แม่ของจขกท. อายุ 65 ปีไปรู้จักคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทยาแปะฝ่าเท้าดูดสารพิษ ไม่เคยเจอตัวจริง คุยแต่โทรศัพท์กันเท่านั้น อ้างเดือดร้อนขอยืมเงินไปร่วม 30,000.- มีทั้งให้โอนเงิน มีทั้งให้คนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนสนิทเจ้าของบริษัทมาเอาที่บ้าน
นอกจากนี้ยังให้แม่เป็นโยมอุปัฏฐากสำนักสงฆ์(เถื่อนเพราะไม่ได้ขึ้นบัญชีกับกรมศาสนา) ที่เจ้าของบริษัทเคยอุปถัมภ์แต่ตอนหลังจากที่คุยกับแม่หลายเดือนมานี้เกิดอุบัติเหตุเป็นอัมพฤกษ์ ทำให้ดูแลอุปถัมภ์สำนักสงฆ์ที่ว่านี้ไม่ได้ พอถึงเดือนจะมีคนอ้างว่าเป็นมัคทายกโทรมาให้โอนเงินค่าข้าวสารเลี้ยงพระ
จขกท.แยกครอบครัวอยู่คนละบ้านกับแม่ แต่แม่ไม่ได้เล่ารายละเอียดลึกๆ กว่านี้ให้ฟัง บอกว่าอย่าไปเชื่ออะไรมาก แม่ไม่ฟังค่ะเค้าบอกเค้าทำบุญ
ตอนนี้แม่คุยโทรศัพท์กับคนพวกนี้บ่อยมาก ห้ามมากก็ไม่ได้เพราะไม่งั้นแม่จะไม่บอกอะไรเลย
เราควรทำอย่างไรดีคะ เงินที่ให้แม่ใช้จ่ายเรื่องส่วนตัวกลายเป็นไปให้ใครไม่รู้
ขอความกรุณาอย่าตำหนิเราหรือแม่เราเลยนะคะ เครียดมาหลายเดือนแล้วนึกว่าอีกไม่นานมันก็คงเลิกโทรหาแม่เอง แต่ไม่ใช่ค่ะ
เราควรทำอย่างไรถึงแก้ไขได้คะ
และคนพวกนี้ใช่มิจฉาชีพอย่างที่เราสงสัยรึเปล่า
มิจฉาชีพหรือคนมีตัวตนจริงๆ
นอกจากนี้ยังให้แม่เป็นโยมอุปัฏฐากสำนักสงฆ์(เถื่อนเพราะไม่ได้ขึ้นบัญชีกับกรมศาสนา) ที่เจ้าของบริษัทเคยอุปถัมภ์แต่ตอนหลังจากที่คุยกับแม่หลายเดือนมานี้เกิดอุบัติเหตุเป็นอัมพฤกษ์ ทำให้ดูแลอุปถัมภ์สำนักสงฆ์ที่ว่านี้ไม่ได้ พอถึงเดือนจะมีคนอ้างว่าเป็นมัคทายกโทรมาให้โอนเงินค่าข้าวสารเลี้ยงพระ
จขกท.แยกครอบครัวอยู่คนละบ้านกับแม่ แต่แม่ไม่ได้เล่ารายละเอียดลึกๆ กว่านี้ให้ฟัง บอกว่าอย่าไปเชื่ออะไรมาก แม่ไม่ฟังค่ะเค้าบอกเค้าทำบุญ
ตอนนี้แม่คุยโทรศัพท์กับคนพวกนี้บ่อยมาก ห้ามมากก็ไม่ได้เพราะไม่งั้นแม่จะไม่บอกอะไรเลย
เราควรทำอย่างไรดีคะ เงินที่ให้แม่ใช้จ่ายเรื่องส่วนตัวกลายเป็นไปให้ใครไม่รู้
ขอความกรุณาอย่าตำหนิเราหรือแม่เราเลยนะคะ เครียดมาหลายเดือนแล้วนึกว่าอีกไม่นานมันก็คงเลิกโทรหาแม่เอง แต่ไม่ใช่ค่ะ
เราควรทำอย่างไรถึงแก้ไขได้คะ
และคนพวกนี้ใช่มิจฉาชีพอย่างที่เราสงสัยรึเปล่า