...จากทู้นี้นะคะ...
http://pantip.com/topic/34061232
...ยาวิเศษ 3 ขวด...ทำไมต้องมียาวิเศษด้วย ?...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ...!!!
...จขกท ได้อ่านเรื่องของเพื่อนแล้ว ทั้งฮา ทั้ง งง ทั้ง ทึ่ง
เพื่อนที่สุภาพ อ่อนโยน(กับแม่) จะมีอดีตวัยเด็กที่เฟั้ยวเงาะขนาดนี้
จากเด็กโง่ กลายมาเป็นคนฉลาด เป็นนักเล่นหุ้นตัวยง จขกท. รวมเล่มมาให้อ่านง่ายๆค่ะ...
ประสบการณ์ เหตุการณ์...เปลี่ยนชีวิต....
เมื่อก่อนเราเป็นเด็กที่ซนมาก...เป็นเด็กที่ไม่สนใจการเรียนชอบเที่ยวเล่นวิ่งแกล้ง
ทั้งคนทั้งสัตว์ไปทั่วจนหมดวัน...
ตอนเด็กเราโง่มากกกกก.....วันหนึ่งเราจำได้ ตอนอยู่ป.4 ครูคณิตมาสอนประกบอยู่ข้างๆ สอนทีล่ะบรรทัด
ไอ้ความที่เราอยู่ห้อง ค. ควายโรงเรียนวัด เราน่าจะโง่ที่สุดในห้องน่ะ ในตอนนั้น
กลัวครูมาก ครูถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ครูสอนและบอกให้เขียนทีล่ะบรรทัด จนมาถึงได้คำตอบ...
ครูบอกว่า เพราะฉะนั้น ความจริงมันต้อง จุดสามจุด ใช่ไหมครับ เราก็เขียนเพราะฉะนั้นเป็นตัวหนังสือ...
เพี๊ยะ...!!! ครูเอาไม้บรรทัดตีมือ บอกเธอนี่มันโง่จริงๆเลย สอนอะไรก็ไม่เคยจำ...
มีต่อน่ะครับ...ว่าหลังจากนั้น ทำไมเด็กโง่ๆคนหนึ่ง พลิกขึ้นลุกขึ้นมาเปลี่ยนจากเด็กที่โง่ กลายเป็นเด็ก
ที่เก่งคณิตศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเลยก็ได้....
-----ผลึกหิน-----

เราเชื่อว่า... มีเหตุการณ์วิเศษ สามเหตุการณ์ ( ไม่ใช่พรสามข้อแน่ๆ) ที่ทำให้เด็กโง่ๆคนหนึ่ง...กลายเป็นเด็กเรียนเก่ง ในโรงเรียน...
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในระยะเวลา...ห่างกัน ประมาณสองเดือน... ในแต่ล่ะเหตุการณ์
เหตุการณ์แรก : วันที่พ่อตบะแตก...
วันนั้นเราแกล้งพี่และน้องๆที่เป็นผู้หญิง บ้านเรามีพี่น้อง 6คน
เราคนที่ 2 ผู้ชายคนเดียว...ดังนั้นเวลาพวกหล่อนๆเล่นอะไรกัน มักจะไม่ให้เราเล่นด้วย
เราจึงอยู่เหมือนเป็น หมาหัวเน่า อยู่คนเดียว...ดังนั้นเมื่อไม่ให้เราเล่นด้วย เราจึงต้องออกแนว
ก่อกวน ให้วงแตก เป็นแบบนี้หลายครั้ง...จนถึงวันที่คุณพ่อ เหลืออดกับเสียงร้องๆของพี่ๆน้องๆที่โดนเราแกล้ง...
และคงเหลืออดกับเรา ที่ชาวบ้านเขาต่างพากันมาฟ้องถึง พฤติกรรมห่ามๆของเรา ที่ทำกับเด็กลูกเพื่อนบ้าน
เช่น ถีบเขาตกต้นไม้บ้าง... ขับรถจักรยานไปขูดสีรถยนต์ชาวบ้านบ้าง.. เอาไม้ขีดไฟจุดแหย่เล่นกะเพื่อน
จนติดมุ้งเกือบไหม้บ้านเพื่อนบ้าง...
รวมๆแล้วพ่อคงเก็บกดไว้นาน วันนั้นหลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องของพี่น้องๆ จากการที่เราไปแกล้งจนเขาไม่สามารถเล่น
กันเองต่อได้...คุณพ่อ จับตัวเราหิ้วไปหลังบ้าน ...ตีเราด้วยไม้หวายที่เตรียมไว้เฉพาะแล้ว จำได้ว่าคุณพ่อหวดหลายทีมาก...
จนก้นเราชาไปเลย...เราหนีถอยไปประชิดผนังหลังบ้าน...คุณพ่อตามมาตบหัวเราอย่างแรงจนเราหน้าหงาย หัวไปชนกับหัวตะปู
ที่ตอกยื่นออกมา ผลปรากฏว่า เลือดออกครับ หัวตะปูเจาะเข้าตรงศรีษะด้านหลังตรงกลางแบ่งครึ่งอย่างพอดิบพอดี จากระยะหน้าผากมาท้ายทอย
และจากซ้ายไปขวา....เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ เปิดกระโหลก ให้ได้รับ O2 บ้าง และได้ให้เลือดใหม่มันหมุนเวียนเข้ามา ประสาทจะได้ตื่นตัว....
มีต่ออีกน่ะครับ...สองเหตุการณ์ ที่รับรองคุณจะ อึ้ง ทึ่ง เสียว....
-----ผลึกหิน----

เหตุการณ์ที่สอง : เหตุเกิดวันตรุษจึน...
เราหลังจากผ่านเหตุการณ์แรกไปได้ประมาน สองเดือน...วันนั้นเราจำได้วิชา ภาษาอังกฤษ คุณครูผู้สอนเป็นผู้ชาย
และเป็น คุณครูฝ่ายปกครองด้วย เราเคยโดนแกทำโทษหลายครั้ง เช่น...ปาชอล์คว่าจะปาให้มันลงตรงช่องเก็บหน้ากระดาน
มันกลับพลาดมุดกระดาน...ไปโผล่อีกห้องที่แกกำลังสอนอยู่พอดี...แกเห็นรีบเดินมาที่ห้องเราเลย ถามใครเป็นคนปาชอล์ค ออกมาซ่ะดีๆ
ผลโดนให้ไปยืนบนโต๊ะ และฟาดด้วยไม้เรียวอีกสามที แบบว่าให้เพื่อนๆเห็นกันทั้งห้อง...
คุณครูคนนี้นอกจากจะ สอนภาษาอังกฤษ เป็นครูฝ่ายปกครอง แกยังมีหน้าที่เป็นคนเคาะระฆัง เพื่อบอกเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน
วันนั้นเราจำได้...เป็นวันตรุษจีน ก่อนออกจากบ้านแม่บอกว่า วันนี้ห้ามซนน่ะ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามด่าใคร ห้ามถูกตี ไม่งั้นจะซวยทั้งปี เราตอบแม่ ครับ...
เราไปถึง รร.ประมาณ เจ็ดโมงกว่านิดหน่อย ช่วงเราเดินขึ้นห้อง จะต้องผ่าน ระฆังที่ครูแกจะต้องตีทุกเช้า วันนั้นไม่รู้อะไรมาดลใจ แทนที่เราจะเดินผ่านไปเฉยๆเหมือนทุกวัน กลับเดินตรงดิ่งไปที่ระฆัง เคาะ แป๊ง... แป๊ง... แป๊ง...แป๊ง... ทุกสายตาต่างมองมาที่ระฆัง...
ไอ้เราเคาะเสร็จ ตกใจ เรือหายหล่ะสิ...งานเข้าวันตรุษจีนซ่ะแล้ว...
คุณครูคนนั้นอีกแล้ว...วิ่งออกจากห้องมาดูว่าใครเคาะ เห็นเราจะๆเต็มตา ครูตะโกนถาม เธออีกแล้วเหรอ มานี่...ผลวันนั้นโดนตีหน้าเสาธงต่อหน้านักเรียนทั้งโรงเรียน...
แต่ที่เกริ่นมาทั้งหมด. .มันยังไม่เข้าเหตุการณ์ครั้งที่สองน่ะครับ แค่ปูท้องเรื่องให้ทราบถึงที่มาของเหตุการณ์ครั้งที่สองที่กำลังจะเกิด..

วันนั้นก่อนเข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษของคุณครู คู่ปรับเรา มีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกเราว่า ไม่ชอบขี้หน้าครูมาก...อยากชกหน้าครูคนนี้จัง...
ก่อนคุณครูเข้ามาสอน เราไปคุยกับเพื่อนที่เป็นหัวหน้าชั้นบอก ....(ชื่อเพื่อน) มันบอกว่าอยากชกหน้าครู....(ชื่อครู)
หัวหน้าชั้นกับไอ้คนที่อยากชกหน้าครูมันเป็นไม้เบื่อไม้เมา มากันตั้งหลายชั้นแล้ว ไอ้เราก็ไม่คิดว่า เรื่องที่เราไปเล่าให้หัวหน้าชั้นฟัง
มันจะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเรา...
พอถึงช่วงเวลาเข้าเรียน คุณครูหลังจากเช้าวันนั้นตีเราหน้าเสาธง เดินอาดเข้ามา หัวหน้าบอก นักเรียน ทำความเคารพ
สวัสดีครับคุณครู..จบยังไม่ทันนั่ง หัวหน้าชั้นยืนบอก ครูครับ ...(ชื่อเรา) บอกว่า...(ชื่อเพื่อนคนอยากชก) เขาบอกว่าอยากชกหน้าครูครับ...
เท่านั้นแหละครับ ครูคงฟังผิด หรือสมองยังประมวลเอาเรื่องที่เราโดนแกตี มาผนวกกัน แปรผลออกมาได้ว่า เราอยากชกหน้าแก
แกตรงรี่มาหาเรา รัวมือไม่ยั้ง ทุบมาที่ศรีษะเราแบบรัวๆนับไม่ถ้วน เรารีบลุกขึ้นบอก ไม่ใช่ผมครับที่อยากชกหน้าครู เราชี้ไปที่เพื่อน..(บอกชื่อ)
ต่างหากที่อยากชกหน้าครู... ครูล่ะจากเราตรงปรี่ไปหาเพื่อนคนนั้น ทุบหัวรัว ตุ๊บตั๊บๆ แต่แรงแกตกไปเยอะ เมื่อเทียบกับที่เราโดน...
เสร็จแล้วแกไม่มีขอโทษเราสักคำ...เดินกับไปเอามือบวมๆแดงๆของแกมาหยิบชอล์คเขียนบนกระดาน มือแกงี้สั่นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนเรา หลังถูกระรัวทุบหัว ได้กินขนมตุ๊บตั๊บ ฉลองวันตรุษจีน...หลังจากโดนทุบ เคยเห็นการ์ตูนที่เขาเขียนล้อกันไหมครับ ที่มีนกมึนๆบินวนรอบหัว
หลังถูกทุบ มันเป็นแบบนั้นเลย ในหัวเรามันมีแต่เสียง วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง...ตลอดทั้งวัน...
ตอนเย็นกลับถึงบ้าน แม่รีบพาไปกินข้าว บอกวันนี้วันตรุษจีน มีทั้งบะหมี่ผัด ผัดไก่ และของกินเยอะเลย...ที่เราขอบ
แม่ถาม...วันนี้ไม่โดนตีใช่ไหม...เราพยักหน้าบอกแม่ ...ครับวันนี้ไม่โดนตี...ทั้งๆที่ความจริง อ่วมตั้งแต่เช้า 5555
เขียนมาถึงตอนนี้ สงสารแม่จับใจ ที่มาจากเราไปก่อนถึงวันแม่ในอีกไม่กี่วันที่ผ่านมา แม่เป็นคนเดียว ที่รักและห่วงลูกชายคนเดียว
คนนี้ของแม่ตลอด แม้แต่ช่วงที่แกเพ้อไม้ได้สติ ยังเรียกหาแต่เรา บอกว่า รักเรามากน่ะ แม่รักเรามากกว่าใครๆ...

เหตุการณ์ที่สาม : ผึ้งเปลี่ยนชีวิต...
ใช่ครับฟังไม่ผิด ผึ้งจริงๆ ที่เปลี่ยนชีวิตเราจาก เด็ก โง่ ๆ มาเป็นเด็กเรียนเก่งติดที่หนึ่งและสอบติด วิศวะคนเดียว
ในระดับ อำเภอ ท้องถิ่นต่างจังหวัดแบบนั้น...
หลังจากตรุษจีนผ่านไปได้ประมาณ สองเดือน เราจำได้ช่วงประมาณ เมษายน หน้าร้อน...
เป็นวันหยุดเรียน...เรากับเพื่อนแอบไปปีนต้นไม้เล่นกัน...แข่งกันคนล่ะต้นใครปีนไปยืนได้สูงที่สุดชนะ
เราและเพื่อนเลือกคนล่ะต้น พอนับ 1 2 3... ต่างคนต่างรีบปีนต่างไม่ยอมแพ้ เราปีนไปได้เกือบถึงยอดแล้ว...
หวี่ๆๆๆๆๆๆๆ...เสียงผึ้งแตกรังครับ หัวเราไปกระแทกกับรังผึ้ง ผึ้งนับร้อยนับพันตัว แห่กันออกมาโจมตี ฝากเหล็กใน
ไว้ในศรีษะเรา...มือเราปัดพัลวัน...ร่างเราค่อยๆรูดร่วงตกลงมา...
ได้สติรีบวิ่งตรงร้องให้กลับบ้านไปหาแม่...บอกโดนผึ้งต่อย...แม่เห็นตกใจมาก...คนข้างบ้านบอกให้โกนหัว
แล้วเอาน้ำส้มสายชูหยอดจุดที่โดนต่อย...เราร้องบอกแม่ไม่โกนหัว ไม่เอาไม่ให้โกน...
แม่ก็เลยไม่โกน ได้แต่คลำจุดบวมบนหัว...และหยอดยาไปทีล่ะจุด...โชคดีที่เราไม่เป็นคนแพ้ผึ้ง...
เราจำได้ตอนนั้น ทั้งหัวเราเหมือนมีเข็มเล็กๆเป็นร้อยๆเล่ม กระหน่ำแทง จึ๊กๆๆๆๆๆๆ อยู่ตลอดเวลาเป็นเวลาเกือบสามวัน
ในหัวมีเสียง วิ๊งวิ๊งว๊ิง...ตลอดเวลาเหมือนตอนโดนครูทุบหัวเลย...
หลังจากผ่านเหตุการณ์ ทั้งสามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นที่ศรีษะ เราไม่โทษใคร นอกจากฟ้าลิขิตให้เรา
ได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่...จากเด็กที่คิดช้าโง่ ไม่ชอบเรียน...พอระบบประสาทมันถูกกระตุ้นด้วยเข็มเหล็กใน
ของผึ้งนับพันตัว...ประสาทที่มันเคยอุดตัน ประสาทที่มันยังทำงานหรือแตกแขนงไม่เต็มที่...มันได้ถูกกระตุ้น...
ด้วยสามเหตุการณ์ ในเวลาที่พอเหมาะ พอที่จะทำให้สมองเราเกิดการเปลี่ยนแปลงจน คุณครูและเพื่อนๆ
ต่างตกใจและถามว่า เมื่อก่อน " เมื่อก่อนทำไม mung โง่จังว่ะ "
ยังไงก็แล้วแต่ฝากให้เป็นข้อคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงของลูกผู้ชายตัวน้อยๆ ที่ห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาด...น่ะจะบอกให้...
-----ผลึกหิน-----
...ประสบการณ์... เหตุการณ์เปลี่ยนชีวิต...ของ... ผลึกหิน...///...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ...!!!
...จากทู้นี้นะคะ...
http://pantip.com/topic/34061232
...ยาวิเศษ 3 ขวด...ทำไมต้องมียาวิเศษด้วย ?...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ...!!!
เพื่อนที่สุภาพ อ่อนโยน(กับแม่) จะมีอดีตวัยเด็กที่เฟั้ยวเงาะขนาดนี้
จากเด็กโง่ กลายมาเป็นคนฉลาด เป็นนักเล่นหุ้นตัวยง จขกท. รวมเล่มมาให้อ่านง่ายๆค่ะ...
เมื่อก่อนเราเป็นเด็กที่ซนมาก...เป็นเด็กที่ไม่สนใจการเรียนชอบเที่ยวเล่นวิ่งแกล้ง
ทั้งคนทั้งสัตว์ไปทั่วจนหมดวัน...
ตอนเด็กเราโง่มากกกกก.....วันหนึ่งเราจำได้ ตอนอยู่ป.4 ครูคณิตมาสอนประกบอยู่ข้างๆ สอนทีล่ะบรรทัด
ไอ้ความที่เราอยู่ห้อง ค. ควายโรงเรียนวัด เราน่าจะโง่ที่สุดในห้องน่ะ ในตอนนั้น
กลัวครูมาก ครูถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ครูสอนและบอกให้เขียนทีล่ะบรรทัด จนมาถึงได้คำตอบ...
ครูบอกว่า เพราะฉะนั้น ความจริงมันต้อง จุดสามจุด ใช่ไหมครับ เราก็เขียนเพราะฉะนั้นเป็นตัวหนังสือ...
เพี๊ยะ...!!! ครูเอาไม้บรรทัดตีมือ บอกเธอนี่มันโง่จริงๆเลย สอนอะไรก็ไม่เคยจำ...
มีต่อน่ะครับ...ว่าหลังจากนั้น ทำไมเด็กโง่ๆคนหนึ่ง พลิกขึ้นลุกขึ้นมาเปลี่ยนจากเด็กที่โง่ กลายเป็นเด็ก
ที่เก่งคณิตศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเลยก็ได้....
-----ผลึกหิน-----
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในระยะเวลา...ห่างกัน ประมาณสองเดือน... ในแต่ล่ะเหตุการณ์
เหตุการณ์แรก : วันที่พ่อตบะแตก...
วันนั้นเราแกล้งพี่และน้องๆที่เป็นผู้หญิง บ้านเรามีพี่น้อง 6คน
เราคนที่ 2 ผู้ชายคนเดียว...ดังนั้นเวลาพวกหล่อนๆเล่นอะไรกัน มักจะไม่ให้เราเล่นด้วย
เราจึงอยู่เหมือนเป็น หมาหัวเน่า อยู่คนเดียว...ดังนั้นเมื่อไม่ให้เราเล่นด้วย เราจึงต้องออกแนว
ก่อกวน ให้วงแตก เป็นแบบนี้หลายครั้ง...จนถึงวันที่คุณพ่อ เหลืออดกับเสียงร้องๆของพี่ๆน้องๆที่โดนเราแกล้ง...
และคงเหลืออดกับเรา ที่ชาวบ้านเขาต่างพากันมาฟ้องถึง พฤติกรรมห่ามๆของเรา ที่ทำกับเด็กลูกเพื่อนบ้าน
เช่น ถีบเขาตกต้นไม้บ้าง... ขับรถจักรยานไปขูดสีรถยนต์ชาวบ้านบ้าง.. เอาไม้ขีดไฟจุดแหย่เล่นกะเพื่อน
จนติดมุ้งเกือบไหม้บ้านเพื่อนบ้าง...
รวมๆแล้วพ่อคงเก็บกดไว้นาน วันนั้นหลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องของพี่น้องๆ จากการที่เราไปแกล้งจนเขาไม่สามารถเล่น
กันเองต่อได้...คุณพ่อ จับตัวเราหิ้วไปหลังบ้าน ...ตีเราด้วยไม้หวายที่เตรียมไว้เฉพาะแล้ว จำได้ว่าคุณพ่อหวดหลายทีมาก...
จนก้นเราชาไปเลย...เราหนีถอยไปประชิดผนังหลังบ้าน...คุณพ่อตามมาตบหัวเราอย่างแรงจนเราหน้าหงาย หัวไปชนกับหัวตะปู
ที่ตอกยื่นออกมา ผลปรากฏว่า เลือดออกครับ หัวตะปูเจาะเข้าตรงศรีษะด้านหลังตรงกลางแบ่งครึ่งอย่างพอดิบพอดี จากระยะหน้าผากมาท้ายทอย
และจากซ้ายไปขวา....เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ เปิดกระโหลก ให้ได้รับ O2 บ้าง และได้ให้เลือดใหม่มันหมุนเวียนเข้ามา ประสาทจะได้ตื่นตัว....
มีต่ออีกน่ะครับ...สองเหตุการณ์ ที่รับรองคุณจะ อึ้ง ทึ่ง เสียว....
-----ผลึกหิน----
เราหลังจากผ่านเหตุการณ์แรกไปได้ประมาน สองเดือน...วันนั้นเราจำได้วิชา ภาษาอังกฤษ คุณครูผู้สอนเป็นผู้ชาย
และเป็น คุณครูฝ่ายปกครองด้วย เราเคยโดนแกทำโทษหลายครั้ง เช่น...ปาชอล์คว่าจะปาให้มันลงตรงช่องเก็บหน้ากระดาน
มันกลับพลาดมุดกระดาน...ไปโผล่อีกห้องที่แกกำลังสอนอยู่พอดี...แกเห็นรีบเดินมาที่ห้องเราเลย ถามใครเป็นคนปาชอล์ค ออกมาซ่ะดีๆ
ผลโดนให้ไปยืนบนโต๊ะ และฟาดด้วยไม้เรียวอีกสามที แบบว่าให้เพื่อนๆเห็นกันทั้งห้อง...
คุณครูคนนี้นอกจากจะ สอนภาษาอังกฤษ เป็นครูฝ่ายปกครอง แกยังมีหน้าที่เป็นคนเคาะระฆัง เพื่อบอกเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน
วันนั้นเราจำได้...เป็นวันตรุษจีน ก่อนออกจากบ้านแม่บอกว่า วันนี้ห้ามซนน่ะ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามด่าใคร ห้ามถูกตี ไม่งั้นจะซวยทั้งปี เราตอบแม่ ครับ...
เราไปถึง รร.ประมาณ เจ็ดโมงกว่านิดหน่อย ช่วงเราเดินขึ้นห้อง จะต้องผ่าน ระฆังที่ครูแกจะต้องตีทุกเช้า วันนั้นไม่รู้อะไรมาดลใจ แทนที่เราจะเดินผ่านไปเฉยๆเหมือนทุกวัน กลับเดินตรงดิ่งไปที่ระฆัง เคาะ แป๊ง... แป๊ง... แป๊ง...แป๊ง... ทุกสายตาต่างมองมาที่ระฆัง...
ไอ้เราเคาะเสร็จ ตกใจ เรือหายหล่ะสิ...งานเข้าวันตรุษจีนซ่ะแล้ว...
คุณครูคนนั้นอีกแล้ว...วิ่งออกจากห้องมาดูว่าใครเคาะ เห็นเราจะๆเต็มตา ครูตะโกนถาม เธออีกแล้วเหรอ มานี่...ผลวันนั้นโดนตีหน้าเสาธงต่อหน้านักเรียนทั้งโรงเรียน...
แต่ที่เกริ่นมาทั้งหมด. .มันยังไม่เข้าเหตุการณ์ครั้งที่สองน่ะครับ แค่ปูท้องเรื่องให้ทราบถึงที่มาของเหตุการณ์ครั้งที่สองที่กำลังจะเกิด..
ก่อนคุณครูเข้ามาสอน เราไปคุยกับเพื่อนที่เป็นหัวหน้าชั้นบอก ....(ชื่อเพื่อน) มันบอกว่าอยากชกหน้าครู....(ชื่อครู)
หัวหน้าชั้นกับไอ้คนที่อยากชกหน้าครูมันเป็นไม้เบื่อไม้เมา มากันตั้งหลายชั้นแล้ว ไอ้เราก็ไม่คิดว่า เรื่องที่เราไปเล่าให้หัวหน้าชั้นฟัง
มันจะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเรา...
พอถึงช่วงเวลาเข้าเรียน คุณครูหลังจากเช้าวันนั้นตีเราหน้าเสาธง เดินอาดเข้ามา หัวหน้าบอก นักเรียน ทำความเคารพ
สวัสดีครับคุณครู..จบยังไม่ทันนั่ง หัวหน้าชั้นยืนบอก ครูครับ ...(ชื่อเรา) บอกว่า...(ชื่อเพื่อนคนอยากชก) เขาบอกว่าอยากชกหน้าครูครับ...
เท่านั้นแหละครับ ครูคงฟังผิด หรือสมองยังประมวลเอาเรื่องที่เราโดนแกตี มาผนวกกัน แปรผลออกมาได้ว่า เราอยากชกหน้าแก
แกตรงรี่มาหาเรา รัวมือไม่ยั้ง ทุบมาที่ศรีษะเราแบบรัวๆนับไม่ถ้วน เรารีบลุกขึ้นบอก ไม่ใช่ผมครับที่อยากชกหน้าครู เราชี้ไปที่เพื่อน..(บอกชื่อ)
ต่างหากที่อยากชกหน้าครู... ครูล่ะจากเราตรงปรี่ไปหาเพื่อนคนนั้น ทุบหัวรัว ตุ๊บตั๊บๆ แต่แรงแกตกไปเยอะ เมื่อเทียบกับที่เราโดน...
เสร็จแล้วแกไม่มีขอโทษเราสักคำ...เดินกับไปเอามือบวมๆแดงๆของแกมาหยิบชอล์คเขียนบนกระดาน มือแกงี้สั่นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนเรา หลังถูกระรัวทุบหัว ได้กินขนมตุ๊บตั๊บ ฉลองวันตรุษจีน...หลังจากโดนทุบ เคยเห็นการ์ตูนที่เขาเขียนล้อกันไหมครับ ที่มีนกมึนๆบินวนรอบหัว
หลังถูกทุบ มันเป็นแบบนั้นเลย ในหัวเรามันมีแต่เสียง วิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง...ตลอดทั้งวัน...
ตอนเย็นกลับถึงบ้าน แม่รีบพาไปกินข้าว บอกวันนี้วันตรุษจีน มีทั้งบะหมี่ผัด ผัดไก่ และของกินเยอะเลย...ที่เราขอบ
แม่ถาม...วันนี้ไม่โดนตีใช่ไหม...เราพยักหน้าบอกแม่ ...ครับวันนี้ไม่โดนตี...ทั้งๆที่ความจริง อ่วมตั้งแต่เช้า 5555
เขียนมาถึงตอนนี้ สงสารแม่จับใจ ที่มาจากเราไปก่อนถึงวันแม่ในอีกไม่กี่วันที่ผ่านมา แม่เป็นคนเดียว ที่รักและห่วงลูกชายคนเดียว
คนนี้ของแม่ตลอด แม้แต่ช่วงที่แกเพ้อไม้ได้สติ ยังเรียกหาแต่เรา บอกว่า รักเรามากน่ะ แม่รักเรามากกว่าใครๆ...
ใช่ครับฟังไม่ผิด ผึ้งจริงๆ ที่เปลี่ยนชีวิตเราจาก เด็ก โง่ ๆ มาเป็นเด็กเรียนเก่งติดที่หนึ่งและสอบติด วิศวะคนเดียว
ในระดับ อำเภอ ท้องถิ่นต่างจังหวัดแบบนั้น...
หลังจากตรุษจีนผ่านไปได้ประมาณ สองเดือน เราจำได้ช่วงประมาณ เมษายน หน้าร้อน...
เป็นวันหยุดเรียน...เรากับเพื่อนแอบไปปีนต้นไม้เล่นกัน...แข่งกันคนล่ะต้นใครปีนไปยืนได้สูงที่สุดชนะ
เราและเพื่อนเลือกคนล่ะต้น พอนับ 1 2 3... ต่างคนต่างรีบปีนต่างไม่ยอมแพ้ เราปีนไปได้เกือบถึงยอดแล้ว...
หวี่ๆๆๆๆๆๆๆ...เสียงผึ้งแตกรังครับ หัวเราไปกระแทกกับรังผึ้ง ผึ้งนับร้อยนับพันตัว แห่กันออกมาโจมตี ฝากเหล็กใน
ไว้ในศรีษะเรา...มือเราปัดพัลวัน...ร่างเราค่อยๆรูดร่วงตกลงมา...
ได้สติรีบวิ่งตรงร้องให้กลับบ้านไปหาแม่...บอกโดนผึ้งต่อย...แม่เห็นตกใจมาก...คนข้างบ้านบอกให้โกนหัว
แล้วเอาน้ำส้มสายชูหยอดจุดที่โดนต่อย...เราร้องบอกแม่ไม่โกนหัว ไม่เอาไม่ให้โกน...
แม่ก็เลยไม่โกน ได้แต่คลำจุดบวมบนหัว...และหยอดยาไปทีล่ะจุด...โชคดีที่เราไม่เป็นคนแพ้ผึ้ง...
เราจำได้ตอนนั้น ทั้งหัวเราเหมือนมีเข็มเล็กๆเป็นร้อยๆเล่ม กระหน่ำแทง จึ๊กๆๆๆๆๆๆ อยู่ตลอดเวลาเป็นเวลาเกือบสามวัน
ในหัวมีเสียง วิ๊งวิ๊งว๊ิง...ตลอดเวลาเหมือนตอนโดนครูทุบหัวเลย...
หลังจากผ่านเหตุการณ์ ทั้งสามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นที่ศรีษะ เราไม่โทษใคร นอกจากฟ้าลิขิตให้เรา
ได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่...จากเด็กที่คิดช้าโง่ ไม่ชอบเรียน...พอระบบประสาทมันถูกกระตุ้นด้วยเข็มเหล็กใน
ของผึ้งนับพันตัว...ประสาทที่มันเคยอุดตัน ประสาทที่มันยังทำงานหรือแตกแขนงไม่เต็มที่...มันได้ถูกกระตุ้น...
ด้วยสามเหตุการณ์ ในเวลาที่พอเหมาะ พอที่จะทำให้สมองเราเกิดการเปลี่ยนแปลงจน คุณครูและเพื่อนๆ
ต่างตกใจและถามว่า เมื่อก่อน " เมื่อก่อนทำไม mung โง่จังว่ะ "
ยังไงก็แล้วแต่ฝากให้เป็นข้อคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงของลูกผู้ชายตัวน้อยๆ ที่ห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาด...น่ะจะบอกให้...
-----ผลึกหิน-----