
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดยังไงติชมได้เลยครับ
.
.
.
5.30น.ของเช้าวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2558 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมรีบตื่นและกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกเดินทางไปสถานีรถไฟธนบุรีพร้อมเป้1ใบกับกระเป๋ากล้องอีกใบ เพื่อให้ทันรถไฟรอบ7.50น.

อรุณสวัสดิ์ กรุงเทพ
7.30น. ถึงซักทีสถานีรถไฟ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ขึ้นรถไฟครับ ตื่นเต้นน(แม้จะเคยนั่งรถไฟฟ้ามามากมาย555) ถึงแล้วก็รีบตรงดิ่งไปที่ช่องขายตั๋วก่อนเลย "ไปกาญจนบุรีครับ"นี่คือจุดหมายปลายทางในทริปนี้ หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็ไปหาไรกินกันดีกว่าา เดินไปเดินมา สุดท้ายก็มาจบที่ข้าวเหนียวหมูย่าง555 พอท้องอิ่มก็พร้อมจะออกเดินทางแล้ว 7.50น.รถไฟมาตรงเวลาเป๊ะๆ (อเมซิ่งไทยเเลนด์555) ผมไม่คิดว่ามันจะตรงเวลาขนาดนี้ เพราะเราคงได้ยินกิตติศัพท์ของรถไฟไทยบ่อยๆ รถไฟมาถึงก็รีบขึ้นเลย กลัวไม่ทัน555 ขึ้นไปถึงก็หาที่นั่งว่างๆก่อนเลยอย่างแรก อย่างที่สองค่อยมองหาสาวๆ555 พอเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็นั่งรอเวลารถไฟออก ช่วงเวลานี้อัพรูปสิครับรออะไร555

ได้แล้ว ตั๋วฟรี

คนเดียว ชิวๆ
8.05น. ล้อหมุน เอาละ กาญจนบุรี ฉันจะไปหาเธอ ผมเตรียมหนังสือไป1เล่มเพื่ออ่านบนรถไฟ แต่ถึงเวลา หนังสือก็ยังอยู่ในกระเป๋า ผมกลับเพลิดเพลินกับ2ข้างทางจนลืมหนังสือซะสนิท รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ ลมเย็นๆปลิวปะทะใบหน้า มันช่างสดชื่นจริงๆ รถไฟจอดสถานีแล้วสถานีเล่า สาวๆก็ขึ้นมามากมาย เพลินตาดีจัง5555 พอถึงสถานีนครปฐมก็มีลุงฝรั่งแก่ๆคนนึง ขึ้นรถไฟมาคนเดียว แล้วแกก็ตรงมานั่งที่ตรงข้ามผม เพราะโบกี้นั้นว่างที่เดียว แกยกกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะไหว ผมเลยช่วยแกยกเก็บ แกก็ขอบคุณ หลังจากนั้นผมก็นั่งคุยกับแกไปเรื่อย คุยมั่งสลับกับถ่ายรูปมั่ง เงียบมั่ง คุยกับแกได้ความว่า แกเป็นคนเบลเยี่ยม อายุ69 มาเที่ยวคนเดียว ไปมาแล้วหลายประเทศ มากาญหลายครั้งละแล้วก็ถามผมกลับบ้าง คุยกันก็สนุกดี ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็คุยกันรู้เรื่อง

คุยกับแกตั้งนาน ลืมถามชื่อ555
11.05น. ถึงแล้วโว้ยยยยย สถานีกาญจนบุรี ผมก็ลากับลุงนั่นแล้วแบกเป้ลงจากรถไฟ มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปก่อนนน ถ่ายเสร็จผมโทรหาที่พักที่จองไว้ จากนั้นก็นั่งวินไป30บาท ระหว่างทางก็คุยกับพี่วินไปเรื่อยเปื่อย ถึงที่พักพี่แกก็ให้เบอร์ไว้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดต่ออะไรไปเลย5555 พี่วินมาจอดหน้าที่พักเลย "bure homestay"อยู่บนถนนสิงคโปร์(ที่นี่ผมก็ตามพันทิปมาครับ) มาถึงก้มีคุณลุงออกมาต้อนรับ อัธยาศัยดีและใจดีมากก หลังเช็คอินเสร็จก็ขึ้นห้องพักกัน มีพนง.พาไปส่ง โฮมสเตย์นี้ผมต้องใช้สกิลอังกฤษงูๆปลาๆของผมอีกแล้ว พนง.พูดภาษาอังกฤษครับ โอ้ พระเจ้า ซึ่งพนง.เป็นชาวเมียนมาร์ พูดอังกฤษคล่องเลยย ถึงห้องพนง.ก็อธิบายรายละเอียดเสร็จก็ลงไป ผมนี่กระโดดขึ้นเตียงก่อนเลย กะพักซักแปป แล้วไปเที่ยวต่อ

สวัสดี กาญจนบุรี
14.30น. นี่คือแปปเดียวของใช่มั๊ยย55555 มันเพลินไปหน่อยครับ อีกอย่างแดดตอนนี้ก็ไม่มีเลย ผมลงไปเอาจักรยานซึ่งเช่าไว้ตอนเช็คอิน 50บาท24ชม. มีที่ล็อคให้ด้วย เอาล่ะพร้อมจะลุยแล้วเมืองกาญจน์ หลังจากสอบถามเส้นทางจากลุงแล้ว ที่แรกทีผมไปคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แค่ออกจากที่พักมา30เมตรแดดก็ออกละครับ ดีจริงๆ ร้อนกันเลยทีเดียว ไปถึงก็จอดจักรยานล็อคเรียบร้อย ไปเดินถ่ายรูป ตอนนี้คือแดดไม่มีแล้ว อากาศดีสุดๆ ผมก็เดินข้ามสะพานไปเพื่อจะไปดูวิหารเจ้าแม่กวนอิมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินดูเดินถ่ายไปเรื่อยๆก็ข้ามฝั่งกลับมา

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

บนสะพาน

เจ้าแม่กวนอิมริมน้ำ
16.00น. ไปสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักกันดีกว่า ได้เวลาปั่นๆๆๆ ปั่นไปก็ถามทางคนแถวนั้นไป คนเมืองกาญจน์ใจดีมาก แถมรอยยิ้มสดใสมากครับ ปั่นไปซักพักก็ถึงสุสาน โอ้โหหห สวยมากกก ในชีวิตแล้วความคิดผมไม่คิดว่าจะได้เห็นสุสานที่ไหนสวยๆ มันสวยจริงๆครับ หญ้าเขียวขจี พร้อมดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ มีคนสวนดูแลอย่างดี

สุสานสัมพันธมิตรดอนรัก
16.40น. ไปถนนปากแพรกกันต่อเลยยย ซึ่งถนนปากแพรกเป็นถนนที่มีบ้านเรือนเก่าๆอยู่มากมาย ทั้งยังอนุรักษ์ไว้อีกด้วย และการไปถนนปากแพรกในทริปนี้เป็นอะไรที่พีคมาก ทีแรกถามคนขับรถตู้ว่าถนนปากแพรกไปทางไหน เค้าบอกไปทางสะพานแม่น้ำแคว ห๊าาาาา ลุงที่โฮมสเตย์บอกผิดหรือผมฟังผิด ผมก็เชื่อเค้าปั่นไปตามถนนใหญ่เลย ไปถึงถนนที่จะเลี้ยวขวาไปสะพานแม่น้ำแควละ ผมเลยจอดถามร้านขายของ เค้าบอกถนนปากแพรกอยู่เลยสุสานไปนิดเดียว เห้ยยย กรรมละตู พึ่งมาจากสุสานโคตรไกล ต้องกลับไปอีกหรอ ผมเลยปั่นไปเส้นแม่น้ำแคว ระหว่างทางไป คราวนี้ผมเปิดกูเกิ้ลแมพให้นำทางไป ไม่เชื่อคนแล้ว55555 คิดว่าคนกับจักรยานน่าจะไปทางเดียวกันได้ แต่!!!
ย้อนศรสิครับ โอ้ ถนนช่างงงอะไรขนาดนี้ ผมก็แถไปเรื่อยแหละครับ หลบรถไปเรื่อย ขอโทษไปเกือบทั้งทาง ไปถึงผมไปสะดุดตาอยู่ร้านนึง "สิทธิสังข์" บ้านเก่าสีเหลืองสวยงาม ปัจจุบันเปิดเป็นร้านกาแฟ ก็เข้าไปนั่งกินสักหน่อยย คลายเหนื่อย ผมสั่งชาเย็นกับเค้กมากิน ซึ่งเป็นเค้กโฮมเมด พี่เบิร์ด เจ้าของร้านเค้าแนะนำมา ระหว่างนั่งกินไปก็คุยกับพี่เบิร์ดไป เค้าก็แนะนำเยอะแยะเลยย หลังจากกินเสร็จผมก็วานพี่เค้าถ่ายรูปให้ผม555

ปั่นๆๆ ถนนปากแพรก

เค้กโฮมเมด ที่ร้านสิทธิสังข์
17.20 ไปสะพานสังฆราชต่อ วิวบนสะพานนี้ฟินมากกก สวยมากกกก

วิวจากสะพานสมเด็จพระสังฆราช
18.00 ถึงที่พัก พักเหนื่อยกันหน่อยยย เดี๋ยวออกไปเจเจต่อ
19.00 ไปเจเจ ไปเดินเล่นหาไรกินหน่อย ผมปั่นออกไปถนนใหญ่เลย ภาพแรกที่เห็น นี่ใช่ตัวเมืองหรอออ ทุ่มนิดๆ ถนนโล่งแล้วว สวรรค์ของจักรยานเลย ไม่ต้องระวังรถมากก ถึงเจเจก็เดินเล่น ของที่ขายก็เป็นของทั่วๆไปเหมือนตลาดนัดที่อื่น แต่ที่นี่มีแต่ของกินที่ตั้งเป็นร้าน ที่เหลือแบกับพื้นเลยครับ ได้ฟิลไปอีกแบบ
20.30กลับไปนอนกันเถอะ วันนี้ปั่นมา20กว่าโลละ คืนนี้ผมกะจะนอนเร็ว ที่ไหนได้ กดไปกดมานอนซะตี1 ติดตามต่อตอน2นะครับ ตอนนี้ชมรูปไปก่อน ขออภัยหากรูปตัวผมเยอะไปนะครับ😁😁😁

คืนแรกที่ BURE Homestay
[CR] แบกเป้ สะพายกล้อง ท่องเดี่ยว เที่ยวรถไฟ ไปเมืองกาญจน์
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดยังไงติชมได้เลยครับ
.
.
.
5.30น.ของเช้าวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2558 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมรีบตื่นและกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกเดินทางไปสถานีรถไฟธนบุรีพร้อมเป้1ใบกับกระเป๋ากล้องอีกใบ เพื่อให้ทันรถไฟรอบ7.50น.
อรุณสวัสดิ์ กรุงเทพ
7.30น. ถึงซักทีสถานีรถไฟ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ขึ้นรถไฟครับ ตื่นเต้นน(แม้จะเคยนั่งรถไฟฟ้ามามากมาย555) ถึงแล้วก็รีบตรงดิ่งไปที่ช่องขายตั๋วก่อนเลย "ไปกาญจนบุรีครับ"นี่คือจุดหมายปลายทางในทริปนี้ หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็ไปหาไรกินกันดีกว่าา เดินไปเดินมา สุดท้ายก็มาจบที่ข้าวเหนียวหมูย่าง555 พอท้องอิ่มก็พร้อมจะออกเดินทางแล้ว 7.50น.รถไฟมาตรงเวลาเป๊ะๆ (อเมซิ่งไทยเเลนด์555) ผมไม่คิดว่ามันจะตรงเวลาขนาดนี้ เพราะเราคงได้ยินกิตติศัพท์ของรถไฟไทยบ่อยๆ รถไฟมาถึงก็รีบขึ้นเลย กลัวไม่ทัน555 ขึ้นไปถึงก็หาที่นั่งว่างๆก่อนเลยอย่างแรก อย่างที่สองค่อยมองหาสาวๆ555 พอเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็นั่งรอเวลารถไฟออก ช่วงเวลานี้อัพรูปสิครับรออะไร555
ได้แล้ว ตั๋วฟรี
คนเดียว ชิวๆ
8.05น. ล้อหมุน เอาละ กาญจนบุรี ฉันจะไปหาเธอ ผมเตรียมหนังสือไป1เล่มเพื่ออ่านบนรถไฟ แต่ถึงเวลา หนังสือก็ยังอยู่ในกระเป๋า ผมกลับเพลิดเพลินกับ2ข้างทางจนลืมหนังสือซะสนิท รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ ลมเย็นๆปลิวปะทะใบหน้า มันช่างสดชื่นจริงๆ รถไฟจอดสถานีแล้วสถานีเล่า สาวๆก็ขึ้นมามากมาย เพลินตาดีจัง5555 พอถึงสถานีนครปฐมก็มีลุงฝรั่งแก่ๆคนนึง ขึ้นรถไฟมาคนเดียว แล้วแกก็ตรงมานั่งที่ตรงข้ามผม เพราะโบกี้นั้นว่างที่เดียว แกยกกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะไหว ผมเลยช่วยแกยกเก็บ แกก็ขอบคุณ หลังจากนั้นผมก็นั่งคุยกับแกไปเรื่อย คุยมั่งสลับกับถ่ายรูปมั่ง เงียบมั่ง คุยกับแกได้ความว่า แกเป็นคนเบลเยี่ยม อายุ69 มาเที่ยวคนเดียว ไปมาแล้วหลายประเทศ มากาญหลายครั้งละแล้วก็ถามผมกลับบ้าง คุยกันก็สนุกดี ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็คุยกันรู้เรื่อง
คุยกับแกตั้งนาน ลืมถามชื่อ555
11.05น. ถึงแล้วโว้ยยยยย สถานีกาญจนบุรี ผมก็ลากับลุงนั่นแล้วแบกเป้ลงจากรถไฟ มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปก่อนนน ถ่ายเสร็จผมโทรหาที่พักที่จองไว้ จากนั้นก็นั่งวินไป30บาท ระหว่างทางก็คุยกับพี่วินไปเรื่อยเปื่อย ถึงที่พักพี่แกก็ให้เบอร์ไว้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดต่ออะไรไปเลย5555 พี่วินมาจอดหน้าที่พักเลย "bure homestay"อยู่บนถนนสิงคโปร์(ที่นี่ผมก็ตามพันทิปมาครับ) มาถึงก้มีคุณลุงออกมาต้อนรับ อัธยาศัยดีและใจดีมากก หลังเช็คอินเสร็จก็ขึ้นห้องพักกัน มีพนง.พาไปส่ง โฮมสเตย์นี้ผมต้องใช้สกิลอังกฤษงูๆปลาๆของผมอีกแล้ว พนง.พูดภาษาอังกฤษครับ โอ้ พระเจ้า ซึ่งพนง.เป็นชาวเมียนมาร์ พูดอังกฤษคล่องเลยย ถึงห้องพนง.ก็อธิบายรายละเอียดเสร็จก็ลงไป ผมนี่กระโดดขึ้นเตียงก่อนเลย กะพักซักแปป แล้วไปเที่ยวต่อ
สวัสดี กาญจนบุรี
14.30น. นี่คือแปปเดียวของใช่มั๊ยย55555 มันเพลินไปหน่อยครับ อีกอย่างแดดตอนนี้ก็ไม่มีเลย ผมลงไปเอาจักรยานซึ่งเช่าไว้ตอนเช็คอิน 50บาท24ชม. มีที่ล็อคให้ด้วย เอาล่ะพร้อมจะลุยแล้วเมืองกาญจน์ หลังจากสอบถามเส้นทางจากลุงแล้ว ที่แรกทีผมไปคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แค่ออกจากที่พักมา30เมตรแดดก็ออกละครับ ดีจริงๆ ร้อนกันเลยทีเดียว ไปถึงก็จอดจักรยานล็อคเรียบร้อย ไปเดินถ่ายรูป ตอนนี้คือแดดไม่มีแล้ว อากาศดีสุดๆ ผมก็เดินข้ามสะพานไปเพื่อจะไปดูวิหารเจ้าแม่กวนอิมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินดูเดินถ่ายไปเรื่อยๆก็ข้ามฝั่งกลับมา
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
บนสะพาน
เจ้าแม่กวนอิมริมน้ำ
16.00น. ไปสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักกันดีกว่า ได้เวลาปั่นๆๆๆ ปั่นไปก็ถามทางคนแถวนั้นไป คนเมืองกาญจน์ใจดีมาก แถมรอยยิ้มสดใสมากครับ ปั่นไปซักพักก็ถึงสุสาน โอ้โหหห สวยมากกก ในชีวิตแล้วความคิดผมไม่คิดว่าจะได้เห็นสุสานที่ไหนสวยๆ มันสวยจริงๆครับ หญ้าเขียวขจี พร้อมดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ มีคนสวนดูแลอย่างดี
สุสานสัมพันธมิตรดอนรัก
16.40น. ไปถนนปากแพรกกันต่อเลยยย ซึ่งถนนปากแพรกเป็นถนนที่มีบ้านเรือนเก่าๆอยู่มากมาย ทั้งยังอนุรักษ์ไว้อีกด้วย และการไปถนนปากแพรกในทริปนี้เป็นอะไรที่พีคมาก ทีแรกถามคนขับรถตู้ว่าถนนปากแพรกไปทางไหน เค้าบอกไปทางสะพานแม่น้ำแคว ห๊าาาาา ลุงที่โฮมสเตย์บอกผิดหรือผมฟังผิด ผมก็เชื่อเค้าปั่นไปตามถนนใหญ่เลย ไปถึงถนนที่จะเลี้ยวขวาไปสะพานแม่น้ำแควละ ผมเลยจอดถามร้านขายของ เค้าบอกถนนปากแพรกอยู่เลยสุสานไปนิดเดียว เห้ยยย กรรมละตู พึ่งมาจากสุสานโคตรไกล ต้องกลับไปอีกหรอ ผมเลยปั่นไปเส้นแม่น้ำแคว ระหว่างทางไป คราวนี้ผมเปิดกูเกิ้ลแมพให้นำทางไป ไม่เชื่อคนแล้ว55555 คิดว่าคนกับจักรยานน่าจะไปทางเดียวกันได้ แต่!!!
ย้อนศรสิครับ โอ้ ถนนช่างงงอะไรขนาดนี้ ผมก็แถไปเรื่อยแหละครับ หลบรถไปเรื่อย ขอโทษไปเกือบทั้งทาง ไปถึงผมไปสะดุดตาอยู่ร้านนึง "สิทธิสังข์" บ้านเก่าสีเหลืองสวยงาม ปัจจุบันเปิดเป็นร้านกาแฟ ก็เข้าไปนั่งกินสักหน่อยย คลายเหนื่อย ผมสั่งชาเย็นกับเค้กมากิน ซึ่งเป็นเค้กโฮมเมด พี่เบิร์ด เจ้าของร้านเค้าแนะนำมา ระหว่างนั่งกินไปก็คุยกับพี่เบิร์ดไป เค้าก็แนะนำเยอะแยะเลยย หลังจากกินเสร็จผมก็วานพี่เค้าถ่ายรูปให้ผม555
ปั่นๆๆ ถนนปากแพรก
เค้กโฮมเมด ที่ร้านสิทธิสังข์
17.20 ไปสะพานสังฆราชต่อ วิวบนสะพานนี้ฟินมากกก สวยมากกกก
วิวจากสะพานสมเด็จพระสังฆราช
18.00 ถึงที่พัก พักเหนื่อยกันหน่อยยย เดี๋ยวออกไปเจเจต่อ
19.00 ไปเจเจ ไปเดินเล่นหาไรกินหน่อย ผมปั่นออกไปถนนใหญ่เลย ภาพแรกที่เห็น นี่ใช่ตัวเมืองหรอออ ทุ่มนิดๆ ถนนโล่งแล้วว สวรรค์ของจักรยานเลย ไม่ต้องระวังรถมากก ถึงเจเจก็เดินเล่น ของที่ขายก็เป็นของทั่วๆไปเหมือนตลาดนัดที่อื่น แต่ที่นี่มีแต่ของกินที่ตั้งเป็นร้าน ที่เหลือแบกับพื้นเลยครับ ได้ฟิลไปอีกแบบ
20.30กลับไปนอนกันเถอะ วันนี้ปั่นมา20กว่าโลละ คืนนี้ผมกะจะนอนเร็ว ที่ไหนได้ กดไปกดมานอนซะตี1 ติดตามต่อตอน2นะครับ ตอนนี้ชมรูปไปก่อน ขออภัยหากรูปตัวผมเยอะไปนะครับ😁😁😁
คืนแรกที่ BURE Homestay