แชร์ประสบการณ์สำหรับคนชอบทานเนื้อ(วัว)
"Sumi Tei Yakiniku Restaurant"
วันนี้เลยนำภาพอาหารและบรรยากาศของร้านมาให้ดูกัน เริ่มการเดินทาง เรานั่ง BTS ไปลงที่สถานีทองหล่อ ออกจากสถานีทางออกที่1 แล้วเดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 53 ตอนเราไปถึงไม่มีมอไซ เปิดแผนที่ในมือถือเห็นว่ามันไม่ไกลมากเลยเดินกันไป เดินเข้าไปจนสุดซอยประมาณ 10 นาที ปกติเดินเร็วอยู่แล้วก็โอเคชิวๆไม่ได้ไกล 555 เหงื่อออกนิดหน่อย
ก่อนถึงด้านหน้าของอาคารจะมีป้ายเขียนว่า 9:53 คอมมูนิตี้มอลล์
ด้านหน้าของร้าน
ร้านอยู่ชั้น 3 ตอนเราไปถึงคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็เริ่มกันเลย เปิดเมนูมาดู พนักงานก็แนะนำให้ฟังว่าทางร้านมีอะไรบ้าง เราก็ไม่ค่อยรู้หรอก ปกติกินอย่างเดียวแถมไม่กินเนื้อด้วย เพื่อนก็ยังจะชวนมาอีกเนอะ บอกว่าพร้อมหน้าพร้อมตากัน กินด้วยกันอร่อย "อร่อยอยู่คนเดียวแหละไอ้คนชวนอะ" พนักงานก็อธิบายให้ฟังว่าทางร้านมีทั้งที่เป็นเนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่นและเนื้อวัวของไทย เพื่อนเลยสั่งมาลองทั้งสองแบบว่ามันต่างกันยังไง (ชื่อของเนื้อแต่ละอย่างก็จะมีชื่อของมันนะ แต่เราจำไม่ค่อยได้)
เนื้อวัวญี่ปุ่น
เนื้อวัวไทย
พออาหารมาเสริฟ ก็มีแผ่นกระดาษบางอย่างที่พนักงานเอามาวางไว้ เค้าบอกว่าเป็นใบรับรองว่าเนื้อเป็นเนื้อวัวคัดเกรดคุณภาพดีจากญี่ปุ่นของแท้ ซึ่งพนักงานได้อธิบายให้ฟังว่าเนื้อที่นำเข้าจากญี่ปุ่นที่คัดสรรมาอย่างดีนั้นแตกต่างจากเนื้อของไทยอย่างไร เค้าบอกว่าให้สังเกตที่ลายไขมันของเนื้อ หากตั้งไว้นานๆลายไขมันที่เนื้อจะละลายซึ่มเข้าไปในเนื้อซึ่งทำให้เสียรสชาติและเลี้ยน ไอยะ!!มากินแล้วได้ความรู้ด้วย เพื่อนเราก็ไม่รอช้าบรรจงใส่เนื้อไปย่างเลยจร้า นางบอกว่ารสชาติของเนื้อญี่ปุ่นค่อนข้างชุ่ม นุ่มลิ้น เนื้อละลายในปาก นางเล่าให้ฟัง เราก็คิดในใจมันขนาดนั้นเลยเหรอแก อันนี้คงต้องมาลองทานกันเองดูนะว่าจริงไหม
และอีกจานที่นางสั่งอันที่เป็นชิ้นกลมๆ นางบอกว่าค่อนข้างมันไปหน่อย ซึ่งอันนี้คงต้องแล้วแต่คนชอบด้วย นอกจากเนื้อแล้วก็ยังมีพวกเครื่องเคียงผักต่างๆ
นอกจากนั้นแล้วในส่วนของน้ำจิ้มจะมีให้เลือกสองแบบ ตามรูปเลยจร้า เราชอบอันที่เป็นใสๆ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆเค็มๆ
ส่วนเราไม่กินเนื้อ เลยสั่งอย่างอื่น ซึ่งเมนูก็จะมีทั้งหมูไก่และอาหารทะเลต่างๆ เราเลยสั่งหมูไก่ และซุปหางวัวมาลองชิมดู พนักงานบอกว่ามันคือข้าวต้ม เราก็เอ๊ะยังงัย เลยสั่งมาลองกินดู
ตามรูปเลยจ๊ะมันคือข้าวต้มที่ใส่กระดูกหมูชิ้นใหญ่ลงไป พอลองกินดูมันอร่อยดีนะไม่คาว ค่อนข้างโอเลยที่เดียว เนื้อหมูก็ค่อนข้างนุ่ม เราชอบเลยอะอันนี้
และตบท้ายด้วยของหวาน ที่นี่มีไอศครีมและเต้าฮวยมะพร้าวอ่อน(อร่อย อันนี้เราก็ชอบ)
จัดหนักจัดเต็มกับมื้อดึกของสาวกลัวอ้วน 555555 กลัวมากเลยจริงๆ
โดยรวมสำหรับคนชอบทานเนื้อคงจะเป็นที่ถูกใจ สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อก็มีอย่างอื่นให้เลือกทานได้ จุดสังเกตอีกอย่างตอนที่ออกจากร้านคือมันไม่มีกลิ่นติดตัวมาด้วย ไม่เหมือนเวลาที่ไปกินร้านปิ้งย่างที่อื่น และอีกอย่างตอนที่เพื่อนเรานางใส่เนื้อไปย่าง นางใส่ไปที่ละเยอะๆ แนะนำว่าให้ใส่ไปครั้งละสักสองสามชิ้น เพราะไฟค่อนข้างแรง ทำให้เนื้อไหม้ได้ และตอนที่พนักงานบอกว่าเนื้อญี่ปุ่นถ้าตั้งไว้นานลายไขมันมันจะละลาย ซึ่งเรากับเพื่อนก็ทดลองทิ้งไว้ชิ้นนึ่งโดยที่ยังไม่เอาไปย่าง ปรากฏว่าลายมันหายจริงๆ ซึ่งเป็นจุดสังเกตได้ว่าเนื้อญี่ปุ่นของจริงจะเป็นแบบนี้จริงๆ ลองเอาไปทดสอบดูกันได้นะคะ
สำหรับราคาของอาหารมื้อนี้ประมาณห้าพันกว่าบาทค่ะ ถามว่าใครจ่าย ใครสั่งเยอะก็จ่ายสิ 555 ก็หารกันตามสัดส่วนนะคะ ที่จริงก่อนมาก็ลองหาข้อมูลมาก่อนแล้วละว่าราคาประมาณไหน เราว่าถึงแพงแต่เพื่อนเราอร่อยก็โอเคนะ นางกินไปอร่อยไปก็ดีแล้ว ถึงราคาจะสูงไปหน่อยแต่เปรียบเทียบกับคุณภาพอาหารก็ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาอยู่นะ เดือนสองเดือนครั้งสำหรับเราก็โอเคพอได้อยู่ แนะนำให้ลองหาโอกาสมาทานกันดูนะจ๊ะ
หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะมีประโยน์กับหลายๆท่านนะคะ แล้วครั้งหน้าไปกินที่ไหนมาจะเอามาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
[CR] รีวิวร้านปิ้งย่างสำหรับคนชอบทานเนื้อ "Sumi Tei Yakiniku Restaurant"
"Sumi Tei Yakiniku Restaurant"
วันนี้เลยนำภาพอาหารและบรรยากาศของร้านมาให้ดูกัน เริ่มการเดินทาง เรานั่ง BTS ไปลงที่สถานีทองหล่อ ออกจากสถานีทางออกที่1 แล้วเดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 53 ตอนเราไปถึงไม่มีมอไซ เปิดแผนที่ในมือถือเห็นว่ามันไม่ไกลมากเลยเดินกันไป เดินเข้าไปจนสุดซอยประมาณ 10 นาที ปกติเดินเร็วอยู่แล้วก็โอเคชิวๆไม่ได้ไกล 555 เหงื่อออกนิดหน่อย
ร้านอยู่ชั้น 3 ตอนเราไปถึงคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็เริ่มกันเลย เปิดเมนูมาดู พนักงานก็แนะนำให้ฟังว่าทางร้านมีอะไรบ้าง เราก็ไม่ค่อยรู้หรอก ปกติกินอย่างเดียวแถมไม่กินเนื้อด้วย เพื่อนก็ยังจะชวนมาอีกเนอะ บอกว่าพร้อมหน้าพร้อมตากัน กินด้วยกันอร่อย "อร่อยอยู่คนเดียวแหละไอ้คนชวนอะ" พนักงานก็อธิบายให้ฟังว่าทางร้านมีทั้งที่เป็นเนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่นและเนื้อวัวของไทย เพื่อนเลยสั่งมาลองทั้งสองแบบว่ามันต่างกันยังไง (ชื่อของเนื้อแต่ละอย่างก็จะมีชื่อของมันนะ แต่เราจำไม่ค่อยได้)
พออาหารมาเสริฟ ก็มีแผ่นกระดาษบางอย่างที่พนักงานเอามาวางไว้ เค้าบอกว่าเป็นใบรับรองว่าเนื้อเป็นเนื้อวัวคัดเกรดคุณภาพดีจากญี่ปุ่นของแท้ ซึ่งพนักงานได้อธิบายให้ฟังว่าเนื้อที่นำเข้าจากญี่ปุ่นที่คัดสรรมาอย่างดีนั้นแตกต่างจากเนื้อของไทยอย่างไร เค้าบอกว่าให้สังเกตที่ลายไขมันของเนื้อ หากตั้งไว้นานๆลายไขมันที่เนื้อจะละลายซึ่มเข้าไปในเนื้อซึ่งทำให้เสียรสชาติและเลี้ยน ไอยะ!!มากินแล้วได้ความรู้ด้วย เพื่อนเราก็ไม่รอช้าบรรจงใส่เนื้อไปย่างเลยจร้า นางบอกว่ารสชาติของเนื้อญี่ปุ่นค่อนข้างชุ่ม นุ่มลิ้น เนื้อละลายในปาก นางเล่าให้ฟัง เราก็คิดในใจมันขนาดนั้นเลยเหรอแก อันนี้คงต้องมาลองทานกันเองดูนะว่าจริงไหม
และอีกจานที่นางสั่งอันที่เป็นชิ้นกลมๆ นางบอกว่าค่อนข้างมันไปหน่อย ซึ่งอันนี้คงต้องแล้วแต่คนชอบด้วย นอกจากเนื้อแล้วก็ยังมีพวกเครื่องเคียงผักต่างๆ
นอกจากนั้นแล้วในส่วนของน้ำจิ้มจะมีให้เลือกสองแบบ ตามรูปเลยจร้า เราชอบอันที่เป็นใสๆ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆเค็มๆ
ส่วนเราไม่กินเนื้อ เลยสั่งอย่างอื่น ซึ่งเมนูก็จะมีทั้งหมูไก่และอาหารทะเลต่างๆ เราเลยสั่งหมูไก่ และซุปหางวัวมาลองชิมดู พนักงานบอกว่ามันคือข้าวต้ม เราก็เอ๊ะยังงัย เลยสั่งมาลองกินดู
ตามรูปเลยจ๊ะมันคือข้าวต้มที่ใส่กระดูกหมูชิ้นใหญ่ลงไป พอลองกินดูมันอร่อยดีนะไม่คาว ค่อนข้างโอเลยที่เดียว เนื้อหมูก็ค่อนข้างนุ่ม เราชอบเลยอะอันนี้
และตบท้ายด้วยของหวาน ที่นี่มีไอศครีมและเต้าฮวยมะพร้าวอ่อน(อร่อย อันนี้เราก็ชอบ)
จัดหนักจัดเต็มกับมื้อดึกของสาวกลัวอ้วน 555555 กลัวมากเลยจริงๆ
โดยรวมสำหรับคนชอบทานเนื้อคงจะเป็นที่ถูกใจ สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อก็มีอย่างอื่นให้เลือกทานได้ จุดสังเกตอีกอย่างตอนที่ออกจากร้านคือมันไม่มีกลิ่นติดตัวมาด้วย ไม่เหมือนเวลาที่ไปกินร้านปิ้งย่างที่อื่น และอีกอย่างตอนที่เพื่อนเรานางใส่เนื้อไปย่าง นางใส่ไปที่ละเยอะๆ แนะนำว่าให้ใส่ไปครั้งละสักสองสามชิ้น เพราะไฟค่อนข้างแรง ทำให้เนื้อไหม้ได้ และตอนที่พนักงานบอกว่าเนื้อญี่ปุ่นถ้าตั้งไว้นานลายไขมันมันจะละลาย ซึ่งเรากับเพื่อนก็ทดลองทิ้งไว้ชิ้นนึ่งโดยที่ยังไม่เอาไปย่าง ปรากฏว่าลายมันหายจริงๆ ซึ่งเป็นจุดสังเกตได้ว่าเนื้อญี่ปุ่นของจริงจะเป็นแบบนี้จริงๆ ลองเอาไปทดสอบดูกันได้นะคะ
สำหรับราคาของอาหารมื้อนี้ประมาณห้าพันกว่าบาทค่ะ ถามว่าใครจ่าย ใครสั่งเยอะก็จ่ายสิ 555 ก็หารกันตามสัดส่วนนะคะ ที่จริงก่อนมาก็ลองหาข้อมูลมาก่อนแล้วละว่าราคาประมาณไหน เราว่าถึงแพงแต่เพื่อนเราอร่อยก็โอเคนะ นางกินไปอร่อยไปก็ดีแล้ว ถึงราคาจะสูงไปหน่อยแต่เปรียบเทียบกับคุณภาพอาหารก็ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาอยู่นะ เดือนสองเดือนครั้งสำหรับเราก็โอเคพอได้อยู่ แนะนำให้ลองหาโอกาสมาทานกันดูนะจ๊ะ
หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะมีประโยน์กับหลายๆท่านนะคะ แล้วครั้งหน้าไปกินที่ไหนมาจะเอามาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น