ที่มาจากกลุ่มข่าว
https://www.facebook.com/set.biznews
อย่าต่อรองกับแนวรับ อย่ามั่นใจกับแนวต้าน
สำหรับคนเล่นหุ้นแล้ว สองอย่างนี้ก็น่าจะสำคัญเลยทีเดียว แนวรับกับแนวต้าน
แนวรับคืออะไร...
คิดง่ายๆ ว่าเราโยนของลงมาแล้วก็มีคนมารับหรือของหล่นลงมากระทบกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น หลังคาบ้าน พื้นดิน หรือ ก้นเหว พูดง่ายๆ คือ ของที่เราโยนลงไปหล่นไปหยุดตรงไหนนั่นคือแนวรับ
แนวต้านก็คือ ของที่เราโยนขึ้นไปแล้วของสิ่งนั้นไปโดนกับบางอย่างแล้วหล่นลงมา เช่น โยนไปแล้ว ติดเพดาน หรือโยนไปแล้ว ไม่ติดอะไรเลยบนท้องฟ้าแต่มันก็ต้องโดนแรงดึงดูดของโลกให้หล่นลงมา
เมื่อหุ้นตก ราคามันจะตกลงมาที่แนวรับ นั่นแปลว่า เมื่อราคามาถึงตรงนั้นคนที่มีหุ้นอยู่ก็ยังไม่ยอมขายออก ทำให้แนวรับนั้นรับไว้ได้ แต่หากเมื่อหุ้นลงมาถึงราคานั้น คนบริเวณนั้นขายหุ้นทิ้งออกไปหมด แนวรับที่ว่าก็จะหลุดไป
แนวต้านก็เช่นกันเมื่อเรามีหุ้นอยู่และหุ้นลงไปเราก็ติดดอย จนวันหนึ่ง หุ้นทำราคาขึ้นมา ใกล้กับราคาที่เราซื้อไว้ เราก็คือแนวต้าน หากหุ้นขึ้นมาถึงที่เราถือ เราขายออกทันที หุ้นก็จะตกไป ไม่ผ่านแถวต้าน แต่หากราคามาถึงแล้วเราไม่ขาย หวังทำกำไรต่อ แบบนี้ราคาก็จะผ่านไปได้ ก็ผ่านแนวต้านได้สำเร็จ
ประเด็นที่สำคัญตอนหุ้นตกนี่ละครับ เมื่อเราขาดทุนเราต้องหยุดการขาดทุนนั้นไว้ ไม่ให้มันลุกลามไปมาก
ซึ่งปรกตินักลงทุนก็มักจะมีแผนอยู่แล้ว แต่เมื่อเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นเรามักจะไม่ปฎิบัติตามแผน และมักจะต่อรองกับแนวรับ เช่น มันลงมานิดเดียว ลงมาอีกช่องละกัน ขออีกนิดนึงแล้วค่อย ขาย ดูสิว่ามันจะลงไปถึงไหน กว่าจะรู้สึกตัวว่าขาดทุนมากแล้วก็ทำใจไม่ได้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
แม้กระทั่งแถวต้าน คนที่ติดดอย เมื่อหุ้นขึ้นมาแล้วก็หวังว่าจะไปต่อและเราจะหลุดดอยแถมจะมีกำไรด้วย ขออีกนิด มันต้องผ่านได้แน่ๆ แต่มันไปไม่ถึง และมันลงต่อก็ดอยต่อไป
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน หากมันผิดพลาดและเรายอมรับตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วรีบแก้ไขก่อนที่เรื่องจะบานปลาย จนแก้ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เราก็ชอบต่อรองอีกเช่นกัน ใช้อารมณ์มาเหนือเหตุผลและเรื่องยุ่งยากขึ้น แก้ไขลำบากขึ้น จนไม่อยากไปแก้และปล่อยไว้ ....
โบราณว่าไว้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ก็น่าจะจริง เริ่มต้นแก้ปัญหาจากเล็กไม่ให้ลุกลามไปใหญ่ มันจะแก้ได้ง่ายขึ้น และจำไว้ว่า อย่าต่อรองกับแนวรับ เป็นอันขาด....ตัดเป็นตัด
ขอบคุณทุกชีวิต
อาจารย์มอร์แกนสอนหุ้น
//อย่าต่อรองกับแนวรับ อย่ามั่นใจกับแนวต้าน//
อย่าต่อรองกับแนวรับ อย่ามั่นใจกับแนวต้าน
สำหรับคนเล่นหุ้นแล้ว สองอย่างนี้ก็น่าจะสำคัญเลยทีเดียว แนวรับกับแนวต้าน
แนวรับคืออะไร...
คิดง่ายๆ ว่าเราโยนของลงมาแล้วก็มีคนมารับหรือของหล่นลงมากระทบกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น หลังคาบ้าน พื้นดิน หรือ ก้นเหว พูดง่ายๆ คือ ของที่เราโยนลงไปหล่นไปหยุดตรงไหนนั่นคือแนวรับ
แนวต้านก็คือ ของที่เราโยนขึ้นไปแล้วของสิ่งนั้นไปโดนกับบางอย่างแล้วหล่นลงมา เช่น โยนไปแล้ว ติดเพดาน หรือโยนไปแล้ว ไม่ติดอะไรเลยบนท้องฟ้าแต่มันก็ต้องโดนแรงดึงดูดของโลกให้หล่นลงมา
เมื่อหุ้นตก ราคามันจะตกลงมาที่แนวรับ นั่นแปลว่า เมื่อราคามาถึงตรงนั้นคนที่มีหุ้นอยู่ก็ยังไม่ยอมขายออก ทำให้แนวรับนั้นรับไว้ได้ แต่หากเมื่อหุ้นลงมาถึงราคานั้น คนบริเวณนั้นขายหุ้นทิ้งออกไปหมด แนวรับที่ว่าก็จะหลุดไป
แนวต้านก็เช่นกันเมื่อเรามีหุ้นอยู่และหุ้นลงไปเราก็ติดดอย จนวันหนึ่ง หุ้นทำราคาขึ้นมา ใกล้กับราคาที่เราซื้อไว้ เราก็คือแนวต้าน หากหุ้นขึ้นมาถึงที่เราถือ เราขายออกทันที หุ้นก็จะตกไป ไม่ผ่านแถวต้าน แต่หากราคามาถึงแล้วเราไม่ขาย หวังทำกำไรต่อ แบบนี้ราคาก็จะผ่านไปได้ ก็ผ่านแนวต้านได้สำเร็จ
ประเด็นที่สำคัญตอนหุ้นตกนี่ละครับ เมื่อเราขาดทุนเราต้องหยุดการขาดทุนนั้นไว้ ไม่ให้มันลุกลามไปมาก
ซึ่งปรกตินักลงทุนก็มักจะมีแผนอยู่แล้ว แต่เมื่อเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นเรามักจะไม่ปฎิบัติตามแผน และมักจะต่อรองกับแนวรับ เช่น มันลงมานิดเดียว ลงมาอีกช่องละกัน ขออีกนิดนึงแล้วค่อย ขาย ดูสิว่ามันจะลงไปถึงไหน กว่าจะรู้สึกตัวว่าขาดทุนมากแล้วก็ทำใจไม่ได้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
แม้กระทั่งแถวต้าน คนที่ติดดอย เมื่อหุ้นขึ้นมาแล้วก็หวังว่าจะไปต่อและเราจะหลุดดอยแถมจะมีกำไรด้วย ขออีกนิด มันต้องผ่านได้แน่ๆ แต่มันไปไม่ถึง และมันลงต่อก็ดอยต่อไป
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน หากมันผิดพลาดและเรายอมรับตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วรีบแก้ไขก่อนที่เรื่องจะบานปลาย จนแก้ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เราก็ชอบต่อรองอีกเช่นกัน ใช้อารมณ์มาเหนือเหตุผลและเรื่องยุ่งยากขึ้น แก้ไขลำบากขึ้น จนไม่อยากไปแก้และปล่อยไว้ ....
โบราณว่าไว้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ก็น่าจะจริง เริ่มต้นแก้ปัญหาจากเล็กไม่ให้ลุกลามไปใหญ่ มันจะแก้ได้ง่ายขึ้น และจำไว้ว่า อย่าต่อรองกับแนวรับ เป็นอันขาด....ตัดเป็นตัด
ขอบคุณทุกชีวิต
อาจารย์มอร์แกนสอนหุ้น