รัฐธรรมนูญฉบับจวงจื๊อ

กระทู้สนทนา
จวงจื๊อ มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 364–286 ก่อน ค.ศ. เป็นนักปรัชญาที่ปราดเปรื่องที่สุด สมัยต้นของปรัชญาเต๋า มีทัศนะเหมือนเล่าจื๊อ ...ระบบการปกครองที่ดีที่สุด คือระบบเสรีนิยมบวกธรรมชาตินิยม

(ปรัชญาจีน รศ.ดร.ทองหล่อ วงษ์ธรรมา โอเดียนสโตร์พิมพ์ 2538)

หากย้อนเวลา ให้จวงจื๊อมาช่วยร่างรัฐธรรมนูญให้เมืองไทย รัฐธรรมนูญฉบับจวงจื๊อ ก็คงเป็นไปทำนองนี้

ผู้ปกครองต้องปล่อยให้ประชาชนมีอิสระในการประกอบอาชีพ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวก้าวก่าย ขูดรีดเอาประโยชน์ เช่น การเกณฑ์แรงงาน หรือการขูดรีดภาษี

รัฐบาลต้องสอนให้ประชาชนดำเนินชีวิตเรียบง่าย เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่สร้างอารยธรรมทางวัตถุ สมมติค่าให้แก่สิ่งต่างๆ เป็นเครื่องกระตุ้นให้ประชาชนเกิดกิเลส เป็นต้นเหตุของการอยากมีอยากได้

การอยากมีอยากได้ จะทำให้เกิดการแก่งแย่งแข่งขัน เอารัดเอาเปรียบกัน ทำให้การใช้ชีวิตห่างไกลไปจากธรรมชาติ

“รัฐบาลที่ดีที่สุด คือรัฐบาลที่ปกครองประชาชน โดยประชาชนไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง”

จวงจื๊อเสนอหลักการ กฎระเบียบที่ใช้บังคับปกครอง รัฐควรยึดเอากฎธรรมชาติ ไม่ต้องร่างกฎหมาย หรือข้อบังคับอื่นใดเพิ่ม การคิดการสร้างอะไรด้วยสติปัญญาของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ไม่ถาวรเที่ยงตรง จะมีอคติ ยึดเอาผลประโยชน์เป็นสำคัญ

ธรรมชาติของคนเรา จะคิดจะมองสิ่งใด มักมีความโน้มเอียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเองก่อน

ศีลธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีทั้งหลาย ล้วนเป็นสิ่งแปลกปลอม เพราะธรรมชาติของคนแต่ละคนนั้นต่างกัน รูปแบบการปกครอง ระเบียบสังคม จึงควรต้องเลิกเสียให้หมด

การฝืนธรรมชาติในทัศนะจวงจื๊อ เป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ยากเพื่อเสริมหลักการปกครองแบบนี้...จวงจื๊อมีนิทานเล่านานมาแล้ว นกทะเลตัวหนึ่งบินออกไปนอกนครลู้ ขุนนางแคว้นลู้ติดตามไปรับเอานกกลับมาอยู่ที่ ณ ที่เคยอยู่เดิม

เขาหาสุราชั้นดีมาเลี้ยง หาดนตรีชั้นยอดมาบรรเลงให้นกฟัง ถึงเวลาอาหาร เขาก็ฆ่าวัว เอาเนื้อวัวส่วนที่ดีมาให้นกกิน

แทนที่นกจะกิน นกเห็นเนื้อวัวกลับตกใจกลัว นอกจากไม่กิน

แล้วยังไม่ยอมดื่มสุรา ไม่ยอมฟังดนตรี

สามวันผ่านไป ท่ามกลางการประคบประหงมเอาอกเอาใจ นกตัวนั้นก็ตาย

จบนิทาน จวงจื๊อก็สอนว่า “ขุนนางปฏิบัติต่อนก เหมือนกับปฏิบัติต่อตัวเอง” สิ่งที่ควร ก็คือขุนนางต้องปฏิบัติต่อนก เหมือนนกปฏิบัติต่อกัน และวิธีที่ควรปฏิบัติก็คือ เอานกไปปล่อยเสียในป่า ให้มันมีอิสระเสรีบินไปในโลกกว้าง

การปกครองแบบมีสถาบันต่างๆ ไม่แตกต่างจากการเอาบังเหียนมาสวมใส่ให้ม้า หรือเอาเชือกมาสนตะพายวัว

อีกตัวอย่าง ขาเป็ดสั้น แต่ถ้าคนพยายามต่อขาให้มันยาว เป็ดจะเจ็บปวด นกกระยางขายาว ถ้าตัดให้สั้น นกกระยางก็จะทุกข์ทรมาน

ด้วยเหตุดังกล่าว เราจึงไม่ควรตัดทอนสิ่งที่ยาวตามธรรมชาติ ให้สั้น ไม่ควรต่อเติมสิ่งที่สั้นตามธรรมชาติให้ยาว

จวงจื๊อสรุปคำสอนชุดนี้ว่า เมื่อผู้ปกครองนำเอาระบบการปกครองที่ขัดกับธรรมชาติมาปกครองบังคับมนุษย์ มนุษย์ก็จะได้รับแต่ความทุกข์

ผมอ่านคำสอนจวงจื๊อไป สดับตรับฟังกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไป...บางข้อที่เคยยาว เขาก็จะตัดให้สั้น หลายข้อที่สั้น เขาก็จะต่อให้ยาว

บางเรื่องที่เขามองว่าเราดื้อด้านว่ายาก เขาก็ตั้งใจทำขึ้นใหม่ เพื่อใช้บังคับให้ว่าง่าย

จึงทำให้จินตนาการไป...หรือพวกเขากำลังคิดว่า พวกเราเป็นเป็ดขาสั้น เป็นนกกระยางขายาว เป็นม้าที่ต้องหาขลุมครอบปาก เป็นวัวที่ต้องใช้เชือกสนตะพาย เขาคงคิดว่าพวกเรา...ไม่ใช่คน.


Credit ที่มา : กิเลน ประลองเชิง [[ไทยรัฐทีวี]]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่