ื ทริป"กินแหลก"ตัวแตก IN UK !!! (14 วันเต็ม 400 กว่ารูป)

กระทู้สนทนา

กลับมาอีกครั้งกับกินแหลกในต่างแดน ครั้งนี้เรามากินแหลกกันที่ UK เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็ม 2อาทิตย์เต็มๆ กินจนตัวแตกกลับมาไดเอตรัวๆ ใครติดตาม ig เราจะรู้ว่ากินเยอะขนาดไหน หรือใครยังไม่ติดตามเข้าไป follow กันได้ช่วงนี้กลับมาไทยแล้วตามกันไปทานได้ง่ายขึ้น

กินแหลก IG: @KINLAG
และท่องเที่ยว IG: @Y.travel

วันแรกของการเดินทาง ทริปกินแหลกตัวแตก in UK
ถึงสนามบินช่วงกลางคืนเดินทางไป UK โดยสายการบิน Emirate แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ ยังไม่ทันได้ได้ประเดิมของกินเลย ร้านแรกชื่อว่า shake shack burger หลายคนอาจจะรู้จักกันดี เรียกได้ว่ากินบนเครื่องแล้วแต่อยากกินอีก กินด้วยความอยากล้วนๆไม่มีความหิวมาเกี่ยวข้อง สั่ง shack burger + veal bacon (10 ปอนด์) เป็นเนื้อวัวชุ่มฉ่ำรสชาติโอเคเลย

หลังจากนั้นเดินทางต่อถึง UK ลงที่สนามบิน Heathrow ไม่ทันไรกินอีกแล้วที่สนามบินเลย แวะเข้าร้าน EAT เป็นร้านที่มีอยู่ทั่วไปใน UK เลยหาง่ายมากๆมีแทบทุกเมือง ออกแนวสุขภาพหน่อย คราวนี้หิวจัดไปหลายเมนู เมนูแรกเป็น Four berries almond smoothie (3.15 ปอนด์) , Banana Honey Yogurt (2.15 ปอนด์), Thai Rare Beef & Glass Noodle (4.95 ปอนด์) และ British Back Bacon & Poached Egg (3.65 ปอนด์) รวมค่าเสียหายมื้อนี้ 13.90 ปอนด์

เมนูแนะนำ Thai Rare Beef & Glass Noodle

จากนั้นเราได้เครื่องต่อไป Edinburgh เพื่อเที่ยวไล่ลงมาเริ่มจากทางเหนือในประเทศ Scotland เมืองที่ J.K. Rolling ได้แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่อง Harry Potter ขึ้นมา เมื่อเก็บข้าวของเสร็จแล้วเราได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่เรียนที่นั่นเลยว่าร้านนี้ต้องลอง ชื่อ On The Roll เป็นร้าน pop-up เล็กๆที่รสชาติไม่เล็ก ผมสั่ง Jumbo Bratwurst (5.00 ปอนด์) รสชาติดีมากๆ ไส้กรอกหนังกรอบเด้ง ด้านในเนื้อนุ่ม พูดแล้วอยากกินอีก คือดีมากครับมาต้องกินเลย

เมนูแนะนำ Jumbo Bratwurst (5.00 ปอนด์)

ระหว่างทางก็มีร้านรถเข็นอีกครับ ร้านนี้เป็นร้านกาแฟครับ

วันนี้เพื่อนของพี่พาเที่ยวเลยครับแนะนำร้านเด็ดๆ ร้านดีๆ ใน Edinburgh ที่เขาฮิตๆกัน ต่อด้วยร้าน The Baked Potato Shop ร้านนี้ขายแต่ Baked Potato ตามชื่อร้านเลย

เลือกเองว่าจะสั่งเครื่องอะไรบ้างมีให้เลือกเพียบจริงๆ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะใส่อะไรบ้าง ผมสั่ง Potato+Avocado+Egg (5.40 ปอนด์) ที่เล็กมาแต่แบบว่ามันใหญ่เกินที่คิดจริงๆ กินไม่หมดขนาดช่วยๆกันกิน กลัวกินอย่างอื่นต่อไม่ได้ เสียดายที่เครื่องที่ใส่นั้นทางร้านไม่อุ่น ถามร้านเขาบอกกินกันแบบนี้ กินกันแบบนี้ก็ได้ครับ 555 รสชาติโอเคแต่ถ้าร้อนทั่วๆทั้งหมดน่าจะอร่อยได้มากกว่านี้ ร้านนี้คนนิยมสั่งกลับบ้านครับ จะเห็นคนเดินเข้ามาสั่งบ่อยๆ สรุปร้านนี้ยังเฉยๆครับ

หลังจากนั้นเราไปร้านไอศกรีมที่คนนิยมชอบมา ร้านชื่อ Mary’s Milk Bar ร้านน่ารักครับเล็กๆ ที่สำคัญของร้านนี้มองเห็นปราสาท Edinburgh เลยทีเดียวคนชอบสั่งกาแฟหรือไอติมแล้วถ่ายด้านหลังเป็นฉากปราสาท สวยฟุดๆ ผมก็ทำ 5555

เราสั่ง Gelato (2.00 ปอนด์) ไอติมที่นี่เนื้อเรียนอร่อย ติดหวานนิดหน่อย แนะนำรสนมทำได้ดีเลยครับ ส่วนกาแฟต้องนี่เลย mocca (3.00 ปอนด์) มอคค่าที่นี่ไม่ธรรมดามีให้เลือกว่าจะผสมช็อคโกแลตอะไร ผมเลือก white choc and cardamon อร่อยกลมกล่อมมากๆ ต้องมาลอง

เมนูแนะนำ mocca (3.00 ปอนด์)

ตอนเย็นของคนที่นี่ชอบกินเบียร์มากๆครับไม่ว่าจะไปทางไหนร้านที่มีเบียร์คือเต็มหมด ถึงที่นี่จะมืดเวลาประมาณ 4 ทุ่มแต่คนที่นี่นั่งกินเบียร์กันไม่สนใจเวลาและแสงพระอาทิตย์ครับ เริ่มกินเบียร์กันประมาณ 5 โมงเย็น ร้านที่เราไปคือร้าน The Metre Bar สั่งไปหลายเมนูด้วยกันได้แก่ Haggis, neeps and talties (4.95ปอนด์) เป็นอาหารท้องถิ่นของ Scotland เลย เป็นเครื่องในแกะผสมกับเครื่องเทศรสชาติโอเคครับแต่ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่แต่ใครมาถึงแล้วก็แนะนำให้มาลองดูสักครั้ง

Tennent lager beer เบียร์ของ tennent รสชาติดีครับ ผมชอบเป็นการส่วนตัวเลยเบียร์นี้

Premium line-caught cod fillets & chips (11.95ปอนด์) ฟิชแอนด์ชิปเป็นอาหารของคน uk เลยเหมือนกันไปเมืองไหนก็มีขายครับ

Chicken and mushroom (9.95 ปอนด์)

Gloucester old spot sausages (9.95 ปอนด์) ออกมาไหม้ไปและแห้งครับถือว่าไม่แนะนำครับเมนูนี้ไม่ค่อยโอเค

วันที่ 2 ทริปกินแหลกตัวแตก in UK
ช่วงเช้าขึ้นไป hike ที่ Arthur’s Seat มาครับวิวสวยมากๆ นี่เลย

หลังจากนั้นฝนตกรีบวิ่งลงมาเลยตัวเปียกปอนไปหมด ไปกินร้าน Rhubarb restaurant ใน Prestonfield ร้านหรูเลยครับร้านนี้ ตกแต่งอย่างดี

เริ่มต้นด้วยขนมปังทาเนยครับ ฮ่าๆๆๆ

ต่อจากนั้นเป็น appetizer เป็น Lamb (15.00 ปอนด์)

และ main course ต่างๆครับ Verison (35.00 ปอนด์), Turbot (31.00 ปอนด์), Sirlion Steak (40.00 ปอนด์)

ตบท้ายด้วยของหวานคือ Rhubarb (10.95 ปอนด์), Strawberry (9.95 ปอนด์)

โดยสรุปร้านนี้ราคาถือว่าแพงเลยครับ แต่อาหารทำออกมาได้ดีเกือบทุกอย่าง บรรยากาศดีครับ ใครมีงบก็แนะนำให้มาเลย

หลังไป prestonfield เราก็ไป Victoria street ถ่ายรูปสวยๆมาฝากครับ

บนถนนเส้นนี้มีร้าน OINK ตั้งอยู่เป็นร้านสีดำโลโก้ชมพูเล็กๆด้านขวา หันหน้าเข้าร้านจะเห็นหมูที่ทำการฉีกไว้เยอะมากครับ

เลยลองจัดสะหน่อย สั่งไซส์ปกติไปชื่อ Oink (3.95ปอนด์) รสชาติยังเฉยๆครับผม ยังไม่แนะนำว่าต้องมากินครับ

หลังจากเราเดินเล่นถ่ายนุ่นถ่ายนี่ ดูนุ่นดูนี่ก็หาของกินอีก ร้านนี้ชื่อ Dubh prais เป็นร้านที่ผมจองไว้เมื่อวานเนื่องจากสอบถามเมื่อวานแล้วเต็มเลยจองกินวันนี้สะเลย

เมนูทั้งหมดได้แก่ Lemon Sole (17.50ปอนด์), Melrose Lamb (18.90ปอนด์), Breast Of Grampian Chicken (16.75ปอนด์), haggis (6.95ปอนด์)

สรุปร้านนี้ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ครับ อาจจะติดที่ว่าร้านนี้ทำออกมาจืดๆมันๆอาจจะเป็นที่สไตล์ที่อร่อยของที่นี่เป็นแบบนี้ก็เป็นได้ 5555 แต่ผมไม่ชอบครับ

วันที่ 3 ทริปกินแหลกตัวแตก in UK
วันนี้นั่งรถบัส city Link ไป glassgow ครับไปถึงกินร้าน Bread Meat Bread อยู่ถนน St Vincent เป็นร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังของเมืองนี้เลย แต่ละเมนูคืออลัง ถูกใจกินแหลกสุดๆ ไม่เชื่อลองไปทานดู

เมนูแรกเป็น Caramelized Sweet Fried (3.50 ปอนด์) เหมือนเฟรนฟรายช์เลยแต่มันใช้มันหวานเอามาทอด ดีมากเมนูนี้ข้างนอกกรอบและหวาน ข้างในนุ่มและหวานมันหวานมาก กินเป็นขนมได้เลย หมดอย่างไวเลยครับจานนี้

The Wolf (10 ปอนด์) เป็นเมนู signature ของร้านนี้เลย ข้างบนจะมีหมูฉีก เนื้อ เบคอน จุใจจริงๆ

เมนูต่อไปเป็น Cali Burger 4 X 4 (10.50 ปอนด์)เป็น California Signature มาแบบจัดเต็ม เนื้อ 4 ชิ้น ชีส 4 ชั้นชอบมากเลยอันนี้ เนื้อสุกกำลังดี ชิ้นใหญ่ผมงับแทบไม่ไหว ตัวนี้โดนเลย

กัดให้ดูอีกทีว่าชิ้นมันเต็มปากเต็มคำขนาดไหน

สรุปร้านนี้ต้องกินแหลกแน่นอนครับ
เมนูแนะนำ Cali Burger 4 X 4 (10.50 ปอนด์), Caramelized Sweet Fried (3.50 ปอนด์)

ยังอยู่กันที่ glassgow ด้วยร้านอาหารจีน Loon Fung ร้านใหญ่พอควรเข้าไปคนจีนนี่อย่างเยอะเลย อาหารที่นี่อร่อยเกือบทุกอย่างเรียกได้ว่าไม่มีจากไหนที่ไม่โอเค