บางครั้งมันก็เหมือนกับ “เส้นผมบังตา” ในขณะที่หลายๆ คนกำลังตื่นระทึกกับเหตุการณ์ระเบิด และความขวนเขวกับการตามจับผู้วางระเบิดให้ได้ อันเป็นความกดดันและท้าทายกับ จนท.สอบสวน และข่าวกรองอย่างน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก จนลืมตั้งคำถามในฐานะผู้รับทราบเหตุการณ์ว่า “ทำใมและเพื่อผลอย่างไรถึงต้องระเบิด” ถูกใหม ครับ
๑.) จุดที่วางระเบิดเป็นจุดสื่อทางยุทธศาสตร์สำคัญทางการเมืองในประเทศ ที่สามารถตอกย้ำความรู้สึกต่างๆ ของ ปชช. ในประเทศอันมีความหมายน้อยมากกว่า ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ
๒.) จุดระเบิดพร้อมกับพิกัดรัศมีทำลายล้างของระเบิด ไม่มีผลให้สิ่งก่อสร้างหรือระบบคมนาคมต่างๆและส่วนราชการในหรือนอกประเทศใดๆ โดยรอบเกิดความเสียหาย อันขาดข้อสันนิฐานของการระเบิด
๓.) ในช่วงเวลาระเบิด เป็นช่วงเวลาที่จำกัดพิกัดความเสียหายต่อบุคคล ซึ่งตามลักษณะของเหตุการณ์ อยู่ในกรอบข่ายของการสร้างภาพมากกว่าเป็นการจงใจทำลายล้าง
๔.) ในลักษณะของการเกิดระเบิด ถ้าเป็นการตอบโต้ระหว่างขั้วอำนาจชัดเจนหรือระหว่างประเทศ สิ่งที่ไม่ปรากฎก็คือ กระแสยืนยันผลงาน แต่เป็นลักษณะเข้าใจกันภายในของคู่กรณี
๕.) การวางระเบิด นับแต่เฉพาะการจัดเตรืยมอุปกรณ์ (ทีเอ็นที) พิกัดรัศมีทำลายล้าง (๓๐ ม.) การวางจุดระเบิดเพื่อจำกัดปฎิกริยา การจัดหาผู้ปฎิบัติการระดับอาชีพ การซ้อมปฎิบัติการในพื้นที่ อันมีความจำเป็นที่ต้องวางแผนโดยผู้เชี่ยวชาญในระยะปานกลางคือไม่น้อยกว่า ๒ เดือน
๖.) หลักฐานทั้งหมดที่พบในพื้นที่ต่างๆ เป็นลักษณะจงใจให้มีการสอบสวนและค้นหาข้อมูลสู่ทางตัน แต่มิใช่เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์ หรือสามารถดำเนินคดีใดๆ กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อันตรงกับลักษณะของผู้เชี่ยวชาญในการวางแผน ที่ทราบถึงลักษณะและพิกัดการปฎิบัติงานของ จนท.สอบสวนและพิสูจน์หลักฐานในทุกระดับงาน
๗.) เหตุการณ์ระเบิด ไม่มีผลทางตรงต่อความมั่นคงของประเทศ หรือ รบ. รวมทั้งก็มีความลึกในด้านยุทธศาสตร์ที่เป็น ลักษณะวิวาทส่วนกลุ่มบุคคล แต่เข้ากับลักษณะขู่หรือเตือนโดยการแสดงสมัตรภาพถึงอนาคติการกระทำหรือการตัดสินใจของคู่ขัดแย้งเบื้องหลัง
๘.) เหตุการณ์ระเบิด มีผลให้กระแสสังคมเปลื่ยนหรือเบนความสนใจรวมทั้งลบกับกระแสในสังคมก่อนหน้านี้ อย่างไร และมากน้อยแค่ใหน
ผู้ที่สามารถแยกแยะในเหตุการณ์ และหาเหตุผลเป็นคำตอบใน ๘ ข้อนี้ได้ ก็น่าจะเข้าใจถึงเหตุผลสมควรของ ระเบิดที่ราชประสงศ์ อย่างใกล้เคียงที่สุด อันน่าจะมีผลประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมท่จะตามกระแส การสอบสวนและหาข้อมูลรวมทั้งผู้ต้องสงสัย คือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ จนท.รัฐ ผู้เชี่ยวชาญและรับผิดชอบ จะดีกว่า ครับ
มุมกว้างกับ ระเบิดราชประสงศ์ .........
๑.) จุดที่วางระเบิดเป็นจุดสื่อทางยุทธศาสตร์สำคัญทางการเมืองในประเทศ ที่สามารถตอกย้ำความรู้สึกต่างๆ ของ ปชช. ในประเทศอันมีความหมายน้อยมากกว่า ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ
๒.) จุดระเบิดพร้อมกับพิกัดรัศมีทำลายล้างของระเบิด ไม่มีผลให้สิ่งก่อสร้างหรือระบบคมนาคมต่างๆและส่วนราชการในหรือนอกประเทศใดๆ โดยรอบเกิดความเสียหาย อันขาดข้อสันนิฐานของการระเบิด
๓.) ในช่วงเวลาระเบิด เป็นช่วงเวลาที่จำกัดพิกัดความเสียหายต่อบุคคล ซึ่งตามลักษณะของเหตุการณ์ อยู่ในกรอบข่ายของการสร้างภาพมากกว่าเป็นการจงใจทำลายล้าง
๔.) ในลักษณะของการเกิดระเบิด ถ้าเป็นการตอบโต้ระหว่างขั้วอำนาจชัดเจนหรือระหว่างประเทศ สิ่งที่ไม่ปรากฎก็คือ กระแสยืนยันผลงาน แต่เป็นลักษณะเข้าใจกันภายในของคู่กรณี
๕.) การวางระเบิด นับแต่เฉพาะการจัดเตรืยมอุปกรณ์ (ทีเอ็นที) พิกัดรัศมีทำลายล้าง (๓๐ ม.) การวางจุดระเบิดเพื่อจำกัดปฎิกริยา การจัดหาผู้ปฎิบัติการระดับอาชีพ การซ้อมปฎิบัติการในพื้นที่ อันมีความจำเป็นที่ต้องวางแผนโดยผู้เชี่ยวชาญในระยะปานกลางคือไม่น้อยกว่า ๒ เดือน
๖.) หลักฐานทั้งหมดที่พบในพื้นที่ต่างๆ เป็นลักษณะจงใจให้มีการสอบสวนและค้นหาข้อมูลสู่ทางตัน แต่มิใช่เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์ หรือสามารถดำเนินคดีใดๆ กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อันตรงกับลักษณะของผู้เชี่ยวชาญในการวางแผน ที่ทราบถึงลักษณะและพิกัดการปฎิบัติงานของ จนท.สอบสวนและพิสูจน์หลักฐานในทุกระดับงาน
๗.) เหตุการณ์ระเบิด ไม่มีผลทางตรงต่อความมั่นคงของประเทศ หรือ รบ. รวมทั้งก็มีความลึกในด้านยุทธศาสตร์ที่เป็น ลักษณะวิวาทส่วนกลุ่มบุคคล แต่เข้ากับลักษณะขู่หรือเตือนโดยการแสดงสมัตรภาพถึงอนาคติการกระทำหรือการตัดสินใจของคู่ขัดแย้งเบื้องหลัง
๘.) เหตุการณ์ระเบิด มีผลให้กระแสสังคมเปลื่ยนหรือเบนความสนใจรวมทั้งลบกับกระแสในสังคมก่อนหน้านี้ อย่างไร และมากน้อยแค่ใหน
ผู้ที่สามารถแยกแยะในเหตุการณ์ และหาเหตุผลเป็นคำตอบใน ๘ ข้อนี้ได้ ก็น่าจะเข้าใจถึงเหตุผลสมควรของ ระเบิดที่ราชประสงศ์ อย่างใกล้เคียงที่สุด อันน่าจะมีผลประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมท่จะตามกระแส การสอบสวนและหาข้อมูลรวมทั้งผู้ต้องสงสัย คือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ จนท.รัฐ ผู้เชี่ยวชาญและรับผิดชอบ จะดีกว่า ครับ