เริ่มด้วย Msn เเละ จบที่ Facebook

เรื่องมันเริ่มมากจาก msn เราทั้งสองได้คุยเเล้วได้รู้จักกันผ่านโปรแกรมนี้เมื่อหลายปีมาเเล้ว
เราทั้งสองเรียนอยู่โรงเรียนใกล้ๆกัน จึงได้มีโอกาสไปเจอกันเป็นเรื่องเป็นราว
เเต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เราคบกันจริงจัง เพราะเค้านั้น มุ่งที่จะเรียนอย่างเดียว
ส่วนตัวเราก็ต้องการเวลาจากเขาเยอะมาก เเละ จากการไม่มีเวลาให้ ทำให้เราไม่เข้าใจกัน

แล้วเราสองคนก็จากกันไปเเต่ไม่ได้ทิ้งความเจ็บปวดเอาไว้ ต่างคนต่างห่างหายกันไป
ได้มารู้อีกทีก็ตอนได้กลับมาติดต่อกันอีกครั้ง จึงได้ทำให้รู้ว่าเค้านั้นได้ไปฝึกงานอยุ่ที่ จ.ใกล้ๆ นี่เอง
เเต่ก็เหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดีแต่สุดท้ายก็ เดิมๆ อะไรๆก็ไม่มีเวลาให้
เราเองก็ยิ่งเป็นคนที่ หึงบ้าง ก็ได้เห็นรูปเค้าคู่กับคนอื่น มันก็ทำให้เราทะเลากัน จนเลิกรากันไป

ล่าสุด เราได้มาเจอกัน เมื่อ ประมาณวันที่ 14 ก.ค. 57 ปีที่เเล้ว มันเป็นยิ่งกว่าฝัน
เพราะว่าสิ่งที่เราทำกับเขาไว้นั้นมันเป็นอะไรที่ไม่ควร เธอเองนั้นควรจะเกลียดเรา
ด้วยซ้ำ เเต่เพราะ อะไรก็ช่าง วันนั้นเธอได้โทรมาหาเราในวันที่เรากำลังทำงาน
สุดเเสนจะเหน็ดเหนื่อย มันได้ทำให้เรากลับรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ของเธอ

" หวัดดีครับบบ "
" หวัดดีค่ะะ "
" ใครครับ ? "
" จำได้ไหม เติ้ล เอง "
" อ่อออ ว่า ไง สบายดีไหม "
" มารับหาน่อยที่ บขส. จะพาไปเลี้ยงข้าว "
" ได้ รอหน่อยนะ งานยังไม่เสร็จ เลย ไม่เกินครึ่งชั่วโมง "
" ค่ะะะ "
.........................


มันเป็นวันที่รู้สึกมีความสุขเอามากๆ เเม้จะไม่มีอะไรก็ตาม เเค่ ปีกว่าเเล้วที่ไม่ได้เจอกัน เเต่ได้กลับมากินข้าวด้วยกัน
นั้นเป็นจุด เริ่มต้น ของ 1 ปี ที่เเสนเจ็บปวด ที่สุดเเสนจะทุกข์ทรมาร " ถึงเเม้วันนี้ จะเลิกกันไป เเต่ในใจ ก็ยังจดจำ "


ระหว่าโต๊ะกินข้าวในมื้อนั้น ได้ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ ที่เราไม่ได้เจอกันเป็นปี ไม่ได้เเม้พูดคุยผ่านช่องทางต่างๆ
มันทำให้หัวใจอิ่มเอม เปรมปรี มีความสุขมากกว่า ยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ยิ่งกว่าสิ่งที่เคยฝันไว้ ทำไมเธอยังอยากที่จะเจอหน้ากัน
ทั้งๆ ที่ เธอเองนั้นก็มีโอกาสที่จะเจอคนอื่นๆ ที่ดีกว่าเราอีกมากมาย มันก็เป็นคำถามตั้งเเต่นั้นมา เรากินข้าวกันเสร็จ
ก็ขับรถกลับไปส่งที่หอ เราถามว่า เรากลับมาคบกันได้ไหม เธอเองก็บอกว่าได้ สิ   เเค่นั้นเเหละ หัวใจมันเเทบจะพุ่งออกมา

หลังจากที่เธอนั้นได้ไปฝึกงาน เสร็จ กลายเป็นว่าเธอเรียนจบเเละได้กลับมาทำงานในจังหวัดเดียวกัน มันทำให้เรานั้นมีความหวัง
เอามาก เพราะว่านี่ " อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ ดูเเละเธอคนนั้น ถ้าเป็นไปได้ อยากจะดูแลเธอตลอดไป "

เราไปกินข้าวด้วยกันในตอนเย็นบ่อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกวันเลยก็ได้ เเต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง
เมื่อเราเริ่มทำงานทั้งคู่ มันทำให้เรามีเวลาให้กันน้องลงก็จริงๆ เเต่มันก็อยู่ที่เราต้องปรบตัวเพื่อเขาด้วย เราเองพยามที่จะ
ไม่โทรไปหาบ่อย หรือ โทรตื้อ เเละจะพยามไม่ โทรทุกเวลา เราพยามปรับตัวเอง เพื่อเธอให้เราได้อยู่ด้วยกันให้นานมากกว่า
ครั้งที่ผ่านๆมา อะไรก็เเล้วเเต่ ที่ได้เรียนรู้จากการเลิกลากันในครั้งก่อนนั้น เราเอามาปรับตัวเองก็เพื่อเธอเท่านั้น เราอารมณ์ร้อน ใจร้อน
ก็พยามที่จะไม่ทำอะไรบู่บ่าม พยามใจเย็นลง ไม่อยากให้เราต้องทะเลาะกัน เราเบื่อที่จะต้องมานั่ง นับ 1 ใหม่  " เราอยากจบ "


" พร่ำบอก พร่ำเพ้อ บอกว่า รักเธอ เสมอมา......เเต่วันนี้ที่ผ่านมานั้น มันเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด "


สุดสัปดาห์จะได้ขับรถไปส่งที่ สิงห์บุรี เพื่อเธอจะได้ต่อรถกลับบ้าน ซึ่งมันทำให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน
" ถึงเเม้ระยะทางจะเเค่ไม่กี่กิโล เเต่ขอแค่ได้อยู่ข้างกันก็พอ " มันทำให้เรามีกำลังใจ ทำให่เรามีความสุข
ไปส่งประจำเป็นแบบนี้นานอยุ่เหมือนกัน เเต่ทำไงได้ละ ใจมันรักคนนี้นี่ อะไรทุกอย่างถ้าทำได้ก็จะทำ
ถ้ามันทำให้เธอนั้นได้มีความสุข ต่อให้เหนื่อยเเค่ไหนเราก็จะต้องทำให้ได้ มันเป็นเเรงผลักดันเราเสมอมา

เราก็คบกันเหมือนคนทั่วไป มาได้สักระยะเราก็ได้ชวนเธอนั้นมากินข้าวที่บ้านบ้าง เพราะเราเองก็ยไม่เคยพา
เเฟนคนไหนมาเจอพ่อเเม่เราเลย เรารู้สึกยินดีเเละไว้ใจผู้หญิงคนนี้มากที่สุดว่าจะไม่มีวันที่จะทำให้เราเสียใจ
เราเลยได้ตัดสินใจพาไปกินข้าวที่บ้าน วันนั้นเราจำไม่ได้หรอกว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ เเค่จำได้ว่าเป็นช่วงงาน ฤดูหนาว
ของลพบุรี วันนี้เป็นวันที่ดีเอามากๆ ในทุกๆอย่าง เป็นวันเเรกที่เราพาคนที่เรารักนั้นได้ไปเจอพ่อเเม่เรา เป็นวันเเรกที่
เราลงทุนรับงานได้งานได้เงินจากลูกค้าคนเเรกของเรา มันเป็นอะไรที่สุขใจเอามากๆ เราซื้อกับข้าวไปนั่งกินกันที่บ้าน
พอกินเสร็จเราก็ได้ไปเที่ยว งานฤดูหนาวกันต่อ ได้ขับรถบั๊ม ระบายอารมณ์ใส่กันบ้างเราเองไม่อยากเล่นหรอก เเต่โดนบังคับ

" เป็นค่ำคืนที่มีความสุขที่สุด ถึงเเม้จะเป็นเเค่ช่วงเวลาสั้น เเค่ขอให้เราได้อยู่ข้างๆกัน เวลาสั้นๆมันก็มีความหมายมากมาย"
เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเอามากๆ ทุกๆ อย่างดีไปหมด ความรักความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน มันทำให้เรามีกำลังใจก้าวต่อไป
เราได้คบกันอยุ่ด้วยกัน ก็เป็นลูปประมาณนี้ วนๆไปมา กินข้าวบ้าง เที่ยวบ้าง เปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง
เราเคยคิดว่าเราสองคนจะจบด้วยกัน เเต่เรานั่นเเหละที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเรากำลังคิดไxเองคนเดียว

วันที่เธอได้พาไปเจอเเม่เธอ มันเป็นวันที่เรามีความสุขมากๆ ในชีวิต เราไม่เคยคิดว่าจะมีผู้หญิงคนนึงที่ " รู้สึกดี " กับเราขนาดนี้
ไว้ใจเราให้เราได้ไปเจอพ่อเเม่ เเต่น่าเสียดายที่เป็นเวลาเเค่ไม่กี่นาทีที่ได้เจอ เพราะว่ามันดึกเเล้ว เนื่องจากเรานั้นได้ไปส่งเธอ
ประจำตามสุดสัปดาห์เเค่คราวน้มันไม่ใช่ที่ สิงห์บุรี เเต่มันเป็นชัยนาท บ้านของเธอ เป็นระยะทางที่ไกลพอสมควรเราก็เป็นห่วง
เนื่องจากวันนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นวันที่เธอเลิกงานค่ำกว่าวันปกตินิดหน่อย จึงทำให้กลับบ้านช้า เราเลยอาสาไปส่งถึงบ้านเลย....

หลังจากนั้นเราได้ไปส่งเธอที่บ้านอยู่เรื่อยๆ เเทบประจำเลยก็ว่าได้ เเรกๆก็ได้ไปส่งถึงหน้าบ้านหรอก เเต่หลังๆให้ส่งเเค่ใกล้ๆ
ก็พอ เราเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากเนื่องจากเราไม่อยากที่จะทะเลาะกับเขา อยากให้มันผ่านไปด้วยดีราบรื่น พยามดูเเลเธอให้ดีที่สุด
เท่าที่จะทำได้ เพราะเวลาที่มีเขาอยู่ข้างๆ หากวันนี้ไม่มีเขาให้เราดูเเล จะมานึกเสียใจภายหลัง

วันนี้เราเองก็ได้ไปส่งเธออีกเช่นเคยเเต่มันเป็นวันที่เเย่เอามากๆ เพราะวันนี้เราทำให้เธอโกรธ ซึ่งการโกรธของเธอนั้น
มันเป็นอะไรที่น่ากลัวเอามากๆ เธอจะไม่พูดไม่คุย เราเองก็ไม่รู้ว่าเธอทำได้ไง อดทนไปพูดไม่คุยไม่ฟังได้ยังไง
เรื่องมันก็แบบว่า เราได้ไปรับเธอเพื่อที่จะได้ไปส่งที่บ้านตามปกติ เเต่เห็นว่าวันนี้อารมณ์ดี ก็เลยชวนกินข้าว
เธอก็ตอบกกลับมาว่า ไม่กิน เราเองก็พูดตามอารมณ์ขำๆไปว่า ก็ดี ไม่เปลือง เท่านั้นเเหละ เเม้จะเป็นอะไรที่เรามองว่าเล็กน้อย
เเต่ก็เป็นเพราะเราเองที่ใส่ใจเธอไม่มากพอ เห็นเป็นเรื่องเล่นไปหมด หลังจากนั้นเธอเองก็อาการอย่างที่บอกไม่พูด
ไม่คุย ไม่รับโทรศัพท์ เป็นเวลา 4 วันด้วยกัน มันเป็นเวลาที่ยาวนานเเละทรมารมาก เพราะเธออาจจะทิ้งเราก็ได้
เเต่สุดท้ายเราก็ขอโทษเเละปรับความเข้าใจกันได้   " มันเหนื่อยนะที่จะเอาใจใครสักคน เเต่ ไม่ต้องการอะไรหรอกเเค่ได้ใจกลับมาบ้างก็พอ "


มันก็เป็นเรื่องของงานที่ทำให้เราห่างกันมากขึ้น ไม่ได้เจอกันมากขึ้น มีเเค่วันที่ได้ไปส่งที่ได้มีโอกาสเจอกันบ้าง
จากนั้นมันก็เริ่มห่างกันไปมากเรื่อยเเต่ใจของเราเองก็ไม่ได้หวั่นไหว หรือ เปลี่ยนใจไปจากเธอเลย เราต้องการความมั่นคง
เเละเราก็ห่างแบบนี้อยุ่หลายเดือนด้วยกัน เเต่เราก็ยังกินข้างบ้าง ช่วยงานบ้าง เเต่มันก็เเค่นานๆ ที

วันที่เราเห็นอะไรแปลกๆในคอมเม้นเฟสบุ๊ค มันมีผู้ชายเข้ามาเม้นว่า " คิดถึง "  พอกดเข้าไปดูน้ำตาเเทบไหล เห็นเธอกับเขา
ถ่ายรูปคู่กันมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เพราะเราเองยังไม่เคยเเม้เเต่จะใกล้ชิดกันมากขนาดนั้น เรานี่ใจสลายเลยเมื่อเห็นแบบนั้น
เเต่ก็พยามไม่ฟุ้งซ่าน ไม่อะไรมากมาย รอถามเธอว่ามันเรื่องอะไรกัน เเน่ พอได้ถามเธอเองก็ได้ตอบว่าเป็นเพื่อนกัน ถ่ายรูปกันเฉยๆ
เพื่อผู้ชายทะเลาะกันแฟน เลยอยากได้รู้นี้ไปให้เเฟน หึงหวง ว่างั้น เราเองก็ไม่ปักใจเชื่อหรอก เพราะภาพเบื้องหลังอันนั้น มัน
เป็นมอเตอร์ไวค์ของเธอเเละ หอที่เธอพักอยู่

เราเองได้ใช้เฟสบุ๊คของเพื่อนเพื่อที่จะไปแอดผู้ชาย
พอได้รับแอดเท่านั้นเเหละ " น้ำตาไหลมาเป็นทางเลย "

มันมีเเต่รูปคู่เเม้กระทั่งผมเองก็ยังไม่เคยได้ถ่าย
มันจุก..........................................พูดไม่ออก
ได้เเต่ร้องไห้ โทรไป 20-30 สาย กว่าจะรับได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ก็ได้เเต่บอกกับเราว่า มันจะไม่มีแบบนี้อีก จะไม่มีรูปแบบนี้อีก
มันเป็นอะไรที่เชื่อไม่ได้ รับไม่ได้ ทำไมไม่จริงใจกันเลย
ที่ผ่านมาคืออะไร ไม่ได้รักกันเลยใช่ไหม
ปากบอกยังไม่พร้อมที่จะลงหลักกับใคร
เเต่ทำแบบนี้นี่ยังไม่พร้อมอีกใช่ไหม
คำถามต่างๆ มันวิ่งเข้ามาในหัวมากมาย
ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่รองไห้ฟูมฟาย
เจ็บที่สุดคือใจทำไมต้องโดนหักหลัง

ยอมนอนร้องไห้ทั้งคืนไม่ทำอะไรกระทั่งเช้า
เป็นวันจันทร์ หลังวันเเม่ ที่รู้สึกว่าความรักมันเจ็บ
ไม่มีอะไรน่าเบื่อเท่าวันจันทร์แต่วันนี้มันยิ้งกว่า

เค้าเองก็ยังโทรมาหาเหมือนมาปลอบเรา
เราเองรับไม่ได้ ที่ทำด้วยใจให้ขนาดนั้น
ทำไมเรากลับไม่ได้เเม้กระทั่งเศษของหัวใจ
หรือคนมันไม่รักอยู่เเล้วเเค่เล่นๆกับเราไป
นี่หรือใจคนมันช่างน่ากลัวกว่าทุกๆสิ่ง

เวลาที่เค้าโทรมา มันไม่ได้อยากคุยนะ
" ถ้าไม่เข้มเเข็ง จะไม่คุยด้วยนะ "


รู้ไหมคำนี้มันมีความหมายว่าไง
ลืมไปเเล้วหรอ ใครทำเราอ่อนเเอ
ใครทำเราเจ็บเสียใจ บอกเราอย่าร้องไห้
มาบอกให้เราเข้มเเข็งในวันที่ทิ้งเราไป
มีความสุขกับเขาคนนั้น
ถ้ามีคนอื่นอยู่เเล้วทำไม
คบกับเราเพื่ออะไร
สะใจ หรือ สนุก
มันทำให้เรานึกถึงคำๆนึง
Told me not to cry when you were gone เพลงของ Sam smith lay me down

มันทำให้เราร้องไห้หนักมากขึ้น
หมดกำลังใจที่จะก้าวต่อไป
งานที่เรารับไว้ ก็หมดเเรงทำ
ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ เเบบนั้น
เราเหนื่อย เราไม่อยากได้ยิน
ไม่อยากเจอ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
มันเป็นวันที่เลวร้ายมากที่สุดของชีวิต
อีกวันนึงเลยก็ว่าได้ เราไม่อยากทำอะไร

ได้เเต่ถามตัวเองว่าเราไม่ดีพอ
หรือเรารักเค้ามากไป
เเละเรารักเค้าคนเดียว


สุดท้ายถึงเเม้เราจะเลิกกันไปเพราะอะไรก็ช่าง
เราโกรธนะ มาก ที่สุด ช่วงนี้เราอ่อนแอมาก
ทั้งกายทั้งใจ ทำอะไรไม่ได้ กินน้อยกว่าเก่า
เเต่เราหวังว่าเราจะผ่านไปได้

ความฝันที่เคยวาดมาสุดท้ายก็ต้องมาพังลงอย่างไม่มีชิ้นดี
เพราะอะไร เราเองก็ไม่อยากรู้อีกต่อไป เเต่เราดีใจที่รู้ไว

อย่างน้อย เวลา ที่ผ่านมา ถึงเเม้เธอจะไม่รักเราก็ตามเเค่เราได้กลับมารักเธอมันก็คือที่สุดเเล้ว
เราขอบคุณที่สอนเราในหลายๆเรื่อง เรามีความสุขที่ได้ใช้เวลาด้วยกัน ได้อยู่ด้วยกัน


ถึงเเม้จะเป็นได้เเค่นี้ เเต่เราจะไม่ลืมเลย ว่าเราเคยรักเธอมากเเค่ไหน

เขาเคยพูดกับแกไว้ " จ๊อตรักเติ้ลนะ จะรักตลอดไปอยากดูและอยากอยู่ข้างๆ "
คำพูดนี้มันมีความหมายมากเเละมันมาจากใจล้วนๆ มันเป็นความจริงจากใจเรา

เรารักเธอนะ เเต่เราไม่อยากกลับไปอีกเเล้ว

มันเจ็บเกินก้าวต่อไป ขอถอยหลังออกมาเองดีกว่า


สุดท้ายนี้อยากให้เธอได้อ่าน

ดูเเลกันดีๆนะ รักกันนนานๆ ยินดีด้วยกับความรักของเเก
เขาจะออกไปเอง ขอบคุณทุกๆอย่าง มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
เขารักเเก นะ ถึงเเม้จะไม่มีเเกเเล้วก็ตาม


..................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่