เราเลิกคบเพื่อน เพราะเรื่องเงิน

กระทู้คำถาม
เรามีเพื่อนที่เคยสนิทอยู่คนนึงค่ะ  ให้ชื่อว่า E แล้วกันนะคะ เรากับ E คบกันตั้งแต่เราเรียน ม.ปลาย แต่เรียนคนละโรงเรียนกัน E เรียนอยู่เทคนิค รู้จักกันเพราะเล่นกีฬาด้วยกัน ตอน ม.ปลาย ก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไร
   พอเข้ามหาลัย ก็ได้เข้าที่เดียวกัน แต่คนละคณะ ตอนปี 1 เทอม 1 จะมีเรียนตัวเดียวกันหลายตัว เราก็ติวพวกวิชาคำนวณให้  E เพราะ E ไม่ถนัด มีวิชานึงไม่ใช่วิชาคำนวณแต่ปี 1 ต้องเรียนทุกคน   ดังนั้น E ก็เรียนด้วย ก่อนสอบ 1 วัน E ขอยืมหนังสือเราแล้วบอกจะเอามาคืนตอนเย็น (วิชานี้เรายังไม่ได้อ่าน) แต่ E ก็ไม่ได้เอามาคืน อันนี้เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะไม่ใช่วิชาหลัก แล้วเราเข้าเรียนก็พอมีความรู้ไปสอบบ้าง
   มีวันนึง E ก็ได้มาขอยืมเงิน  2,000 โดย E บอกว่าจะเอาไปจ่ายค่าเทอมเพราะที่บ้านโอนให้ไม่พอ (บ้าน E มีปัญหาครอบครัว) เราก็เห็นใจเลยให้ (ตอนนั้นประมาณกลางเดือนมั้ง เราเหลือเงินประมาณ 3,000) E บอกว่าที่บ้านโอนมาแล้วจะคืนนะ เราก็กดเงินแล้วเอาไปให้ที่หอพัก E   ใกล้สิ้นเดือนแล้ว E บอกยังไม่มีคืน เราก็ไม่เป็นไร ช่วงก่อนสิ้นเดือน E สงสารเรามั้งเห็นเราอดอยาก เลยซื้อข้าวผัดหมูมาให้เรากล่องนึง   เรามารู้ทีหลังว่า E ไม่ได้เอาเงินเราไปจ่ายค่าเทอม แต่เอาเงินที่ยืมเรากินเหล้า ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร(แต่ก็แอบเคืองนิดๆ) หลังจากนั้นก็มีแซวเรื่องนี้กับ E บ้าง เรากับ E ก็ขำๆ กัน   หลังจากนั้น E ก็ทยอยคืนเงินครั้งละ 500 บาท 2 เดือนครั้งบ้าง เดือนละครั้งบ้างจนครบ
   หลังจากผ่อนเงินครบหมดแล้ว E ก็มายืมเงินเราบ่อยๆ แต่ยืมไม่เยอะมากครั้งละ 500 เราก็ให้ยืม คืนตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ยืมๆ คืนๆ   มีวันหนึ่งประมาณตี 1 ครึ่ง E โทรมายืมเงิน 1,000 บาท แล้วเราบอกตอนนี้
เรา “ไม่ค่อยมีเงิน”
E “เดือดร้อนจริงๆจะเอาไปจ่ายค่าโปรเจคให้เพื่อน”
เรา “เลยบอกพรุ่งได้ไหม วันนี้เราป่วยลุกไปโอนให้ไม่ไหวจริงๆ” (เราป่วยง่ายมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กไปหาหมอบ่อย จนคุณหมอจำได้)
E “งั้นเดี๋ยวไปเอาที่หอ”
เรา “มันอยู่ใน ATM ไม่มีเงินถึง 1000”
E “งั้นเดี๋ยวเอา ATM ไปกดเอง”
เรา “เออๆ เดี๋ยวให้แฟนโอนให้ละกัน”
หลังจากนั้น E ก็ยืมๆ คืนๆ แบบนี้ (จริงๆ ก็ไม่ได้ยืมบ่อยมากนะ โดยเฉลี่ยก็ 2-3 เดือนยืมทีนึง อาจจะเพราะตอนนี้เรารู้สึกแย่กับ E ไปแล้วเลยรู้สึกว่ามันบ่อยไปนะ)
   พอขึ้นปี 5 เราเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินเนื่องจากไม่อยากขอแม่เท่าเดิมแล้วเพราะความไม่เอาใจใส่การเรียนเลยทำให้จบช้า  (เดิมเราได้ 12, 000) เราก็ขอแม่เดือนละ 5,000 บางเดือนขอก็ให้ถ้าไม่ขอก็ไม่ให้   เราก็เล่าให้ E ฟังว่าตอนนี้เรามีปัญหาเรื่องเงินนะ   E ก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะ E ก็จบช้าเหมือนกับเรา
   เราเริ่มขายของที่จตุจักร วันที่ขนของเข้าร้านเราได้ขอให้ E มาช่วยขนหน่อย ซึ่ง E บอกว่า “ไม่ว่างใกล้สอบแล้ว” เราก็เข้าใจนะตรงนี้ แต่ช่วงที่ขายของจนร้านปิดไป (แฟนอยากให้ปิด เพราะเราทำแล้วให้เวลากับการเรียนไม่เต็มที่เดี๋ยวจะจบช้ากว่าเดิม เราโชคดีตรงที่แฟนคอยช่วยเหลือทุกเรื่อง) Eไม่เคยแวะมาร้านเราเลย มีแต่เพื่อนๆ ที่คบกันตอนมหาลัย กับเพื่อนๆที่ทำงานของแฟน มาช่วยซื้อบ้าง มาเยี่ยมบ้าง
มีอยู่วันนึงเราลืมเอากระเป๋าเงินมา (เราพกมาแต่เหรียญ ไว้ขึ้นรถเมล์) แล้วเราไปปริ้นเล่มโปรเจคไม่มีเงินจ่าย เลยไปขอยืม E แต่ E ไม่ให้ เราก็ไม่ว่าอะไรเลยไปยืมเพื่อนคนอื่นแทน
  หลังจากนั้น  E เรียนจบและได้งานทำแล้ว   แล้ว E ก็ทักมา (มันมาอีกแล้วววววววว)
E “ให้แฟนยิ้มช่วยสอน PLC หน่อยสิ กรูเครียดมาก”
เรา “แฟนไม่ว่าง ต้องไปสอนพิเศษอ้ะดิ”
E “เท่าไร ค่าสอนพิเศษ เดี๋ยวจะจ่ายให้”   จุดเริ่มรู้สึกแย่กับ E มากๆๆ เริ่มจากตรงนี้  
เราเงิบ  สักพัก... “โทษทีนะ แฟนกรูไม่ว่างจริงๆ เข้าใจกูนะ”
E “ไม่เป็นไรละ หาคนสอนได้ละ ค่าสอน 10,000(หรือเท่าไรไม่แน่ใจค่ะ แต่น่าจะประมาณนี้)
เรา “ดีละๆ”    
   หลังจากนั้นไม่นาน E ก็ไลน์มาหา ให้เราโทรหาด่วนเลย ตอนนี้มีเรื่องเดือดร้อนมาก เราบอกพิมพ์ในนี้ได้ไหมเงินมือถือเราจะหมด E ก็บอกเดือดร้อนจริงๆ จากนั้น E ก็ยิงมาประมาณ 2 ครั้ง เราคิดว่าคงมีเรื่องเดือดร้อนจริงๆแหละ (ช่วงนั้นเราช๊อต มีเงินติดตัวไม่กี่บาท แล้วเงินในมือถือเหลือไว้แค่โทรฉุกเฉิน แต่เราก็โทรไปนะ)
E “พอจะมีเงินให้ยืมไหม 1000 นึง กรูต้องเข้าโรงบาล เงินเดือนยังไม่เข้า”
เรา “ไม่มีจริงๆว่ะ กรูมีเงินติดตัวแค่ไม่กี่บาท ตอนนี้กรูเดือดร้อนเรื่องเงินมาก กินมาม่ามาหลายวันแล้ว โทษทีนะ”
แล้วเราก็วางสายไปพร้อมกับเงินมือถือหมด สบ๊ายยย กะจะเก็บไว้โทรฉุกเฉิน โพ่งงงงเหอะ
หลังจากนั้นเราก็ไม่ติดต่อกับ E อีกเลย มีบ้างที่เราโพสเฟซบ่นเรื่อง E (E คงรู้ตัวแล้วเลยไม่ติดต่อเราอีก)   จนวันนี้เราได้ Unfriend เฟซ E ไปแล้ว ลาก่อยยยยย ดวกส์
.
.
เรื่องของเราอาจจเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่น เราก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมรู้สึกแย่กับคนๆนี้ขนาดนี้ เพราะแค่เรื่องเงินแค่นี้ อาจเพราะความรู้สึกด้านลบมันเริ่มสะสมมาเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว    ส่วน E อาจเพราะคิดว่าบ้านเรามีเงินมั้ง (ความจริงไม่ใช่ เราก็เคยบอกแล้วนะบ้านเราก็ไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน)    
ปล.กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราอาจจะพิมพ์แล้วอ่านขัดๆบ้างต้องขออภัยด้วยค่ะ หากผิดพลาดช่วยเตือนด้วยนะคะ คราวหน้าเราจะได้แก้ไขค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่