นั่งรถไฟ กางเต้นท์ริมทะเล กับ "หาดวนกร"

สวัสดีค่าาาา หลังจากแอบดูคนอื่นรีวิวมาก็เยอะ วันนี้เลยอยากออกมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวของตัวเองบ้าง
ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นั่งรถไฟเที่ยว มาตั้งกระทู้ครั้งแรก ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ

คำโปรย…
ขับรถมอ’ไซเที่ยวก็เยอะแล้ว รู้สึกชีวิตการเดินทางมันเริ่มเหมือนๆเดิม
ทริปนี้เลยขอแบกเป้ นั่งรถไฟไปกางเต้นท์ริมทะเลบ้างก็แล้วกันนะ



บทนำ…
คราวจริงแล้วทริปนี้จขกท กับ แฟน วางแผนไว้ อยากนั่งรถไฟฟรี กางเตนท์ นอนริมทะเล มันเลยไปตรงกับที่ หาดวนกร เลยคุ้ยหาข้อมูลต่อในห้องนี้ละ แต่ด้วยที่ว่าไปตั้ง 3 วันกับอีก 2 คืน นอนริมทะเลอย่างเดียวกลัวจะเบื่อ
เลยอยากเดินขึ้นเขาบ้าง ก็จะมี ขึ้นเขาหลวงประจวบจะอยู่ใกล้ๆ กับหาดวนกรเลย เดินทางไม่นาน ไปเปิดดูรีวิวของชาวบ้านเขา มันน่าสนุกมากกกกกก  
อยากไปๆๆๆๆๆ  แต่!!!! ช่วงนี้หน้าฝนน๊าาาา เขาจะเปิดให้ขึ้นรึเปล่าาาาา เลยรีบเลยจ้า โทรหาเจ้าหน้าที่ด่วนๆ สรุปความฝันที่จะเดินขึ้นเขาก็ต้องพังครืนนนนนนน  TT^TT  เนื่องจากช่วงหน้าฝน บนเขาลมแรงมาก ช่วงนี้เลยปิดเส้นทางการเดินเขาไปก่อนนะจ้า อย่างนั้นอย่ารอช้า ต้องหาที่อื่นมาสำรอง

จนได้ข้อสรุปว่า นอนหาด 1 คืน และ  นอนที่หาดแหลมศาลาอีก 1 คืน หุหุหุหุ รีบแพ็คกระเป๋า รีบนอนรีบตื่นแต่เช้า Let’s go my vacation!!!!!


บทที่1...
สำหรับรถไฟที่จะไปหาดวนกร จะต้องนั่งรถไฟ ขบวน 255 ธนบุรี - หลังสวน ซึ่งรถไฟมาถึงประมาณ 7.30 โมง
สำหรับคนที่ขึ้นรถไฟครั้งแรกอาจจะ งงๆ เหมือน จขกท เพราะบนตั๋วเขียนไว้หมดเลย รถขบวนหมายเลขนี้ โบกี้เลขเท่าไหร่ แต่เวลาหาจริงๆเนี่ยมันยากมากเลยนะ จขกท ก็เลยเกือบขึ้นไม่ทันเลย

ด้วยวันหยุดยาวแบบนี้ คนมาเที่ยวก็แยะ คนกลับบ้านต่างจังหวัดก็เยอะ คนมันเลยแบบเยอะจุงงง  - -“ เยอะจน จ ะ ห า ย ใ จ ไ   ม่    ค่  อ   ย   อ     อ    กกกก  55555 นั่งนี่ขาหนีบชิดแล้วชิดอีก เขยิบขยับนิดนึงก็เกรงใจคนอื่นเขา อดทนไว้ ฮึบๆๆๆๆ


สำหรับใครกลัวหิวระหว่างทาง ไม่ต้องห่วงจ้า มีของขายตลอดเวลา กำลังจะหลับๆ เสียงแม่ค้ามาเลย หมูปิ้งไหม ก๋วยเตี๋ยวไหม น้ำเย็นๆไหม เลยรู้สึกว่า เออ 7 ชั่วโมงจากนี้ขอฝากท้องด้วยนะคะ 5555


แต่อันที่ recommended มากที่สุดคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูแดงเจ๊จิ๋ม อร่อยดีนะ ห่อละ 10 บาท คือไม่รู้หรือว่าอร่อยหรือว่าหิวกันแน่ แต่ตอนนั้นกินแล้ว อร่อยอ่ะ ขอแนะนำๆ แต่ก็มีอันที่ไม่แนะนำนะ เราเป็นคนชอบกินมะม่วงมาก เลยซื้อมากิน หยิบมาชิ้นแรก รู้สึกมันเขียวแปลกๆ กินไปคำแรกวางเลย น่าจะเอามะม่วงไปแช่อะไรสักอย่างที่ทำให้มันกรอบแน่เลย คือเนื้อมันแห้งๆแต่มันกรอบแบบแปลกๆอ่ะ หลังจากนั้นเลยไม่กินเลย กลัวววว (มือที่หยิบมะม่วงมีสีเขียวเหลืองๆติดมาด้วยอ่ะ)




ระหว่างทางก็จะมีคนขึ้นลง สถานีต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันนั่งกันยืนมั่ง ที่นั่งของ จขกท ว่าง เลยเรียกแฟนมานั่งข้างๆ
มียายกับหลานนั่งฝั่งตรงกันข้าม ข้อดีอย่างนึงของการนั่งรถไฟ น่าจะเป็นการที่เราได้เจอคนแปลกหน้าในระดับใกล้ชิดเลยละมั้ง นั่งมองหน้ายายเขา  เห็นแววตายายแล้วรู้สึกได้เลยว่ายายแกคงอยากถึงบ้านแล้ว

สายตาแกมองไปข้างหน้าตลอด ดูว่าเมื่อไหร่มันจะคือปลายทางของแกซักที


ขณะที่กำลังนั่งมองวิวตามทาง บวกกับคิดอะไรเพลินๆ ก็ต้องมาสะดุดกับแม่ค้าท่านนึง พีคมากกกกกกกก
ป้าคนนี้ขายข้าวแกงใส่ใบตอง มือนึงถือถังข้าวใบใหญ่ มือนึงถือตะกร้าใส่แกง เดินเรียกหาลูกค้า
มีคนเรียกซื้อของจากแก แกก็บรรจงเอาข้าวตักใส่ถ้วยใบตอง ถุงแกงเล็กๆตัดปากออกนิดหน่อยวางด้านบน
คนเริ่มมาซื้อของจากแกเยอะ เหมือนแกจะเริ่มถือไม่ไหวล่ะ ตอนพีคคือตอนนี้จ้าา แกให้น้องผู้ชายที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมา แล้วแกก็วางตะกร้าลงตรงเบาะ แล้วก็บรรจงขายของต่ออย่างเมามันส์ 555 น้องผู้ชายแกก็มึนๆลุกขึ้นมานะ แล้วก็ยืนหน้ามึนๆต่อไป อันนี้คือไม่ได้ว่าอะไรหรอก มันก็เป็นสีสรรดี มองดูแล้วก็แอบขำในใจ เออ อย่างงี้ก็มีแฮะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาจ้า)

หันกลับมามองวิวต่อไป ยังไม่ทันจะได้บิ้วอารมย์ติสท์เลย มาอีกจ้า เสียง แกร๊ก แกร๊ก หันไปมอง มาเป็นเหล็กแขวนเยยย ตามภาพ แขวนถุงขนม ถุงน้ำ เดินไปช่องไหน แวะแขวน เสียงเหล็กแขวนกระทบกับที่วางของด้านบน ดังแกร๊ก แกร๊ก คือ ถ้าหลับๆไป ลืมตามาคงจะงง แบบ อะไรวะเนี่ยยยย 5555




บทที่ 2…
หลับๆตื่นๆอยู่หลายทีกว่าจะถึง ปลายทางที่ จขกท ลง คือสถานีวังด้วน อ่านตามพันทิป เขาบอกมาทางนี้ได้แต่เดินไกลนะ เราก็เออไม่เป็นไรลงที่นี่ก็ได้ จะได้ถ่ายรูปกับป้ายนี้ด้วย (บ้านวังด้วนเป็นบริเวณที่มีขนาดแคบที่สุดในประเทศไทยค่ะ)





ตามกระทู้ที่ตามรอยมา เขาบอกว่าเดินตามทางรถไฟไป 300 เมตร  เจอที่กั้นทางรถไฟแล้วจะมีทางที่จะพาไปยังเขตชายหาดได้ เดินๆไป ฟ้าก็ขมุกขมัว จนเจอทางถนนลาดยางดีมาก มันน่าจะเป็นทางนี้ล่ะ เดินๆไปตามถนนประมาณเกือบร้อยเมตร เจอน้องผู้หญิงขับมอ’ไซ ผ่านมาเลยตะโกนถามหน่อยว่าเรามาถูกทางแล้วใช่ป่าว ฝนก็ทำท่าจะตก ถ้าไปผิดทางแย่แน่ เพราะข้างทางไม่มีอะไรเลย นอกจาก ป่าและป่าและป่า น้องผู้หญิงบอก พี่มาจากไหนกันอะค่ะ มันไกลมากเลยนะ เดินไปมีแต่ป่า งูก็เยอะ!!!! ก็เลยบอกมารถไฟอ่ะค่ะ ทางนี้ไปได้ป่าวอ่ะคะ น้องเขาบอกให้ไปทางถนนใหญ่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า แล้วน้องเขาก็ขับออกไป ตอนนี้ฝนเริ่มโปรยยยยยยยยยย  T^T

เอาไงดีๆ หันไปคุยกับแฟน แฟนบอกเราไปตามทางรถไฟอีกนิดนึงดีกว่า มันไม่น่าจะเป็นทางนี้ หันหลังเดินกลับ
ก็เห็นน้องวนรถกลับมา น้องผู้หญิงก็บอก พี่รออยู่แถวนี้ก่อน เดี๋ยวหนูไปส่งน้องหนูที่บ้านก่อน (น้องผู้หญิงเขามีน้องเล็กๆนั่งมาด้วย น้องเขาเลยจะไปส่งน้องเล็กก่อน เดี๋ยวจะมารับเรา) เราก็ยืนรอกับแฟน สองจิตสองใจ ถ้ารอแล้วน้องเขาไม่มา ไม่เสียเวลาแย่หรอ อีกใจก็อยากรอ เพราะฝนมันเริ่มตกเยอะกว่าเดิมแล้ว รออยู่สักพักเลยตัดสินใจเอาว่ะ เดินก็เดิน เดินไปประมาณไม่เกิน 10 ก้าว ได้ยินเสียงมอ’ไซขับมา เย้ๆๆๆๆๆๆ  ^^ นางฟ้ามาโปรดแล้ววว

ตอนนี้ล่ะฝนตกหนักแล้ว รีบขึ้นรถอัดๆเข้าไป น้องก็ขับพาเราไปพร้อมสายฝนที่ตกโครตหนักกก  น้องบอกเดี๋ยวส่งพี่ที่หน้าอุทยานนะ เพราะมันจะต้องเข้าต่อไปอีกจากหน้าอุทยาน  
(ขอบคุณน้องที่มาส่งมากนะคะ ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปน้องเลย แต่น้องน้ำใจงามมาก โคตรซึ้งน้ำใจเลย)

มาถึงแล้วจ้า หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ยืนรอฝนหยุดอีกสักหน่อยแล้วค่อยเดินเข้าไปแล้วกัน จากหน้าอุทยานไปที่บริเวณชายหาดต้องไปต่ออีกประมาณ 3 กิโล

ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานสงสารเรา หรือว่าอะไร เลยให้เราติดรถเข้าไปข้างในด้วย แต่คงจะสงสารแหละ เพราะดูจากเนื้อตัวแล้ว ตัวเปียกฝนหนักมา ก ก  กก 5555

ในที่สุดดดดดดดด เราก็มาถึงจนล้ายยยยย หาดวนกร น้ำตาจะไหลลลล 555


ไหนๆก็มาแบบทุลักทุเลขนาดนี้แล้ว ถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย

มาถึงปุ๊บ เข้าไปจ่ายค่ากางเต้นท์ ค่าเสียหาย หลังละ 40 บาทต่อคืนจ้า จากนั้นก็ไปกินข้าว ที่นี่เขามีร้านอาหารสวัสดิการ ไม่ต้องห่วงว่าจะอดอยากเลยนะ มีทุกอย่างเลย หลังจากจัดการให้ท้องอิ่มแล้ว ต่อไปก็กางเต้นท์สิ


เดินหาทำเลเหมาะๆ คนมาเที่ยวที่นี่ถือว่าไม่เยอะเลยถ้าเทียบกับที่อื่นในวันหยุดยาวขนาดนี้ กางเต้นท์ได้ไม่ไปเบียดกับใครเลย หลังจากเจอที่กางเต้นท์ใกล้ทะเลสุดๆ อย่าลืมดูพวกหิน หรือเปลือกหอยด้วยนะ เดี๋ยวจะนอนเจ็บหลังจ้าาา

มาถึงตอนนี้ จขกท ก็ลืมเลยว่ากระเป้ของเรามันเปียกนี่หว่า เปียกแบบชุ่มมมมมมม  ถุงนอนนี่คือบีบน้ำได้
เสื้อผ้าก็เปียกแบบชื้นๆ เลยจัดแจงเอาทุกอย่างมาตากลมให้มันแห้งซะหน่อย ระหว่างรอไม่มีอะไรทำ ก็เลยไปเล่นน้ำดีกว่า น้ำทะเลที่นี่สะอาดใช้ได้เลยอ่ะ คนก็น้อย ส่วนตั๊วววว ส่วนตัววว


หลังจากเล่นเสร็จ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวนอน จากความเพลียที่นั่งรถมาประมาณ 7 ชั่วโมง ตากฝนอีก
ตาเริ่มปรือล่ะ ขอไปนอนก่อนนะ คร่อ ก ก ก     ก


บทที่3...
ตื่นมาเกือบ 6 โมงเช้า เราจะเห็นคนเยอะแยะเลยมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เสียดายวันนี้ท้องฟ้าไม่สดใสเท่าไหร่ เลยได้มาแค่รูปถ่ายนิดหน่อย



วันนี้เห็นทีจะไม่ได้ไปไหนต่อ เพราะเสื้อผ้าก็ยังเปียกอยู่ ตากยังไง๊ก็ไม่แห้ง เลยตัดสินใจพักที่นี่ต่อเลยแล้วกัน ถือเป็นอีกครั้งที่ fail อีกแย้ววว TT^TT

กิจกรรมอื่นๆที่นี่ก็มีให้ทำน๊าาานอกจากเล่นน้ำทะเล ก็จะมีจักรยานให้เช่า ชั่วโมงละ 50 บาท หรือว่าเหมาทั้งวัน 150 บาท มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ดำน้ำดูปะการังที่เกาะจาม เราเลยเลือกปั่นจักรยานแล้วกัน ปั่นเล่นในเขตอุทยานนี่ละ

หน้าศูนย์บริการนั่งท่องเที่ยว


ร้านอาหารสวัสดิการ


บ้านพักของอุทยาน ตกแต่งสวยดี แนวสบายๆ


สวนข่อยเล็กๆ

หลังจากปั่นจักรยานรอบๆอุทยาน ก็เลยลองถามเจ้าหน้าที่ถึงวิธีเดินทางกลับ ลุงแกก็บอกถ้าจะกลับทางรถไฟต้องไปขึ้นสถานีห้วยยาง ซึ่งจะเดินใกล้กว่าวังด้วน เดินเลียบหาดยาวๆไปเลยจ้า $%#^%&*(*(^%%@#&* ลุงพูดยาวมาก ได้ใจความประมาณเท่านี้ งั้นเดี๋ยวถามคนข้างหน้าเอาแล้วกัน

วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก ถือว่าได้มาพักกินลม สูดอากาศดีๆแบบนี้ เท่านี้ก็ถือว่ากำไรชีวิตแล้ว


บทที่4...
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงง การเดินทางกลับ


เดินเลียบหาดไปเรื่อยๆ น่าจะประมาณ 2 กิโล  แต่ก็เรียกเหงื่อใช้ได้ เพราะทรายมันจะดูดๆเท้านิดนึง


เดินๆๆ มาจนเจอรีสอร์ต รีสอร์ตนี้จะอยู่คั่นระหว่างวัดสมุทรารามกับหาดวนกร เดินเลยไปนิดนึงจะเจอวัด


ข้างๆวัดจะมีถนนตัดอยู่ เดินตามทางโลดจ้าาา ประมาณ 1 กิโล จะเจอป้อมตำรวจอยู่ด้านขวามือ


ระหว่างทางเจอต้นแบบชีวิต Slowlife ขอถ่ายรูปหน่อยละกันเน๊าะ

ด้านซ้ายมือจะมีซอยเล็กๆอยู่ เดินตามซอยไปเลยยย เดินๆๆๆๆๆๆ อันนี้เดินไม่รู้ว่าไกลขนาดไหนนะ เดินไป ดูนู่นนี่นั่นไป แวะร้านข้างทางกินไอติมคลายร้อนงี้


เดินไปซักพักมีทางสามแยก ให้เลี้ยวขวา เดินมาต่ออีกซักพัก จะออกมาสู่ถนน ข้างหน้าขวามือเป็นวัดห้วยยาง
ให้เดินข้ามทางรถไฟไปแล้วเลี้ยวซ้าย จะเป็นทางดินแดง น่าจะประมาณ 100 เมตร จะมีทางตัดเล็กๆซ้ายมือ


นี่ไงงงง!!! เจอแล้ววว สถานีรถไฟห้วยยาง


มีต่อในคอมเม้นนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่