คำเตือน กระทู้นี้จะสปอยเล่ม17โดยไม่ครอบ ใครไม่อยากเสียอรรถรส เก็บกระทู้ไว้ พออ่านแล้วมาคุยกัน
.
.
.
.
.
จัดเต็มล่ะนะ
เล่มนี้แบ่งเป็น3ตอน
1. หนุ่มภูตผีกับสาวมนุษย์
2. นัตซึเมะกับแก๊งเพื่อนภูต
3. การพบกันครั้งแรกของชูอิจิและเซจิ <<< โฟกัสตอนนี้เป็นพิเศษ
ตอนที่1 จขกทชอบอาโออิมากๆๆๆ ดูเป็นพี่ชายเท่ซึน
ลุ้นว่าจะได้สมหวังกับคาโอรุหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่เรื่องนี้มักจะพลัดพรากซะมากกว่าจะแฮปปี้มุ้งมิ้งแบบนี้
ส่วนคาโอรุขำที่เธอใช้แผนสไตล์ละครน้ำเน่า อาโออิติดกับซะด้วย
อยาก อ. วาดอาโออิให้มีบทช่วยนัตซึเมะอีก
ตอนที่2 นัตซึเมะก็ยังซึนขี้อายกับจารย์เหมียวได้น่ารักดี
แต่..... แปลกใจที่ แก๊งชั้นกลางฮิโนเอะ ถูกเรียกว่า แก๊งสุนัข ???
ตอนที่3 นาโทริกับมาโตบะ การพบกันเมื่อครั้งวัยละอ่อน
นาโทริอยู่ม.ปลายปี2 ก็คือม.5 ใส่เครื่องแบบเป็นเสื้อสูท
มาโตบะ อายุน้อยกว่า1ปี อยู่ปลายปี1 หรือม.4 ยังเป็นเฟรชชี่ เข้าโรงเรียนที่ใส่กักคุรัน (ท่านเจ้าบ้านน่ารักมากๆ)
ทั้งคู่เจอกันในงานชุมนุมปราบปีศาจ มาโตบะเรียกนาโทริว่าชูอิจิซังตลอดๆและบอกให้เรียกตัวเองว่าเซจิ ไม่บอกนามสกุลมาโตบะ จนตอนหลังนาโทริรู้เอง
ตอนเจอกันอีกครั้ง นาโทริเรียกชื่อเต็มๆว่า มาโตบะ เซจิ แต่ท่านเจ้าบ้านก็ยังยืนยันให้เรียกเซจิเฉยๆ และเรียกนาโทริว่าชูอิจิซังตลอด
และในตอนที่ช่วยกันปราบปีศาจ นาโทริก็ได้เรียกชื่อเซจิเฉยๆ
ในสังคมญี่ปุ่น จากที่เห็นในการ์ตูนหลายๆเรื่อง ต่อให้เป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกันก็จะเรียกด้วยนามสกุล การได้เรียกชื่อแสดงความสนิทสนม และเป็นคนพิเศษ และโดยเฉพาะเรื่องนี้ ตระกูลมาโตบะกับนาโทริถือเป็นตระกูลดัง แต่ก็ห่างชั้นกัน
เซจิยืนยันจะเรียกชูอิจิซังและให้อีกฝ่ายเรียกชื่อตัวเอง จขกทคิดว่า ถึงเซจิปากจะบอกมาหาของใช้การได้ แต่ก็สนใจชูอิจิในฐานะคนมองเห็นที่อายุใกล้ๆกัน และไม่ต้องการคบหากันด้วยชื่อตระกูล ถึงได้เน้นให้เรียกด้วยชื่อ ซึ่ง ชูอิจิก็มีพลังมากจึงจัดอยู่ในของใช้การได้ เท่ากับในสายตาเซจิยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แต่ในสายตาชูอิจิ ที่นิสัยหยิ่งและมองโลกในแง่ร้าย (จขกทมองว่าเซจิก็หยิ่งแต่คนละแบบ เป็นแบบถือตัวในฐานะคนที่เก่งสุดๆ) เลยมองเห็นแค่เซจิกำลังทดสอบและตีค่าตัวเอง ก็เลยไม่ชอบและตั้งกำแพงใส่ แต่ก็ยอมรับในฝีมือและรู้ว่าแนวความคิดของตัวเองกับเซจิไปคนละทาง
แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ เซจิเป็นผู้นำมาโตบะ ฐานะยิ่งต่างกัน ชูอิจิจึงไม่เรียกชื่อเซจิ เดา เพราะมารยาท+ความคิดต่างกันเลยไม่อยากสนิทด้วย แต่เซจิตอนคุยกับนัตซึเมะยังเรียกชูอิจิซังอยู่
และในหน้าสุดท้าย เซจิมาทักชูอิจิแต่เห็นว่าหลับอยู่เลยหยิบแว่นของชูอิจิมาลองมองผ่านเลนส์แว่นดู แล้วก็ยิ้มแบบอ่อนโยน บอกว่าเพราะมองผ่านของแบบนี้เลยเห็นว่าโลกมันบิดเบี้ยว
ช่องสุดท้ายที่เซจินั่งข้างๆชูอิจิที่กำลังหลับ มันดูดีมากกกกกกกก แสดงถึงความเท่าเทียม ในมุมของเซจิมองว่าชูอิจิเป็นคนที่คุยกันได้โดยไม่ต้องมีชื่อตระกูล ไม่ต้องมีการนอบน้อมเอาใจเพื่อหวังประโยชน์ ไม่โดนคาดหวัง หรือนินทา
อยากเห็นตอนที่เซจิกับชูอิจิในปัจจุบันต้องมาร่วมมือปราบปีศาจกันอีก อยากรู้ว่าปัจจุบันถ้าอยู่ด้วยกันสองคน คู่นี้จะพูดคุยกันยังไง เซจิจะหาเรื่องหยอกจนชูอิจิหลุดโวยวายเหมือนตอนเด็กๆมั้ย แล้วถ้าเป็นแบบนั้นโดยมีนัตซึเมะยืนทำตาแป๋วมองอยู่ มันคงขำสุดๆ
จบการเวิ่นเว้อเพียงเท่านี้
Natsume กับฮาเร็มพิศวง ใครอ่านเล่ม17แล้วมาคุยกัน
.
.
.
.
.
จัดเต็มล่ะนะ
เล่มนี้แบ่งเป็น3ตอน
1. หนุ่มภูตผีกับสาวมนุษย์
2. นัตซึเมะกับแก๊งเพื่อนภูต
3. การพบกันครั้งแรกของชูอิจิและเซจิ <<< โฟกัสตอนนี้เป็นพิเศษ
ตอนที่1 จขกทชอบอาโออิมากๆๆๆ ดูเป็นพี่ชายเท่ซึน
ลุ้นว่าจะได้สมหวังกับคาโอรุหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่เรื่องนี้มักจะพลัดพรากซะมากกว่าจะแฮปปี้มุ้งมิ้งแบบนี้
ส่วนคาโอรุขำที่เธอใช้แผนสไตล์ละครน้ำเน่า อาโออิติดกับซะด้วย
อยาก อ. วาดอาโออิให้มีบทช่วยนัตซึเมะอีก
ตอนที่2 นัตซึเมะก็ยังซึนขี้อายกับจารย์เหมียวได้น่ารักดี
แต่..... แปลกใจที่ แก๊งชั้นกลางฮิโนเอะ ถูกเรียกว่า แก๊งสุนัข ???
ตอนที่3 นาโทริกับมาโตบะ การพบกันเมื่อครั้งวัยละอ่อน
นาโทริอยู่ม.ปลายปี2 ก็คือม.5 ใส่เครื่องแบบเป็นเสื้อสูท
มาโตบะ อายุน้อยกว่า1ปี อยู่ปลายปี1 หรือม.4 ยังเป็นเฟรชชี่ เข้าโรงเรียนที่ใส่กักคุรัน (ท่านเจ้าบ้านน่ารักมากๆ)
ทั้งคู่เจอกันในงานชุมนุมปราบปีศาจ มาโตบะเรียกนาโทริว่าชูอิจิซังตลอดๆและบอกให้เรียกตัวเองว่าเซจิ ไม่บอกนามสกุลมาโตบะ จนตอนหลังนาโทริรู้เอง
ตอนเจอกันอีกครั้ง นาโทริเรียกชื่อเต็มๆว่า มาโตบะ เซจิ แต่ท่านเจ้าบ้านก็ยังยืนยันให้เรียกเซจิเฉยๆ และเรียกนาโทริว่าชูอิจิซังตลอด
และในตอนที่ช่วยกันปราบปีศาจ นาโทริก็ได้เรียกชื่อเซจิเฉยๆ
ในสังคมญี่ปุ่น จากที่เห็นในการ์ตูนหลายๆเรื่อง ต่อให้เป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกันก็จะเรียกด้วยนามสกุล การได้เรียกชื่อแสดงความสนิทสนม และเป็นคนพิเศษ และโดยเฉพาะเรื่องนี้ ตระกูลมาโตบะกับนาโทริถือเป็นตระกูลดัง แต่ก็ห่างชั้นกัน
เซจิยืนยันจะเรียกชูอิจิซังและให้อีกฝ่ายเรียกชื่อตัวเอง จขกทคิดว่า ถึงเซจิปากจะบอกมาหาของใช้การได้ แต่ก็สนใจชูอิจิในฐานะคนมองเห็นที่อายุใกล้ๆกัน และไม่ต้องการคบหากันด้วยชื่อตระกูล ถึงได้เน้นให้เรียกด้วยชื่อ ซึ่ง ชูอิจิก็มีพลังมากจึงจัดอยู่ในของใช้การได้ เท่ากับในสายตาเซจิยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แต่ในสายตาชูอิจิ ที่นิสัยหยิ่งและมองโลกในแง่ร้าย (จขกทมองว่าเซจิก็หยิ่งแต่คนละแบบ เป็นแบบถือตัวในฐานะคนที่เก่งสุดๆ) เลยมองเห็นแค่เซจิกำลังทดสอบและตีค่าตัวเอง ก็เลยไม่ชอบและตั้งกำแพงใส่ แต่ก็ยอมรับในฝีมือและรู้ว่าแนวความคิดของตัวเองกับเซจิไปคนละทาง
แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ เซจิเป็นผู้นำมาโตบะ ฐานะยิ่งต่างกัน ชูอิจิจึงไม่เรียกชื่อเซจิ เดา เพราะมารยาท+ความคิดต่างกันเลยไม่อยากสนิทด้วย แต่เซจิตอนคุยกับนัตซึเมะยังเรียกชูอิจิซังอยู่
และในหน้าสุดท้าย เซจิมาทักชูอิจิแต่เห็นว่าหลับอยู่เลยหยิบแว่นของชูอิจิมาลองมองผ่านเลนส์แว่นดู แล้วก็ยิ้มแบบอ่อนโยน บอกว่าเพราะมองผ่านของแบบนี้เลยเห็นว่าโลกมันบิดเบี้ยว
ช่องสุดท้ายที่เซจินั่งข้างๆชูอิจิที่กำลังหลับ มันดูดีมากกกกกกกก แสดงถึงความเท่าเทียม ในมุมของเซจิมองว่าชูอิจิเป็นคนที่คุยกันได้โดยไม่ต้องมีชื่อตระกูล ไม่ต้องมีการนอบน้อมเอาใจเพื่อหวังประโยชน์ ไม่โดนคาดหวัง หรือนินทา
อยากเห็นตอนที่เซจิกับชูอิจิในปัจจุบันต้องมาร่วมมือปราบปีศาจกันอีก อยากรู้ว่าปัจจุบันถ้าอยู่ด้วยกันสองคน คู่นี้จะพูดคุยกันยังไง เซจิจะหาเรื่องหยอกจนชูอิจิหลุดโวยวายเหมือนตอนเด็กๆมั้ย แล้วถ้าเป็นแบบนั้นโดยมีนัตซึเมะยืนทำตาแป๋วมองอยู่ มันคงขำสุดๆ
จบการเวิ่นเว้อเพียงเท่านี้