หลังจากกลับมาจากพัทยาก็แวะมาทานร้าน "Maguro" ที่ Chic republic ก่อนที่จะกลับบ้าน
วันนี้ได้คิวมาชิมร้านอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน หลังจากที่เห็นคนมา Check-in ที่ร้าน Maguro นี้กันเยอะมาก

ทำเล : ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ Chic republic บนถนนบางนา-ตราด
ถ้ามาจากในเมืองก็จะเลยเซนทรัลบางนามานิดนึง จะเห็นที่จอดรถอยู่ด้านหน้า ป้าย Chic republic เด่นชัดเจนครับ หาไม่ยาก



เวลาเปิด : 11.00-22.00 น. เปิดทุกวัน





บรรยากาศร้านเป็นการตกแต่งให้ได้บรรยากาศญี่ปุ่นๆ หน่อย ใช้รูป ป้ายชื่อร้าน แสงไฟ ให้ความรู้สึกชิวๆ นั่งคุยเล่นกับเพื่อน หรือจะมากับแฟนก็ได้
ถ้ามาคนเดียวก็มี Counter bar ให้นั่งกิน พร้อมกับดูเชฟทำอาหารไปด้วยก็ได้



สำหรับเครื่องดื่ม ชาเขียวรีฟิล(40 บาท) ที่นี่ก็มีทั้งร้อนและเย็น เติมได้ตลอดสำหรับคนที่เน้นความคุ้ม
แต่ผมสั่ง Honey-Lemon (90 บาท) รสชาติดีมาก มีกลิ่นน้ำผึ้งขึ้นมาเตะจมูกตอนดูดขึ้นมา หวานอมเปรี้ยวกำลังดี อร่อยยยยยยย



ระหว่างที่รอเมนูหลักมา เมนูกินเล่นก็มาเสิร์ฟก่อน เมนูแรก Tako-Wasabi (90 บาท)



เป็นการเอาปลาหมึกสดหั่นชิ้นหยาบๆ มาคลุกกับซอสวาซาบิที่มีความหอม ปลาหมึกกรอบมาก ได้รสชาติเผ็ดนิดๆ กลิ่นวาซาบิหอมขึ้นมาเตะจมูก

หรือจะเป็น ยำสาหร่าย (100 บาท) หอมกลิ่นสาหร่ายคลุกเคล้ามากับไข่กุ้ง ตักมาแบบพูนถ้วย อร่อยไม่แพ้กัน



ส่วนซุปที่นี่จะเสิร์ฟเป็นซุปใส ช่วยให้การกินมื้อนี่คล่องคอขึ้นเยอะเลยครับ และที่สำคัญเติมได้ตลอด ฟรี!



ผมว่าร้านนี้เหมาะมากกับคนที่ชอบหาร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ชอบนั่งชิวกับเพื่อน แต่ไม่อยากเข้าเมืองรถติด
ดีเลยสำหรับคนที่อยู่แถวบางนา ศรีนครินทร์ เพราะมีร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีๆ เพิ่มขึ้นมาอีกร้าน

ไปดูเมนูแรกที่ทางร้านเอามาให้ชิมเป็น "Sashimi set"
ทางร้านเลือกมาให้ทาน 4 ชนิด



1. Salmon
2. Hotate
3. Salmon toro
4. Chu-toro

เราต้องทานจากปลาที่รสชาติเบา ไปปลาที่มีรสชาติเข้มหรือปลาที่มีมันมากกว่า
ก็จะไล่เรียงจาก 1-4 เลย

คำแรก "Salmon" อร่อยมาก ชิ้นใหญ่ไปนิด ใหญ่จนเต็มปาก รู้สึกว่าปลาสด
คำที่สอง "Hotate" หอยหวานมากๆๆๆๆๆๆ  ชิ้นใหญ่เต็มคำ
คำที่สาม  "Salmon toro" คำนี้ก็ฟิน Sashimi ที่นี่หั่นมาคำใหญ่ได้ใจจริงๆ  รู้สึกถึงความมันของท้องปลาแซลมอน
คำที่สี่ "Chu-toro" คำนี้ไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ อยากให้มันเยอะกว่านี้อีก
(ลง Sashimi set อีกรูป)

เวลาทานอาหารญี่ปุ่น เราควรจะทานอาหารที่มีรสอ่อนไปอาหารที่มีรสเข้ม
เพราะไม่งั้นถ้าเราทานอาหารที่มีรสเข้มก่อน เราจะทานอาหารรสอ่อนไม่อร่อย

อาหารค่อยๆ ทยอยมาเสิร์ฟ จานที่สอง “สลัดปลาเงิน (220 บาท)”



ผักกรอบๆ ราดด้วยน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่น จานใหญ่มาก โรยเต็มจานด้วยปลาเงินทอดกรอบ

ตามมาด้วยจานที่สาม “ขาปูทาราบะย่าง (ขาละ 1,500 บาท)”



ที่เห็นในจานคือ 1 ขา รสชาติของปูจะเค็มนิดๆ เนื้อแน่น จิ้มกับน้ำจิ้มพอนซึ ที่เปรี้ยวนิดๆ ทางร้านใช้เลมอนผสมยูซึที่ทำให้มีกลิ่นหอมอยู่ในน้ำจิ้มด้วย

เมนูต่อมา "ซูชิกุ้งโบตัน" คือการเอากุ้งหวานตัวใหญ่ๆ มาทำซูชิ  
กุ้งหวานกรอบ ตัวใหญ่มากๆ อร่อยจริง ส่วนตัวผมยกให้เมนูนี้อร่อยเหมาะสมที่จะเป็น Signature ของร้านได้เลยครับ



ซูมให้ดูกันชัดๆ กับความฟินของคำนี้!!!



ส่วนหัวที่เราเห็นอยู่ในจาน ทางร้านไม่ได้ทิ้ง เค้าจะให้เราเลือกว่าจะเอาไปทำซุป หรือ จะเอาไปทอดเป็นเทมปุระ

ของผมเลือกให้ทอดเป็นเทมปุระ ก็อร่อยอีกแล้วครับ



จานต่อมา... "ซูชิโอโทโร่โรยเกลือทรัฟเฟิล"



คำนี้ฟินสุดๆ ปลาเลือกชิ้นส่วนที่ดีที่สุดในปลาทูน่า แล้วโรยด้วยเกลือทรัฟเฟิล เมนูนี้ไม่ต้องจิ้มน้ไจิ้มเพิ่มเลย เอาเข้าปากแล้วฟิน!

ซูมๆๆๆๆๆ



เมนูต่อไป... "Maguro tower"



มีส่วนประกอบของ Otoro, Otoroสับ, ไข่หอยเม่น, คาร์เวียร์ จานนี้รู้สึกเครื่องเยอะจนเต็มปากไปหมด แยกรสไม่ค่อยถูก



ยังไม่หมด จานต่อมา... "ซูชิปลาไหลน้ำจืด"



ด้วยความยาว 7 นิ้วของปลาไหล ถือว่ายาวกว่าร้านอื่นทั่วไป รสชาติหวานเนื้อละเอียดมว๊าก  




จานสุดท้ายแล้วเศร้า! พบกับ... "ฟัวกราแมงโก้"

ร้านนี้ได้ไอเดียมาจากตะวันตก ปกติตับห่านเค้าจะกินกับซอส แต่ทางร้านไม่ราดซอสแต่ใช้มะม่วงมาแปะเลย



และ... ของแถมจากทางร้าน ประทับใจที่สุด "ซูป Foie Gras"



ส่วนตัวผมว่าร้านนี้อร่อย และน่าจะลบความเชื่อที่ว่าร้านอาหารดีๆ ต้องอยู่แต่ในเมืองไปได้นะครับ ตัวเลือกใหม่ของคนย่านนี้เลย

all pictures was taken by iphone.