Inside out แอนิเมชันที่จี้ไชถึงใจคุณ

ถือว่าดิสนีย์พิกซ่าหลุดขอบจินตนาการไปไกลเลยทีเดียว นับตั้งเเต่ ปลาการ์ตูนว่ายน้ำตามหาลูกทั่วมหาสมุทร  บ้านลูกโป่งลอยได้ หนูทำอาหาร  หอยทากนักซิ่ง ล่าสุด พวกเค้าจับเอาฮอร์โมนเเละสารสื่อประสาทมาใส่คาเเรคเตอร์ชนิดตัวเป็นๆเห็นภาพจับต้องได้ ออกมาเป็น จอย เฟียร์ ดิสกัส แองเกอร์และเเซดเนส พวกเขาเอานามธรรมอย่างอารมณ์มาสรรค์สร้างออกมาให้เห็นเป็นตัวๆกันขนาดนี้  ก็คงไม่มีอะไรในโลกที่จะเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาอีกเเล้ว อนาคตอาจมีการเดินทางของฮีโมโกลบิน  หรือฮีโร่ อี.โคไลน์พิชิตลำไส้ก็เป็นได้

   เอาล่ะ กลับมาที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ในสมองของคุณ หรือตามท้องเรื่องก็คือ ออฟฟิศของเหล่าฮีโร่พิทักษ์คุณทั้งห้านั่นเอง
อาจมีสีสันในเรื่องเเทรกแซงเล็กน้อย ใครที่ยังไม่ได้ดูอยากจะลุ้นเอง ข้ามได้ไม่ว่ากัน  สำหรับผู้ที่ได้ดูแล้ว ช่วงเเรกๆ คุณอาจรู้สึกหงุดหงิดกับความดื้อรั้นของเเซดเนส ปั้ดโธ่เอ้ย คุณหล่อน   ก็บอกว่าอย่ายุ่งๆ ฟังไม่เข้าใจหรือยังไงกันนะ  เเล้วเป็นยังไง เกิดเรื่องใหญ่เข้าเเล้วทีนี้  
ใจเย็นๆนะ ชั้นพยายามคิดหาเหตุผลกับการกระทำของเเซดเนส ในที่สุด ชั้นก็เข้าใจเธอ  
   คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้  คุณคิดว่า อารมณ์ทั้งห้า สั่งการไปสู่ตัวรับในร่างกายทั้งหมดได้ทันท่วงทีได้ยังไง (นี่เราพูดถึงตามท้องเรื่องนะ เก็บหนังสือเรียนชีววิทยาของคุณเข้ากระเป๋าไปซะ)  มันอาจอ้างอิงจากพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต นั่นคือ การตอบสนองต่อสิ่งเร้านั่นเอง
เมื่อมีเหตุการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง อารมณ์นั้นจะทำการตอบสนองโดยอัตโนมัติ (คุณคงรู้นะ กระเเสประสาทของเราเดินทางเร็วมาก)
เอาล่ะ นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมจู่ๆ ดิสกัสถึงโผล่มาตอนได้กลิ่นบล็อกโคลี่ฉุนจมูก  หรือเฟียร์โดดเข้ามาบังคับเเป้นคอนโทรลเมื่อเหลือบเห็นปลั้กไฟ
เช่นเดียวกันกับเเซดเนส  เหตุการณ์อันไม่น่าอภิรมย์นับตั้งเเต่ย้ายสำมะโนมาอยู่ที่ใหม่ กระตุ้นความรู้สึกด้านลบทั้งหลายให้ทำงาน
คุณจะเห็นได้จากลูกแก้วความทรงจำที่ปรากฎออกมาหลากหลายสีสัน  สภาพสังคมที่น่าโมโห บ้านสกปรกน่าขยะเเขยง เเถมยังน่ากลัวอีกด้วย
คุณคงคิดถึงบ้านหลังเก่าที่เเสนอบอุ่น เเละอยากร้องไห้เต็มที  นั่นหมายถึง เเซดเนสในหัวคุณถูกกระตุ้น

เเต่อนิจจา! แซดเนสไม่สามารถทำหน้าที่ของเธอได้

จอย ผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในสมองของไรลีย์ ไม่ยอมที่จะให้ไรลีย์ต้องเศร้าเสียใจ เธอกีดกันเเซดเนสออกห่างจากแป้นคอนโทรล เพื่อไม่ให้ไรลีย์ต้องร้องไห้
เเม้ว่า ร่างกายของไรลีย์จะอยู่ในภาวะตึงเครียดเเละต้องการผ่อนคลายออกด้วยน้ำตาก็ตาม...
  อารมณ์ทั้งห้า เห็นด้วยกับจอย ที่ไม่ต้องการให้ไรลีย์เศร้าโศก เเม้เเต่กับตัวเเซดเนสเอง
จนถึงจุดหนึ่ง เเรงกระตุ้นก็ผลักดันให้เธอพยายามเข้าใกล้ลูกแก้วความทรงจำโดยที่เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
และเมื่อเธอได้โอกาสบังคับแป้นคอนโทรล จนสามารถระบายน้ำตาที่อัดอั้นออกมาได้ในที่สุด สมองจึงจดจำความทรงจำสีฟ้าไว้เป็นความทรงจำหลัก
ความทรงจำเเสนเศร้าจะสร้างเกาะบุคลิกภาพอะไรให้ไรลีย์ไม่มีใครรู้ได้  เเต่สาเหตุของความยุ่งยากทั้งหมด ไม่ใช่เเซดเนส  
หากเเต่เป็น ความกลัวของจอยเอง  ถ้าเพียงเเต่จอยไม่หวาดกลัวความเศร้าเเละมองเห็นความสำคัญของการร้องไห้  เรื่องน่าตกใจเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น



ภาพจาก  http://www.hangtogetherblog.com/2015/07/22/inside-out-a-renewed-american-culture/

   การกีดกันเเซดเนสของจอย  เปรียบได้กับ บุคคลน่าสงสาร ที่ไม่ยอมร้องไห้ หรือไม่อาจร้องไห้ได้ พวกเขาจะเก็บ เเละกดความโศกเศร้าเอาไว้
เเละพยายามฝืนยิ้มเเม้ว่าในใจจะร้าวรานสักเเค่ไหนก็ตาม  ท้ายที่สุดเเล้ว บุคคลเหล่านี้ จะต้องมีชีวิตที่น่าสงสาร เมื่อความเศร้าที่เก็บและกดเอาไว้
มันปะทุออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้  พวกเขาอาจเป็นโรคซึมเศร้า  เหมือนเช่นไรลีย์ ที่สูญเสียความรู้สึกทุกอย่าง เเละอีกไม่นานเธอก็อาจเสียเเม้กระทั่งชีวิตของเธอเอง

   คุณอาจเถียงว่า เดี๋ยวสิ ที่เป็นเเบบนี้ ก็เพราะอุบัติเหตุที่จอยเเละเเซดเนสหายไปจากศูนย์บัญชาการไม่ใช่หรือ  นั่นก็ใช่ เเต่ต่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุนั้น
ไรลีย์ก็ยังต้องจมกับความเศร้าอยู่ดี เพราะ ณ ขณะนั้น เกิดความทรงจำหลักสีฟ้าที่อาจสร้างบุคลิกภาพด้านลบขึ้นกับไรลีย์ หนำซ้ำ แซดเนสในตอนนั้น
ก็มีผลกระทบกับความทรงจำทั้งหมดของไรลีย์ให้กลายเป็นความเศร้าทั้งหมด โดยที่หากความทรงจำเปลี่ยนเป็นความเศร้าเเล้ว จอยก็ไม่สามารถเปลี่ยนกลับความเศร้าให้เป็นสุขได้เลย

   ดังนั้น สิ่งที่จะควบคุมสถานการณ์อันน่าใจหายนี้ได้นั้น คือการ มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง เมื่อสุข จงหัวเราะ เมื่อเศร้าจงให้โอกาสตัวเองได้ร้องไห้
เหมือนที่ในท้ายที่สุดเเล้ว จอยก็เข้าใจความเศร้าและรู้วิธีจัดการกับเเซดเนส ซึ่งนั่นนำพาไปถึง การมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นของไรลีย์ในตอนท้ายเรื่องนั่นเอง

  สุขเเละเศร้า อยู่คู่กัน หนีกันไม่พ้น ซึ่งสิ่งนี้ มันได้บ่งบอกเป็นนัยๆอยู่เเล้วในร่างกายของจอย ...?

ในขณะที่ อารมณ์อื่นๆ มีสีโดยเฉพาะของตัวเอง  เเต่จอยที่มีผิวกายสีเหลืองสว่างพร้อมเเสงออร่าเเห่งความสดใส  กลับมีสีผมเเละสีตาเป็นสีน้ำเงิน
เหมือนกับเเซดเนสอย่างน่าประหลาดใจ



ขอบคุณภาพจาก  http://blogs.nd.edu/oblation/2015/07/07/all-of-the-feels-the-joy-of-inside-out/

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่ชั้นสังเกตเอง มโนเอง เเละร้อยเรียงเป็นตุเป็นตะด้วยตัวเอง  แอนิเมชั่นเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายอย่างให้เราได้คิด เเละชั้นก็เชื่อว่า
ทุกคนที่ได้ดู ย่อมรู้สึกได้ ถึงสิ่งที่ผู้สร้างแฝงไว้  สำหรับชั้นเเล้ว Inside out เป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้ชั้นร้องไห้ (ชั้นว่าไม่น่าใช่เพราะเศร้านะ
ก็บอกไม่ถูก แต่น้ำตาชั้นไหลตั้งเเต่ฉากที่จอยปรากฎตัวขึ้นในความมืด เเละลูกแก้วสีทองลูกเเรกปรากฎขึ้นค่อยๆกลิ้งไปตามราง จนกระทั่ง คำสัญญาของจอยที่ตั้งมั่นแก่ไรลีย์ ...)
   เอาละ พอเเค่นี้ดีกว่า นี่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ชั้นได้รับจากหนังเรื่องนี้ แต่เเค่นี้ก็มากพอเเล้วล่ะนะ เนอะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่