ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (พีบีโอซี) ประกาศลดค่าเงินหยวนลงมาเกือบ 2%
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในวันอังคาร(11ส.ค.) ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะ
ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าพวกเขากำลังแสวงหาทางผลักดันปฏิรูปตลาดในบริบทที่เศรษฐกิจ
กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
อย่างไรก็ตามการลดค่าเงินหยวนได้กระตุ้นความกังวลรอบใหม่ว่า ปักกิ่งยังอยู่
ห่างไกลจากเป้าหมายในการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างการเติบโตที่สมดุลโดยอิงกับ
อุปสงค์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจ
แก่ตลาดทุน จนกระพือแรงเทขายในตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป เช่นเดียวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวลดค่าเงินหยวนของจีน ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร
(11ส.ค.) ร่วงลงแรงเช่นกัน ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล, จีเอ็ม และบริษัทอื่นๆ ซึ่งพึ่งพิง
ตลาดจีนอย่างมาก ต่างปิดลบกันถ้วนหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 212.33 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,402.84 จุด เอสแอนด์พี ลดลง
20.11 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,084.07 จุด แนสแดค ลดลง 65.01 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์)
ปิดที่ 5,036.79 จุด
ในบรรดาหุ้นที่ร่วงหนัก รวมถึง แอปเปิล ที่ปิดลบร้อยละ 5.2 และเจนเนอรัล มอเตอร์ส
ปิดลบร้อยละ 3.5 ซึ่งทั้งสองบริษัทต่างต้องพึ่งพาจีนในฐานะตลาดสำคัญ
ด้วยความวิตกกังวลต่อการเคลื่อนไหวลดค่าเงินหยวนของจีน กระตุ้นให้นักลงทุนหันไป
ถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(11ส.ค.) ปิดบวก 4 วัน
ติด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,107.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000091102
ตลาดป่วน!น้ำมันดิ่งต่ำสุด6ปี หุ้นมะกันร่วงหนัก-ทองขึ้น ตื่นตระหนกจีนลดค่าเงิน....ผู้จัดการออนไลน์..../sao..เหลือ..noi
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในวันอังคาร(11ส.ค.) ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะ
ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าพวกเขากำลังแสวงหาทางผลักดันปฏิรูปตลาดในบริบทที่เศรษฐกิจ
กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว
อย่างไรก็ตามการลดค่าเงินหยวนได้กระตุ้นความกังวลรอบใหม่ว่า ปักกิ่งยังอยู่
ห่างไกลจากเป้าหมายในการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างการเติบโตที่สมดุลโดยอิงกับ
อุปสงค์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจ
แก่ตลาดทุน จนกระพือแรงเทขายในตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป เช่นเดียวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวลดค่าเงินหยวนของจีน ก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร
(11ส.ค.) ร่วงลงแรงเช่นกัน ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล, จีเอ็ม และบริษัทอื่นๆ ซึ่งพึ่งพิง
ตลาดจีนอย่างมาก ต่างปิดลบกันถ้วนหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 212.33 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,402.84 จุด เอสแอนด์พี ลดลง
20.11 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,084.07 จุด แนสแดค ลดลง 65.01 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์)
ปิดที่ 5,036.79 จุด
ในบรรดาหุ้นที่ร่วงหนัก รวมถึง แอปเปิล ที่ปิดลบร้อยละ 5.2 และเจนเนอรัล มอเตอร์ส
ปิดลบร้อยละ 3.5 ซึ่งทั้งสองบริษัทต่างต้องพึ่งพาจีนในฐานะตลาดสำคัญ
ด้วยความวิตกกังวลต่อการเคลื่อนไหวลดค่าเงินหยวนของจีน กระตุ้นให้นักลงทุนหันไป
ถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(11ส.ค.) ปิดบวก 4 วัน
ติด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,107.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000091102