้ความเดือดร้อน..."
แล้วซ้องกั๋งก็ขอกระสอบร้อยใบกับเชื้อเพลิงร้อยมัด จากมกไทก๋งบิดาของมกหอง และยืมเรือใหญ่ห้าลำเรือเล็กสองลำ ยกพวกพ้องไปขึ้นฝั่งตำบลบออุยกุนเมื่อเวลาสองยาม เอาบันไดพาดปีนข้ามกำแพงเข้าไป เผาบ้านอึงบุนเปงและไล่ฆ่าฟันญาติพี่น้องบุตรภรรยาของ อึงบุนเปงตายหมดสิ้น แล้วเก็บทรัพย์สินลงเรือ ราษฎรใกล้เคียงจะเข้ามาช่วย ก็ถูกลีขุยกับพวกสกัดไว้
ทางฝั่งเมืองกังจิวเห็นแสงเพลิงไหม้ที่ตำบลบออุยกุน ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ก็แจ้งให้เจ้าเมืองทราบ อึงบุนเปงกจึงลาชัวเกาลงเรือข้ามฟากมา ลี้จุน กับเตียสุนคุมพวกเขาเนียซัวเปาะดักอยู่ ก็รุมกันจับเอาตัวมาได้ ลี้จุนจึงบอกกับทหารที่ตามมาว่า
"..พวกเจ้าจงกลับไปบอกชัวเกาตีฮู ผู้รักษาเมืองกังจิวให้รู้ด้วยว่า พวกเขาเนียซัวเปาะยกมาฆ่าฟันบุตรภรรยาญาติพี่น้องของอึงบุนเปงตายหมด แล้วเอาไฟเผาบ้านเสียทั้งสิ้น บัดนี้ตัวอึงบุนเปงเราก็จับได้ ยังแต่ศรีษะของชัวเกาตีฮู ฝากไว้กับตัวก่อน คงจะมาตัดเอาไปในเวลาเช้าหรือค่ำให้จงได้.....”
เมื่อปล่อยทหารกลับไปแล้ว ก็พาตัวอึงบุนเปงลงเรือมายังบ้านมกหอง จับมัดไว้กับต้นไม้ใหญ่ ซ้องกั๋งถามว่า
".....เจ้ากับเรา แต่เดิมมาก็ไม่มีข้อสาเหตุ โกรธเคืองกันด้วยสิ่งใด ทำไมจึงยุยงสั่งสอนให้ชัวเกาตีฮู ฆ่าเรากับไตจงเสีย เจ้าก็เป็นคนเล่าเรียนหนังสือ ทำไมจึงมาคิดร้ายเราดังนี้ หรือเราไปฆ่าบิดามารดาบุตรภรรยาของเจ้าตาย จึงได้ผูกพยาบาทหนักหนา....."
อึงบุนเปงก็สารภาพผิด แล้วขอร้องให้ตายโดยเร็วเถิด เตียวไก่ถามว่าผู้ใดจะลงมือแทนได้บ้าง ลีขุยก็รับอาสา เอากระบี่เชือดเนื้ออึงบุนเปงทีละชิ้น จนขาดใจตายไป
ซ้องกั๋งก็คุกเข่าลงคำนับพี่น้องเมืองกังจิว แล้วพูดว่า
"...ข้าพเจ้ามีสติปัญญาน้อย กลัวจะเผื่อแผ่ไปไม่ทั่วถึง เมื่อครั้งต้องโทษเนรเทศมาเมืองกังจิวพบพี่น้องชวนให้อยู่ด้วย ข้าพเจ้าเชื่อคำบิดาจึงไม่ได้อยู่ ครั้นไปเมืองกังจิวเที่ยวเล่น จะพลอยให้ไตจงตายด้วย พระคุณของพี่น้องนักหนามาช่วยชีวิตไว้ แล้วยังซ้ำได้แก้แค้นอีก การครั้งนี้เป็นการใหญ่ เจ้าเมืองกังจิวคงมีหนังสือบอกเข้าไปกราบทูล ข้าพเจ้าซ้องกั๋งจะต้องสามิภักดิ์กับพี่เตียวไก่ แต่ใจของพี่น้องทั้งหลาย ไม่แจ้งว่าคิดประการใด ถ้าแม้นยอมไปด้วยกันก็จัดแจงออกเดินทางเสียโดยเร็ว ถ้าพวกข้าพเจ้ายกไปแล้ว กลัวท่านที่อยู่แถวนี้จะได้รับความลำบาก จึงบอกให้พี่น้องทั้งหลายทราบ....."
พวกที่มีภูมิลำเนาอยู่แถบนี้ทั้งแปดคนยังไม่ทันตอบว่ากระไร ลีขุยก็ลุกขึ้นประกาศว่า
".....ถ้าผู้ใดไม่ยอมไป จงลองดูขวานของเราจะคมหรือไม่....."
ซ้องกั๋งก็ตวาดเอาว่า ตามแต่ใจพี่น้องทั้งปวงเถิด บรรดาพวกหน้าใหม่ต่างก็พร้อมใจกันเข้าด้วยซ้องกั๋งทั้งสิ้น
พวกเขาเนียซัวเปาะตัวนาย รวมกับพวกมาใหม่เป็นยี่สิบเก้านาย กับไพร่พลประมาณพันเศษ ก็แบ่งปันทรัพย์สินที่ยึดเอามาจากบ้านอึงบุนเปง แล้วเผาบ้านแซ่มกเสีย ยกขบวนเป็นห้ากองเดินทางมุ่งกลับไปเขาเนียซัวเปาะ
เมื่อรอนแรมมาได้สองวันถึงเขาอึงบุนซัว ก็ได้นายโจรที่มาคอยสามิภักดิ์ด้วยอีกสี่คน พวกของซ้องกั๋งพักอยู่ที่เขาอึงบุนซัวคืนหนึ่ง รุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อไป ทิ้งระยะห่างกันกองละประมาณยี่สิบลี้
เมื่อถึงที่สำนักในเขาเนียซัวเปาะแล้ว โงวหยงกุนซือของขบวนโจร ก็จัดโต๊ะสุราอาหารต้อนรับ ครั้นนั่งกินกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยกกระถางธูปออกมาตั้งไว้ตรงกลางวง เตียวไก่เชิญซ้องกั๋งนั่งที่ใหญ่ ซ้องกั๋งก็ว่า
".....ทำไมพี่มาทำดังนี้ ข้าพเจ้าขอบใจพี่น้องทั้งหลายที่ช่วยชีวิตไว้ จึงได้ชักชวนกันมาสามิภักดิ์ ซึ่งเขาเนียซัวเปาะนี้ พี่ก็เป็นใหญ่ได้ว่ากล่าวมานาน จะให้น้องว่ากล่าวนั้นไม่ควร ถ้ากระนั้นจะขอไปตายเสียดีกว่า....."
เตียวไก่จึงว่า
".....เดิมท่านมีคุณแก่ข้าพเจ้าหาที่สุดมิได้ บัดนี้น้องมาแล้ว จะมอบที่ทางให้ว่ากล่าวตอบแทนบุญคุณ ซึ่งจะไม่ยอมเป็นใหญ่นั้นไม่ได้...."
ซ้องกั๋งตัดบทว่าอายุยังอ่อนกว่าพี่มาก แล้วก็ฉุดมือเตียวไก่ให้นั่งที่ใหญ่ ตัวซ้องกั๋งนั่งที่สอง โงวหยงที่สาม นอกนั้นก็นั่งถัดเรียงกันไปจนครบสี่สิบนายทั้งซ้ายขวา ทั้งหมดก็เส้นสรวง คำนับเทพยดาตามธรรมเนียม แล้วกินโต๊ะเสพสุรากันเป็นที่รื่นเริง
เมื่อพักได้สามวันแล้ว ซ้องกั๋งก็ขอลาเตียวไก่ ไปรับบิดากับน้องชายมาอยู่ด้วยกัน แต่พอไปถึงบ้านที่ตำบลหุนเสียกุ้ย ก็ถูกทหารเมืองเจ๋จิวฮู้ดักจับ หนีไปเกือบไม่รอด ดีแต่เตียวไก่กับพวกไม่ไว้ใจ ติดตามมาช่วยได้ทัน พร้อมกันนั้นก็แอบไปอพยพเอา ซ้องไทก๋ง บิดา และ ซ้องเซ็ง น้องชายไปเสียก่อน
ซ้องกั๋งจึงกลับมาหาบิดาซึ่งอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะเรียบร้อยแล้ว ซ้องไทก๋งก็เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า
"......เมื่อขณะเจ้าเรียกให้เปิดประตูพวกทหารแอบอยู่ที่หน้าบ้านเจ็ดแปดคน ได้ยินเสียงไล่ตามเจ้าไป จะเป็นประการใดบิดาไม่รู้ ครั้นดึกประมาณสามยามเศษ มีชายพวกหนึ่งหลายร้อยคน ตรงมาเปิดประตูบ้านอุ้มเอาบิดาขึ้นเกี้ยว ชายพวกนั้นก็เข้าช่วยซ้องเซ็ง เก็บรวบรวมทรัพย์สิ่งของ ลงบรรทุกเกวียน แล้วก็เอาไฟเผาบ้านเสีย พาบิดากับซ้องเซ็งมาถึงที่นี่....."
ซ้องกั๋งว่าบุตรกับบิดาได้พบกัน เพราะพี่น้องทั้งหลายช่วยอุปถัมภ์ ว่าแล้วก็ให้ซ้องเซ็งคำนับเตียวไก่ กับพี่น้องชาวเนียซัวเปาะตามธรรมเนียม แล้วพวกเหล่านั้นก็คำนับซ้องไทก๋งทุกคน
ดังนั้น ซ้องกั๋ง เสือร้ายที่เด็ก ๆ ในเมืองหลวงขับร้องเพลงเล่น ก็ได้ออกจากบ้าน มาตั้งหลักอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะ ตามคำทำนายของขุนนางโหรหลวงทุกประการ.
#########
นิตยสารโล่เงิน
พฤศจิกายน ๒๕๔๑
เสือร้ายซ่อนเล็บ (๖) ๒๑ ส.ค.๕๘
ซ้องกั๋ง.....เสือร้ายซ่อนเล็บ
ตอนที่ ๖ หนีไปก็ไม่พ้น
"เล่าเซี่ยงชุน"
ทางฝ่ายพวกเขาเนียซัวเปาะ เมื่อรู้เรื่องที่ ซ้องกั๋ง กับ ไตจง กำลังจะถูกประหารชีวิต ก็คุมไพร่พลรีบเดินทางมาใกล้จะถึงเมืองกังจิว แล้วแยกกันออกเป็นสี่พวกตามอุบายของโงวหยง ซินแสผู้เป็นกุนซือใหญ่
ให้ เตียวไก่ กับพวกอีกสี่คน ปลอมเป็นพ่อค้าเกวียน พวกที่สอง เอียนสุน กับเพื่อนอีกสามนาย ปลอมเป็นคนขายยากอเอี๊ยะและรำเพลงอาวุธ พวกที่สามให้ จูกุย กับเพื่อนอีกสามนาย ปลอมเป็นคนหาบฟืน พวกที่สี่นั้นให้ อวนเซียวยี อวนเซียวเหงา อวนเซียวชิด กับ แปะสิน ปลอมเป็นขอทาน
กับมีไพร่พลเป็นชาวบ้านอีกห้าร้อยคอยสนับสนุน แยกเข้าเมืองคนละทิศ แล้วให้ไปถึงลานประหารพร้อมกัน พวกเหล่านั้นเข้าไปมุงดูการประหารปะปนกับชาวบ้านทั่วไป และได้พยายามดันแทรกเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ
ชัวเกาก็ไม่ได้สงสัยแต่ให้ทหารกั้นไว้ไม่เข้ามาใกล้นัก
ฝ่าย ลีขุย เห็นทหารคุมตัวซ้องกั๋งกับไตจงไปจากคุก ก็เอาขวานซ่อนไว้ในอกเสื้อติดตามไปจนถึงลานประหาร เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเป็นอันมาก รู้ว่าเป็นพวกเขาเนียซัวเปาะ ก็ดีใจเฝ้าคอยเวลาอยู่
พอเจ้าเมืองสั่งให้ทหารลงดาบ พวกเขาเนียซัวเปาะที่ห้อมล้อมอยู่โดยรอบก็ชักอาวุธที่ซ่อนมากรูกันเข้าไปฆ่าฟันทหารเป็นการตลุมบอน ลีขุยเห็นได้ทีก็ควงขวานสองมือบุกเข้าไปฆ่าทหารล้มตายเป็นอันมาก
เจ้าเมืองก็ตกใจ วิ่งหนีเปิดไปแต่ตัวคนเดียว เตียวไก่กับพวกพ้องเข้าแก้มัดซ้องกั๋งกับไตจง แล้วพากันตามลีขุยที่ไล่ฆ่าฟันทหารเมืองกังจิว แหวกออกไปเป็นระยะทางประมาณแปดลี้ ถึงริมแม่น้ำ
เตียวไก่ก็ร้องห้ามลีขุยไม่ให้ฆ่าฟันราษฎรให้เดือดร้อน ลีขุยจึงเดินเข้าไปใกล้ผู้ที่แบกซ้องกั๋งกับไตจง เตียวไก่จึงปรึกษาว่าถ้าพวกทหารไล่ตามมาทัน จะทำประการใด ลีขุยก็พาเข้าไปในศาลเจ้าแป๊ะเล่งเปียว แล้วบอกว่าพักอาศัยอยู่ในนี้ก่อน จากนั้นก็ช่วยกันแก้ไขซ้องกั๋งกับไตจงซึ่งสิ้นสติไปด้วยความตกใจ ให้ฟื้นขึ้นมา
ทั้งสองนักโทษสำคัญว่าตนต้องตายแน่ จึงไม่รู้สึกตัว เมื่อมีผู้ร้องเรียกจึงลืมตาขึ้น เห็นเตียวไก่กับพี่น้องทั้งปวงก็ร้องไห้ บอกว่าครั้งนี้คิดว่าคงตายแน่แล้ว เป็นบุญหนักหนาที่พี่น้องทั้งหลายมาช่วยชีวิตไว้ได้ เตียวไก่บอกว่า
".....เดิมข้าพเจ้ากับพี่น้องชักชวนให้พี่อยู่ด้วยกันก็ไม่อยู่ จึงได้มาทนทุกข์เวทนาดังนี้...."
แล้วถามซ้องกั๋งว่าคนที่หน้าดำสูงใหญ่นั้นผู้ใด ซ้องกั๋งก็แนะนำลีขุยให้รู้จักกับ เตียวไก่และเพื่อนพ้องทั้งปวง ลีขุยก็คุกเข่าคำนับเตียวไก่แล้วว่าอย่าถือเลยข้าพเจ้าเป็นคนเขลาไม่รู้จักธรรมเนียม
ฮวยหยงนายโจรคนหนึ่งปรารภว่า พวกเรามาพักกันอยู่ที่นี่เห็นจะไม่ได้ ลีขุยบอกว่าอย่าตกใจ ถ้าพวกทหารยกมาเราก็ช่วยกันบุกเข้าไปในเมือง จับตัวชัวเกาตีฮูฆ่าเสียก็สิ้นเรื่อง เตียวไก่ท้วงว่า ทหารในเมืองกังจิวยังมีอยู่อีกประมาณแปดพันคน ที่ไหนพวกเราจะต้านทานได้ จะต้องรีบหาเรือข้ามฟากไปก่อน สามพี่น้องแซ่อวนก็รับอาสาไปหาเรือมาให้
พอดี เตียสุน เตียหวย กับพวกพ้องอีกเจ็ดคน ได้ข่าวว่าซ้องกั๋งกับไตจงจะถูกประหาร จึงนำไพร่พลแปดสิบคนลงเรือสามลำล่องตามแม่น้ำมาถึง ซ้องกั๋งก็แนะนำให้รู้จักกับเตียวไก่ แล้วปรึกษากันที่จะต่อสู้กับทหารเมืองกังจิว
ขณะนั้นได้ข่าวว่าชัวเกาสั่งให้นายทหารคุมพลแปดพันมาจวนจะถึงอยู่แล้ว ลีขุยจึงรับอาสาออกไปต้านทานทหารกองนั้นไว้ก่อน ให้เตียวไก่พาซ้องกั๋งกับ ไตจงซึ่งเจ็บป่วย ลงไปรออยู่ในเรือ แล้วพวกที่เหลือก็ตามลีขุย ไปช่วยกันรบกับทหารของชัวเกาอย่างเข้มแข็ง
ฮวยหยงกลัวจะเสียที จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงนายทหารผู้ควบคุมตกม้าตาย ทหารเลวก็ตกใจแตกตื่นวิ่งกลับกันอลหม่าน ลีขุยกับพวกก็ไล่ฆ่าฟันไปจนเข้าประตูเมือง แล้วปิดประตูลงดานไว้มั่นคง ลีขุยจึงพาพวกพ้องกลับมาที่ศาลเจ้า
พวกเขาเนียซัวเปาะทั้งหมดจึงลงเรือ ล่าถอยไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของ มกหอง บิดาของมกหองก็ต้อนรับเป็นอันดี ซ้องกั๋งมีความแค้นอึงบุนเปงเป็นอันมาก อยากจะแก้แค้นเสียก่อนจึงค่อยกลับ เตียวไก่แย้งว่าคราวนี้แย่งตัวซ้องกั๋งกับไตจงสำเร็จแล้ว น่าจะกลับไปเขาเนียซัวเปาะก่อน แล้วค่อยยกมาแก้แค้นจะดีกว่า
ซ้องกั๋งว่ายกมาใหม่ก็จะเสียเวลาเพราะทางไกล และเจ้าเมืองอาจจะบอกไปทางเมืองหลวงให้จัดทหารมาเพิ่ม เพื่อคอยจัดการกับพวกเรา ที่ไหนจะสำเร็จ
สิย้ง ก็รับอาสาจะไปสืบหาอึงบุนเปงที่ตำบลบออุยกุนให้แน่ก่อน ซ้องกั๋งก็อนุญาตให้ไป
สิย้งไปไม่นานนักก็พา โฮวเกียน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ฝึกเพลงอาวุธ กลับมาหาซ้องกั๋ง บอกว่าเป็นคนเย็บเสื้อกางเกง ให้คนในบ้านอึงบุนเปงบ่อย ๆ อึงบุนเปงมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งแต่เป็นคนใจบุญ ชอบสร้างวัดทำสะพานและถนน ผู้ใดยากจนก็อุปถัมภ์ช่วยเหลือ ชาวบ้านรักใคร่ สองพี่น้องนี้ไม่ถูกกัน เพราะอึงบุนเปงคอยคิดร้ายต่อคนทั้งหลายอยู่เสมอ จึงแยกบ้านกันอยู่คนละหลัง แต่เข้าออกทางเดียวกัน
ขณะนี้อึงบุนเปงไปเยี่ยมชัวเกาตีฮู และค้างคืนอยู่ในเมืองกังจิวยังไม่กลับบ้าน ซ้องกั๋งก็บอกว่า
"......พี่น้องทั้งหลายจะยกไปช่วยครั้งนี้ มีเหตุแต่อึงบุนเปงคนเดียว นอกนั้นไม่เกี่ยวข้องสิ่งใดอย่าทำให้ผู้อื่นได้ความเดือดร้อน..."
แล้วซ้องกั๋งก็ขอกระสอบร้อยใบกับเชื้อเพลิงร้อยมัด จากมกไทก๋งบิดาของมกหอง และยืมเรือใหญ่ห้าลำเรือเล็กสองลำ ยกพวกพ้องไปขึ้นฝั่งตำบลบออุยกุนเมื่อเวลาสองยาม เอาบันไดพาดปีนข้ามกำแพงเข้าไป เผาบ้านอึงบุนเปงและไล่ฆ่าฟันญาติพี่น้องบุตรภรรยาของ อึงบุนเปงตายหมดสิ้น แล้วเก็บทรัพย์สินลงเรือ ราษฎรใกล้เคียงจะเข้ามาช่วย ก็ถูกลีขุยกับพวกสกัดไว้
ทางฝั่งเมืองกังจิวเห็นแสงเพลิงไหม้ที่ตำบลบออุยกุน ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ก็แจ้งให้เจ้าเมืองทราบ อึงบุนเปงกจึงลาชัวเกาลงเรือข้ามฟากมา ลี้จุน กับเตียสุนคุมพวกเขาเนียซัวเปาะดักอยู่ ก็รุมกันจับเอาตัวมาได้ ลี้จุนจึงบอกกับทหารที่ตามมาว่า
"..พวกเจ้าจงกลับไปบอกชัวเกาตีฮู ผู้รักษาเมืองกังจิวให้รู้ด้วยว่า พวกเขาเนียซัวเปาะยกมาฆ่าฟันบุตรภรรยาญาติพี่น้องของอึงบุนเปงตายหมด แล้วเอาไฟเผาบ้านเสียทั้งสิ้น บัดนี้ตัวอึงบุนเปงเราก็จับได้ ยังแต่ศรีษะของชัวเกาตีฮู ฝากไว้กับตัวก่อน คงจะมาตัดเอาไปในเวลาเช้าหรือค่ำให้จงได้.....”
เมื่อปล่อยทหารกลับไปแล้ว ก็พาตัวอึงบุนเปงลงเรือมายังบ้านมกหอง จับมัดไว้กับต้นไม้ใหญ่ ซ้องกั๋งถามว่า
".....เจ้ากับเรา แต่เดิมมาก็ไม่มีข้อสาเหตุ โกรธเคืองกันด้วยสิ่งใด ทำไมจึงยุยงสั่งสอนให้ชัวเกาตีฮู ฆ่าเรากับไตจงเสีย เจ้าก็เป็นคนเล่าเรียนหนังสือ ทำไมจึงมาคิดร้ายเราดังนี้ หรือเราไปฆ่าบิดามารดาบุตรภรรยาของเจ้าตาย จึงได้ผูกพยาบาทหนักหนา....."
อึงบุนเปงก็สารภาพผิด แล้วขอร้องให้ตายโดยเร็วเถิด เตียวไก่ถามว่าผู้ใดจะลงมือแทนได้บ้าง ลีขุยก็รับอาสา เอากระบี่เชือดเนื้ออึงบุนเปงทีละชิ้น จนขาดใจตายไป
ซ้องกั๋งก็คุกเข่าลงคำนับพี่น้องเมืองกังจิว แล้วพูดว่า
"...ข้าพเจ้ามีสติปัญญาน้อย กลัวจะเผื่อแผ่ไปไม่ทั่วถึง เมื่อครั้งต้องโทษเนรเทศมาเมืองกังจิวพบพี่น้องชวนให้อยู่ด้วย ข้าพเจ้าเชื่อคำบิดาจึงไม่ได้อยู่ ครั้นไปเมืองกังจิวเที่ยวเล่น จะพลอยให้ไตจงตายด้วย พระคุณของพี่น้องนักหนามาช่วยชีวิตไว้ แล้วยังซ้ำได้แก้แค้นอีก การครั้งนี้เป็นการใหญ่ เจ้าเมืองกังจิวคงมีหนังสือบอกเข้าไปกราบทูล ข้าพเจ้าซ้องกั๋งจะต้องสามิภักดิ์กับพี่เตียวไก่ แต่ใจของพี่น้องทั้งหลาย ไม่แจ้งว่าคิดประการใด ถ้าแม้นยอมไปด้วยกันก็จัดแจงออกเดินทางเสียโดยเร็ว ถ้าพวกข้าพเจ้ายกไปแล้ว กลัวท่านที่อยู่แถวนี้จะได้รับความลำบาก จึงบอกให้พี่น้องทั้งหลายทราบ....."
พวกที่มีภูมิลำเนาอยู่แถบนี้ทั้งแปดคนยังไม่ทันตอบว่ากระไร ลีขุยก็ลุกขึ้นประกาศว่า
".....ถ้าผู้ใดไม่ยอมไป จงลองดูขวานของเราจะคมหรือไม่....."
ซ้องกั๋งก็ตวาดเอาว่า ตามแต่ใจพี่น้องทั้งปวงเถิด บรรดาพวกหน้าใหม่ต่างก็พร้อมใจกันเข้าด้วยซ้องกั๋งทั้งสิ้น
พวกเขาเนียซัวเปาะตัวนาย รวมกับพวกมาใหม่เป็นยี่สิบเก้านาย กับไพร่พลประมาณพันเศษ ก็แบ่งปันทรัพย์สินที่ยึดเอามาจากบ้านอึงบุนเปง แล้วเผาบ้านแซ่มกเสีย ยกขบวนเป็นห้ากองเดินทางมุ่งกลับไปเขาเนียซัวเปาะ
เมื่อรอนแรมมาได้สองวันถึงเขาอึงบุนซัว ก็ได้นายโจรที่มาคอยสามิภักดิ์ด้วยอีกสี่คน พวกของซ้องกั๋งพักอยู่ที่เขาอึงบุนซัวคืนหนึ่ง รุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อไป ทิ้งระยะห่างกันกองละประมาณยี่สิบลี้
เมื่อถึงที่สำนักในเขาเนียซัวเปาะแล้ว โงวหยงกุนซือของขบวนโจร ก็จัดโต๊ะสุราอาหารต้อนรับ ครั้นนั่งกินกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยกกระถางธูปออกมาตั้งไว้ตรงกลางวง เตียวไก่เชิญซ้องกั๋งนั่งที่ใหญ่ ซ้องกั๋งก็ว่า
".....ทำไมพี่มาทำดังนี้ ข้าพเจ้าขอบใจพี่น้องทั้งหลายที่ช่วยชีวิตไว้ จึงได้ชักชวนกันมาสามิภักดิ์ ซึ่งเขาเนียซัวเปาะนี้ พี่ก็เป็นใหญ่ได้ว่ากล่าวมานาน จะให้น้องว่ากล่าวนั้นไม่ควร ถ้ากระนั้นจะขอไปตายเสียดีกว่า....."
เตียวไก่จึงว่า
".....เดิมท่านมีคุณแก่ข้าพเจ้าหาที่สุดมิได้ บัดนี้น้องมาแล้ว จะมอบที่ทางให้ว่ากล่าวตอบแทนบุญคุณ ซึ่งจะไม่ยอมเป็นใหญ่นั้นไม่ได้...."
ซ้องกั๋งตัดบทว่าอายุยังอ่อนกว่าพี่มาก แล้วก็ฉุดมือเตียวไก่ให้นั่งที่ใหญ่ ตัวซ้องกั๋งนั่งที่สอง โงวหยงที่สาม นอกนั้นก็นั่งถัดเรียงกันไปจนครบสี่สิบนายทั้งซ้ายขวา ทั้งหมดก็เส้นสรวง คำนับเทพยดาตามธรรมเนียม แล้วกินโต๊ะเสพสุรากันเป็นที่รื่นเริง
เมื่อพักได้สามวันแล้ว ซ้องกั๋งก็ขอลาเตียวไก่ ไปรับบิดากับน้องชายมาอยู่ด้วยกัน แต่พอไปถึงบ้านที่ตำบลหุนเสียกุ้ย ก็ถูกทหารเมืองเจ๋จิวฮู้ดักจับ หนีไปเกือบไม่รอด ดีแต่เตียวไก่กับพวกไม่ไว้ใจ ติดตามมาช่วยได้ทัน พร้อมกันนั้นก็แอบไปอพยพเอา ซ้องไทก๋ง บิดา และ ซ้องเซ็ง น้องชายไปเสียก่อน
ซ้องกั๋งจึงกลับมาหาบิดาซึ่งอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะเรียบร้อยแล้ว ซ้องไทก๋งก็เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า
"......เมื่อขณะเจ้าเรียกให้เปิดประตูพวกทหารแอบอยู่ที่หน้าบ้านเจ็ดแปดคน ได้ยินเสียงไล่ตามเจ้าไป จะเป็นประการใดบิดาไม่รู้ ครั้นดึกประมาณสามยามเศษ มีชายพวกหนึ่งหลายร้อยคน ตรงมาเปิดประตูบ้านอุ้มเอาบิดาขึ้นเกี้ยว ชายพวกนั้นก็เข้าช่วยซ้องเซ็ง เก็บรวบรวมทรัพย์สิ่งของ ลงบรรทุกเกวียน แล้วก็เอาไฟเผาบ้านเสีย พาบิดากับซ้องเซ็งมาถึงที่นี่....."
ซ้องกั๋งว่าบุตรกับบิดาได้พบกัน เพราะพี่น้องทั้งหลายช่วยอุปถัมภ์ ว่าแล้วก็ให้ซ้องเซ็งคำนับเตียวไก่ กับพี่น้องชาวเนียซัวเปาะตามธรรมเนียม แล้วพวกเหล่านั้นก็คำนับซ้องไทก๋งทุกคน
ดังนั้น ซ้องกั๋ง เสือร้ายที่เด็ก ๆ ในเมืองหลวงขับร้องเพลงเล่น ก็ได้ออกจากบ้าน มาตั้งหลักอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะ ตามคำทำนายของขุนนางโหรหลวงทุกประการ.
#########
นิตยสารโล่เงิน
พฤศจิกายน ๒๕๔๑