'เอไอเอส-ดีแทค' ใช้เสาร่วมปูพรมเฟสแรก 2,000 แห่งทั่วไทย

กระทู้ข่าว

          นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือไอเอส เปิดเผยว่า เอไอเอส ได้บรรลุข้อตกลงใช้เสาสถานีฐาน 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ร่วมกันกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต แล้ว

          โดยปัจจุบันสถานีฐาน 3G มีมากกว่า 22,000 แห่ง โดยความร่วมมือการใช้เสา สัญญาณเพื่อคุณภาพและบริการทั่วไทยร่วมกัน จะช่วยให้เอไอเอสและดีแทคเอง สามารถดูแลลูกค้าให้ได้รับการบริการ ได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง ตอบสนองการ ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น และการ กระจายตัวของประชากรไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

          สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เอไอเอส ดำเนินการภายใต้ บริษัทในเครือคือ แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น)

          นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี ดีแทค และกรรมการ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือ ที่เกิดขึ้นดีแทคและเอไอเอสหารือกันมานานกว่า 1 ปี โดยขณะนี้มีการใช้เสา ร่วมกันไปแล้ว 300 แห่ง และคาดว่าจะครบ 2,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการขยาย โครงข่ายของดีแทครวมถึงดีแทค ไตรเน็ตเอง ก็มีหลายรูปแบบทั้งสร้างโครงข่ายสถานีฐานใหม่และเช่าใช้ร่วมกันผู้ประกอบการรายอื่นเหมือนความร่วมมือกับเอไอเอส นอกจากนี้ยังได้เช่าโครงข่ายในกองทุน รวมโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มทรูฯ (ทรูจีไอเอฟ)

          ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ร่วมกันสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งการใช้และการเชื่อมต่อการใช้งาน โครงข่ายเพื่อลดการผูกขาดหรือจำกัด การใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน ทำให้เพิ่มพื้นที่เข้าถึงการใช้งานมือถือ และมีประโยชน์ร่วมกันสูงสุดของทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า หน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ เช่น อังกฤษ สเปน ในกลุ่มประเทศยุโรป แคนาดา บราซิล อินเดีย และมาเลเซีย ที่มีการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

          นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีแทค กล่าวว่า ข้อตกลงครั้งนี้มีการนำโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของทั้งสองบริษัทออกมาให้ใช้ร่วมกัน และจะเป็นนัยสำคัญแห่งการปลดล็อกศักยภาพทางด้านโทรคมนาคมของประเทศ ที่จะนำโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมมาพัฒนาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่โดยการให้ เข้าถึง (Access) เชื่อมต่อ (Connectivity) และทำให้เกิดการส่งเสริม สู่มาตรฐาน การบริการ กระตุ้นให้ระบบนิเวศ ด้านโทรคมนาคมมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับกำหนดเป้าหมาย ให้คนไทยร้อยละ 80 มีการใช้อินเตอร์เนต ในชีวิตประจำวัน (Active Internet Users) ภายในปี พ.ศ.2560 ที่สำคัญยังเป็นการตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล (Digital Economy) ที่ต้องผลักดัน ให้มีพื้นที่บริการอินเตอร์เนตบนมือถือได้ครอบคลุมมากที่สุด

ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 9 ล่าง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่