8 สิ่งที่ต้องมี ถ้าคิดเรียนศิลปะ-ออกแบบ

การที่ใครสักคนจะโดดเข้ามาใช้ชีวิตในแวดวงที่เกี่ยวข้องกับศิลปะนั้น
ไม่ใช่ว่าเห็นเพื่อน ๆ  เรียนแล้วเท่ก็มาลอง ๆ  ดู คงเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
อย่าว่าแต่สายศิลปะเลย  แม้การงานด้านอื่น ๆ หากเราทำตาม ๆ  เขาไป
โดยที่ตัวเองไม่ได้รัก-ชอบอะไรในที่สุดเรานั่นเองแหละที่จะมีความทุกข์
เพราะเลือกทางเดินชีวิตผิด




ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า  ให้น้องเลือกเรียนแต่เฉพาะสาขาที่ตัวเองถนัดเท่านั้นนะ  เพราะถ้าแบบนั้นหลายคนคงส่ายหน้าลาสายศิลป์ไปเลย  เพราะชอบก็ชอบอยู่หรอก  แต่วาดรูปไม่เป็นจะไปเรียนได้ไง เนอะ

หลายคนเคยสารภาพว่าตนเองนั้นรักงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ  แต่ที่เลือกเรียนทางด้านอื่นเพราะกลัวจะไปทางด้านศิลป์ไม่ไหว  เรียกว่า ไม่มีพรสวรรค์  หรือไม่มีหัวศิลป์ก็คงได้  แต่แล้วเขากลับไม่มีความสุขกับวิชาชีพอื่นๆ  เพราะยังฝังใจกับโลกของศิลปะอยู่แล้วก็คิดลงโทษตัวเองว่าไม่มีความสามารถที่จะเรียนได้

ดังนั้น...อยากให้น้อง ๆ  สำรวจตัวเองสักครั้งซิว่า  เรารัก-ชอบทางศิลปะจริง ๆ  หรือเปล่า  และเราอยากทำงานทางด้านนี้จริงหรือไม่  การสำรวจตัวเองนี้ห้ามนำความสามารถทางศิลปะมาเป็นเครื่องวัดเด็ดขาด  และสาเหตุที่ทำให้คนรักศิลปะทั้งหลายไม่กล้าตัดสินใจเรียนทางด้านศิลปะนั้น เป็นเพราะเขาไม่กล้าที่จะเริ่มคิด-วาด  และไม่กล้าที่จะเริ่มต้น  “ผิด”  

การเรียนรู้ศิลปะก็ไม่ต่างอะไรไปจากการหัดพูดของเด็ก ๆ   ใหม่ ๆ  ก็ต้องพูดผิดพูดถูก  ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง  แต่เมื่อพูดทุกวันมันจะพัฒนาขึ้นและกลายเป็นคนพูดชัดได้ในที่สุด  สำคัญคือคุณกล้าพอที่จะ  “พูด”  หรือเปล่า  ถ้ากล้าพอ...เรามาเริ่มต้นกันเดี๋ยวนี้เลย

การเริ่มต้นเรียนศิลปะ-ออกแบบไม่ใช่เริ่มที่คำว่า  “หนูควรจะเริ่มตรงไหนดี  วาดรูปอะไรก่อน...”  แต่ต้องเริ่มจากข้างในตัวของเราก่อน นั่นคือการสร้างนิสัย  บุคลิก  จิตใจของศิลปินขึ้นก่อนเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ศิลปะในขั้นต่อ ๆ  ไป  โดยใช้หลักแปดประการนี้

1.  มีใจฝักใฝ่  คือการสร้างจิตสำนึกในใจตลอดเวลาว่าเรามีเป้าหมายในชีวิตที่จะเป็นศิลปิน  นักออกแบบ  ฯลฯ  แล้วพยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจตลอดเวลา  บางครั้งเราอาจสร้างฉากขึ้นมาให้ตัวเองเป็นนักศิลปะในแขนงนั้น ๆ  ก็ได้  เช่นเราชมภาพยนตร์โฆษณาสักเรื่องหนึ่ง  แล้วอาจจะลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นคนสร้างเราจะทำแตกต่างกับเขาอย่างไร  อะไรที่เขาทำดีแล้ว  อะไรที่ยังไม่ถูกใจเรา  หรือเมื่อเราดูมิวสิควีดีโอ  เราอาจจะลองคิดเล่น ๆ  ว่าถ้าเป็นเราเราจะทำยังไงให้มันน่าสนใจกว่านี้  สวยกว่านี้เป็นต้น  เรียกว่าเห็นอะไร  คิดอะไร  พูดอะไรก็ให้เกี่ยวกับศิลปะไปหมด  ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าให้แสดงออกบ้า ๆ  บอ ๆ  กับเพื่อนหรือคนใกล้ชิดนะ  แต่มันคือการสร้างจิตฝักใฝ่ขึ้นแล้วเก็บเอาไว้ในใจเพื่อเป็นเชื้อประทุในการเรียนศิลปะของเรานั่นเอง

2.  ช่างสังเกต-จด-จำ  อย่ามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างผ่าน ๆ  แค่ให้รู้ว่าเป็นอะไร  นั่นยังไม่พอสำหรับนักศิลปะ-ออกแบบทั้งหลาย  เมื่อเรามองดอกกุหลาบเราต้องเห็นทั้งกิ่ง  ใบ  ดอก  หนาม  สี  และรู้ความหมาย-ประโยชน์ของมัน  บางครั้งเราอาจซื้อกุหลาบกำใหญ่จากตลาดซึ่งห่อด้วยหนังสือพิมพ์  เราอาจจะคิดเลยไปได้อีกว่าข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มันเกี่ยวข้องกับกุหลาบอย่างไร  การสังเกตและจดจำเป็นบุคลิกสำคัญของนักออกแบบ  การสังเกตจดจำเปรียบเสมือนการกินอาหารของมนุษย์ทำให้เรามีข้อมูลอยู่ในสมองมาก  เป็นการสร้างประสบการณ์  และโลกทรรศน์ให้กว้างขวาง  และเมื่อเราเรียนหรือทำงานศิลปะสิ่งที่เราสังเกตจดจำเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นงานออกแบบ  หรือไอเดียที่ดีจนบางครั้งเราเองยังประหลาดใจ...

3. มีความคิดสร้างสรรค์  โดยทั่วไปมนุษย์มักจะคิดถึงเรื่องต่าง ๆ  ตามเหตุและผลหรือตามข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน  สำหรับผู้ที่มีความคิดแปลกแยกออกไปและเป็นความคิดในเชิงบวกผู้นั้นจะถูกยกย่องให้เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์  ศิลปะคือความแปลก  ใหม่  จริง  ดี  งาม  ดังนั้นผู้ใดที่รู้จักคิดยอกย้อนสลับซับซ้อนและสร้างสรรค์แล้ว  ผู้นั้นก็เหมาะที่จะดำเนินอาชีพด้านศิลปะ

4. ใจกว้าง  อาจจะแปลกใจกับข้อนี้สักหน่อยที่ว่า  นักศิลปะทั้งหลายที่เรารู้จักมักจะมีอีโก้สูง  เชื่อมั่นในความคิดของตนเอง  แล้วทำไมจึงบอกว่าผู้ที่จะเรียนศิลปะต้องใจกว้าง  คำว่าใจกว้างหมายถึงการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อนำมาพิจารณา  (ไม่ได้หมายความว่าให้เชื่อตามคนอื่น)  ใจกว้างที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ  ที่เข้ามาในชีวิต  เช่น  อาหารแปลก ๆ  ฟังเพลงได้หลากหลายแนว  สนใจที่จะรับรู้แนวคิดหรือความเชื่อที่ไม่เคยพบมาก่อน  ฯลฯ  เหล่านี้จะทำให้เราเป็นนักออกแบบที่มีน้ำหนักในความคิดและคำพูด  เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ

5. มีดวงตาของศิลปิน  เป็นดวงตาที่มองเห็นความงามในทุกสรรพสิ่ง  แม้ในความน่าเกลียดหรือน่ากลัว การมองทะลุออกไปให้เห็นเนื้อหาของสิ่งนั้น ๆ  เช่นเมื่อเราเห็นคนตาย  เราอาจค้นหาความงามได้ด้วยดวงตาที่เห็นความหลุดพ้นจากความทุกข์ในโลกของคน ๆ  นั้น  เมื่อเราเห็นกองขยะ  เราอาจพบความงามของเมืองที่สะอาด  หรือจิตใจที่งดงามของคนกวาดถนนเป็นต้น  นี่คือดวงตาของศิลปิน...  และดวงตาเช่นนี้เองที่จะชี้ชวนให้ผู้อื่นเห็นความงามที่เขาเห็นได้

6.  เป็นคนไวต่อความรู้สึก  รับรู้การสัมผัสได้เร็ว  ไม่เฉื่อยชา  ความรู้สึกแบบนี้จะช่วยให้เราปิ๊งกับไอเดียแปลก ๆ  ได้เร็ว  คนที่ทำงานศิลปะมักจะพบว่า  บางครั้งเจ้าความคิดหรือไอเดียดี ๆ  มักจะผ่านเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วเช่นกัน  ดังนั้นหากเราเป็นคนไวเราจะเก๊ตไอเดียได้ดีกว่าคนอื่น

7.  หัดตั้งคำถามและหาคำตอบ  การตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยตนเอง  จะช่วยให้เราเป็นคนมีเหตุผล  ถึงแม้คำตอบเราจะไม่ถูกต้องตามความจริง  แต่มันจะเป็นการฝึกให้เรารู้จักใช้สิ่งประกอบต่าง ๆ  มาอ้างอิงสนับสนุนความคิด  (ฝัน)  ของเรา  เช่นคำถามที่ว่าทำไมฝนตกรถจะต้องติด  บางคนอาจตอบว่าอุบัติเหตุบ่อยรถจึงติด  บางคนอาจตอบว่าคนต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นทำให้รถเคลื่อนตัวช้า  แต่บางคนอาจบอกว่าพอฝนตกตำรวจจราจรก็เข้าไปหลบฝนหมดรถก็เลยติด  เพราะไม่มีจราจรคอยดูแล  เป็นต้น  นี่แสดงให้เห็นว่าคำถามเดียวเราอาจมีหลาย ๆ  คำตอบที่ถูกได้ทั้งหมด  ศิลปะก็เช่นกัน  ทุกคำตอบจะถูกหมด  เพียงแต่ว่าคำตอบไหนจะเหมาะสมกับสถานการณ์ใดเท่านั้นเอง

8.  เป็นนักฝัน  ข้อนี้สำคัญมาก  แค่ฝันเราก็ยังไม่กล้าแล้วจะลงมือทำได้อย่างไร  เด็กๆ ชอบมองก้อนเมฆแล้วเห็นเป็นรูปร่างต่าง ๆ  ในใจก็คิดสร้างเรื่องราวไปตามรูปก้อนเมฆที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ  ความคิดฝันดี ๆ  ของเรามันจะไม่ศูนย์เปล่า หากเรากล้าฝันสักวันมันจะถูกถ่ายทอดออกมาจากตัวเราในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง  เหมือนเป็นเพื่อนรักของเราตลอดไป

ลองสำรวจตัวเองว่า มีคุณสมบัติเหล่านี้หรือเปล่า หรือสามารถสร้างนิสัยเหล่านี้ได้หรือไม่
ถ้าได้ ... อนาคตในเส้นทางศิลปะก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

(บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย : หมีทอล์คดอทคอม)
Cr. http://www.mheetalk.com/content/5471/8-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่