แรกเริ่ม รู้สึกว่ามีปัญหาสายตามา ร่วม 2-3 ปีแล้ว แต่ไม่มาก ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร เลยยังไม่เคยตัดแว่นใส่ จนเมื่อตรวจสุขภาพ เมื่อตอนต้นปี ค่าสายตาเริ่มมากขึ้น กับเริ่มอ่านตัวหนังสือเล็กๆไม่เห็น จึงคิดว่าจะไปตัดแว่นตา ก็เริ่มหาข้อมูลบ้าง ก็พอดีเพื่อนก็เคยไปตัดแว่นกับทางท็อปเจริญ เราก็ถามเขาว่า ตัดมา ใส่แล้วมีปัญหาอะไรไหม เพื่อนก็ตอบแค่ว่า ไม่มี (มารู้ตอนหลังว่าเขาตัดแว่นกรองแสงเฉยๆ ไม่มีค่าสายตา) ก็เลยตัดสินใจไปตัดร้านแว่นท็อปเจริญ ที่อยู่ปากซอยบ้าน (ใกล้บ้านสะดวกดี)
ตัดมาเมื่อ 18-7-58 ก็เข้าไปที่ร้านเพิ่อตรวจวัดสายตา ในห้องตรวจก็มีเครื่องมือมากมาย การตรวจก็ดูจะละเอียดดี (ตามประสาคนไม่มีประสบการณ์) แล้วก็ออกมาเลือกเลนส์ และกรอบแว่น มีการแจ้งลักษณะการใช้งานเรียบร้อยว่า ใช้งานคอม เอกสารบ้าง มองไกลบ้าง
เราเป็นเลนส์ Duna Progressive Premium Digital Bluecut อะไรประมาณนี้แหละ ราคา 8,800 (ราคานี้ลด 50% แล้วนะครับ) ส่วนกรอบ เลือกเป็น Ray Ban ราคา 3,750 (ช่วงนั้นมีโปร ลดราคากรอบ 50%) แล้วยังซื้อแว่นกันแดด PlayBoy อีก 1 อัน ราคา 2,360 (ลด 50% แล้วเช่นกัน) ออกมาจากร้านโดยลืมถามค่าสายตา และพนง.ร้านก็ไม่ได้แจ้งค่าสายตากับเรา หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ก็ไปรับแว่นตา น้องเขาก็บอกวิธีการใช้แว่นตา Progressive มาคร่าวๆ แต่เราดูจะปรับตัวง่าย ก็ใส่เดินออกจากร้านได้เลย ไม่มีปัญหาเรื่องเดิน ขึ้น-ลง บันได
จากนั้น วันจันทร์ถัดมา เริ่มสังเกตว่า มองคอมพิวเตอร์ไม่ชัด ก็มาหาสมุดตรวจสุขภาพ พบว่า ค่าสายตาไม่ตรงกัน (ที่ตรวจรพ. ซ้ายยาว75 เอียง75 ขวายาว50 เอียง50 ที่ร้านสาขาปากซอย ซ้ายยาว125 สั้น50 ขวายาว125 สั้น50) แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะได้ยินมาว่า เลนส์ Progressive ต้องให้เวลาในการปรับตัว ในช่วงแรก และเราก็ใส่ได้ ไม่ถึงกับปวดหัว หรือมึนงง และก็ไม่เคยตัดแว่นด้วย เลยไม่รู้ว่าคนอื่นที่ตัดจะมีอาการแบบนี้ด้วยไหม
1สัปดาห์ผ่านไป ก็ยังไม่ชัด พอไม่ชัด ก็ทำให้เหมือนเราต้องเพ่งมอง ทำให้สายตา ล้ามาก (ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นที่แว่น หรือเป็นที่ตาเรา) ก็หาข้อมูลเพิ่ม ได้เห็นการวัดระยะ วัดจุดโฟกัส จากยูทูป ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า หรือเป็นเพราะเทคนิคการวัดของ Optician เพราะตอนวัดที่ร้าน รายละเอียดบางอย่าง ถูกละเลยไป (มารู้ตอนได้ดู คลิปยูทูปการวัด ของตปท.) ก็เลยหาข้อมูล จนเรารู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้น จุดโฟกัส ของเลนส์ กับ จุดมองของตาเรา อาจไม่ตรงกัน ก็เลยลองปิดตาที่ละข้าง โดยไม่หลับตาข้างที่ปิด แล้วมองผ่านแว่น ตาขวาชัดดี แต่ตาซ้ายเบลอ เราก็ใช้มืออีกข้าง ขยับแว่นไปทางซ้าย ขวา บน ล่าง จนรู้ว่า จุดชัดของเลนส์แว่นตาข้างซ้าย อยู่ชิดมาทางจมูก
จึงตัดสินใจโทรเข้า Call Center เมื่อวันที่ 5-8-58 จนท.รับเรื่องไว้ และผมแจ้งขอสาขาที่มีความชำนาญในการวัดสายตา แต่ไม่มีการติดต่อกลับ จนเมื่อ 11-8-58 จึงโทรถามที่ Call Center อีกครั้ง และเย็นวันเดียวกันก็มีจนท.ติดต่อกลับมา ให้เข้าไปตรวจใหม่ที่สาขา แฟชั่นไอซ์แลนด์
12-8-58 ผมเข้าไปที่สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ในช่วงบ่ายๆ ที่ร้านลูกค้าเยอะ มีพนง.ว่างอยู่ 1คน ผมเดินเข้าไปแจ้งรายละเอียด น้องเขาก็เชิญเข้าห้องตรวจทันที (ด้วยสีหน้า ยิ้มแย้ม) ไม่มีให้รอก่อนหรืออะไรเลย ทั้งที่ลูกค้าเต็มร้าน จากนั้น Optician ก็เข้ามาทำการตรวจวัดสายตาให้ใหม่ ได้ค่าสายตาใกล้เคียงกับที่ตรวจจากรพ. การตรวจสายตาที่สาขาแฟชั่นนี้มีความแตกต่างจากที่ตรวจที่สาขาปากซอย คือใช้เครื่องมือมากกว่า และในเครื่องมือที่เหมือนกัน ก็มีการใช้การตรวจที่ร้านปากซอยไม่ได้ใช้ และใส่ใจรายละเอียดดี พร้อมออกใบนัดรับแว่นให้ วันที่ 21-8-58
รู้สึกว่ายังดีนะที่ทางร้านรับผิดชอบในการตัดให้ใหม่ ถือว่า มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า หรือผู้บริโภค
ขอสรุปรายละเอียดไว้ดังนี้
- เสียความรู้สึก
1. รู้สึกเสียความรู้สึกกับสาขาปากซอย ในการตัดแว่นครั้งแรก ทั้งที่เครื่องมือมีอยู่ แต่ทำไมไม่ใช้ เช่น การใช้ปริซึม การวัดองศาแว่น และไม่ใส่ใจรายละเอียด เช่นการวางจุดให้เรามอง เพื่อวางตำแหน่งโฟกัสบนเลนส์ ทำให้ต้องมานั่งเสียเวลา
2. ดูการติดต่อกลับของสำนักงานใหญ่จะค่อนข้างช้า เสียความรู้สึกนิดหน่อยที่ต้องให้โทรตามอีกครั้ง
- ประทับใจ
1. ประทับใจร้านสาขา แฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ที่ให้บริการอย่างดี ทั้งที่เมื่อวาน ผมก็ไม่ได้ทำยอดให้น้องๆในร้านเลย
2. Optician สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ใส่ใจรายละเอียดดี(รายละเอียดเป๊ะเหมือนคลิปในยูทูปของ USA เลย) วัดแล้ว Recheck ให้อีกรอบด้วย
หากทางท็อปเจริญเข้ามาอ่าน ผมขออนุณาตเสนอแนะ ดังนี้
1. ตวรจะมีการวางระเบียบการตรวจวัด ให้เหมือนกันทุกสาขา เช่น ต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง
2. ควรจะเน้นให้พนง. ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยที่จะมีผลกับการมอง เช่นการวัดจุดโฟกัสของตา
3. ควรมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่ทำการสุ่มทดสอบความสามารถของพนง. ตามร้าน (โดยพนง.ไม่รู้ตัว)
4. ควรมีกำหนดระยะเวลาติดต่อกลับ จากสำนักงานใหญ่ เช่น ไม่เกิน 3วันทำการ หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรเกิน 5วันทำการ
ป.ล. แล้วผมจะมาอัพเดทขอมูลอีกครั้ง หลังจากรับแว่นตากลับมาแล้ว (นัดรับ 21-8-58) ว่าแว่นตายังมีปัญหาอยู่หรือไม่ และการบริการของเจ้าหน้าที่สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 จะยังคงน่ารักเหมือนเดิมไหม
**** ถ้าแท็กผิดห้อง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ****
ตัดแว่นกับท็อปเจริญ (มีทั้งความรู้สึกแย่บ้าง และความประทับใจ)
ตัดมาเมื่อ 18-7-58 ก็เข้าไปที่ร้านเพิ่อตรวจวัดสายตา ในห้องตรวจก็มีเครื่องมือมากมาย การตรวจก็ดูจะละเอียดดี (ตามประสาคนไม่มีประสบการณ์) แล้วก็ออกมาเลือกเลนส์ และกรอบแว่น มีการแจ้งลักษณะการใช้งานเรียบร้อยว่า ใช้งานคอม เอกสารบ้าง มองไกลบ้าง
เราเป็นเลนส์ Duna Progressive Premium Digital Bluecut อะไรประมาณนี้แหละ ราคา 8,800 (ราคานี้ลด 50% แล้วนะครับ) ส่วนกรอบ เลือกเป็น Ray Ban ราคา 3,750 (ช่วงนั้นมีโปร ลดราคากรอบ 50%) แล้วยังซื้อแว่นกันแดด PlayBoy อีก 1 อัน ราคา 2,360 (ลด 50% แล้วเช่นกัน) ออกมาจากร้านโดยลืมถามค่าสายตา และพนง.ร้านก็ไม่ได้แจ้งค่าสายตากับเรา หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ก็ไปรับแว่นตา น้องเขาก็บอกวิธีการใช้แว่นตา Progressive มาคร่าวๆ แต่เราดูจะปรับตัวง่าย ก็ใส่เดินออกจากร้านได้เลย ไม่มีปัญหาเรื่องเดิน ขึ้น-ลง บันได
จากนั้น วันจันทร์ถัดมา เริ่มสังเกตว่า มองคอมพิวเตอร์ไม่ชัด ก็มาหาสมุดตรวจสุขภาพ พบว่า ค่าสายตาไม่ตรงกัน (ที่ตรวจรพ. ซ้ายยาว75 เอียง75 ขวายาว50 เอียง50 ที่ร้านสาขาปากซอย ซ้ายยาว125 สั้น50 ขวายาว125 สั้น50) แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะได้ยินมาว่า เลนส์ Progressive ต้องให้เวลาในการปรับตัว ในช่วงแรก และเราก็ใส่ได้ ไม่ถึงกับปวดหัว หรือมึนงง และก็ไม่เคยตัดแว่นด้วย เลยไม่รู้ว่าคนอื่นที่ตัดจะมีอาการแบบนี้ด้วยไหม
1สัปดาห์ผ่านไป ก็ยังไม่ชัด พอไม่ชัด ก็ทำให้เหมือนเราต้องเพ่งมอง ทำให้สายตา ล้ามาก (ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นที่แว่น หรือเป็นที่ตาเรา) ก็หาข้อมูลเพิ่ม ได้เห็นการวัดระยะ วัดจุดโฟกัส จากยูทูป ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า หรือเป็นเพราะเทคนิคการวัดของ Optician เพราะตอนวัดที่ร้าน รายละเอียดบางอย่าง ถูกละเลยไป (มารู้ตอนได้ดู คลิปยูทูปการวัด ของตปท.) ก็เลยหาข้อมูล จนเรารู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้น จุดโฟกัส ของเลนส์ กับ จุดมองของตาเรา อาจไม่ตรงกัน ก็เลยลองปิดตาที่ละข้าง โดยไม่หลับตาข้างที่ปิด แล้วมองผ่านแว่น ตาขวาชัดดี แต่ตาซ้ายเบลอ เราก็ใช้มืออีกข้าง ขยับแว่นไปทางซ้าย ขวา บน ล่าง จนรู้ว่า จุดชัดของเลนส์แว่นตาข้างซ้าย อยู่ชิดมาทางจมูก
จึงตัดสินใจโทรเข้า Call Center เมื่อวันที่ 5-8-58 จนท.รับเรื่องไว้ และผมแจ้งขอสาขาที่มีความชำนาญในการวัดสายตา แต่ไม่มีการติดต่อกลับ จนเมื่อ 11-8-58 จึงโทรถามที่ Call Center อีกครั้ง และเย็นวันเดียวกันก็มีจนท.ติดต่อกลับมา ให้เข้าไปตรวจใหม่ที่สาขา แฟชั่นไอซ์แลนด์
12-8-58 ผมเข้าไปที่สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ในช่วงบ่ายๆ ที่ร้านลูกค้าเยอะ มีพนง.ว่างอยู่ 1คน ผมเดินเข้าไปแจ้งรายละเอียด น้องเขาก็เชิญเข้าห้องตรวจทันที (ด้วยสีหน้า ยิ้มแย้ม) ไม่มีให้รอก่อนหรืออะไรเลย ทั้งที่ลูกค้าเต็มร้าน จากนั้น Optician ก็เข้ามาทำการตรวจวัดสายตาให้ใหม่ ได้ค่าสายตาใกล้เคียงกับที่ตรวจจากรพ. การตรวจสายตาที่สาขาแฟชั่นนี้มีความแตกต่างจากที่ตรวจที่สาขาปากซอย คือใช้เครื่องมือมากกว่า และในเครื่องมือที่เหมือนกัน ก็มีการใช้การตรวจที่ร้านปากซอยไม่ได้ใช้ และใส่ใจรายละเอียดดี พร้อมออกใบนัดรับแว่นให้ วันที่ 21-8-58
รู้สึกว่ายังดีนะที่ทางร้านรับผิดชอบในการตัดให้ใหม่ ถือว่า มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า หรือผู้บริโภค
ขอสรุปรายละเอียดไว้ดังนี้
- เสียความรู้สึก
1. รู้สึกเสียความรู้สึกกับสาขาปากซอย ในการตัดแว่นครั้งแรก ทั้งที่เครื่องมือมีอยู่ แต่ทำไมไม่ใช้ เช่น การใช้ปริซึม การวัดองศาแว่น และไม่ใส่ใจรายละเอียด เช่นการวางจุดให้เรามอง เพื่อวางตำแหน่งโฟกัสบนเลนส์ ทำให้ต้องมานั่งเสียเวลา
2. ดูการติดต่อกลับของสำนักงานใหญ่จะค่อนข้างช้า เสียความรู้สึกนิดหน่อยที่ต้องให้โทรตามอีกครั้ง
- ประทับใจ
1. ประทับใจร้านสาขา แฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ที่ให้บริการอย่างดี ทั้งที่เมื่อวาน ผมก็ไม่ได้ทำยอดให้น้องๆในร้านเลย
2. Optician สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 ใส่ใจรายละเอียดดี(รายละเอียดเป๊ะเหมือนคลิปในยูทูปของ USA เลย) วัดแล้ว Recheck ให้อีกรอบด้วย
หากทางท็อปเจริญเข้ามาอ่าน ผมขออนุณาตเสนอแนะ ดังนี้
1. ตวรจะมีการวางระเบียบการตรวจวัด ให้เหมือนกันทุกสาขา เช่น ต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง
2. ควรจะเน้นให้พนง. ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยที่จะมีผลกับการมอง เช่นการวัดจุดโฟกัสของตา
3. ควรมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่ทำการสุ่มทดสอบความสามารถของพนง. ตามร้าน (โดยพนง.ไม่รู้ตัว)
4. ควรมีกำหนดระยะเวลาติดต่อกลับ จากสำนักงานใหญ่ เช่น ไม่เกิน 3วันทำการ หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรเกิน 5วันทำการ
ป.ล. แล้วผมจะมาอัพเดทขอมูลอีกครั้ง หลังจากรับแว่นตากลับมาแล้ว (นัดรับ 21-8-58) ว่าแว่นตายังมีปัญหาอยู่หรือไม่ และการบริการของเจ้าหน้าที่สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ ชั้น1 จะยังคงน่ารักเหมือนเดิมไหม
**** ถ้าแท็กผิดห้อง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ****