ก่อนสร้างบ้าน ได้อ่านข้อมูลและกระทู้พันทิปเกี่ยวกับปัญหากลิ่นย้อนกลับในห้องน้ำหลายกระทู ตอนสร้างก็ย้ำกับ ผรม.แล้ว
ไม่นึกเลย..... บ้านที่คุมสร้างด้วยตัวเองจะเจอปัญหาส้วมเหม็นจนได้
ตลอด ๒ เดือนที่ย้ายเข้าอยู่บ้านใหม่ ต้องต่อสู้หาวิธีกำจัดกลิ่น โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
ระบบบำบัดปฏิกูลที่ ผรม.ติดตั้งมีทั้งถังเกรอะ(septic) บ่อพัก และบ่อน้ำทิ้ง มีท่ออากาศถังละ ๑ ท่อยกสูงออกนอกตัวบ้านถูกต้องตามมาตรฐาน
ฝาท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำเป็นแบบมี trap ทุกท่อ เครื่องสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler รุ่น Karess แล้วกลิ่นย้อนกลับได้อย่างไร
เรียกช่างของ ผรม.มาดู ๒ ครั้ง
ครั้งแรกใส่ผงชีวภาพ Bionic กำจัดกลิ่น ขนาดใส่ทั้งชักโครก และท่อน้ำทิ้งทุกวันเว้นวันตลอดเดือนก็ยังมีกลิ่น
ครั้งที่ ๒ ช่างเปิดฝาทุกถังตรวจดูท่อชักโครกและน้ำทิ้ง ไม่อุดตัน แต่ก๊าซเยอะ บ่อน้ำทิ้งมีเมือกมาก ช่างใช้วิธีจุดไฟเผาไล่ก๊าซในแต่ละบ่อ กลิ่นควันยังย้อนเข้าในห้องน้ำ พอกลิ่นควันหมดไม่นานกลิ่นเหม็นก็กลับมาอีก ช่างบอกเป็นธรรมชาติ เพราะหน้าฝนมักมีกลิ่น แต่เรายันว่าเวลาฝนไม่ตกก็มีกลิ่น
เราคงคอยเผาไฟเล่นเทียนในถังส้วมบ่อยๆ ตามคำแนะนำของช่างคงไม่ไหว ขอหักดิบไส่น้ำชีวภาพ Bio Clean ลงไปถังละ ๑ ลิตร ผลคือกลิ่นหายไปได้ไม่ถึง ๒ วัน ก็ย้อนกลับมาอีก เลยต้องใส่ผง Bionic ทุกครั้งที่มีกลิ่น เพื่อบรรเทาความทรมาน
ที่แย่มาก คือ ห้องน้ำที่มีปัญหาเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ กลิ่นมากตอนกลางคืน มุดจากประตูบานเกร็ดไปวนเวียนในห้องนอน ยิ่งเปิดแอร์ด้วย
กลิ่นอบอวลไม่เป็นอันหลับนอน ต้องใส่ Bionic ทุกคืนก่อนนอน แล้วเอาฟองน้ำชุบ Dettol แปะปิดปากท่อน้ำทิ้งทุกจุด เพื่อดักแบคทีเรียและเชื้อโรคที่มากับกลิ่น นาน ๆ ไปเซลล์จมูกคงแยกแยะไม่ได้เพราะชาชินกับกลิ่น แต่เราอาจจะป่วยตายโดยไม่รู้ตัวเพราะสูดเชื้อโรคทุก ๆ คืน เป็นเพชรฆาตที่คาดไม่ถึงมากับกลิ่นปฏิกูลย้อนกลับจากห้องน้ำในห้องนอนนั่นเอง แค่กลิ่นก็ว่าทรมาณแล้ว พอนึกถึงเชื้อโรคที่สูดเข้าปอดตอนนอนหลับทุกคืนแล้วยิ่งเครียด ไม่รู้ว่าปัญหาจะยุติได้อย่างไร
จึงขอสอบถามท่านผู้เชี่ยวชาญด้านสุขาภิบาล
๑. กลิ่นเหม็น(ตอนแรก ๆ คล้ายกลิ่นผักเน่าหรือน้ำครำ ต่อมากลายเป็นกลิ่นปฏิกูล) ที่มีเป็นระยะๆ เกิดจาการย่อยสลายไม่สมบูรณ์/ถังเกรอะชำรุด/บกพร่องหรือไม่ จะแก้ไขได้อย่างไร? ตอนสร้างบ้านใช้เวลา ๖ เดือน ผรม.วางถังและบ่อพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เมื่อ ๖ เดือนที่แล้ว เห็นมีน้ำอยู่ทุกบ่อ เขาบอกว่าน้ำข้างในกันแรงดันข้างนอกดันบ่อแตก น้ำที่ขังอยู่ในบ่อ ๖ เดือน น้ำดังกล่าวเป็นสาเหตให้เกิดกลิ่นหรือไม่ ? (ใส่ผงจุลินทรีย์ไปหลายกระป่อง น่าจะช่วยย่อยสลาย ทำไมยังเอาไม่อยู่) จะสูบส้วม สูบน้ำในบ่อพักและบ่อน้ำทิ้งออกจะช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนหรือไม่?
๒. ตามระบบบำบัดนี้ บ่อน้ำทิ้งไม่มีท่อทิ้งน้ำออกภายนอก เนื่องจากในต่างจังหวัด เขาใช้วิธีให้น้ำทิ้งในถังซึมลงใต้ดินไปเอง ดินที่สร้างบ้านหลังนี้เป็นที่นา ถมประมาณกว่า ๑๐ ปี โดยขุดจากที่นารอบ ๆ มาถม ต่อมา จขกท.มาถมสูงเพิ่มอีก ๑.๒๐ ม.เพื่อสร้างบ้าน ดินถมเป็นดินร่วนหน้านา ดินมีส่วนทำให้การย่อยสลายช้า และทำให้เกิดก๊าซมากกว่าปกติหรือไม่ ? แล้วจะแก้ไขอย่างไร ?
๓.กลิ่นระหว่างการย่อยสลายปฎิกูลเป็นเรื่องปกติ ซึ่งระบบบำบัดวางไว้เพื่อเร่งรัดการย่อยสลาย ป้องกันและกำจัดกลิ่น ทำไมระบบนี้ถึงป้องกันกลิ่นย้อนกลับไม่ได้ การติดตั้งสุขภัณฑ์ไม่ถูกวิธีมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นย้อนกลับหรือไม่ ? (ไม่เห็นตอนติดตั้ง และช่างเชื่อมั่นว่าเขาติดตั้งถูกวิธี) ท่อระบายอากาศที่ต่อกับบ่อต่าง ๆ นอกอาคาร ไม่ช่วยระบายกลิ่นได้เลยหรือ? เคยไปอยู่ใกล้ ๆ ท่อระบายอากาศไม่คอ่ยมีกลิ่นออกทั้ง ๆ ที่แต่ละท่อระบายอากาศอยู่ใกล้แต่ละบ่อเกรอะ/พักน้ำ/ทิ้งน้ำมากกว่าท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำเสียอีก
ปัญหาสำคัญในการแก้ไข แม้ ผรม.จะให้ความร่วมมือดี (ยังอยู่ในระยะเวลาประกันโครงสร้างพื้นฐานตามสัญญา) แต่ช่างประปาผู้วางระบบ เชื่อมั่นว่าติดตั้งระบบถูกต้องตามมาตรฐานทุกอย่าง เพราะทำงานด้านนี้มากว่า ๒๐ ปี ทำส้วมมาเป็นร้อย เขาว่าปัญหาเป็นธรรมชาติ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ตกลงเราต้องอยู่กับกลิ่นเหม็นส้วมตามธรรมชาติเช่นนี้ตลอดไปหรือ?
ขอความอนุเคราะห์คำแนะนำจากผู้รู้ในด้านนี้ด้วย จะขอบคุณยิ่งค่ะ
##################
<<<<ขอ update สถานะสุดท้าย>>>>>
ภายหลังทนสูดกลิ่นส้วมมา ครึ่งปี แก้ไขทุกทาง พอแก้ก็หาย สักพักกลิ่นก็กลับมาอีก
ผรม.ก็ช่วยเหลือดี เรียกเมื่อไหร่ก็มาทันทีแต่แก้ไม่ตรงจุด ใส่เครื่องดูดอากาศก็แล้ว เปลี่ยนขนาด floor drain ก็แล้ว
จขกท.ได้ทบทวนดูเห็นว่าสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำคือตัดโถส้วมดูการติดตั้งคอห่านด้านในว่าถูกต้องหรือไม่
ซึ่งในจุดนี้ ช่างและผรม.ยืนยันว่าได้ติดตั้งระบบถูกต้องทุกอย่าง ไม่แตะต้องจุดนี้ จขกท.ก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจ ผรม.
แม้จะยังคาใจ ในที่สุด เมื่อ ผรม.วางมือเพราะไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร และ จขกท.ทนกลิ่นเรื้อรัไมไหว
จึงเรียกช่าง Kohler มาตัดโถส้วมเอง
ผลปรากฏเป็นไปตามความเห็นที่ ๒ คือ ช่างไม่ได้ seal รอยต่อคอห่านกับพื้นห้องน้ำด้วยขึ้ผึ้ง ใส่น๊อตไม่ครบ
มีร่องรอยการเจาะรูน๊อตพลาดไป ๑ ตัว มีน้ำรั่วซึมตามรอยต่อคอห่าน นี่คือที่มาต้นเหตุแท้จริงของกลิ่น
และเนื่องจากด้านหลังของโถส้วมเป็นช่องเปิดระบายอากาศ ทำให้กลิ่นจากคอห่านออกจากโถส้วมตรงช่องเปิดดังกล่าว
กอรปกับช่องเปิดระบายอากาศโถส้วมยู่ติดกลับ floor drain ทำให้ผู้ใช้ส้วมหลงทางคิดว่ากลิ่นมาจาก floor drain
แท้จริง กลิ่นมาจากคอห่านที่ไม่ได้ยาแนวให้เรียบร้อย การติดตั้งระบบสุขภัณฑ์ไม่สมบูรณ์
ภายหลัง จนท. Kohler มาถอด ติดตั้งใหม่ แล้วยาแนวด้วยขี้ผึ้ง กลิ่นหายทันที และไม่มีกลิ่นเหม็นอีกเลยตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน
สรุป ปัญหาได้แก้ไข ลุล่วงแล้ว สาเหตุเกิดจากการติดตั้งสุขภัณฑ์ไม่สมบูรณ์ ช่างไม่อ่านคู่มือ โฟร์แมนไม่ได้ศึกษาคู่มือ
และควบคุมช่างทำให้ถูกต้อง และเกรงใจกัน ไม่ตรวจสอบ ผรม.ไว้ใจช่างและคนของตน ไม่หักหาญ ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน
เลยหน้าแตก บทเรียนสำคัญคือ คือ การเชื่อใจช่าง/คนงานเกินไปจนขาดการตรวจสอบ และเกรงใจกันทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
สุดท้าย ขอกราบทุกท่านที่กรุณาช่วยให้ข้อมูล ทำให้ จขกท.เข้าใจระบบและสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี
และขอโทษที่มา update ช้าไป แต่ก็หวังว่ากรณีนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับผู้กำลังสร้างบ้าน รวมทั้ง ผรม.ก่อสร้างด้วย
ตอนนี้กลิ่นส้วมหายขาด ไม่ทรมานใจและสุขภาพอีกต่อไป
บ้านใหม่สวย ดูดีมีราคา แต่....ฤาจะอยู่กับกลิ่น(ส้วม)ไปจนตาย
ไม่นึกเลย..... บ้านที่คุมสร้างด้วยตัวเองจะเจอปัญหาส้วมเหม็นจนได้
ตลอด ๒ เดือนที่ย้ายเข้าอยู่บ้านใหม่ ต้องต่อสู้หาวิธีกำจัดกลิ่น โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
ระบบบำบัดปฏิกูลที่ ผรม.ติดตั้งมีทั้งถังเกรอะ(septic) บ่อพัก และบ่อน้ำทิ้ง มีท่ออากาศถังละ ๑ ท่อยกสูงออกนอกตัวบ้านถูกต้องตามมาตรฐาน
ฝาท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำเป็นแบบมี trap ทุกท่อ เครื่องสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler รุ่น Karess แล้วกลิ่นย้อนกลับได้อย่างไร
เรียกช่างของ ผรม.มาดู ๒ ครั้ง
ครั้งแรกใส่ผงชีวภาพ Bionic กำจัดกลิ่น ขนาดใส่ทั้งชักโครก และท่อน้ำทิ้งทุกวันเว้นวันตลอดเดือนก็ยังมีกลิ่น
ครั้งที่ ๒ ช่างเปิดฝาทุกถังตรวจดูท่อชักโครกและน้ำทิ้ง ไม่อุดตัน แต่ก๊าซเยอะ บ่อน้ำทิ้งมีเมือกมาก ช่างใช้วิธีจุดไฟเผาไล่ก๊าซในแต่ละบ่อ กลิ่นควันยังย้อนเข้าในห้องน้ำ พอกลิ่นควันหมดไม่นานกลิ่นเหม็นก็กลับมาอีก ช่างบอกเป็นธรรมชาติ เพราะหน้าฝนมักมีกลิ่น แต่เรายันว่าเวลาฝนไม่ตกก็มีกลิ่น
เราคงคอยเผาไฟเล่นเทียนในถังส้วมบ่อยๆ ตามคำแนะนำของช่างคงไม่ไหว ขอหักดิบไส่น้ำชีวภาพ Bio Clean ลงไปถังละ ๑ ลิตร ผลคือกลิ่นหายไปได้ไม่ถึง ๒ วัน ก็ย้อนกลับมาอีก เลยต้องใส่ผง Bionic ทุกครั้งที่มีกลิ่น เพื่อบรรเทาความทรมาน
ที่แย่มาก คือ ห้องน้ำที่มีปัญหาเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ กลิ่นมากตอนกลางคืน มุดจากประตูบานเกร็ดไปวนเวียนในห้องนอน ยิ่งเปิดแอร์ด้วย
กลิ่นอบอวลไม่เป็นอันหลับนอน ต้องใส่ Bionic ทุกคืนก่อนนอน แล้วเอาฟองน้ำชุบ Dettol แปะปิดปากท่อน้ำทิ้งทุกจุด เพื่อดักแบคทีเรียและเชื้อโรคที่มากับกลิ่น นาน ๆ ไปเซลล์จมูกคงแยกแยะไม่ได้เพราะชาชินกับกลิ่น แต่เราอาจจะป่วยตายโดยไม่รู้ตัวเพราะสูดเชื้อโรคทุก ๆ คืน เป็นเพชรฆาตที่คาดไม่ถึงมากับกลิ่นปฏิกูลย้อนกลับจากห้องน้ำในห้องนอนนั่นเอง แค่กลิ่นก็ว่าทรมาณแล้ว พอนึกถึงเชื้อโรคที่สูดเข้าปอดตอนนอนหลับทุกคืนแล้วยิ่งเครียด ไม่รู้ว่าปัญหาจะยุติได้อย่างไร
จึงขอสอบถามท่านผู้เชี่ยวชาญด้านสุขาภิบาล
๑. กลิ่นเหม็น(ตอนแรก ๆ คล้ายกลิ่นผักเน่าหรือน้ำครำ ต่อมากลายเป็นกลิ่นปฏิกูล) ที่มีเป็นระยะๆ เกิดจาการย่อยสลายไม่สมบูรณ์/ถังเกรอะชำรุด/บกพร่องหรือไม่ จะแก้ไขได้อย่างไร? ตอนสร้างบ้านใช้เวลา ๖ เดือน ผรม.วางถังและบ่อพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เมื่อ ๖ เดือนที่แล้ว เห็นมีน้ำอยู่ทุกบ่อ เขาบอกว่าน้ำข้างในกันแรงดันข้างนอกดันบ่อแตก น้ำที่ขังอยู่ในบ่อ ๖ เดือน น้ำดังกล่าวเป็นสาเหตให้เกิดกลิ่นหรือไม่ ? (ใส่ผงจุลินทรีย์ไปหลายกระป่อง น่าจะช่วยย่อยสลาย ทำไมยังเอาไม่อยู่) จะสูบส้วม สูบน้ำในบ่อพักและบ่อน้ำทิ้งออกจะช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนหรือไม่?
๒. ตามระบบบำบัดนี้ บ่อน้ำทิ้งไม่มีท่อทิ้งน้ำออกภายนอก เนื่องจากในต่างจังหวัด เขาใช้วิธีให้น้ำทิ้งในถังซึมลงใต้ดินไปเอง ดินที่สร้างบ้านหลังนี้เป็นที่นา ถมประมาณกว่า ๑๐ ปี โดยขุดจากที่นารอบ ๆ มาถม ต่อมา จขกท.มาถมสูงเพิ่มอีก ๑.๒๐ ม.เพื่อสร้างบ้าน ดินถมเป็นดินร่วนหน้านา ดินมีส่วนทำให้การย่อยสลายช้า และทำให้เกิดก๊าซมากกว่าปกติหรือไม่ ? แล้วจะแก้ไขอย่างไร ?
๓.กลิ่นระหว่างการย่อยสลายปฎิกูลเป็นเรื่องปกติ ซึ่งระบบบำบัดวางไว้เพื่อเร่งรัดการย่อยสลาย ป้องกันและกำจัดกลิ่น ทำไมระบบนี้ถึงป้องกันกลิ่นย้อนกลับไม่ได้ การติดตั้งสุขภัณฑ์ไม่ถูกวิธีมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นย้อนกลับหรือไม่ ? (ไม่เห็นตอนติดตั้ง และช่างเชื่อมั่นว่าเขาติดตั้งถูกวิธี) ท่อระบายอากาศที่ต่อกับบ่อต่าง ๆ นอกอาคาร ไม่ช่วยระบายกลิ่นได้เลยหรือ? เคยไปอยู่ใกล้ ๆ ท่อระบายอากาศไม่คอ่ยมีกลิ่นออกทั้ง ๆ ที่แต่ละท่อระบายอากาศอยู่ใกล้แต่ละบ่อเกรอะ/พักน้ำ/ทิ้งน้ำมากกว่าท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำเสียอีก
ปัญหาสำคัญในการแก้ไข แม้ ผรม.จะให้ความร่วมมือดี (ยังอยู่ในระยะเวลาประกันโครงสร้างพื้นฐานตามสัญญา) แต่ช่างประปาผู้วางระบบ เชื่อมั่นว่าติดตั้งระบบถูกต้องตามมาตรฐานทุกอย่าง เพราะทำงานด้านนี้มากว่า ๒๐ ปี ทำส้วมมาเป็นร้อย เขาว่าปัญหาเป็นธรรมชาติ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ตกลงเราต้องอยู่กับกลิ่นเหม็นส้วมตามธรรมชาติเช่นนี้ตลอดไปหรือ?
ขอความอนุเคราะห์คำแนะนำจากผู้รู้ในด้านนี้ด้วย จะขอบคุณยิ่งค่ะ
##################
<<<<ขอ update สถานะสุดท้าย>>>>>
ภายหลังทนสูดกลิ่นส้วมมา ครึ่งปี แก้ไขทุกทาง พอแก้ก็หาย สักพักกลิ่นก็กลับมาอีก
ผรม.ก็ช่วยเหลือดี เรียกเมื่อไหร่ก็มาทันทีแต่แก้ไม่ตรงจุด ใส่เครื่องดูดอากาศก็แล้ว เปลี่ยนขนาด floor drain ก็แล้ว
จขกท.ได้ทบทวนดูเห็นว่าสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำคือตัดโถส้วมดูการติดตั้งคอห่านด้านในว่าถูกต้องหรือไม่
ซึ่งในจุดนี้ ช่างและผรม.ยืนยันว่าได้ติดตั้งระบบถูกต้องทุกอย่าง ไม่แตะต้องจุดนี้ จขกท.ก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจ ผรม.
แม้จะยังคาใจ ในที่สุด เมื่อ ผรม.วางมือเพราะไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร และ จขกท.ทนกลิ่นเรื้อรัไมไหว
จึงเรียกช่าง Kohler มาตัดโถส้วมเอง
ผลปรากฏเป็นไปตามความเห็นที่ ๒ คือ ช่างไม่ได้ seal รอยต่อคอห่านกับพื้นห้องน้ำด้วยขึ้ผึ้ง ใส่น๊อตไม่ครบ
มีร่องรอยการเจาะรูน๊อตพลาดไป ๑ ตัว มีน้ำรั่วซึมตามรอยต่อคอห่าน นี่คือที่มาต้นเหตุแท้จริงของกลิ่น
และเนื่องจากด้านหลังของโถส้วมเป็นช่องเปิดระบายอากาศ ทำให้กลิ่นจากคอห่านออกจากโถส้วมตรงช่องเปิดดังกล่าว
กอรปกับช่องเปิดระบายอากาศโถส้วมยู่ติดกลับ floor drain ทำให้ผู้ใช้ส้วมหลงทางคิดว่ากลิ่นมาจาก floor drain
แท้จริง กลิ่นมาจากคอห่านที่ไม่ได้ยาแนวให้เรียบร้อย การติดตั้งระบบสุขภัณฑ์ไม่สมบูรณ์
ภายหลัง จนท. Kohler มาถอด ติดตั้งใหม่ แล้วยาแนวด้วยขี้ผึ้ง กลิ่นหายทันที และไม่มีกลิ่นเหม็นอีกเลยตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน
สรุป ปัญหาได้แก้ไข ลุล่วงแล้ว สาเหตุเกิดจากการติดตั้งสุขภัณฑ์ไม่สมบูรณ์ ช่างไม่อ่านคู่มือ โฟร์แมนไม่ได้ศึกษาคู่มือ
และควบคุมช่างทำให้ถูกต้อง และเกรงใจกัน ไม่ตรวจสอบ ผรม.ไว้ใจช่างและคนของตน ไม่หักหาญ ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน
เลยหน้าแตก บทเรียนสำคัญคือ คือ การเชื่อใจช่าง/คนงานเกินไปจนขาดการตรวจสอบ และเกรงใจกันทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
สุดท้าย ขอกราบทุกท่านที่กรุณาช่วยให้ข้อมูล ทำให้ จขกท.เข้าใจระบบและสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี
และขอโทษที่มา update ช้าไป แต่ก็หวังว่ากรณีนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับผู้กำลังสร้างบ้าน รวมทั้ง ผรม.ก่อสร้างด้วย
ตอนนี้กลิ่นส้วมหายขาด ไม่ทรมานใจและสุขภาพอีกต่อไป