สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดยังไง ขอโทษล่วงหน้าด้วยนะคะ
เราโดนบอกเลิกด้วยเหตุผลว่า "รู้สึกเฉยๆ" มาถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาที่เรียนมหาลัย
จนทำให้เราคิดว่า เราเองที่ไมดี หรือว่าผู้ชายเป็นแบบนี้กันทุกคน
โดนบอกเลิกครั้งที่ 1
เรื่องมีอยุ่ว่า เราเข้าเรียนในมหาลัยแห่งหนึ่งค่ะ เฟรชชี่ปี 1 ใสๆ โสดสนิท วันๆไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากไปเรียน แล้วก็รับน้อง
ซึ่งเวลาไปเรียนก็ไมม่ค่อยได้เจอใครอยู่แล้ว เพราะคณะเราไม่ค่อยได้เรียนรวมกะคณะอื่น มารับน้องก็ไม่ค่อยเจอใคร นอกจากเพื่อน และก็รุ่นพี่ในคณะตัวเอง
และแล้วเราก็ได้ไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงค่ะ เป็นเพื่อนของพี่รหัสเราเอง เค้าเรียบร้อย สุภาพ ดูท่าทางแล้วไม่เจ้าชู้เลยค่ะ เราเลยปลื้มตรงนี้
เราก็เลยรวบรวมความกล้า แอดเฟชพี่เค้าไป รออยู่นานมากกกกกก กว่าจะรับ แต่พอรับแล้ว เราก็หาเรื่องคุยไง อิอิ วิชานี้เรียนยังไงอะคะ
แล้วแนวข้อสอบยังไง บลาๆๆๆ หลังๆก็เริ่มมีหยอดกันไปมานะเอออ แล้วเหมือนพี่เค้าจะเล่นด้วยนะคะ แล้วมีอยู่วันนึงค่ะ เราไม่สบาย ขอให้พี่เค้าพาไปโรงพยาบาล แล้วเราต้องนอนโรงบาลด้วย ไงล่ะทีนี้ พี่เค้าก็มาเฝ้าเราที่โรงบาล เพื่อนเค้าก็เริ่มสงสัยสิว่าเอ๊ะ ทำไมพักหลังๆไม่ค่อยอยู่กะเพื่อน จนพี่เทคเรามาเยี่ยมเราแล้วดันเจอกับพี่เค้าที่ก็เฝ้าเราอยู่ด้วย หึหึ ความลับไม่มีในหมู่คณะ ข่าวเริ่มกระจาย มาแซวมาถามกันอยู่นั่น สุดท้ายเลยเป็นแฟนกันตอนไหนไม่รู้
เราคบกันมาจนถึงเราขึ้นปี 3 พี่เค้าเริ่มฝึกงานหนักขึ้น เราก็เริ่มฝึกงานด้วยเช่นกัน เวลาก็ไม่ค่อยมีให้กันเท่าไหร่ แต่ความคิดเราคือ ข้าวเย็นคือทุกคนต้องกินอยู่แล้ว เราก็ไปกินพร้อมกันซะเลยสิ จะได้เจอกันด้วย แค่วันละประมาณ 1 ชม. คงไม่เป็นไรหรอก
เราก็ยังคงชวนพี่เค้าไปกินข้าวเรื่อยๆ จนวันนึง พี่เค้าพูดว่า "จำเป็นด้วยหรอที่ต้องกินข้าวด้วยกัน แยกกันกินก็ได้" หื้มมมม! ตอนนั้นสตั้นไปแป้บนึง แล้วเราก็บอกไปว่า "อ้าว ถ้าไม่ไปกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่ได้เจอกันสิ ถึงเรียนคณะเดียวกัน ก็ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ" เค้าก็มาหงุดหงิดๆใส่เรา บอกว่าไม่กินบ้าง จะอ่านหนังสือบ้าง จะทำการบ้านบ้าง วันไหนที่เราไม่ได้ไปกินข้าวกับเค้า เราก็ไม่กินข้าวเย็นไปเลยค่ะ (ก็คนมันชินนินา กินข้าวด้วยกันมาตั้งสองปี)
เรื่องนี้มันค่อยๆมีจุดบาดหมางกันทีละเรื่องๆค่ะ เช่น เค้าไปติวให้รุ่นน้อง(ซึ่งคือรุ่นเดียวกะเรา)แต่ไม่เคยมาติวให้เราเลย เค้าไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่บอกเรา ทั้งที่แต่ก่อนชวนให้ไปด้วยกันตลอด เราไม่ทักไป เค้าก็ไม่ทักมา โทรศัพท์ไม่ได้คุยกันทีเป็นอาทิตย์ จนเราก็เริ่มงี่เง่า เริ่มถามว่าจะเอายังไง
จนวันที่เราเลิกกันก็มาถึง....
วันนั้นเป็นช่วงปลายเดือนสิงหาปีที่แล้วค่ะ เรานั่งทำงานกลุ่มอยู่กะเพื่อนที่หอสมุด แล้วคุยกับเค้าทางแชท จากที่ก่อนหน้านี้หงุดหงิดๆใส่กันมาตลอด คราวนี้มาดีค่ะ พิมพ์มายาวมาก ประมาณว่า "ไม่สังเกตหรอ พี่เคยสนใจอะไรหนูบ้าง คบกันมาสองปีเราเคยดูหนังกันสักเรื่องมั้ย พี่พูดทำร้ายจิตจหนูตอด บางทีถ้าเราลดความสัมพันธ์ลง พี่อาจจะพูดดีกะหนูมากขึ้นก็ได้ พี่ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม อโสิกรรมให้พี่นะ" หื้มมมมม! คือเราอยู่หอสมุด คือเพื่อนก็อยู่ คือคนเยอะแยะ ทำอะไรได้มั่งม้ายยยย มือสั่นคาโทรศัพท์สิคะ เราก็ยังยื้อนะ ว่าเรารักเค้า ถึงเค้าจะดูแลเราไม่ได้ แต่เรามีความสุขที่ได้ดูแลเค้า เค้าก็ไม่ค่ะ พูดมาซ้ำว่า "พี่รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว" อื้อหืออออออ อะไรคือเฉยๆ เป็นไปได้ยังไง คือเราเสมอต้นเสมอปลายตลอด แล้วความรักของเรามันก็ยังคงอยู่ตลอด จะมากขึ้นซะด้วยซ้ำ แล้วทำไมความรักของเธอถึงลดลง ทำไมอยู่มาวันนึงเธอถึงรู้สึกเฉยๆ ยอมรับเลยค่ะว่าเสียใจมาก แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้
จากนั้น 1 เดือน เราก็เริ่มเปิดโอกาสให้ตัวเองค่ะ มีการคุยกับคนนู่นคนนี้ผ่านแอพมือถือแอพหนึ่ง มีการนัดไปกินนมบ้าง แต่ความรู้สึกเราก็ยังรักแฟนเก่าอยู่นะคะ แต่เราก็เหงาๆอะ ก็ไม่อยากเศร้านาน และนี่ก็เป็นจุดเริ่มตั้นที่เราได้เจอกับแฟนคนล่าสุดค่ะ
โดนบอกเลิกครั้งที่ 2 เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปทำธุระข้างนอกก่อน.....
ต่อนะคะ แฟนของเราคนนี้เรารู้จักกันผ่านแอพมือถือแอพนึงค่ะ เรียนรุ่นเดียวกับเรา แต่คนละคณะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้จริงจังอะไรนะคะ เพราะคิดว่าคนที่รู้จักกันทางนี้มันมักไม่ค่อยมีความจริงใจ และไม่ยั่งยืน ต่อมาเราก็มารู้ทีหลังค่ะ ว่าเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเรา ซึ่งเพราะเหตุนี้เอง เลยทำให้เราเปิดใจให้เค้ามากขึ้น เค้าชอบชวนเราไปกินข้าว ไปกินนม ไปนู่นไปนี่ เป็นแบบนี้อยู่ครึ่งเดือนได้ค่ะ จนเราก็คุยกันว่า ตกลงเราเป็นอะไรกัน เราอยู่กับเค้าเราก็สบายใจ เป็นตัวของตัวเอง ส่วนเค้าก็บอกเราว่าเค้าอยู่กับเราแล้วเค้าก็สบายใจ ไม่เหมือนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น (บอกก่อนนะคะว่า แฟนเราคนนี้เจ้าชู้มากค่ะ มั่นใจในตัวเองสูง เข้าขั้นหลงตัวเองเลยก็ได้ คุยกับผู้หญิงมาแทบจะทุกคณะ ซึ่งก็ไม่เว้นแม่แต่คณะเรา เค้าก็คุยมาแล้วหลายคนค่ะ) เราเลยตัดสินใจลองคบกันค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกๆเราระแวงนะคะ เพราะอย่างที่บอกคือเค้าเจ้าชู้ ผู้หญิงที่คุยกับเค้าก็มีเยอะ แต่เค้าก็ทำให้เรามั่นใจ ว่าเค้าเลือกเราแล้วจริง เค้าไปไหนมาไหนกับเราตลอด ถ่ายรูป อัพสเตตัสคู่กับเราตลอด วันเกิดก็มีของขวัญ วาเลนไทน์ก็ไปเที่ยวกัน มันเลยทำให้เราให้ใจเค้าไปเต็มๆค่ะ ด้วยความที่เค้าแตกต่างกับแฟนเก่าเราโดยสิ้นเชิง แฟนเก่าเราไม่เคยไปดูหนังด้วยกัน ไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกัน ไม่เคยอัพรูปหรือแท็กอะไรหากันในเฟชบุ๊กเลย เพราะแฟนเก่าเราเค้าห้ามค่ะ แต่กับคนนี้คือ เราทำได้อะ เราเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก เราจึงคิดว่า เอาวะ ครั้งนี้มันต้องดีสิน่าาา
และแล้วก็มาถึงช่วงที่เราขึ้นปี 4 เป็นช่วงที่เฟรชชี่ม.เราเริ่มเข้ามาแล้วค่ะ ซึ่งก็มีแต่คนน่ารักๆ แล้วเราคือเป็นปี 4 แล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็ต้องไปฝึกงานต่างจังหวัด ก็จะไม่ค่อยได้เจอกันกับแฟนแล้ว แฟนเราก็เริ่มมาพูดกับเราประมาณว่า "เบื่อ อยากเที่ยว อยากกลับไปเป็นคนเดิม อยากจีบน้องปี1" เอ่อะ.. คืออะไร พูดแบบนี้เลยหรอ ถึงพื้นฐานเราเป็นคนเฮฮา ร่าเริง แต่เรื่องแบบนี้เราจริงจังนะเว่ยยย คือเราก็นิ่งๆอะค่ะ ไม่อยากพูดอะไร แต่เค้าก็พูดทำนองนี้บ่อยครั้งมาก จนเราเริ่มจะทนไม่ไหว แล้วเดือนสิงหานี้ เค้าก็ได้พูดอะไรแรงๆหลายๆอย่างกับเราค่ะ เช่น "เธอจะมาอะไรกับเรา เราไม่มีอะไรเลยนะ จนก็จน รถก็ไม่มี พาไปเที่ยวไหนไกลๆไม่ได้" อื้มมม เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร ก็เรายังเรียนกันไม่จบหนิ ไม่เห็นแปลก ไว้เรามี เราค่อยไปกันก็ได้... หึหึ ยังค่ะ ยังไม่หมด "เชื่อสิเธอ ไม่มีผญ.คนไหนอยากอยู่กับผช.แบบนี้หรอก เดี๋ยวเธอไปทำงาน เธอก็เจอคนที่ดีกว่าเรา อย่าปิดกั้นตัวเองสิ" เฮ้ยยยย.. คือไรวะ คือเราคบกับเธออยู่ป่าววะ แล้วเราก็รักเธอจริงๆ ทำไมต้องไล่.... ยังงงงงไม่หมดค่ะ "ความรักน่ะ มันขึ้นกับหน้าตา ถ้าผช.หน้าตาไม่ดี คบกับผญ.หน้าตาดี เชื่อสิ ผช.เค้ายอมผญ.ทุกอย่างแหละ" หึหึ แล้วเวลาทะเลาะกัน ก็บอกเลิกกันบ่อยมากค่ะ แต่เราก็คิดว่ามันเป็นเพราะอารมณ์ สุดท้าย เราก็กลับมาคุยกัน กินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ เหมือนไม่เป็นอย่างนั้น..
ยิ่งใกล้วันเราไปฝึกงานต่างจังหวัด เค้าก็ยิ่งกดดันเรา บอกว่า จะหาแฟนใหม่มั่งล่ะ วันนี้เจอแต่คนน่ารักๆ อยากเข้าไปขอไลน์ แต่ติดตรงมีเรา เราเลิกกันเถอะๆๆ อื้มมมม คงพูดเล่นๆ ไม่มีอะไร จนกระทั่งเค้าพูดกับเราในโทรศัพท์ว่า "เมื่อไหร่เธอจะยอมรับสักที ว่าเราไม่ได้รักเธอ" อื้อหือออออออ เจ็บมากค่ะ น้ำตามาจากไหนไม่รู้มากมายก่ายกอง ตอนนั้นคือรู้สึกว่า อีกแล้วหรอ เหตุผลนี้อีกแล้วหรอ เห้ยย เราไม่ดีตรงไหนหรอ ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก รู้สึกตัวเบามากค่ะ มือเย็น ใจสั่น ตอนนั้นคืดคิดแล้วว่า คงเลิกจริงๆ แต่มันก็รู้สึกยังไม่ขาดอะค่ะ แต่เค้าก็ยืนยันนะคะ ว่าเค้าไม่ได้รักเรา เค้ารู้สึกเฉยๆ แต่ก็ยังคุยได้เหมือนเดิม เค้าก็ยังเรียกเราโดยใช้คำที่เราเรียกเฉพาะกันเองอยู่ รีบกลับมาม.นะ มาเร็วๆนะ อะไรแบบเนี้ยค่ะ มันทำให้เราตัดเค้าไม่ขาดสักที
เราอยากรู้ว่า ไอ้เหตุผลที่ว่า ไม่ได้รักแล้ว รู้สึกเฉยๆเนี่ย มันเกิดกับผช.ทุกคนเลยรึป่าวคะ หรือว่า เป็นช่วงเวลาๆหนึ่งที่เราต้องผ่านมันไป ถ้าผ่านไม่ได้ก็ต้องเลิกกันอย่างงี้หรอคะ หรือว่า มันเป็นเราะตัวเราเอง ที่ยังไม่ดีพอ
โดนแฟนบอกเลิกด้วยเหตุผล "ผมรู้สึกเฉยๆ"
เราโดนบอกเลิกด้วยเหตุผลว่า "รู้สึกเฉยๆ" มาถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาที่เรียนมหาลัย
จนทำให้เราคิดว่า เราเองที่ไมดี หรือว่าผู้ชายเป็นแบบนี้กันทุกคน
โดนบอกเลิกครั้งที่ 1
เรื่องมีอยุ่ว่า เราเข้าเรียนในมหาลัยแห่งหนึ่งค่ะ เฟรชชี่ปี 1 ใสๆ โสดสนิท วันๆไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากไปเรียน แล้วก็รับน้อง
ซึ่งเวลาไปเรียนก็ไมม่ค่อยได้เจอใครอยู่แล้ว เพราะคณะเราไม่ค่อยได้เรียนรวมกะคณะอื่น มารับน้องก็ไม่ค่อยเจอใคร นอกจากเพื่อน และก็รุ่นพี่ในคณะตัวเอง
และแล้วเราก็ได้ไปแอบชอบรุ่นพี่คนนึงค่ะ เป็นเพื่อนของพี่รหัสเราเอง เค้าเรียบร้อย สุภาพ ดูท่าทางแล้วไม่เจ้าชู้เลยค่ะ เราเลยปลื้มตรงนี้
เราก็เลยรวบรวมความกล้า แอดเฟชพี่เค้าไป รออยู่นานมากกกกกก กว่าจะรับ แต่พอรับแล้ว เราก็หาเรื่องคุยไง อิอิ วิชานี้เรียนยังไงอะคะ
แล้วแนวข้อสอบยังไง บลาๆๆๆ หลังๆก็เริ่มมีหยอดกันไปมานะเอออ แล้วเหมือนพี่เค้าจะเล่นด้วยนะคะ แล้วมีอยู่วันนึงค่ะ เราไม่สบาย ขอให้พี่เค้าพาไปโรงพยาบาล แล้วเราต้องนอนโรงบาลด้วย ไงล่ะทีนี้ พี่เค้าก็มาเฝ้าเราที่โรงบาล เพื่อนเค้าก็เริ่มสงสัยสิว่าเอ๊ะ ทำไมพักหลังๆไม่ค่อยอยู่กะเพื่อน จนพี่เทคเรามาเยี่ยมเราแล้วดันเจอกับพี่เค้าที่ก็เฝ้าเราอยู่ด้วย หึหึ ความลับไม่มีในหมู่คณะ ข่าวเริ่มกระจาย มาแซวมาถามกันอยู่นั่น สุดท้ายเลยเป็นแฟนกันตอนไหนไม่รู้
เราคบกันมาจนถึงเราขึ้นปี 3 พี่เค้าเริ่มฝึกงานหนักขึ้น เราก็เริ่มฝึกงานด้วยเช่นกัน เวลาก็ไม่ค่อยมีให้กันเท่าไหร่ แต่ความคิดเราคือ ข้าวเย็นคือทุกคนต้องกินอยู่แล้ว เราก็ไปกินพร้อมกันซะเลยสิ จะได้เจอกันด้วย แค่วันละประมาณ 1 ชม. คงไม่เป็นไรหรอก
เราก็ยังคงชวนพี่เค้าไปกินข้าวเรื่อยๆ จนวันนึง พี่เค้าพูดว่า "จำเป็นด้วยหรอที่ต้องกินข้าวด้วยกัน แยกกันกินก็ได้" หื้มมมม! ตอนนั้นสตั้นไปแป้บนึง แล้วเราก็บอกไปว่า "อ้าว ถ้าไม่ไปกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่ได้เจอกันสิ ถึงเรียนคณะเดียวกัน ก็ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ" เค้าก็มาหงุดหงิดๆใส่เรา บอกว่าไม่กินบ้าง จะอ่านหนังสือบ้าง จะทำการบ้านบ้าง วันไหนที่เราไม่ได้ไปกินข้าวกับเค้า เราก็ไม่กินข้าวเย็นไปเลยค่ะ (ก็คนมันชินนินา กินข้าวด้วยกันมาตั้งสองปี)
เรื่องนี้มันค่อยๆมีจุดบาดหมางกันทีละเรื่องๆค่ะ เช่น เค้าไปติวให้รุ่นน้อง(ซึ่งคือรุ่นเดียวกะเรา)แต่ไม่เคยมาติวให้เราเลย เค้าไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่บอกเรา ทั้งที่แต่ก่อนชวนให้ไปด้วยกันตลอด เราไม่ทักไป เค้าก็ไม่ทักมา โทรศัพท์ไม่ได้คุยกันทีเป็นอาทิตย์ จนเราก็เริ่มงี่เง่า เริ่มถามว่าจะเอายังไง
จนวันที่เราเลิกกันก็มาถึง....
วันนั้นเป็นช่วงปลายเดือนสิงหาปีที่แล้วค่ะ เรานั่งทำงานกลุ่มอยู่กะเพื่อนที่หอสมุด แล้วคุยกับเค้าทางแชท จากที่ก่อนหน้านี้หงุดหงิดๆใส่กันมาตลอด คราวนี้มาดีค่ะ พิมพ์มายาวมาก ประมาณว่า "ไม่สังเกตหรอ พี่เคยสนใจอะไรหนูบ้าง คบกันมาสองปีเราเคยดูหนังกันสักเรื่องมั้ย พี่พูดทำร้ายจิตจหนูตอด บางทีถ้าเราลดความสัมพันธ์ลง พี่อาจจะพูดดีกะหนูมากขึ้นก็ได้ พี่ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม อโสิกรรมให้พี่นะ" หื้มมมมม! คือเราอยู่หอสมุด คือเพื่อนก็อยู่ คือคนเยอะแยะ ทำอะไรได้มั่งม้ายยยย มือสั่นคาโทรศัพท์สิคะ เราก็ยังยื้อนะ ว่าเรารักเค้า ถึงเค้าจะดูแลเราไม่ได้ แต่เรามีความสุขที่ได้ดูแลเค้า เค้าก็ไม่ค่ะ พูดมาซ้ำว่า "พี่รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว" อื้อหืออออออ อะไรคือเฉยๆ เป็นไปได้ยังไง คือเราเสมอต้นเสมอปลายตลอด แล้วความรักของเรามันก็ยังคงอยู่ตลอด จะมากขึ้นซะด้วยซ้ำ แล้วทำไมความรักของเธอถึงลดลง ทำไมอยู่มาวันนึงเธอถึงรู้สึกเฉยๆ ยอมรับเลยค่ะว่าเสียใจมาก แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้
จากนั้น 1 เดือน เราก็เริ่มเปิดโอกาสให้ตัวเองค่ะ มีการคุยกับคนนู่นคนนี้ผ่านแอพมือถือแอพหนึ่ง มีการนัดไปกินนมบ้าง แต่ความรู้สึกเราก็ยังรักแฟนเก่าอยู่นะคะ แต่เราก็เหงาๆอะ ก็ไม่อยากเศร้านาน และนี่ก็เป็นจุดเริ่มตั้นที่เราได้เจอกับแฟนคนล่าสุดค่ะ
โดนบอกเลิกครั้งที่ 2 เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไปทำธุระข้างนอกก่อน.....
ต่อนะคะ แฟนของเราคนนี้เรารู้จักกันผ่านแอพมือถือแอพนึงค่ะ เรียนรุ่นเดียวกับเรา แต่คนละคณะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้จริงจังอะไรนะคะ เพราะคิดว่าคนที่รู้จักกันทางนี้มันมักไม่ค่อยมีความจริงใจ และไม่ยั่งยืน ต่อมาเราก็มารู้ทีหลังค่ะ ว่าเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเรา ซึ่งเพราะเหตุนี้เอง เลยทำให้เราเปิดใจให้เค้ามากขึ้น เค้าชอบชวนเราไปกินข้าว ไปกินนม ไปนู่นไปนี่ เป็นแบบนี้อยู่ครึ่งเดือนได้ค่ะ จนเราก็คุยกันว่า ตกลงเราเป็นอะไรกัน เราอยู่กับเค้าเราก็สบายใจ เป็นตัวของตัวเอง ส่วนเค้าก็บอกเราว่าเค้าอยู่กับเราแล้วเค้าก็สบายใจ ไม่เหมือนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น (บอกก่อนนะคะว่า แฟนเราคนนี้เจ้าชู้มากค่ะ มั่นใจในตัวเองสูง เข้าขั้นหลงตัวเองเลยก็ได้ คุยกับผู้หญิงมาแทบจะทุกคณะ ซึ่งก็ไม่เว้นแม่แต่คณะเรา เค้าก็คุยมาแล้วหลายคนค่ะ) เราเลยตัดสินใจลองคบกันค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกๆเราระแวงนะคะ เพราะอย่างที่บอกคือเค้าเจ้าชู้ ผู้หญิงที่คุยกับเค้าก็มีเยอะ แต่เค้าก็ทำให้เรามั่นใจ ว่าเค้าเลือกเราแล้วจริง เค้าไปไหนมาไหนกับเราตลอด ถ่ายรูป อัพสเตตัสคู่กับเราตลอด วันเกิดก็มีของขวัญ วาเลนไทน์ก็ไปเที่ยวกัน มันเลยทำให้เราให้ใจเค้าไปเต็มๆค่ะ ด้วยความที่เค้าแตกต่างกับแฟนเก่าเราโดยสิ้นเชิง แฟนเก่าเราไม่เคยไปดูหนังด้วยกัน ไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกัน ไม่เคยอัพรูปหรือแท็กอะไรหากันในเฟชบุ๊กเลย เพราะแฟนเก่าเราเค้าห้ามค่ะ แต่กับคนนี้คือ เราทำได้อะ เราเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก เราจึงคิดว่า เอาวะ ครั้งนี้มันต้องดีสิน่าาา
และแล้วก็มาถึงช่วงที่เราขึ้นปี 4 เป็นช่วงที่เฟรชชี่ม.เราเริ่มเข้ามาแล้วค่ะ ซึ่งก็มีแต่คนน่ารักๆ แล้วเราคือเป็นปี 4 แล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็ต้องไปฝึกงานต่างจังหวัด ก็จะไม่ค่อยได้เจอกันกับแฟนแล้ว แฟนเราก็เริ่มมาพูดกับเราประมาณว่า "เบื่อ อยากเที่ยว อยากกลับไปเป็นคนเดิม อยากจีบน้องปี1" เอ่อะ.. คืออะไร พูดแบบนี้เลยหรอ ถึงพื้นฐานเราเป็นคนเฮฮา ร่าเริง แต่เรื่องแบบนี้เราจริงจังนะเว่ยยย คือเราก็นิ่งๆอะค่ะ ไม่อยากพูดอะไร แต่เค้าก็พูดทำนองนี้บ่อยครั้งมาก จนเราเริ่มจะทนไม่ไหว แล้วเดือนสิงหานี้ เค้าก็ได้พูดอะไรแรงๆหลายๆอย่างกับเราค่ะ เช่น "เธอจะมาอะไรกับเรา เราไม่มีอะไรเลยนะ จนก็จน รถก็ไม่มี พาไปเที่ยวไหนไกลๆไม่ได้" อื้มมม เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร ก็เรายังเรียนกันไม่จบหนิ ไม่เห็นแปลก ไว้เรามี เราค่อยไปกันก็ได้... หึหึ ยังค่ะ ยังไม่หมด "เชื่อสิเธอ ไม่มีผญ.คนไหนอยากอยู่กับผช.แบบนี้หรอก เดี๋ยวเธอไปทำงาน เธอก็เจอคนที่ดีกว่าเรา อย่าปิดกั้นตัวเองสิ" เฮ้ยยยย.. คือไรวะ คือเราคบกับเธออยู่ป่าววะ แล้วเราก็รักเธอจริงๆ ทำไมต้องไล่.... ยังงงงงไม่หมดค่ะ "ความรักน่ะ มันขึ้นกับหน้าตา ถ้าผช.หน้าตาไม่ดี คบกับผญ.หน้าตาดี เชื่อสิ ผช.เค้ายอมผญ.ทุกอย่างแหละ" หึหึ แล้วเวลาทะเลาะกัน ก็บอกเลิกกันบ่อยมากค่ะ แต่เราก็คิดว่ามันเป็นเพราะอารมณ์ สุดท้าย เราก็กลับมาคุยกัน กินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ เหมือนไม่เป็นอย่างนั้น..
ยิ่งใกล้วันเราไปฝึกงานต่างจังหวัด เค้าก็ยิ่งกดดันเรา บอกว่า จะหาแฟนใหม่มั่งล่ะ วันนี้เจอแต่คนน่ารักๆ อยากเข้าไปขอไลน์ แต่ติดตรงมีเรา เราเลิกกันเถอะๆๆ อื้มมมม คงพูดเล่นๆ ไม่มีอะไร จนกระทั่งเค้าพูดกับเราในโทรศัพท์ว่า "เมื่อไหร่เธอจะยอมรับสักที ว่าเราไม่ได้รักเธอ" อื้อหือออออออ เจ็บมากค่ะ น้ำตามาจากไหนไม่รู้มากมายก่ายกอง ตอนนั้นคือรู้สึกว่า อีกแล้วหรอ เหตุผลนี้อีกแล้วหรอ เห้ยย เราไม่ดีตรงไหนหรอ ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก รู้สึกตัวเบามากค่ะ มือเย็น ใจสั่น ตอนนั้นคืดคิดแล้วว่า คงเลิกจริงๆ แต่มันก็รู้สึกยังไม่ขาดอะค่ะ แต่เค้าก็ยืนยันนะคะ ว่าเค้าไม่ได้รักเรา เค้ารู้สึกเฉยๆ แต่ก็ยังคุยได้เหมือนเดิม เค้าก็ยังเรียกเราโดยใช้คำที่เราเรียกเฉพาะกันเองอยู่ รีบกลับมาม.นะ มาเร็วๆนะ อะไรแบบเนี้ยค่ะ มันทำให้เราตัดเค้าไม่ขาดสักที
เราอยากรู้ว่า ไอ้เหตุผลที่ว่า ไม่ได้รักแล้ว รู้สึกเฉยๆเนี่ย มันเกิดกับผช.ทุกคนเลยรึป่าวคะ หรือว่า เป็นช่วงเวลาๆหนึ่งที่เราต้องผ่านมันไป ถ้าผ่านไม่ได้ก็ต้องเลิกกันอย่างงี้หรอคะ หรือว่า มันเป็นเราะตัวเราเอง ที่ยังไม่ดีพอ