
เมื่อใดที่มีรถใหม่ๆ ยี่ห้อแปลกๆ รูปทรงประหลาดๆ ที่ใครหลายคนให้ความสนใจ ก็มักจะมีวลีที่ว่า
"ต้องดูกันยาวๆ" "รอดูตอนใช้ไป 3ปี 5ปีเดี๋ยวรู้เรื่อง"
และแล้วเราก็มาถึงจุดนี้.......ครบ3ปี กับอีกนิดหน่อย
ขอท้าวความ Tiger F4 นิดหน่อยละกัน เพื่อให้มันเสียเวลาเล่นๆ

หลายๆท่านคงรู้จักแบรนด์มอเตอร์ไซค์ชื่อ Cagiva F4 ขนาดความจุกระบบอกสูบ 150 CCล้อซี่ลวด ดรัมเบรคหลัง แฮนด์จับโช๊ค
ซึ่งในสมัยหนึ่งได้มีการผลิตขาย และเจ๊งกะบ๊งไปพอประมาณ
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ก็เจ้าของเดียวกันนั้นได้คลอดลูกสาวคันใหม่ออกมา
มีนามว่า Tiger Boxer ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่นพอสมควร ทั้งหมดเป็นแฮนด์บาร์ ล้อแม็ค ดิสหลัง/ดรัมหลัง แบ่งไปตามรุ่นย่อย

เวอร์ชั่น boxer 200 สายตรวจ

เวอร์ชั่น Boxer 200 จราจร

เวอร์ชั่น Boxer 200 ประชาชน

เวอร์ชั่น Boxer 250

เวอร์ชั่น 150 ส่งแก็ส (โช๊คหลัง4ต้น)
ซึ่งก็เหมือนเดิม เจ๊งกะบ๊งพอประมาณ
สุดท้ายในปี 2555 ได้ออกTiger F4 ประมาณว่าระลึกความหลัง
มี 2 รุ่นคือ 150 และ 250 ในราคาสุดเร้าใจ 45000 และ 55000

Tiger F4 150 ดรัมหลัง 45000 บาท

Tiger F4 250 ซี่ลวด ดรัมหลัง 55000บาท
Tiger F4 250 ออกขายภายหลังข่าวอื้อฉาวหลายประการ ทำให้ยอดขายไม่สู้ดีนักทั้งที่
ราคาเพียง 55000 ซี่ลวด ดิสหลัง ดรัมหลัง แฮนด์จับโช๊ค ท่อPDK โช๊คหลังGaziจาก โรงงาน
ถ้าหากคนดีขี่ฮอนด้า คนบ้าขี่ซู ผมคนเป็นคนที่
บ้าบอคอแตกแปลกประหลาดขาดไปหลายสลึง
ผมตัดสินใจไปถอยออกมาแถมขอOptionพิเศษ เพิ่มล้อแม็คกะดิสหลังมาด้วย
ในราคา60,000บาท!!!!!!!
แต่ต้องขออภัย รูปตอนออกรถ ไม่มีละ หายเกลี้ยงเลย แหะๆ
ออกรถมาใหม่ๆ ก็อยากจะเอามารีวิว แต่ก็นะ กลัวเหลือเกินตอนนั้น กลัวจะดูเป็นคนบ้า
เลยบ้าอยู่เงียบๆคนเดียวไม่ได้รีวิวชวนใครมาบ้าด้วย
กลับมาสู่ปัจจุบัน

รถคันนี้ผ่านอะไรๆ กับผมมาพอสมควร ตอนซื้อมาผมคิดแค่ว่าจะให้เป็นรถครู
ผมซื้อมาเพื่อหัดขี่รถคลัทช์มือ คิดในใจแค่ว่า พังก็เปลี่ยน เสียก็ซ่อม
ทั้งๆที่ซ่อมก็ไม่ค่อยเป็น บ้าแท้ๆคนอะไร
จากภาพนี้จะเห็นว่าผมทำอะไรไปหลายอย่างเดี๋ยวจะค่อยๆเล่าให้ฟัง
จากต้นกระทู้ที่ผมได้ใส่คำโปรยไว้นั่นแหละครับ จะมาเล่าให้ฟังว่า 3 ปี ผ่านไป มีอะไรพัง อะไรต้องเปลี่ยน อะไรต้องซ่อม
สนิมกินเยอะมั้ย มาๆๆๆๆๆ ตามมาดูว่าไอ้เด็กที่มีปัญญาเท่าหางอึ่ง ดูแลรถแบบคนทั่วไปเนี่ย รถห่วยๆ มันจะเป็นยังไง

ไฟหน้าถูกเปลี่ยนออกแล้วแทนที่ด้วยไฟKawasaki Victor ก็อบ! ด้วยสาเหตุเดียว ไฟหน้ามันทรงประหลาด
ซึ่งปัจจุบัน สนิมกินละ เป็นจุดๆ

ดูเอาคนอื่นมองว่าไงไม่รู้ ส่วนตัวว่าประหลาดชิกหัยยย กลมๆข้างล่างคือไฟต่ำ ครึ่งวงกลมด้านบนคือไฟสูง

อันนี้Cock pit 555+ กระแด ะจริงๆ ไมล์ลูกนี้เคลมไป 3 รอบ ทั้งค้าง ทั้งขาด ทั้งอ่อน
สรุปสุดท้าย รำคาญ ไม่เปลี่ยนมันละ ค้างที่140นี่หละ แรงดี แค่มองไมล์ก็ใจเต้น 5555+
ไฟเกียร์ว่าง ไฟtop ติดๆดับๆเพราะปลั๊กตรงเกียร์มันสั่นๆหลวมๆ เอามือไปแตะๆก็ติดขึ้น ซักพักก็ดับ
ไฟเตือนไฟเลี้ยวติดปกติดี ไฟเตือนไฟสูงไม่ติดนานละช่างมัน
สังเกตเห็นมั้ย มีคราบสนิมที่หัวโช๊ค กับแกนแผงคอ ปล่อยๆมันไปยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ประกับแฮนด์ด้านซ้าย ลดต้นทุนสุดๆ ในBoxer จะมีปุ่มPassมาให้ แต่ ในF4ไม่มี
แต่ยังใช้งานได้ดี ปล่อยผ่านไปก่อนยังไม่ยุ่ง

ประกับด้านขวามีมาแต่ปุ่มสตาร์ทกะประกับเร่ง
จะเห็นว่าตุ้มปลายแฮนด์เป็นสนิมทั้งสองข้าง ถอดขัดพ่นสีไปรอบนึงละ
เกิดจากอะไรก็ไม่รุ เป็นตุ้มเหล็กตันๆ แฮนด์ก็เป็นเหล็กตันๆ แต่ก็ยังสั่นสะท้านนนนนนนนนน
ในส่วนของแฮนด์ เริ่มเป็นสนิมจากการใช้งานเนื่องจากถลอก ถลอกปั๊บ แปปเดียว หนิมขึ้น
เก็บไว้ก่อน ยังไม่ยุ่ง5555555

มือเบรคเป็นมือเบรคที่รูปร่างคุ้นตาอย่างมาก ใช่ครับ เป๊ะเลย Wave100 ตั้งแต่ก้านมือเบรคไปยันฝากระปุก
ก็ดีจะได้หาอะไหล่ง่ายๆหน่อย สีเริ่มลอกๆอีกละ
น้ำมันเบรครั่วไปครั้งนึง เปลี่ยนซีลของWaveได้เลย ขี่ๆไปทำมือเบรคหล่นหายก็เทียบWave จบเจ้าไม่เล้าหรือ!!!!
สายคันเร่งเป็นสนิมเพราะน็อตคลายบ่อย แล้วก็ลงไปสั่นๆๆๆๆๆ แล้วก็สนิมกิน

มือครัทช์มาแบบโง่ๆ ทื่อๆ บื้อๆ พร้อมที่จะให้ถอดทิ้งตลอดเวลา แต่กุจะเก็บไว้ กุไม่ถอด
สายครัทช์เปลี่ยนไปรอบนึงเพราะเป็นสนิม เนื่องจากมันไปครูดกับขาจับไมล์ที่เป็นเหล็ก
ก็หาปลอกยางใส่ให้มัน ก็จบ

ปลอกแฮนด์ทั้งสองข้างเป็นส่วนที่ผทค่อยข้างชอบ และแปลกใจเพราะนิ่มมาก นิ่มกว่าที่เคยจับมาหลายๆรุ่น
นิ่มจนผมสามารถหยิบให้ดูแบบในรูปและมันยังไม่เสื่อมสภาพ

กระจกเดิม รถล้มเลยแตก เอากระจก scoopi i มาใส่ เพราะหาง่ายและถูกดี ของก็อปเหมือนเดิม
ใช้ไม่ดีทั้งของเดิมและscoopi มุมมองแคบ และสั่นๆๆๆๆๆๆ

ไฟท้ายทรงเดียวกับCagiva F4 จริงๆก็ชุดสีโดยรวมด้วยแหละ เค้าจะทำให้เป็นF4นี่เนอะ
น้ำเข้าตลอด ไฟท้ายขาดประจำ ถอดเข้าถอดออกจนเกลียวจะหวานหมดละ
ชุดสีโดนแดดแล้วเป็นเกล็ดๆ ถูกต้องครับบบบบบบ ดำมุกๆ เพิ่งจะเคยเจอ สีดำมุก

ล้อแม็คหน้าหลังขนาดพอดีกับCBR150 ตัวคาบูเลย ลายเดียวกับเป๊ะแต่ตีตราTigerมา
ผ้าเบรคเทียบใช้ของNova สวิงอาร์มเดิมเป็นเหล็ก ทาสีดำ พอดีไปได้สวิงอาร์มของBoxer 250มา
ฝรั่งมันถอดทิ้ง เลยเอามาใส่ซะ เกียร์โยงใส่ของ KRแปลงเอามาใส่ ซ่าไง อยากจะซิ่ง
แต่ตอนนี้คิดๆไปพักเท้าเดิมดีกว่า พับได้เวลาล้ม
ปั้มเบรคโบ้ปลอม เอาไว้หลอกควาย ใช้ๆไปก่อนพอดีของเก่าพังช่างขี้เกียจหาของ

ท่อเดิมจากโรงงาน PDK คุ้นชื่อแน่นอนเพราะหลังจากยุค2จังหวะ พวกเค้านี่หละที่ทำTiger
ท่อแต่งจากโรงงาน ไม่รุมันผ่านมอก.ได้ไง แต่ที่รู้ๆคือ คนขี่จอดคุยกะตำรวจบ่อย เพราะท่อนี่แหละ
ส่วนเรื่องเสียง ใช้คำว่าไม่เงียบก็แล้วกัน

ชัดๆ เป็นอีกจุดนึงที่รู้สึกอิรุงตุงนังยังไงก็ไม่รุ จริงใช้เกียร์โยงของอะไรก็ได้
เพราะต้องแปลงทั้งนั้น ใช้ของKRเพราะถูกดี จับตรงพักเท้ายัดเข้ารู แล้วก็เจาะรูยึดด้านหน้าพร้อมต๊าปเกลียว
แล้วก็ภาวนาให้สนิมมันอย่าเพิ่งกินโครงนะ

ฝาแดงนะเว้ย แดงทำไมไม่รุ เอาเป็นว่า ฝาแดงนะเว้ยยยยยยย
เครื่องขนาดความจุ 230 CC หน่อย แบบเครื่องจะคล้ายๆรถจีน รถไทยหลายๆรุ่น ทั้งPlattinum วิบาก 250
หรือว่าตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ขายแต่เปิดตัวไปแล้วอย่างIron one 250 ค่ายStallion
(หมายถึง spec อะนะ แต่ตัว วัสดุอาจจะแตกต่างกัน ทั้งภายนอกและภายใน)

มาพร้อยออยคูลเลอร์ที่คิดว่ามีก็เหมือนมันจะไม่มี เพราะเครื่องร้อนมากกกกกกก ขี่รถตอนฝนตกๆ เวลาจอดติดไฟแดงจะมีควันจางๆลอยขึ้นมา
กุคิดว่ารถกุพังทุกที ก้มไปดู อ่อ น้ำฝนมันโดนเครื่อง แล้วระเหย

ไฟหน้าvictorก็อป สวยก็ไม่สุด ขาดๆยังไงไม่รุ สนิมขึ้นนิดหน่อยเดี๋ยวได้ฤกษ์เปลี่ยนละ

ไฟเลี้ยวหน้าหลังทรงเดียวกันกับvictor จริงๆไม่ใช่หรอก มันคล้ายๆมาตั้งแต่โครงรถละ
ก็เดิมTigerเป็นโรงงานให้Kawaในยุค2จังหวะKnow howของ2จังหวะยุคนั้นก็มาจากโรงงานนี้แหละ
ทั้งKR LEO ต่างๆนานา (ฟังเค้ามาอะนะ เกิดไม่ทัน)

มอเตอร์สต๊าทลูกนี้ชวนปวดหัว พังไปรอบนึง หาอะไหล่ไม่ได้ ศูนย์ก็ไม่มีของ จบด้วยการ
จ้างช่างพันใหม่ เวรแท้ๆ สายระบายน้ำมันเครื่อง ถูกยกขึ้นไปใส่กรองอากาศ
เดิมถูกกดลงพื้น น้ำมันเครื่องเลอะเทอะ ยกขึ้นไปซะ ก็OK ไม่มีปัญหาเครื่องวิ่งปกติ

เบาะถูกหุ้มใหม่เพราะลายไม่สวย กันตกเป็นเหล็กราคาถูกที่จับทีไรเหมือนจะหักคามือทุกที

คราบสนิมชัดๆอีกที สายครัทช์สนิมขึ้นไปครั้งนึงเพราะมันไปครูดกับเหล็กยึดไมล์ตรงที่มันลงไปนั่นแหละ
เปลี่ยนซะหาปลอกมาใส่ สบายยยยย

เหมือนเดิม สนิมมมมมม

อันนี้เป็นด้านบนของกรองอากาศ สายยางนั่นคือปลายสายระบายไอน้ำมัน
กรองอากาศเป็นกรองเปียกดังนั้นจึงต้องการน้ำมันเพื่อจับฝุ่นนิดหน่อย โยนสายเข้าไปซะ
เคเบิ้ลไทด์ 2 เส้น รัดฝากระเป๋า 2ข้าง กันมันสั่น

ชุดสีตัวหลังจะถูกรัดด้วยเคเบิลไทด์ รวมถึงฝากระเป๋าทั้งสองข้าง เนื่องจากชุดสีทนแรงสั่นไม่ไหว
ขาหักเกลี้ยง เคลมไป2ครั้ง ขี้เกียจเคลมละ เจาะรูรัดซ้าาาาาา เออ ใช้ได้ ผ่านไปๆ

นี่ครับ ชัดๆทำไมมันถึงสั่น มันไม่มีบูชยางจับกันสดๆอย่างนี้
ไม่เหมือนในกระทู้ของน้าMadty ที่ตัวนั้นจะมีบูชยางรองทำให้สั่นน้อยกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2012/03/V11889123/V11889123.html
เอาเป็นว่าจบมันตรงนี้เลยละกันนะครับ
บทสรุปรถคันนี้กับสามปีที่ผ่านมา
รถบ้าไรว่ะ ดื้อ งอแง เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นรถที่ขี่สนุกดีนะ ในความคิดผม
ลดสเตอร์หลังลงจาก 37ฟัน เป็น34 ฟัน ก็ยังมีแรงบิดดี
สาเหตุที่ลดสเตอร์ลง ไม่ได้อยากแว้น แต่รู้สึกว่าต้นจัดเกินไป
เป็นรถที่เหมาะกับการขี่ในเมือง ด้วยแรงบิดที่ดีพอ และด้วยแรงปลายไม่ต่างจากwaveเท่าไหร่นัก
รวมไปถึงการสั่นของเครื่องที่ค่อนข้างสูง ทำให้เอาไปขี่ทางไกล ไม่เหมาะเท่าไหร่ ลองขี่ดูละ
เอาไว้ขี่เล่นแถวบ้านดีกว่า
ช่วงล่างชุดหลังหนึบสมยี่ห้อ ชุดหน้าเรียกว่ากระด้างเลยหละ ปั้กๆๆๆๆ เวลาลงหลุม
ที่เหลือบอกเลยว่า ธรรมดามากกกก ที่ไม่ธรรมดาก็เวลาตำรวจเรียก
"ท่อแต่งนะน้อง" "รถหลวงรึเปล่าเนี่ย" บลาๆๆๆๆๆ แล้วก็ชวนบ่นไปบ่นมา
ถึงแม้จะช้าไปที่ผมจะรีวิว เนื่องจากTiigerแพแตกไปซะแล้ว
แต่วันนี้ก็ถือว่าผมได้รีวิวรถประหลาด
ที่ใครหลายคนบอกว่าต้องดูยาวๆ
รถคันนี้ผ่านมาแล้ว3ปีในมือของคนที่ดูแลรถแบบคนทั่วไป
"ครบ3ปีแล้วครับ"
[CR] ครบ3ปีละนะ Tiger F4
เมื่อใดที่มีรถใหม่ๆ ยี่ห้อแปลกๆ รูปทรงประหลาดๆ ที่ใครหลายคนให้ความสนใจ ก็มักจะมีวลีที่ว่า
"ต้องดูกันยาวๆ" "รอดูตอนใช้ไป 3ปี 5ปีเดี๋ยวรู้เรื่อง"
และแล้วเราก็มาถึงจุดนี้.......ครบ3ปี กับอีกนิดหน่อย
ขอท้าวความ Tiger F4 นิดหน่อยละกัน เพื่อให้มันเสียเวลาเล่นๆ
หลายๆท่านคงรู้จักแบรนด์มอเตอร์ไซค์ชื่อ Cagiva F4 ขนาดความจุกระบบอกสูบ 150 CCล้อซี่ลวด ดรัมเบรคหลัง แฮนด์จับโช๊ค
ซึ่งในสมัยหนึ่งได้มีการผลิตขาย และเจ๊งกะบ๊งไปพอประมาณ
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ก็เจ้าของเดียวกันนั้นได้คลอดลูกสาวคันใหม่ออกมา
มีนามว่า Tiger Boxer ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่นพอสมควร ทั้งหมดเป็นแฮนด์บาร์ ล้อแม็ค ดิสหลัง/ดรัมหลัง แบ่งไปตามรุ่นย่อย
เวอร์ชั่น boxer 200 สายตรวจ
เวอร์ชั่น Boxer 200 จราจร
เวอร์ชั่น Boxer 200 ประชาชน
เวอร์ชั่น Boxer 250
เวอร์ชั่น 150 ส่งแก็ส (โช๊คหลัง4ต้น)
ซึ่งก็เหมือนเดิม เจ๊งกะบ๊งพอประมาณ
สุดท้ายในปี 2555 ได้ออกTiger F4 ประมาณว่าระลึกความหลัง
มี 2 รุ่นคือ 150 และ 250 ในราคาสุดเร้าใจ 45000 และ 55000
Tiger F4 150 ดรัมหลัง 45000 บาท
Tiger F4 250 ซี่ลวด ดรัมหลัง 55000บาท
Tiger F4 250 ออกขายภายหลังข่าวอื้อฉาวหลายประการ ทำให้ยอดขายไม่สู้ดีนักทั้งที่
ราคาเพียง 55000 ซี่ลวด ดิสหลัง ดรัมหลัง แฮนด์จับโช๊ค ท่อPDK โช๊คหลังGaziจาก โรงงาน
ถ้าหากคนดีขี่ฮอนด้า คนบ้าขี่ซู ผมคนเป็นคนที่บ้าบอคอแตกแปลกประหลาดขาดไปหลายสลึง
ผมตัดสินใจไปถอยออกมาแถมขอOptionพิเศษ เพิ่มล้อแม็คกะดิสหลังมาด้วย
ในราคา60,000บาท!!!!!!!
แต่ต้องขออภัย รูปตอนออกรถ ไม่มีละ หายเกลี้ยงเลย แหะๆ
ออกรถมาใหม่ๆ ก็อยากจะเอามารีวิว แต่ก็นะ กลัวเหลือเกินตอนนั้น กลัวจะดูเป็นคนบ้า
เลยบ้าอยู่เงียบๆคนเดียวไม่ได้รีวิวชวนใครมาบ้าด้วย
กลับมาสู่ปัจจุบัน
รถคันนี้ผ่านอะไรๆ กับผมมาพอสมควร ตอนซื้อมาผมคิดแค่ว่าจะให้เป็นรถครู
ผมซื้อมาเพื่อหัดขี่รถคลัทช์มือ คิดในใจแค่ว่า พังก็เปลี่ยน เสียก็ซ่อม
ทั้งๆที่ซ่อมก็ไม่ค่อยเป็น บ้าแท้ๆคนอะไร
จากภาพนี้จะเห็นว่าผมทำอะไรไปหลายอย่างเดี๋ยวจะค่อยๆเล่าให้ฟัง
จากต้นกระทู้ที่ผมได้ใส่คำโปรยไว้นั่นแหละครับ จะมาเล่าให้ฟังว่า 3 ปี ผ่านไป มีอะไรพัง อะไรต้องเปลี่ยน อะไรต้องซ่อม
สนิมกินเยอะมั้ย มาๆๆๆๆๆ ตามมาดูว่าไอ้เด็กที่มีปัญญาเท่าหางอึ่ง ดูแลรถแบบคนทั่วไปเนี่ย รถห่วยๆ มันจะเป็นยังไง
ไฟหน้าถูกเปลี่ยนออกแล้วแทนที่ด้วยไฟKawasaki Victor ก็อบ! ด้วยสาเหตุเดียว ไฟหน้ามันทรงประหลาด
ซึ่งปัจจุบัน สนิมกินละ เป็นจุดๆ
ดูเอาคนอื่นมองว่าไงไม่รู้ ส่วนตัวว่าประหลาดชิกหัยยย กลมๆข้างล่างคือไฟต่ำ ครึ่งวงกลมด้านบนคือไฟสูง
อันนี้Cock pit 555+ กระแด ะจริงๆ ไมล์ลูกนี้เคลมไป 3 รอบ ทั้งค้าง ทั้งขาด ทั้งอ่อน
สรุปสุดท้าย รำคาญ ไม่เปลี่ยนมันละ ค้างที่140นี่หละ แรงดี แค่มองไมล์ก็ใจเต้น 5555+
ไฟเกียร์ว่าง ไฟtop ติดๆดับๆเพราะปลั๊กตรงเกียร์มันสั่นๆหลวมๆ เอามือไปแตะๆก็ติดขึ้น ซักพักก็ดับ
ไฟเตือนไฟเลี้ยวติดปกติดี ไฟเตือนไฟสูงไม่ติดนานละช่างมัน
สังเกตเห็นมั้ย มีคราบสนิมที่หัวโช๊ค กับแกนแผงคอ ปล่อยๆมันไปยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ประกับแฮนด์ด้านซ้าย ลดต้นทุนสุดๆ ในBoxer จะมีปุ่มPassมาให้ แต่ ในF4ไม่มี
แต่ยังใช้งานได้ดี ปล่อยผ่านไปก่อนยังไม่ยุ่ง
ประกับด้านขวามีมาแต่ปุ่มสตาร์ทกะประกับเร่ง
จะเห็นว่าตุ้มปลายแฮนด์เป็นสนิมทั้งสองข้าง ถอดขัดพ่นสีไปรอบนึงละ
เกิดจากอะไรก็ไม่รุ เป็นตุ้มเหล็กตันๆ แฮนด์ก็เป็นเหล็กตันๆ แต่ก็ยังสั่นสะท้านนนนนนนนนน
ในส่วนของแฮนด์ เริ่มเป็นสนิมจากการใช้งานเนื่องจากถลอก ถลอกปั๊บ แปปเดียว หนิมขึ้น
เก็บไว้ก่อน ยังไม่ยุ่ง5555555
มือเบรคเป็นมือเบรคที่รูปร่างคุ้นตาอย่างมาก ใช่ครับ เป๊ะเลย Wave100 ตั้งแต่ก้านมือเบรคไปยันฝากระปุก
ก็ดีจะได้หาอะไหล่ง่ายๆหน่อย สีเริ่มลอกๆอีกละ
น้ำมันเบรครั่วไปครั้งนึง เปลี่ยนซีลของWaveได้เลย ขี่ๆไปทำมือเบรคหล่นหายก็เทียบWave จบเจ้าไม่เล้าหรือ!!!!
สายคันเร่งเป็นสนิมเพราะน็อตคลายบ่อย แล้วก็ลงไปสั่นๆๆๆๆๆ แล้วก็สนิมกิน
มือครัทช์มาแบบโง่ๆ ทื่อๆ บื้อๆ พร้อมที่จะให้ถอดทิ้งตลอดเวลา แต่กุจะเก็บไว้ กุไม่ถอด
สายครัทช์เปลี่ยนไปรอบนึงเพราะเป็นสนิม เนื่องจากมันไปครูดกับขาจับไมล์ที่เป็นเหล็ก
ก็หาปลอกยางใส่ให้มัน ก็จบ
ปลอกแฮนด์ทั้งสองข้างเป็นส่วนที่ผทค่อยข้างชอบ และแปลกใจเพราะนิ่มมาก นิ่มกว่าที่เคยจับมาหลายๆรุ่น
นิ่มจนผมสามารถหยิบให้ดูแบบในรูปและมันยังไม่เสื่อมสภาพ
กระจกเดิม รถล้มเลยแตก เอากระจก scoopi i มาใส่ เพราะหาง่ายและถูกดี ของก็อปเหมือนเดิม
ใช้ไม่ดีทั้งของเดิมและscoopi มุมมองแคบ และสั่นๆๆๆๆๆๆ
ไฟท้ายทรงเดียวกับCagiva F4 จริงๆก็ชุดสีโดยรวมด้วยแหละ เค้าจะทำให้เป็นF4นี่เนอะ
น้ำเข้าตลอด ไฟท้ายขาดประจำ ถอดเข้าถอดออกจนเกลียวจะหวานหมดละ
ชุดสีโดนแดดแล้วเป็นเกล็ดๆ ถูกต้องครับบบบบบบ ดำมุกๆ เพิ่งจะเคยเจอ สีดำมุก
ล้อแม็คหน้าหลังขนาดพอดีกับCBR150 ตัวคาบูเลย ลายเดียวกับเป๊ะแต่ตีตราTigerมา
ผ้าเบรคเทียบใช้ของNova สวิงอาร์มเดิมเป็นเหล็ก ทาสีดำ พอดีไปได้สวิงอาร์มของBoxer 250มา
ฝรั่งมันถอดทิ้ง เลยเอามาใส่ซะ เกียร์โยงใส่ของ KRแปลงเอามาใส่ ซ่าไง อยากจะซิ่ง
แต่ตอนนี้คิดๆไปพักเท้าเดิมดีกว่า พับได้เวลาล้ม
ปั้มเบรคโบ้ปลอม เอาไว้หลอกควาย ใช้ๆไปก่อนพอดีของเก่าพังช่างขี้เกียจหาของ
ท่อเดิมจากโรงงาน PDK คุ้นชื่อแน่นอนเพราะหลังจากยุค2จังหวะ พวกเค้านี่หละที่ทำTiger
ท่อแต่งจากโรงงาน ไม่รุมันผ่านมอก.ได้ไง แต่ที่รู้ๆคือ คนขี่จอดคุยกะตำรวจบ่อย เพราะท่อนี่แหละ
ส่วนเรื่องเสียง ใช้คำว่าไม่เงียบก็แล้วกัน
ชัดๆ เป็นอีกจุดนึงที่รู้สึกอิรุงตุงนังยังไงก็ไม่รุ จริงใช้เกียร์โยงของอะไรก็ได้
เพราะต้องแปลงทั้งนั้น ใช้ของKRเพราะถูกดี จับตรงพักเท้ายัดเข้ารู แล้วก็เจาะรูยึดด้านหน้าพร้อมต๊าปเกลียว
แล้วก็ภาวนาให้สนิมมันอย่าเพิ่งกินโครงนะ
ฝาแดงนะเว้ย แดงทำไมไม่รุ เอาเป็นว่า ฝาแดงนะเว้ยยยยยยย
เครื่องขนาดความจุ 230 CC หน่อย แบบเครื่องจะคล้ายๆรถจีน รถไทยหลายๆรุ่น ทั้งPlattinum วิบาก 250
หรือว่าตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ขายแต่เปิดตัวไปแล้วอย่างIron one 250 ค่ายStallion
(หมายถึง spec อะนะ แต่ตัว วัสดุอาจจะแตกต่างกัน ทั้งภายนอกและภายใน)
มาพร้อยออยคูลเลอร์ที่คิดว่ามีก็เหมือนมันจะไม่มี เพราะเครื่องร้อนมากกกกกกก ขี่รถตอนฝนตกๆ เวลาจอดติดไฟแดงจะมีควันจางๆลอยขึ้นมา
กุคิดว่ารถกุพังทุกที ก้มไปดู อ่อ น้ำฝนมันโดนเครื่อง แล้วระเหย
ไฟหน้าvictorก็อป สวยก็ไม่สุด ขาดๆยังไงไม่รุ สนิมขึ้นนิดหน่อยเดี๋ยวได้ฤกษ์เปลี่ยนละ
ไฟเลี้ยวหน้าหลังทรงเดียวกันกับvictor จริงๆไม่ใช่หรอก มันคล้ายๆมาตั้งแต่โครงรถละ
ก็เดิมTigerเป็นโรงงานให้Kawaในยุค2จังหวะKnow howของ2จังหวะยุคนั้นก็มาจากโรงงานนี้แหละ
ทั้งKR LEO ต่างๆนานา (ฟังเค้ามาอะนะ เกิดไม่ทัน)
มอเตอร์สต๊าทลูกนี้ชวนปวดหัว พังไปรอบนึง หาอะไหล่ไม่ได้ ศูนย์ก็ไม่มีของ จบด้วยการ
จ้างช่างพันใหม่ เวรแท้ๆ สายระบายน้ำมันเครื่อง ถูกยกขึ้นไปใส่กรองอากาศ
เดิมถูกกดลงพื้น น้ำมันเครื่องเลอะเทอะ ยกขึ้นไปซะ ก็OK ไม่มีปัญหาเครื่องวิ่งปกติ
เบาะถูกหุ้มใหม่เพราะลายไม่สวย กันตกเป็นเหล็กราคาถูกที่จับทีไรเหมือนจะหักคามือทุกที
คราบสนิมชัดๆอีกที สายครัทช์สนิมขึ้นไปครั้งนึงเพราะมันไปครูดกับเหล็กยึดไมล์ตรงที่มันลงไปนั่นแหละ
เปลี่ยนซะหาปลอกมาใส่ สบายยยยย
เหมือนเดิม สนิมมมมมม
อันนี้เป็นด้านบนของกรองอากาศ สายยางนั่นคือปลายสายระบายไอน้ำมัน
กรองอากาศเป็นกรองเปียกดังนั้นจึงต้องการน้ำมันเพื่อจับฝุ่นนิดหน่อย โยนสายเข้าไปซะ
เคเบิ้ลไทด์ 2 เส้น รัดฝากระเป๋า 2ข้าง กันมันสั่น
ชุดสีตัวหลังจะถูกรัดด้วยเคเบิลไทด์ รวมถึงฝากระเป๋าทั้งสองข้าง เนื่องจากชุดสีทนแรงสั่นไม่ไหว
ขาหักเกลี้ยง เคลมไป2ครั้ง ขี้เกียจเคลมละ เจาะรูรัดซ้าาาาาา เออ ใช้ได้ ผ่านไปๆ
นี่ครับ ชัดๆทำไมมันถึงสั่น มันไม่มีบูชยางจับกันสดๆอย่างนี้
ไม่เหมือนในกระทู้ของน้าMadty ที่ตัวนั้นจะมีบูชยางรองทำให้สั่นน้อยกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาเป็นว่าจบมันตรงนี้เลยละกันนะครับ
บทสรุปรถคันนี้กับสามปีที่ผ่านมา
รถบ้าไรว่ะ ดื้อ งอแง เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นรถที่ขี่สนุกดีนะ ในความคิดผม
ลดสเตอร์หลังลงจาก 37ฟัน เป็น34 ฟัน ก็ยังมีแรงบิดดี
สาเหตุที่ลดสเตอร์ลง ไม่ได้อยากแว้น แต่รู้สึกว่าต้นจัดเกินไป
เป็นรถที่เหมาะกับการขี่ในเมือง ด้วยแรงบิดที่ดีพอ และด้วยแรงปลายไม่ต่างจากwaveเท่าไหร่นัก
รวมไปถึงการสั่นของเครื่องที่ค่อนข้างสูง ทำให้เอาไปขี่ทางไกล ไม่เหมาะเท่าไหร่ ลองขี่ดูละ
เอาไว้ขี่เล่นแถวบ้านดีกว่า
ช่วงล่างชุดหลังหนึบสมยี่ห้อ ชุดหน้าเรียกว่ากระด้างเลยหละ ปั้กๆๆๆๆ เวลาลงหลุม
ที่เหลือบอกเลยว่า ธรรมดามากกกก ที่ไม่ธรรมดาก็เวลาตำรวจเรียก
"ท่อแต่งนะน้อง" "รถหลวงรึเปล่าเนี่ย" บลาๆๆๆๆๆ แล้วก็ชวนบ่นไปบ่นมา
ถึงแม้จะช้าไปที่ผมจะรีวิว เนื่องจากTiigerแพแตกไปซะแล้ว
แต่วันนี้ก็ถือว่าผมได้รีวิวรถประหลาด
ที่ใครหลายคนบอกว่าต้องดูยาวๆ
รถคันนี้ผ่านมาแล้ว3ปีในมือของคนที่ดูแลรถแบบคนทั่วไป
"ครบ3ปีแล้วครับ"