ชวนคนไทยมาร่วมบริจาคโลหิตช่วยผู้ประสบภัยระเบิดกลางเมือง

จากกรณีเหตุการณ์ที่ราชประสงค์
บอกตรงๆว่ามีความหวั่นใจไม่น้อยกับการเดินทางค่ะ
และพยายามหลีกเลี่ยงในจุดที่คิดว่ายังเป็นจุดเสี่ยง
แต่ก็ติดตามสถานการณ์อย่างเกาะติดใกล้ชิด
ผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิรค์ตลอด

โดยเราในฐานะ ประชาชนคนหนึ่งที่มีความรู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างจากคนไทยคนอื่น ขอแสดงความรู้สึกเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและมองว่าเหตุการณ์นี้
ทำให้เห็นว่าแม้เหตุการณ์รุนแรงไม่คาดฝันนี้จะถาโถมเท่าไร
ก็ยังเห็นถึงน้ำใจของคนไทย ความมีจิตอาสาเสมอ
ทั้งกลุ่มล่ามอาสาจีน ภาษาญี่ปุ่น ที่เข้าช่วยประสานงานกับผู้ประสบภัยต่างชาติ
และหน่วยแพทย์อาสา ตลอดจนการหยิบยื่นน้ำใจต่อผู้ปฎิบัติงานทั้งน้ำดื่ม และความห่วงใย

มองเห็นแบบนี้แล้ว ในขณะที่เรากลัวไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ราชประสงค์ หรือ พื้นที่อื่นๆ หรือ แม้กระทั่งจะเดินทางสัญจร ณ ตอนนี้ ยังพยายามหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชน หรือ จุดเสี่ยงต่างๆ

แต่ทว่าเราก็ยังอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงน้ำใจ ของความช่วยเหลือ แสดงถึงความเป็นไทยหัวใจอาสาที่แม้ว่าภาพลักษณ์ของประเทศไทยจะเสื่อเสถียรภาพไปซักเท่าไหร่ แต่ภาพลักษณ์ความเป็นแบบฉบับคนไทย ไม่ว่าเหตุการณ์ใดก็ยังคงชัดเจน

วันนี้เราในฐานะคนไทยคนหนึ่งขอใช้พื้นที่ตรงนี้วิงวอนและร่วมรณรงค์ให้เพื่อนๆทุกคนร่วมใจกันบริจาคเลือด เพื่อเป็นกองคลังเลือดสำรอง
ที่คาดว่าในยามฉุกเฉินในเหตุการณ์ขับขันคงจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์
ยิ่งกับสถานการณ์ที่ยังไว้ใจอะไรไม่ได้
เราในฐานะคนไทยทำได้แค่เพียงภาวนาให้สังคมและประเทศไทยกลับมาสงบสุข และคงทำได้แค่เพียงสละโลหิตสร้างประโยชน์ พร้อมติดตามสถานการณ์ไปอย่างมีวิจารณญาณ
ซึ่งจัดเป็นการดีที่เราได้สละในสิ่งที่เราพอทำได้
และให้ได้ด้วยใจ พร้อมเกิดประโยชน์ขึ้นจริง
Blood Drive For Victims Of Ratchaprasong
เรามีหลายสถานที่ที่รับบริจาคโลหิตมาฝาก เผื่อเพื่อนๆ
จะได้เลือกไปทำความดีกันในจุดที่สะดวกต่อการเดินทาง และจะได้พูดได้ว่า อย่างน้อย เราก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความรู้สึกร่วมไปกับเหตุการณ์และเป็น
ห่วงประเทศไทยไม่น้อยไปกว่าใคร หากทำสิ่งใดได้ เราก็จะทำหน้าที่พลเมืองที่รักเมืองไทย และมีจิตอาสาต่อเพื่อนมนุษย์อย่างมีเอกลักษณ์


จุดแรก บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติจะเปิดรับบริจาควันจันทร์ พุธ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. อังคารและพฤหัสบดีตั้งแต่เวลา07.30-19.30 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. ติดต่อประสานงานหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่
โทร.022521637 ,022639600 ต่อ 1770


จุดที่สอง รามาช่วยด้วยใจ
โรงพยาบาลรามาธิบดีประกาศรับบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์  ผู้ที่สนใจสามารถมาติดต่อของบริจาคโลหิตได้ที่ คลังเลือด อาคาร 1 ชั้น 2 และอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ ชั้น 3 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-201-1219 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://med.mahidol.ac.th/ramachannel/index.php/news-18082558-3/

ทั้งนี้ผู้บริจาคโลหิตต้องมีคุณสมบัติดังนี้



1. มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ พร้อมที่จะบริจาคโลหิต

2.อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่มีอายุ 17 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง  ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี

   2.1 การคัดเลือกผู้บริจาคโลหิตอายุ > 60-70 ปี

        2.1.1  ผู้บริจาคโลหิตอายุ >60-65ปี

1). เป็นผู้บริจาคโลหิตประจำมาโดยตลอดจนกระทั่งอายุ 60 ปี

2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 3 ครั้งคือทุก 4 เดือน

3). ตรวจ Complete Blood Count ( CBC ) ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต

4). ตรวจ Serum Ferritin ( SF ) , Blood Chemistry ( BC ) ปีละ 1 ครั้ง

5). แพทย์หรือพยาบาลพิจารณาและบันทึกผล SF และค่า Hb และ Hematocrit และค่าที่ผิดปกติของการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ถ้าผลเลือดและความดันโลหิตปกติ อนุญาตให้บริจาคโลหิตได้

2.1.2 ผู้บริจาคโลหิตอายุ > 65-70ปี

1). เป็นผู้บริจาคโลหิตต่อเนื่องสม่ำเสมอในช่วงอายุ > 60-65 ปี

2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง คือทุก 6 เดือน

3). ตรวจ CBC ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต

4). ตรวจ BC, SF, และ EKGปีละ 1 ครั้ง

5). มีใบรับรองแพทย์ ออกโดยแพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ของศูนย์บริการโลหิตฯ

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในเวลาปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิต

4. ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ใน 7 วันที่ผ่านมา หรือกำลังเป็นไข้หวัด

5. สตรีไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน  6 เดือนที่ผ่านมา

6. น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ

7. หากรับประทานยาแอสไพริน, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 3 วัน ถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน

8. ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรัง, วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่นๆ

9. ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, หัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง, ไทรอยด์,โลหิตออกง่าย-หยุดยาก หรือโรคประจำตัวอื่นๆ

10. หากถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนหรือรักษารากฟัน ต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน

11. หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน, ผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 1 เดือน

12.ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเบี่ยงเบนทางเพศ

13. ต้องไม่มีประวัติยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษ ต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี

14. หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสักหรือฝังเข็มในการรักษา ต้องเกิน 1 ปี

15. หากมีประวัติเจ็บป่วยและได้รับโลหิตของผู้อื่น ต้องเกิน 1 ปี

16. หากมีประวัติเป็นมาเลเรีย ถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปี หากเคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุม ต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงบริจาคโลหิตได้

17. ต้องไม่ได้รับวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือเซรุ่มในระยะ 1 ปี ที่ผ่านมา

18. ก่อนบริจาคโลหิตต้องรับประทานอาหารให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่างๆ

เครดิต :  สภากาชาดไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่