สวัสดีค่ะ ชาวบลูแพลนเน็ต กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวและฝากข้อคิดในการจองบ้านพักไปพร้อมๆ กันนะคะ
เนื่องจาก วันหยุดยาวอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ที่บ้านยกขโยงกันไปเที่ยวหัวหินทั้งบ้านเลยค่ะ จุดประสงค์ของทริปนี้คือ จะไปลองสวนน้ำวานานาวากัน... เด็กๆ ดี๊ด๊า ตั้งตาคอยกันเลยเชียวล่ะ...
ทริปนี้ หน้าที่การหาบ้านพักเป็นของแฟนน้องชายค่ะ เนื่องจากพวกเราไปกันเยอะ จึงได้ตกลงกันว่า พักเป็นบ้านส่วนตัวน่าจะดีกว่า จะได้ปิ้งย่างซีฟู้ดกันให้หนำใจไปเลย
และแล้วคุณแฟนน้องชายเราก็ได้จองพูลวิลล่าในซอยหัวหิน 102 ไว้ค่ะ (ค่าบ้านคืนละ 13000 พัก2 คืน เป็น 26000) แล้วโอนเงินจ่ายค่าบ้านไปเต็มจำนวนเลย ...
เหอๆๆๆ แอบตัวเบากันเลยทีเดียวค่ะ
หลังจากโอนเงินแล้วทุกคนก็เฝ้ารอให้ทริปนี้มาถึงเร็วๆ วางแผนดิบดี จะไปซื้ออาหารทะเลสดๆ กันที่เขาตะเกียบ เตรียมทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดไปอย่างเยอะมากกก
หารู้ไม่ว่า พวกเราต้องเจอปัญหาบ้านพักหลังนี้ จนเกือบหมดสนุกค่ะ
เอาล่ะ ตัดฉับเหตุการณ์ไปถึงเมื่อเดินทางไปถึงหัวหินกันค่ะ
ณ ตอนนั้น เกือบๆ บ่ายสองค่ะ
ดูจากในเว็บ บ้านพักอยู่ในซอยหัวหิน102
อ่ะ เลี้ยวรถเข้าไปกันเลย พวกเรา!!!
ขับไปก็มองหาบ้าน มองหาป้าย แต่ไม่มีค่ะ
ไหนหว่าาา บ้านที่ชั้นจองไว้ หาไม่เจอๆ... สรุปโทรไปเบอร์ตัวแทน เค้าก็ส่งคนออกมารับค่ะ... เค้าก็ขับมอเตอร์ไซค์นำทางพวกเราไป หลายเลี้ยวมาก
แล้วก็เลี้ยวเข้ามาในซอยที่ยังเป็นป่าๆ ข้างทางอยู่เยอะ และแล้วคนนำทาง ก็พาพวกเรามาจอดรถที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
เราก็สังเกตว่า ป้ายชื่อบ้านมันไม่ใช่หลังที่เราจองไว้ แถมในบ้านก็มีช่างอยู่ เห็นช่างผู้หญิงยังขัดๆถูๆ ช่างผู้ชายอยู่ด้านบนสระน้ำ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ค่ะ ว่าเค้าทำอะไร ซ่อมอะไร ...เราคิดว่า สงสัยคนนำทางแวะมาเอากุญแจบ้านให้พวกเราค่ะ...
เพราะมองเข้าไปในบ้าน ยังมีผู้หญิงแต่งตัวดี นอนอยู่บนเปลญวณริมสระอยู่เลย ซะพ้ก ก็มีผู้ชายคนนึงเดินออกมาจากบ้านไปขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างบ้านซึ่งเป็นทุ่งโล่งๆ เลยค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามออกมา ขึ้นรถ แล้วก็ออกรถ หายวับไป...
พอหญิง ชายคู่นั้น ออกไปแล้ว ก็มีคนมาบอกว่า บ้านหลังนี้ล่ะค่ะ เป็นหลังที่พวกเราจองไว้...
เราก็จะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบ้าน (คุณน้องเขยเค้าจอดไปก่อนแล้ว1 คัน)
แต่ แม่บ้านเค้าไม่ให้จอดค่ะ เค้าบอกว่า บริเวณที่เราจะจอด เค้าพึ่งขัดหินทางเดินไป จอดไม่ได้ ให้ไปจอดทุ่งข้างบ้านแทน (มีงี้ด้วยอ่ะ จอดรถในบ้านไม่ได้ เพราะพึ่งขัดหินไป งงจริงๆ)
ซึ่งเราก็บอกเค้าว่า แล้วตรงนั้นเป็นทุ่งโล่งๆ ไม่มีไฟทาง ไม่มีบ้านคนเลย จะจอดได้ยังไง ดึกๆ เราไม่ต้องห่วงรถแย่เหรอ ... เค้าก็ยืนยันว่า จอดไม่ได้ แต่ดึกๆ ให้จอดได้ (อ้าวววว งงต่อ แล้วทำไมถึงจอดในบ้านตอนนี้ไม่ได้ ต่างกันยังไงหว่า)
เราลงจากรถ แล้วก็เดินไปท้วง อ้าว หลังนี้เหรอ ป้ายชื่อหน้าบ้านกับที่บอกในเว็บไม่เห็นเหมือนกันเลยนะ มันไม่ใช่เลยอ่ะ
แม่บ้านตามออกมาสมทบ ยืนยันว่าใช่ หลังเดียวกัน เราก็เดินเข้าบ้านไปกับแฟนน้องชาย เพื่อสำรวจบ้านพักกัน
เราเปิดประตูดูทุกห้องเลยค่ะ แล้วก็พบว่า บ้านพักไม่เป็นไปตามข้อมูลที่ลงไว้ในเว็บค่ะ แถมช่างผู้ชายที่เห็นอยู่บนสระว่ายน้ำ เค้ามาซ่อมจากุชชี่กันค่ะ... จุดพีคอยู่ตรงนี้ พวกเราตกลงเลือกบ้านหลังนี้ เพราะมันมีอ่างจากุชชี่ค่ะ และที่เลือกหลังนี้ เพราะในเว็บลงไว้ว่ามี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เราจองเพราะมันตรงตามความต้องการ ไม่ต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำ ...
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมี 4 ห้องนอนจริงค่ะ แต่มีแค่ 2 ห้องน้ำเท่านั้น เป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง ห้องน้ำห้องที่ 2 อยู่ตรงข้ามห้องนอนห้องนี้ค่ะ
เท่ากับว่า พวกเราต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำ ซึ่งไม่สะดวกแน่ๆค่ะ มีทั้งเด็กเล็ก แล้วผู้ใหญ่อีกหลายคน ไม่ไหวเลย...
เราจึงโทรหาทั้งกับเอเจนซี่และเจ้าของบ้าน ตอนแรกเราก็ลุ้นให้เค้าตอบเราว่า
อ๋อ คนนำทางนำไปผิดบ้านนะครับ
จริงๆ คุณต้องพ้กอีกหลังนะครับ เดี๋ยวผมบอกคนดูแลพาไปบ้านหลังที่จองไว้นะครับ...
แต่ ไม่ใช่ค่ะ คำตอบเหมือนเดิม คือ หลังนี้ล่ะ ถูกแล้ว อ้าววว ทำไงดีล่ะพวกเรา ที่ฝันไว้ก็พังทลายหมดเลย จากุชชี่ก็ใช้ไม่ได้ ช่างอยู่ในบ้านเต็มไปหมด เราทุกคนจึงลงความเห็นว่า จะไปหาที่พักใหม่ค่ะ เพราะเสียความรู้สึกกับบ้านหลังนี้ไปแล้ว
จุดประสงค์ในการจองบ้านเป็นหลัง เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวก็หมดไปทันที...
กว่าเราจะโทรเจรจาได้จบ ก็นานมาก ตั้งแต่บ่ายสองถึงเกือบ 6 โมงเย็นเลยทีเดียว
ที่นานเพราะ เอเจนซี่กับเจ้าของบ้านโยนลูกกันไปมาค่ะ เอเจนซี่บอกจะประสานงานแล้วโทรกลับ แต่กลายเป็นเราต้องโทรถามว่าได้เรื่องยังไง โทรหาเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านบอก คุยกับเอเจนซี่ได้เลยเค้าเป็นตัวแทน พอโทรหาเอเจนซี่ก็บอกให้เราคุยกับเจ้าของบ้านได้เลย เพราะข้อมูลมาจากเจ้าของบ้าน
น่านนนนง่ะ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ ก็โดนเข้าจนได้ เค้าถึงบอกว่า เงินออกจากกระเป๋าไปแล้ว ยากจะได้คืนจริงๆ...
เจรจากันอนู่นานมากค่ะ แล้วอยู่ๆ ฝนก็เทลงมากระหน่ำเลย กว่าจะตกลงกันได้ เรื่องจบลงโดยมีคุณตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ กว่าจะได้ออกจากบ้านเจ้าปัญหา
ก็ 6 โมงเย็นกว่าๆ แล้วค่ะ เด็กๆก็หิวข้าวมากแล้วด้วย เพราะเลยเวลาทานมื้อเย็นของเค้าไปแล้ว เราจึงเคลื่อนขบวนไปตั้งหลักหาที่พักใหม่ที่มาร์เก็ตวิลเลจค่ะ
ระหว่างทางเราก็ลองเข้าเว็บอโกด้า หาเรทราคาโรงแรมไป โทรถามหลายที่ คำตอบคือ เต็มๆ และ เต็มค่ะ
และแล้ว ชื่อหินน้ำทรายสวยก็ผุดขึ้นมาในหัวเรา
(หินน้ำทรายสวยเป็นโรงแรมที่อยู่ในใจมาตลอด
ทุกครั้งที่ไปหัวหินแล้วต้องหาที่พัก เรามักจะดูราคา หารีวิวของที่นี่อ่าน
แล้วก็ชอบสระว่ายน้ำที่นี่มาก แต่ก็ไม่เคยได้พักที่นี่เลยค่ะ เพราะอ่านรีวิว ค่อนข้างไม่โอเค แถมไม่ติดทะเลด้วยค่ะ เลยได้แต่อ่านๆ แล้วก็มองข้ามไป แฮ่... )
เราก็ลองดูเรทราคาในอโกด้า โป๊ะเชะเลย เจอราคาห้องละพันกว่าบาทรวมอาหารเช้า มันแจ๋วมาก... ถ้าจองได้ จะประหยัดเงินไปเยอะเลยล่ะ
แต่ๆๆ พอไปถึงมาร์เก็ตวิลเลจ ก็ไปเช่าเน็ตคาเฟ่ เปิดอโกด้าปุ๊บ อ้าววว หมดค่ะ อด ห้องเต็ม ใครหนอออ มาจองตัดหน้าข้าพเจ้าไป ...
เอาไงดี ลองโทรไปโรงแรมอื่น ก็ เต็มค่ะ เต็มครับ ทุกที่...
เราไม่ละความพยายามค่ะ ลองหาเบอร์โรงแรมหินน้ำทรายสวย แล้วก็โทรไปเลยค่ะ ลองจองตรงกับโรงแรมก็ได้ แล้วความประทับใจแรกก็เริ่มขึ้น พนักงานที่รับสายพูดจาดีมากๆ ตอบคำถามอย่างดี พูดเพราะทุกคำเลย
เราก็บอกไปว่าต้องการ 4 ห้อง พัก2 คืน ปรากฎว่า เหลือ 4 ห้องพอดี๊ พอดี ได้เป็นห้องซูพีเรียร์เตียงคู่ไป 3 ห้อง (เรทอยู่ที่ 2200/คืนรวมอาหารเช้า) แล้วก็ได้ห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยว 1 ห้อง (เรทอยู่ที่2400/คืนรวมอาหารเช้า) พนักงานแจ้งว่า ถ้าไม่สะดวกโอนเงินชำระเลย ต้องรบกวนคุณผู้หญิงเข้ามาเช็คอินก่อนนะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว แล้วก็มีแขกวอล์กอินเข้ามาถามเยอะด้วย
เราก็ เอ้า ไม่มีทางเลือกแล้ว ที่อื่นเต็มหมด งั้นก็เอาที่นี่แหละ จะได้ไปพักผ่อน หาข้าวกินกันซะที เด็กๆ ก็หิว ฝนก็ยังตกอยู่...
เราจึงนัดเวลากับน้องพนักงานไป ไม่เกิน 1 ทุ่ม พี่เข้าไปเช็คอินค่ะ...
วางสายปุ๊บ เอ้ออ แล้วโรงแรมมันอยู่ซอยหัวหินที่เท่าไหร่หว่า ขามาจากกรุงเทพก็ผ่าน แต่ไม่สังเกตเลขซอยค่ะ หุหุ โทรกลับไปโรงแรมอีกรอบค่ะ น้องคะ พี่ที่จองไว้4 ห้องเมื่อกี๊นะคะ ไม่ทราบว่า โรงแรมอยู่ซอยอะไรคะ ตอนนี้พี่อยู่มาร์เก็ตวิลเลจค่ะ ไปยังไงคะ น้องพนักงานก็ให้คำตอบว่า คุณผู้หญิงขับตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นโรงพยาบาลหัวหิน ก็เตรียมชิดขวากลับรถนะคะ โรงแรมจะอยู่หัวหินซอย 7ตรงข้ามศูนย์ฮอนด้าเลยค่ะ กลับรถแล้วเลี้ยวเข้าซอย 7 ซ้ายมือเป็นลานจอดรถเลยค่ะ...
โอเค ไปถูกละ เคลื่อนทัพได้พวกเรา ...
สรุป ไปถึงโรงแรมเกือบ1 ทุ่มค่ะ จอดรถเสร็จ เราก็รีบเดินไปล็อบบี้ ระหว่างทางเดินก็สวนทางกับสองครอบครัว ครอบครัวแรกโบกไม้โบกมือให้คนฝั่งลานจอดรถ "ไม่ต้องลงมาๆ ห้องเต็ม" ผู้หญิงอีกคนก็เดินบ่นมา "ที่นี่ก็เต็มอ่ะ ทำไงดี"
เราได้ยินปุ๊บ รีบเร่งสปีดเลยค่ะ พนักงานจะเก็บห้องไว้ให้มั้ยน้ออออ
พอถึงเคาน์เตอร์ ก็มีกรุ๊ปที่มาก่อนหน้าเราเช็คอินอยู่กับพนักงานผู้หญิงคนเดียวที่เคาน์เตอร์ตอนนั้น เราก็ลุ้นค่ะ รอไป ลุ้นไป กลัวว่าเค้าจะไม่เก็บห้องไว้ให้ แล้วก็มีพนักงานผู้ชายวิ่งมาจากอีกฝั่ง
ถามว่า จองห้องไว้รึเปล่าครับ เราก็เลยแจ้งชื่อไป บอกที่โทรมาจอง 4 ห้อง จะมาเช็คอินค่ะ พนักงานผู้ชายก็เดินเข้าไปเคาน์เตอร์ แล้วก็พูดว่า อ๋อครับ น้องเค้าเตรียมกุญแจไว้ให้แล้วครับ รบกวนกรอกเอกสาร ขอบัตรประชาชน พร้อมชำระเงินได้เลยครับ .... โห้ สวรรค์ทรงโปรดแล้ว มีที่พักแล้ว วะฮะฮ่าาา ... ทันใดนั้นน้องพนักงานผู้หญิงก็เดินมาที่เราค่ะ แล้วก็มาต้อนรับเราต่อ กดเครื่องคิดเลข เอ่อ คุณผู้หญิงคะ ต้องชำระค่าห้องทั้งหมด 18000 ค่ะ จะชำระเงินสดหรือรูดบัตรดีคะ เราก็พูดไป เงินสดค่ะ แล้วก็นับๆๆ เอิ่มม ตอนนี้มีอยู่ 16000 ทำไงดีคะน้อง พี่จ่ายค่าบ้านที่มีปัญหาไปหมดแล้วอ่ะค่ะ
น้องพนักงานจึงบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ อีก2000 ชำระวันกลับก็ได้ค่ะ เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ หนูไปถ่ายบัตรประชาชนให้พี่เซ็นต์รับรองก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ...
โอ้วววว ทำไมมันช่างต่างกันราวหน้ามือกับหลังเท้ากับตอนที่เราโทรเจรจาเรื่องบ้านเจ้าปัญหาขนาดนี้ ทั้งเจ้าของบ้าน ทั้งเอเจนซี่โยนกันไปโยนกันมา เจ้าของบ้านก็โบ้ย บอกไปคุยกับคนรับจอง เอ้า พอโทรหาเอเจนซี่ก็บอก ได้รับข้อมูลมาจากเจ้าของบ้าน ไปคุยกับเจ้าของบ้านได้เลย แม่เจ้า...นรกกับสวรรค์ มันต่างกันจริงๆ
หลังจากเสร็จจากการเช็คอิน ทัพหลังก็ตามมาถึงพอดีค่ะ 5555 ทริปนี้เราสถาปนาตัวเองเป็นแม่ทัพทัพหน้าเลยล่ะค่ะ เพราะพอเกิดเรื่องบ้านเจ้าปัญหาซอย 102 ทุกคนในทริปก็พร้อมใจกันตกลงให้เราเป็นคนเจรจา เนื่องจาก เราเป็นพวกเหวี่ยง วีน 0.•!!
เง้ยยย ไม่นะ เค้าแค่รักความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้กับเหล่าอธรรมแค่นั้นเอ๊งงง เว่ออร์เชียวหล่อน!!!
เอาล่ะค่ะ ลุ้นเรื่องมีที่ซุกหัวนอนรึเปล่าจบไปแล้ว มาลุ้นเรื่องสภาพห้องต่อค่ะ ระหว่างทางเดินไปห้อง (ซึ่งได้ชั้น 6 ติดกัน2 ห้อง อีก 2 ห้องอยู่อยู่ชั้น 3 กับ ชั้น 8 เลยค่ะ กองทัพกระจัดกระจายหมดเลย) เราก็ลุ้น ห้องจะเป็นยังไง จะแย่เหมือนอย่างที่เคยอ่านเจอมั้ยนะ ถ้าห้องแย่ คราวนี้เราเต็มๆ คนเดียวเลย พอถึงห้องพักของเรา ห้อง 611 ค่ะ หลานชายก็รีบวิ่งมาแย่งเปิดประตู หลานเราเอาบัตรแตะตรงประตู แล้วยืนรอประตูเปิด 555555 เราต้องบอก ที่นี่ใช้ไขกุญแจเอาครับ ไม่ได้หรูเหมือนที่แม่พาหนูไปพักนะครับ
เปิดประตูห้องเข้ามา เปิดไฟปุ๊บ โอ้ววว ห้องก็ไม่เล็กเลยนะ มีเดย์เบดด้วยล่ะ ไหนๆๆ ห้องน้ำ เหยยย มันดีอ่ะแกรรรร มีแจกันดอกไม้ สดชื่นดีนะ ห้องสะอาดดี ใช้ได้ๆ ผิดคาดเลยนะเนี่ยะ เกินคาดด้วยอ่ะ 5555 น่าจะรอดแล้วเรา ไหนๆๆ เปิดแอร์ไว้ก่อน แล้วไปห้องอื่นกันมั่งดีกว่า สำรวจความพึงพอใจกันหน่อยค่ะ
ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 8 ห้องดีลักซ์กัน เปิดประตูเข้าไป โอ้ววว แอร์เย็นฉ่ำเลย ด้านล่างเตียงเป็นเตียงเสริมได้ ใช้ดึงออกมาแล้วปูผ้าทับเอาค่ะ แต่ๆๆๆ เราจะใช้มันเป็นที่ติวเลขกันนะจ๊ะ 5555555
ห้องดีลักซ์ให้คุณแม่นอนกับหลานค่ะ สบายๆ ห้องนี้ตกแต่งเหมือนห้องซุพีเรียร์ทุกอย่าง ต่างกันแค่เป็นเตียงเดี่ยว กับวิวสระว่ายน้ำแค่นั้นเองค่ะ ....
เอาล่ะค่ะ เราเล่ามาเยอะมาก เบื่อกันแย่แล้วใช่มั้ยคะ ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ ไปค่ะ
อ้อ รูปทั้งหมดเป็นห้องซุพีเรียร์ที่เราพักเอง ไม่ได้ถ่ายห้องอื่นมานะคะ ไม่อยากไปรบกวนเค้าค่ะ และรูปถ่ายทั้งหมดถ่ายจากน้องไอ 4 ของเราค่ะ รูปไม่สวย ไม่โปรฯ ต้องขอโทษไว้ก่อนเลยค่ะ เราไม่แต่งรูป ไม่ปรับสี แสงอะไรเลยนะคะ ต้องการให้รูปออกมาเรียลที่สุด ไปค่ะไป ดูรูปกันเถอะๆ
ขอไปทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวมาลงรูปให้ค่ะ รับรองด้วยเกียรติของแม่ทัพหน้าอย่างเรา 55555
กระทู้บ่นบ้านพักหัวหิน 102 และมินิรีวิวโรงแรมหินน้ำทรายสวย หัวหิน
เนื่องจาก วันหยุดยาวอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ที่บ้านยกขโยงกันไปเที่ยวหัวหินทั้งบ้านเลยค่ะ จุดประสงค์ของทริปนี้คือ จะไปลองสวนน้ำวานานาวากัน... เด็กๆ ดี๊ด๊า ตั้งตาคอยกันเลยเชียวล่ะ...
ทริปนี้ หน้าที่การหาบ้านพักเป็นของแฟนน้องชายค่ะ เนื่องจากพวกเราไปกันเยอะ จึงได้ตกลงกันว่า พักเป็นบ้านส่วนตัวน่าจะดีกว่า จะได้ปิ้งย่างซีฟู้ดกันให้หนำใจไปเลย
และแล้วคุณแฟนน้องชายเราก็ได้จองพูลวิลล่าในซอยหัวหิน 102 ไว้ค่ะ (ค่าบ้านคืนละ 13000 พัก2 คืน เป็น 26000) แล้วโอนเงินจ่ายค่าบ้านไปเต็มจำนวนเลย ...
เหอๆๆๆ แอบตัวเบากันเลยทีเดียวค่ะ
หลังจากโอนเงินแล้วทุกคนก็เฝ้ารอให้ทริปนี้มาถึงเร็วๆ วางแผนดิบดี จะไปซื้ออาหารทะเลสดๆ กันที่เขาตะเกียบ เตรียมทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดไปอย่างเยอะมากกก
หารู้ไม่ว่า พวกเราต้องเจอปัญหาบ้านพักหลังนี้ จนเกือบหมดสนุกค่ะ
เอาล่ะ ตัดฉับเหตุการณ์ไปถึงเมื่อเดินทางไปถึงหัวหินกันค่ะ
ณ ตอนนั้น เกือบๆ บ่ายสองค่ะ
ดูจากในเว็บ บ้านพักอยู่ในซอยหัวหิน102
อ่ะ เลี้ยวรถเข้าไปกันเลย พวกเรา!!!
ขับไปก็มองหาบ้าน มองหาป้าย แต่ไม่มีค่ะ
ไหนหว่าาา บ้านที่ชั้นจองไว้ หาไม่เจอๆ... สรุปโทรไปเบอร์ตัวแทน เค้าก็ส่งคนออกมารับค่ะ... เค้าก็ขับมอเตอร์ไซค์นำทางพวกเราไป หลายเลี้ยวมาก
แล้วก็เลี้ยวเข้ามาในซอยที่ยังเป็นป่าๆ ข้างทางอยู่เยอะ และแล้วคนนำทาง ก็พาพวกเรามาจอดรถที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
เราก็สังเกตว่า ป้ายชื่อบ้านมันไม่ใช่หลังที่เราจองไว้ แถมในบ้านก็มีช่างอยู่ เห็นช่างผู้หญิงยังขัดๆถูๆ ช่างผู้ชายอยู่ด้านบนสระน้ำ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ค่ะ ว่าเค้าทำอะไร ซ่อมอะไร ...เราคิดว่า สงสัยคนนำทางแวะมาเอากุญแจบ้านให้พวกเราค่ะ...
เพราะมองเข้าไปในบ้าน ยังมีผู้หญิงแต่งตัวดี นอนอยู่บนเปลญวณริมสระอยู่เลย ซะพ้ก ก็มีผู้ชายคนนึงเดินออกมาจากบ้านไปขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างบ้านซึ่งเป็นทุ่งโล่งๆ เลยค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เดินตามออกมา ขึ้นรถ แล้วก็ออกรถ หายวับไป...
พอหญิง ชายคู่นั้น ออกไปแล้ว ก็มีคนมาบอกว่า บ้านหลังนี้ล่ะค่ะ เป็นหลังที่พวกเราจองไว้...
เราก็จะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบ้าน (คุณน้องเขยเค้าจอดไปก่อนแล้ว1 คัน)
แต่ แม่บ้านเค้าไม่ให้จอดค่ะ เค้าบอกว่า บริเวณที่เราจะจอด เค้าพึ่งขัดหินทางเดินไป จอดไม่ได้ ให้ไปจอดทุ่งข้างบ้านแทน (มีงี้ด้วยอ่ะ จอดรถในบ้านไม่ได้ เพราะพึ่งขัดหินไป งงจริงๆ)
ซึ่งเราก็บอกเค้าว่า แล้วตรงนั้นเป็นทุ่งโล่งๆ ไม่มีไฟทาง ไม่มีบ้านคนเลย จะจอดได้ยังไง ดึกๆ เราไม่ต้องห่วงรถแย่เหรอ ... เค้าก็ยืนยันว่า จอดไม่ได้ แต่ดึกๆ ให้จอดได้ (อ้าวววว งงต่อ แล้วทำไมถึงจอดในบ้านตอนนี้ไม่ได้ ต่างกันยังไงหว่า)
เราลงจากรถ แล้วก็เดินไปท้วง อ้าว หลังนี้เหรอ ป้ายชื่อหน้าบ้านกับที่บอกในเว็บไม่เห็นเหมือนกันเลยนะ มันไม่ใช่เลยอ่ะ
แม่บ้านตามออกมาสมทบ ยืนยันว่าใช่ หลังเดียวกัน เราก็เดินเข้าบ้านไปกับแฟนน้องชาย เพื่อสำรวจบ้านพักกัน
เราเปิดประตูดูทุกห้องเลยค่ะ แล้วก็พบว่า บ้านพักไม่เป็นไปตามข้อมูลที่ลงไว้ในเว็บค่ะ แถมช่างผู้ชายที่เห็นอยู่บนสระว่ายน้ำ เค้ามาซ่อมจากุชชี่กันค่ะ... จุดพีคอยู่ตรงนี้ พวกเราตกลงเลือกบ้านหลังนี้ เพราะมันมีอ่างจากุชชี่ค่ะ และที่เลือกหลังนี้ เพราะในเว็บลงไว้ว่ามี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เราจองเพราะมันตรงตามความต้องการ ไม่ต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำ ...
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมี 4 ห้องนอนจริงค่ะ แต่มีแค่ 2 ห้องน้ำเท่านั้น เป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง ห้องน้ำห้องที่ 2 อยู่ตรงข้ามห้องนอนห้องนี้ค่ะ
เท่ากับว่า พวกเราต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำ ซึ่งไม่สะดวกแน่ๆค่ะ มีทั้งเด็กเล็ก แล้วผู้ใหญ่อีกหลายคน ไม่ไหวเลย...
เราจึงโทรหาทั้งกับเอเจนซี่และเจ้าของบ้าน ตอนแรกเราก็ลุ้นให้เค้าตอบเราว่า
อ๋อ คนนำทางนำไปผิดบ้านนะครับ
จริงๆ คุณต้องพ้กอีกหลังนะครับ เดี๋ยวผมบอกคนดูแลพาไปบ้านหลังที่จองไว้นะครับ...
แต่ ไม่ใช่ค่ะ คำตอบเหมือนเดิม คือ หลังนี้ล่ะ ถูกแล้ว อ้าววว ทำไงดีล่ะพวกเรา ที่ฝันไว้ก็พังทลายหมดเลย จากุชชี่ก็ใช้ไม่ได้ ช่างอยู่ในบ้านเต็มไปหมด เราทุกคนจึงลงความเห็นว่า จะไปหาที่พักใหม่ค่ะ เพราะเสียความรู้สึกกับบ้านหลังนี้ไปแล้ว
จุดประสงค์ในการจองบ้านเป็นหลัง เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวก็หมดไปทันที...
กว่าเราจะโทรเจรจาได้จบ ก็นานมาก ตั้งแต่บ่ายสองถึงเกือบ 6 โมงเย็นเลยทีเดียว
ที่นานเพราะ เอเจนซี่กับเจ้าของบ้านโยนลูกกันไปมาค่ะ เอเจนซี่บอกจะประสานงานแล้วโทรกลับ แต่กลายเป็นเราต้องโทรถามว่าได้เรื่องยังไง โทรหาเจ้าของบ้าน เจ้าของบ้านบอก คุยกับเอเจนซี่ได้เลยเค้าเป็นตัวแทน พอโทรหาเอเจนซี่ก็บอกให้เราคุยกับเจ้าของบ้านได้เลย เพราะข้อมูลมาจากเจ้าของบ้าน
น่านนนนง่ะ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ ก็โดนเข้าจนได้ เค้าถึงบอกว่า เงินออกจากกระเป๋าไปแล้ว ยากจะได้คืนจริงๆ...
เจรจากันอนู่นานมากค่ะ แล้วอยู่ๆ ฝนก็เทลงมากระหน่ำเลย กว่าจะตกลงกันได้ เรื่องจบลงโดยมีคุณตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ กว่าจะได้ออกจากบ้านเจ้าปัญหา
ก็ 6 โมงเย็นกว่าๆ แล้วค่ะ เด็กๆก็หิวข้าวมากแล้วด้วย เพราะเลยเวลาทานมื้อเย็นของเค้าไปแล้ว เราจึงเคลื่อนขบวนไปตั้งหลักหาที่พักใหม่ที่มาร์เก็ตวิลเลจค่ะ
ระหว่างทางเราก็ลองเข้าเว็บอโกด้า หาเรทราคาโรงแรมไป โทรถามหลายที่ คำตอบคือ เต็มๆ และ เต็มค่ะ
และแล้ว ชื่อหินน้ำทรายสวยก็ผุดขึ้นมาในหัวเรา
(หินน้ำทรายสวยเป็นโรงแรมที่อยู่ในใจมาตลอด
ทุกครั้งที่ไปหัวหินแล้วต้องหาที่พัก เรามักจะดูราคา หารีวิวของที่นี่อ่าน
แล้วก็ชอบสระว่ายน้ำที่นี่มาก แต่ก็ไม่เคยได้พักที่นี่เลยค่ะ เพราะอ่านรีวิว ค่อนข้างไม่โอเค แถมไม่ติดทะเลด้วยค่ะ เลยได้แต่อ่านๆ แล้วก็มองข้ามไป แฮ่... )
เราก็ลองดูเรทราคาในอโกด้า โป๊ะเชะเลย เจอราคาห้องละพันกว่าบาทรวมอาหารเช้า มันแจ๋วมาก... ถ้าจองได้ จะประหยัดเงินไปเยอะเลยล่ะ
แต่ๆๆ พอไปถึงมาร์เก็ตวิลเลจ ก็ไปเช่าเน็ตคาเฟ่ เปิดอโกด้าปุ๊บ อ้าววว หมดค่ะ อด ห้องเต็ม ใครหนอออ มาจองตัดหน้าข้าพเจ้าไป ...
เอาไงดี ลองโทรไปโรงแรมอื่น ก็ เต็มค่ะ เต็มครับ ทุกที่...
เราไม่ละความพยายามค่ะ ลองหาเบอร์โรงแรมหินน้ำทรายสวย แล้วก็โทรไปเลยค่ะ ลองจองตรงกับโรงแรมก็ได้ แล้วความประทับใจแรกก็เริ่มขึ้น พนักงานที่รับสายพูดจาดีมากๆ ตอบคำถามอย่างดี พูดเพราะทุกคำเลย
เราก็บอกไปว่าต้องการ 4 ห้อง พัก2 คืน ปรากฎว่า เหลือ 4 ห้องพอดี๊ พอดี ได้เป็นห้องซูพีเรียร์เตียงคู่ไป 3 ห้อง (เรทอยู่ที่ 2200/คืนรวมอาหารเช้า) แล้วก็ได้ห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยว 1 ห้อง (เรทอยู่ที่2400/คืนรวมอาหารเช้า) พนักงานแจ้งว่า ถ้าไม่สะดวกโอนเงินชำระเลย ต้องรบกวนคุณผู้หญิงเข้ามาเช็คอินก่อนนะคะ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว แล้วก็มีแขกวอล์กอินเข้ามาถามเยอะด้วย
เราก็ เอ้า ไม่มีทางเลือกแล้ว ที่อื่นเต็มหมด งั้นก็เอาที่นี่แหละ จะได้ไปพักผ่อน หาข้าวกินกันซะที เด็กๆ ก็หิว ฝนก็ยังตกอยู่...
เราจึงนัดเวลากับน้องพนักงานไป ไม่เกิน 1 ทุ่ม พี่เข้าไปเช็คอินค่ะ...
วางสายปุ๊บ เอ้ออ แล้วโรงแรมมันอยู่ซอยหัวหินที่เท่าไหร่หว่า ขามาจากกรุงเทพก็ผ่าน แต่ไม่สังเกตเลขซอยค่ะ หุหุ โทรกลับไปโรงแรมอีกรอบค่ะ น้องคะ พี่ที่จองไว้4 ห้องเมื่อกี๊นะคะ ไม่ทราบว่า โรงแรมอยู่ซอยอะไรคะ ตอนนี้พี่อยู่มาร์เก็ตวิลเลจค่ะ ไปยังไงคะ น้องพนักงานก็ให้คำตอบว่า คุณผู้หญิงขับตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นโรงพยาบาลหัวหิน ก็เตรียมชิดขวากลับรถนะคะ โรงแรมจะอยู่หัวหินซอย 7ตรงข้ามศูนย์ฮอนด้าเลยค่ะ กลับรถแล้วเลี้ยวเข้าซอย 7 ซ้ายมือเป็นลานจอดรถเลยค่ะ...
โอเค ไปถูกละ เคลื่อนทัพได้พวกเรา ...
สรุป ไปถึงโรงแรมเกือบ1 ทุ่มค่ะ จอดรถเสร็จ เราก็รีบเดินไปล็อบบี้ ระหว่างทางเดินก็สวนทางกับสองครอบครัว ครอบครัวแรกโบกไม้โบกมือให้คนฝั่งลานจอดรถ "ไม่ต้องลงมาๆ ห้องเต็ม" ผู้หญิงอีกคนก็เดินบ่นมา "ที่นี่ก็เต็มอ่ะ ทำไงดี"
เราได้ยินปุ๊บ รีบเร่งสปีดเลยค่ะ พนักงานจะเก็บห้องไว้ให้มั้ยน้ออออ
พอถึงเคาน์เตอร์ ก็มีกรุ๊ปที่มาก่อนหน้าเราเช็คอินอยู่กับพนักงานผู้หญิงคนเดียวที่เคาน์เตอร์ตอนนั้น เราก็ลุ้นค่ะ รอไป ลุ้นไป กลัวว่าเค้าจะไม่เก็บห้องไว้ให้ แล้วก็มีพนักงานผู้ชายวิ่งมาจากอีกฝั่ง
ถามว่า จองห้องไว้รึเปล่าครับ เราก็เลยแจ้งชื่อไป บอกที่โทรมาจอง 4 ห้อง จะมาเช็คอินค่ะ พนักงานผู้ชายก็เดินเข้าไปเคาน์เตอร์ แล้วก็พูดว่า อ๋อครับ น้องเค้าเตรียมกุญแจไว้ให้แล้วครับ รบกวนกรอกเอกสาร ขอบัตรประชาชน พร้อมชำระเงินได้เลยครับ .... โห้ สวรรค์ทรงโปรดแล้ว มีที่พักแล้ว วะฮะฮ่าาา ... ทันใดนั้นน้องพนักงานผู้หญิงก็เดินมาที่เราค่ะ แล้วก็มาต้อนรับเราต่อ กดเครื่องคิดเลข เอ่อ คุณผู้หญิงคะ ต้องชำระค่าห้องทั้งหมด 18000 ค่ะ จะชำระเงินสดหรือรูดบัตรดีคะ เราก็พูดไป เงินสดค่ะ แล้วก็นับๆๆ เอิ่มม ตอนนี้มีอยู่ 16000 ทำไงดีคะน้อง พี่จ่ายค่าบ้านที่มีปัญหาไปหมดแล้วอ่ะค่ะ
น้องพนักงานจึงบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ อีก2000 ชำระวันกลับก็ได้ค่ะ เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ หนูไปถ่ายบัตรประชาชนให้พี่เซ็นต์รับรองก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ...
โอ้วววว ทำไมมันช่างต่างกันราวหน้ามือกับหลังเท้ากับตอนที่เราโทรเจรจาเรื่องบ้านเจ้าปัญหาขนาดนี้ ทั้งเจ้าของบ้าน ทั้งเอเจนซี่โยนกันไปโยนกันมา เจ้าของบ้านก็โบ้ย บอกไปคุยกับคนรับจอง เอ้า พอโทรหาเอเจนซี่ก็บอก ได้รับข้อมูลมาจากเจ้าของบ้าน ไปคุยกับเจ้าของบ้านได้เลย แม่เจ้า...นรกกับสวรรค์ มันต่างกันจริงๆ
หลังจากเสร็จจากการเช็คอิน ทัพหลังก็ตามมาถึงพอดีค่ะ 5555 ทริปนี้เราสถาปนาตัวเองเป็นแม่ทัพทัพหน้าเลยล่ะค่ะ เพราะพอเกิดเรื่องบ้านเจ้าปัญหาซอย 102 ทุกคนในทริปก็พร้อมใจกันตกลงให้เราเป็นคนเจรจา เนื่องจาก เราเป็นพวกเหวี่ยง วีน 0.•!!
เง้ยยย ไม่นะ เค้าแค่รักความถูกต้อง ไม่ยอมก้มหัวให้กับเหล่าอธรรมแค่นั้นเอ๊งงง เว่ออร์เชียวหล่อน!!!
เอาล่ะค่ะ ลุ้นเรื่องมีที่ซุกหัวนอนรึเปล่าจบไปแล้ว มาลุ้นเรื่องสภาพห้องต่อค่ะ ระหว่างทางเดินไปห้อง (ซึ่งได้ชั้น 6 ติดกัน2 ห้อง อีก 2 ห้องอยู่อยู่ชั้น 3 กับ ชั้น 8 เลยค่ะ กองทัพกระจัดกระจายหมดเลย) เราก็ลุ้น ห้องจะเป็นยังไง จะแย่เหมือนอย่างที่เคยอ่านเจอมั้ยนะ ถ้าห้องแย่ คราวนี้เราเต็มๆ คนเดียวเลย พอถึงห้องพักของเรา ห้อง 611 ค่ะ หลานชายก็รีบวิ่งมาแย่งเปิดประตู หลานเราเอาบัตรแตะตรงประตู แล้วยืนรอประตูเปิด 555555 เราต้องบอก ที่นี่ใช้ไขกุญแจเอาครับ ไม่ได้หรูเหมือนที่แม่พาหนูไปพักนะครับ
เปิดประตูห้องเข้ามา เปิดไฟปุ๊บ โอ้ววว ห้องก็ไม่เล็กเลยนะ มีเดย์เบดด้วยล่ะ ไหนๆๆ ห้องน้ำ เหยยย มันดีอ่ะแกรรรร มีแจกันดอกไม้ สดชื่นดีนะ ห้องสะอาดดี ใช้ได้ๆ ผิดคาดเลยนะเนี่ยะ เกินคาดด้วยอ่ะ 5555 น่าจะรอดแล้วเรา ไหนๆๆ เปิดแอร์ไว้ก่อน แล้วไปห้องอื่นกันมั่งดีกว่า สำรวจความพึงพอใจกันหน่อยค่ะ
ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 8 ห้องดีลักซ์กัน เปิดประตูเข้าไป โอ้ววว แอร์เย็นฉ่ำเลย ด้านล่างเตียงเป็นเตียงเสริมได้ ใช้ดึงออกมาแล้วปูผ้าทับเอาค่ะ แต่ๆๆๆ เราจะใช้มันเป็นที่ติวเลขกันนะจ๊ะ 5555555
ห้องดีลักซ์ให้คุณแม่นอนกับหลานค่ะ สบายๆ ห้องนี้ตกแต่งเหมือนห้องซุพีเรียร์ทุกอย่าง ต่างกันแค่เป็นเตียงเดี่ยว กับวิวสระว่ายน้ำแค่นั้นเองค่ะ ....
เอาล่ะค่ะ เราเล่ามาเยอะมาก เบื่อกันแย่แล้วใช่มั้ยคะ ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ ไปค่ะ
อ้อ รูปทั้งหมดเป็นห้องซุพีเรียร์ที่เราพักเอง ไม่ได้ถ่ายห้องอื่นมานะคะ ไม่อยากไปรบกวนเค้าค่ะ และรูปถ่ายทั้งหมดถ่ายจากน้องไอ 4 ของเราค่ะ รูปไม่สวย ไม่โปรฯ ต้องขอโทษไว้ก่อนเลยค่ะ เราไม่แต่งรูป ไม่ปรับสี แสงอะไรเลยนะคะ ต้องการให้รูปออกมาเรียลที่สุด ไปค่ะไป ดูรูปกันเถอะๆ
ขอไปทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวมาลงรูปให้ค่ะ รับรองด้วยเกียรติของแม่ทัพหน้าอย่างเรา 55555