พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ตอนปฐมยามก็ทรงได้ตรัสรู้ "ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ"ระลึกชาติหนหลังได้
ระลึกชาติหนหลังของพระองค์เองนั่นแหละ พระองค์เกิดชาติก่อนนั้นเป็นอะไร
มีอายุ มีวรรณะ มีสุขะ พละ อย่างไรบ้าง นี่ก็ทรงรู้ไป รู้ไปหลายชาติคืนหลังไปนู่น
ตอนเที่ยงคืนก็ตรัสรู้ รู้แจ้งในความเกิดความตายของสัตว์ทั้งหลาย
ว่าเป็นไปด้วย "กรรมดี-กรรมชั่ว" ที่สัตว์ทั้งหลายทำเอาไว้
แต่ในชาติก่อนหนหลังนู่นติดตามมาตกแต่งให้ ไม่ใช่พระอินทร์พระพรหมอะไร
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรในโลกมาดลบันดาลให้คนเกิดมา ...ไม่มี
เพราะไม่ได้ผ่านในพระญาณของพระองค์เรื่องนั้นน่ะ
พระญาณของพระองค์นั้นรู้แจ้งว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน" "มีกรรมเป็นกำเนิด"
"มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์" "มีกรรมเป็นผู้ติดตาม" "มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย"
ผู้ใดทำกรรมอันใด..ดีก็ดี ชั่วก็ดี ก็จะได้รับผลแห่งกรรมอันนั้น
นี่เรามาพิสูจน์กันในพระธรรมคำสอนของพระองค์น่ะ
ผู้มีปัญญาเมื่อพิสูจน์แล้วก็ย่อมไม่มีทางสงสัยเลย
ย่อมรับรองพระโอวาทข้อนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลย
ข้อนี้มันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ว่า เราจะมารู้เอาง่ายๆ อย่างนี้
มันเป็นคุณธรรมของ "พระโสดาบัน" นู่นแหละไอ้ที่ท่านเชื่อกรรม
เชื่อผลของกรรมนี่อย่างแน่วแน่เลย ไม่ได้เชื่อสิ่งใดหมดพระโสดาบัน
ไม่ได้เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆในสากลโลกอันนี้อย่างที่โลกเขาเรียกร้องหาอยู่นั้น
เพราะฉะนั้นผู้ใดมีความเห็นอย่างนี้ ...ถึงจะไม่ได้สำเร็จมรรคผลอะไร
แต่มันก็เป็นหนทางให้ได้สำเร็จมรรคผล..ได้แน่นอน..ไม่ผิดทาง
การเชื่อกรรมเป็นทางไปสู่มรรคผล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ตอนปฐมยามก็ทรงได้ตรัสรู้ "ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ"ระลึกชาติหนหลังได้
ระลึกชาติหนหลังของพระองค์เองนั่นแหละ พระองค์เกิดชาติก่อนนั้นเป็นอะไร
มีอายุ มีวรรณะ มีสุขะ พละ อย่างไรบ้าง นี่ก็ทรงรู้ไป รู้ไปหลายชาติคืนหลังไปนู่น
ตอนเที่ยงคืนก็ตรัสรู้ รู้แจ้งในความเกิดความตายของสัตว์ทั้งหลาย
ว่าเป็นไปด้วย "กรรมดี-กรรมชั่ว" ที่สัตว์ทั้งหลายทำเอาไว้
แต่ในชาติก่อนหนหลังนู่นติดตามมาตกแต่งให้ ไม่ใช่พระอินทร์พระพรหมอะไร
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรในโลกมาดลบันดาลให้คนเกิดมา ...ไม่มี
เพราะไม่ได้ผ่านในพระญาณของพระองค์เรื่องนั้นน่ะ
พระญาณของพระองค์นั้นรู้แจ้งว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน" "มีกรรมเป็นกำเนิด"
"มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์" "มีกรรมเป็นผู้ติดตาม" "มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย"
ผู้ใดทำกรรมอันใด..ดีก็ดี ชั่วก็ดี ก็จะได้รับผลแห่งกรรมอันนั้น
นี่เรามาพิสูจน์กันในพระธรรมคำสอนของพระองค์น่ะ
ผู้มีปัญญาเมื่อพิสูจน์แล้วก็ย่อมไม่มีทางสงสัยเลย
ย่อมรับรองพระโอวาทข้อนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลย
ข้อนี้มันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ว่า เราจะมารู้เอาง่ายๆ อย่างนี้
มันเป็นคุณธรรมของ "พระโสดาบัน" นู่นแหละไอ้ที่ท่านเชื่อกรรม
เชื่อผลของกรรมนี่อย่างแน่วแน่เลย ไม่ได้เชื่อสิ่งใดหมดพระโสดาบัน
ไม่ได้เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆในสากลโลกอันนี้อย่างที่โลกเขาเรียกร้องหาอยู่นั้น
เพราะฉะนั้นผู้ใดมีความเห็นอย่างนี้ ...ถึงจะไม่ได้สำเร็จมรรคผลอะไร
แต่มันก็เป็นหนทางให้ได้สำเร็จมรรคผล..ได้แน่นอน..ไม่ผิดทาง