✿ “สุภาพบุรุษโล่เงิน” สโมสรฟุตบอลเดียวในประเทศไทย ที่ไม่เคย “ไร้เพื่อน” ✿




ก่อนอื่น ขอเปิดกระทู้ด้วยการแสดงเจตนารมณ์ ... กระทู้นี้เกิดจากความตั้งใจที่จะแนะนำ “สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ” ให้ผู้ที่สนใจได้รู้จัก

โดยมีกรอบในการเขียนว่า จะให้ข้อมูลที่กระชับ ไม่เวิ่นเว้อจนน่ารำคาญ เพราะต้องการให้คนที่คลิกเข้ามา ได้รู้จัก “เพื่อนตำรวจ” โดยไม่เสียเวลามากนัก

และแอบคาดหวังเอาไว้เป็นการส่วนตัวว่า จะมีผู้อ่านบางท่าน แอบยิ้ม หลงรัก หรืออยากรู้จักสโมสรเพื่อนตำรวจมากยิ่งขึ้น


เพื่อให้สิ่งที่นำเสนอ ไม่น่าเบื่อและเข้าใจง่าย จะพยายามสอดแทรกภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นระยะๆ (สารภาพว่า เจ้าของกระทู้เป็นคนประเภท "สมาธิสั้น")

ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว เริ่มกันเลยนะคะ





โปรไฟล์และข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “เพื่อนใหม่” ของเรา


ชื่อ : Police United Football Club / สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ  สีประจำสโมสร : สีเลือดหมู  สัญลักษณ์สำคัญ : โล่ (ห์)  ปีที่ก่อตั้ง : พ.ศ. 2503





สนามเหย้า : สนามบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ     ความจุสนาม : 3,500 ที่นั่ง










ฉายา / สโลแกน  : The Spirit of Gentlemen  สุภาพบุรุษโล่เงิน (สโมสร ใช้คำว่า “โล่ห์”)





ชุดแข่ง : ชุดเหย้า สีเลือดหมู (กลาง) ชุดเยือน สีขาว และสีเหลือง (ซ้าย - ขวา)        แบรนด์ : พูม่า        สปอนเซอร์คาดหน้าอก : สัญญาประกันภัย





ข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ

✿ เป็นสโมสรที่อยู่ในวงการฟุตบอลไทยมากว่า 50 ปี (ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2503)

✿ ในอดีต (พ.ศ.2503 – 2551) บริหารงานโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

✿ เป็นสโมสรแรกในประเทศไทยที่จดทะเบียนเป็น “บริษัทมหาชน”

    พ.ศ. 2552  สโมสรตำรวจ ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในชื่อ บริษัท สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด (มหาชน)

✿ มีนักเตะรุ่นเก่าที่เป็นที่รู้จักและจดจำหลายท่านด้วยกัน

    วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ , ชัยยง ขำเปี่ยม , นที ทองสุขแก้ว , ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล , ดุสิต เฉลิมแสน และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นต้น

✿ ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง จาก “สโมสรตำรวจ” เป็น “สโมสรเพื่อนตำรวจ”      จาก “สโมสรเพื่อนตำรวจ” เป็น “สโมสรอินทรีเพื่อนตำรวจ”

    โดยครั้งล่าสุด เมื่อ พ.ศ. 2557 ได้เปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อ “สโมสรเพื่อนตำรวจ” เหมือนเดิม

✿ เป็นสโมสรแรกๆในไทย ที่มีแนวนโยบายในการสนับสนุนทีมอะคาเดมี่และทีมสำรอง

✿ ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้สโมสรหลายครั้ง

(หมายเหตุ : ในวงเล็บ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว --> โลโก้เดิม เป็นโลโก้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแข็งกร้าวและน่ายำเกรงตามภาพลักษณ์ขององค์กร

โลโก้ปัจจุบัน สวยและทันสมัย ความแข็งกร้าวและน่ายำเกรงหายไป แลดูเป็นมิตรมากขึ้น และที่สำคัญ เป็นสัญลักษณ์ที่เปิดรับกลุ่มแฟนบอลที่กว้างขึ้น)






ประธานฝ่ายบริหาร : สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา





หัวหน้าผู้ฝึกสอน : ธชตวัน ศรีปาน (ชื่อเดิม ตะวัน ศรีปาน อดีตนักเตะทีมชาติไทย ยุคดรีมทีม) รับหน้าที่หลังการเสียชีวิตของโค้ชอรรถพล ปุษปาคม





นักเตะที่น่าจับตามอง (ในมุมมองเจ้าของกระทู้) : รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ตำแหน่งผู้รักษาประตู และภิญโญ อินพินิจ ตำแหน่งกองหน้า / มิดฟิลด์ริมเส้น





นักเตะดาวเด่นประจำทีม : นักเตะเดินดินคนธรรมดาที่มีทั้งฉายาและภาพลักษณ์ดั่ง "ซุปเปอร์ฮีโร่" พ่วงตำแหน่ง "ดาวซัลโวสูงสุด" ยามาฮ่า ลีก วัน

"ซุปเปอร์แมน" แมน ธนา ชะนะบุตร ตำแหน่งกองหน้า (พ่วงอีกหนึ่งตำแหน่ง นักเตะยอดเยี่ยมประจำเลกแรกของสโมสร)
















"เสน่ห์" ของเพื่อนตำรวจ

(ที่จริงเขียนเอาไว้ตั้งหลายข้อ แต่ปรับลดเหลือแค่นี้ เพราะข้อความยาวเกินกว่าที่จะแสดงในส่วนของรายละเอียดกระทู้ ต้องการจบรายละเอียดทีละส่วน)



1. สโมสรเพื่อนตำรวจ แม้ว่าไม่ได้โลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดอย่างไทยพรีเมียร์ลีก แต่ก็ "ยังรักษามาตรฐาน" ของการเคยเป็นทีมที่อยู่ในลีกสูงสุดมาก่อน

โดยการรั้งตำแหน่ง "จ่าฝูง" ยามาฮ่า ลีก วัน ด้วยแต้มทิ้งห่างรองจ่าฝูงชนิดไม่เห็นฝุ่น




นอกจากผลงานในลีกจะ "ยอดเยี่ยม" แล้ว ผลงานในการแข่งขันฟุตบอลถ้วย ทั้ง "ช้าง เอฟเอ คัพ" และ "โตโยต้า ลีก คัพ" ก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย




ศึก ช้าง เอฟเอ คัพ  เพื่อนตำรวจ เขี่ยบีอีซี เทโรฯ ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก ตกรอบในรอบ 64 ทีม ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าบ้าน ด้วยสกอร์รวม 3 - 6

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ล่าสุด เพื่อนตำรวจเป็นทีมจาก "ยามาฮ่า ลีก วัน" เพียงทีมเดียว ในรอบ 8 ทีม ร่วมกับ เมืองทอง บุรีรัมย์ ชลบุรี เชียงราย อาร์มี่ ชัยนาท และราชบุรี




ส่วนศึก "โตโยต้า ลีก คัพ" เพื่อนตำรวจ เปิดบ้าน เขี่ยเมืองทอง ยูไนเต็ด ตกรอบในรอบ 32 ทีม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในรอบ 8 ทีม เพื่อนตำรวจพบแพร่ ยูไนเต็ด ผลการแข่งขันในเลก/นัดแรก เพื่อนตำรวจบุกไปเอาชนะแพร่ฯ ที่สนามกีฬาเทศบาลทุ่งโฮ้ง ด้วยสกอร์ 3 - 0

อีก 6 ทีมในเส้นทางลุ้นแชมป์ โตโยต้า ลีก คัพ ; ขอนแก่น ยูไนเต็ด อาร์มี่ ยูไนเต็ด พัทยา ยูไนเต็ด ศรีสะเกษ เอฟซี ลำพูน วอริเออร์และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด





2. ประธานฝ่ายบริหารสโมสร นอกจากวิสัยทัศน์ที่ดีและเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ยังมีจิตใจที่กว้างขวาง ยินดีให้โอกาสนักเตะและให้การสนับสนุนทีมชาติ

เช่น ปล่อยนักเตะในสังกัดไปเตะฟุตบอลนัดพิเศษในนามทีมชาติไทย (ไทยแลนด์ ออล สตาร์ หรือชื่ออื่น) ทั้งที่สโมสรมีโปรแกรมลงแข่งขันในวันถัดไป

(ทรู ออล สตาร์ vs ลิเวอร์พูล เอฟซี เตะ 14 ก.ค.      ในขณะที่วันที่ 15 ก.ค. เพื่อนตำรวจต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “อินทรีอันดามัน” กระบี่ เอฟซี)

โดยในเกมดังกล่าว สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจได้ปล่อยนักเตะซึ่งถือว่าเป็นกำลังหลักของทีมถึง 5 คน

อันประกอบด้วย   1. ธนา ชะนะบุตร     2. ปกรณ์ เปรมภักดิ์     3. ปกเกล้า อนันต์    4.  ภิญโญ อินพินิจ    และ 5. ธนากร สายปัญญา




ในเกมนัดพิเศษอื่นๆ เช่น เกมระหว่างไทยแลนด์ ออล สตาร์ vs เรดดิ้ง เอฟซี   สโมสรเพื่อนตำรวจก็ได้ปล่อยนักเตะตัวหลักไปร่วมแข่งขันด้วยเช่นกัน

เหนือสิ่งอื่นใด คือการสนับสนุนให้นักเตะในสังกัดลงแข่งขันในนาม “ทีมชาติไทย” ในวันและเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติชุดใด ด้วยความยินดี


ตามที่ประธานฝ่ายบริหาร ได้กล่าวเอาไว้ว่า


“ผมพร้อมปล่อยนักเตะเพื่อนตำรวจ ไปร่วมทุกกิจกรรมที่พวกเขาถูกเรียกตัวมา แม้ว่าสโมสรจะมีโปรแกรมเตะที่ถี่อยู่แล้วก็ตาม

เพื่อให้นักเตะได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่ากลับมา ขอย้ำอีกครั้งว่า ผมมองประโยชน์ของส่วนร่วมเป็นหลักเสมอมา”



นักเตะได้โอกาส ทีมชาติได้ผลงาน แฟนบอลก็แฮปปี้ นี่คือการ คืนความสุขให้ประชาชนและประเทศชาติในแบบฉบับสโมสรเพื่อนตำรวจ โดยแท้





3. ไม่ว่าจะเป็นนักเตะจากอะคาเดมี่ นักเตะไทยหรือแม้แต่นักเตะต่างชาติของสโมสร ต่างก็มีความรักภักดีและความผูกพันต่อสโมสรอย่าง "น่าประทับใจ"

“อัดนัน บาราคัต” มิดฟิลด์ตัวรุกชาวดัทช์ ยืนยันจะเล่นอยู่กับสโมสร แม้ตกชั้น เพื่อช่วยให้สโมสรได้กลับขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก

"ผมจะยังคงอยู่กับสโมสรแห่งนี้ เพราะที่นี่คือบ้านของผม

ผมขอขอบคุณแฟนบอลเพื่อนตำรวจ ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ผมจะอยู่ช่วยให้ทีมเพื่อนตำรวจกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้ เพราะนั่นคือความสุขของแฟนบอลของเรา และเป็นสิ่งที่พวกเขาควรจะได้รับ"



“ภิญโญ อินพินิจ” เด็กจากอะคาเดมี่ของสโมสร ยืนยันจะขออยู่กับสโมสรเพื่อนตำรวจ ไปจนกว่าจะไม่เป็นที่ต้องการของสโมสร

“ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่า ผมจะไม่ขอย้ายสโมสรไปไหนทั้งนั้น จนกว่าตนเองจะไม่เป็นที่ต้องการของทีมแล้ว

เรื่องเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ  แต่ที่สำคัญกว่าคือสโมสรแห่งนี้ที่ปลุกปั้นจนทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้

ผมมีความสุขที่ได้ลงเล่นกับสโมสรแห่งนี้ และจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าสโมสรจะบอกกับผมว่า ไม่ต้องการผมแล้ว”



และล่าสุด "ธนา ชะนะบุตร" ดาวซัลโวสูงสุดของทีมและของยามาฮ่า ลีก วัน ก็ยืนยันไม่มีความคิดจะย้ายสโมสร

“ผมกำลังมีความสุข และอยากค้าแข้งกับเพื่อนตำรวจต่อไปให้มากที่สุด ผมไม่มีความคิดที่จะย้ายทีมไปไหนอย่างแน่นอน"








4. สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เป็นสโมสรที่เป็นมิตร มองไปทางไหนก็พบแต่ความสุขและรอยยิ้ม ทั้งจากผู้บริหาร โค้ช นักเตะ ทีมงาน รวมทั้งแฟนบอล

จากมุมมองส่วนตัว เสน่ห์ที่น่าหลงใหลที่สุดของสโมสรเพื่อนตำรวจ คือรอยยิ้ม

ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ไม่ว่าจะในเกมหรือนอกเกม เราจะได้เห็นรอยยิ้มของผู้บริหาร โค้ช นักเตะ ทีมงานและแฟนบอลเสมอ


จริงอยู่ที่ว่า รอยยิ้มและความสุขไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุข เราก็อดที่จะยิ้มและมีความสุขไปด้วยไม่ได้

ในมุมมองของความรัก ถ้ามีใครซักคนทำให้เรายิ้มและมีความสุขไปกับเค้าด้วย เราก็คงจะรักคนคนนั้นได้ไม่ยาก

และถ้าคนคนนั้น เป็นคนเก่ง ใจดี มีความมั่นคง และเป็นสุภาพบุรุษด้วย ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะรัก  


"สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ" เพื่อนใหม่ของเราคนนี้ มีดีครบทุกอย่าง  ไม่ต้องคบเป็น "แฟน" (บอล) ก็ได้  แค่รับไว้เป็น "เพื่อนใหม่" ก็พอ















โปรดติดตามต่อ ด้านล่าง

v
v
v
v
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่