พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ทีนี้เมื่อสุดท้ายจริงๆแล้ว “จิต” ก็ไม่เรียกแล้วบัดนี้
ก็เรียกว่า “นิพพาน” นิพพานแปลว่า ดับ
ดับความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ท่องเที่ยวไปในสงสาร
นี่ถ้าพูดโดยแจ่มแจ้งแล้วนะ ศัพท์ของคำว่า นิพพาน นี้นะ
ไม่ใช่อื่นไกลอะไรนะ ให้พึงพากันพิจารณาให้ดี
ก็ถ้าจะว่าตามความเห็นของคนที่ว่านั้นน่ะ
ถ้ายังต้องไปอาศัยสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างนี้
มันก็ยังไม่เป็นสุขเที่ยงแท้แน่นอนเลย
ไปอาศัย
"บุญ" อยู่อย่างนี้ ถ้าบุญนั้นมันหมดลง
จิตก็ไม่มีความสุขแล้วบัดนี้ ความสุขก็หายไป
เป็นอย่างนั้นเรื่องมันน่ะ อาศัย
"บาป" มันก็มีแต่ทุกข์
อาศัยบุญมีความสุขจริงแต่ว่าสุขในเวลาที่บุญยังมีอยู่
บุญยังไม่หมดเท่านั้นเอง พอบุญนั้นหมดแล้ว
ความสุขนั้นก็หมดไปตามกัน
นักปราชญ์ผู้มีปัญญาอันยอดเยี่ยมมองเห็นอย่างนี้
ท่านจึงไม่ติดอยู่ในความสุขชั่วคราว
สุขในการกิน สุขในการนอน สุขในความเพลิดเพลิน
ยินดีในมหรสพคบงันต่างๆ สุขในเรื่องความกำหนัดยินดี
ในกิเลสกามต่างๆหมู่นั้นนะ ท่านผู้มีปัญญาอันยอดเยี่ยมแล้ว
ท่านไม่ยินดีไม่หลง ไม่เพลินไปตามความสุขชั่วคราวเช่นนั้น
เพราะมันเป็นความสุขไม่ยั่งยืน ทั้งมันเป็นเหยื่อล่อให้ติดอยู่ในทุกข์
เป็นเหยื่อล่อให้คนเราสร้างบาปสร้างกรรมให้ตัวเอง
และบาปกรรมนั้นมันก็ฉุดไปสู่นรกอบายภูมิ
อยู่อย่างนั้นแหละบุคคลผู้ข้องใจอยู่ในกิเลสกาม วัตถุกาม
เอาแน่นอนไม่ได้เลยชีวิตของผู้ติดอยู่ในความสุขชั่วคราวอย่างที่ว่านั้น
นี่ล่ะให้พากันพิจารณาเอา
สุขชั่วคราว คือ เหยื่อล่อให้ติดอยู่ในทุกข์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ทีนี้เมื่อสุดท้ายจริงๆแล้ว “จิต” ก็ไม่เรียกแล้วบัดนี้
ก็เรียกว่า “นิพพาน” นิพพานแปลว่า ดับ
ดับความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ท่องเที่ยวไปในสงสาร
นี่ถ้าพูดโดยแจ่มแจ้งแล้วนะ ศัพท์ของคำว่า นิพพาน นี้นะ
ไม่ใช่อื่นไกลอะไรนะ ให้พึงพากันพิจารณาให้ดี
ก็ถ้าจะว่าตามความเห็นของคนที่ว่านั้นน่ะ
ถ้ายังต้องไปอาศัยสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างนี้
มันก็ยังไม่เป็นสุขเที่ยงแท้แน่นอนเลย
ไปอาศัย "บุญ" อยู่อย่างนี้ ถ้าบุญนั้นมันหมดลง
จิตก็ไม่มีความสุขแล้วบัดนี้ ความสุขก็หายไป
เป็นอย่างนั้นเรื่องมันน่ะ อาศัย"บาป" มันก็มีแต่ทุกข์
อาศัยบุญมีความสุขจริงแต่ว่าสุขในเวลาที่บุญยังมีอยู่
บุญยังไม่หมดเท่านั้นเอง พอบุญนั้นหมดแล้ว
ความสุขนั้นก็หมดไปตามกัน
นักปราชญ์ผู้มีปัญญาอันยอดเยี่ยมมองเห็นอย่างนี้
ท่านจึงไม่ติดอยู่ในความสุขชั่วคราว
สุขในการกิน สุขในการนอน สุขในความเพลิดเพลิน
ยินดีในมหรสพคบงันต่างๆ สุขในเรื่องความกำหนัดยินดี
ในกิเลสกามต่างๆหมู่นั้นนะ ท่านผู้มีปัญญาอันยอดเยี่ยมแล้ว
ท่านไม่ยินดีไม่หลง ไม่เพลินไปตามความสุขชั่วคราวเช่นนั้น
เพราะมันเป็นความสุขไม่ยั่งยืน ทั้งมันเป็นเหยื่อล่อให้ติดอยู่ในทุกข์
เป็นเหยื่อล่อให้คนเราสร้างบาปสร้างกรรมให้ตัวเอง
และบาปกรรมนั้นมันก็ฉุดไปสู่นรกอบายภูมิ
อยู่อย่างนั้นแหละบุคคลผู้ข้องใจอยู่ในกิเลสกาม วัตถุกาม
เอาแน่นอนไม่ได้เลยชีวิตของผู้ติดอยู่ในความสุขชั่วคราวอย่างที่ว่านั้น
นี่ล่ะให้พากันพิจารณาเอา