วันนี้จะแชร์ประสบการณ์ความรักจากโลก social ขอเกริ่นก่อนเป็นกระทู้แรกและเป็นครั้งแรกในการเขียน ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ อยากจะแชร์ความรักดีๆที่หาซื้อไม่ได้ ความรู้สึกดีๆ จากคนที่เคยกลัวเรื่องความรัก กลัวเจ็บ กลัวเสียใจ ที่คิดจะเริ่มใหม่กับใครไม่ได้
เริ่มเลยละกัน :: เมื่อ2ปีก่อนเคยทรมานและเข็ดกับเรื่องความรักมาในระยะเวลาราวๆเกือบ 6 เดือน มีหลายคนเข้ามาในชีวิตแต่ใจไม่เคยเปิดรับใครเข้ามาได้เลย บ่นกับตัวเองทุกวันเมื่อไหร่จะเจอความรักดีๆ อยากลองคบใครสักคน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนกลัวความรัก ลองก็เปิดใจก็แล้ว แต่ใจไม่ยอมรับใครสักคน *จนกระทั้งวันหนึ่ง มีคนๆหนึ่งที่แทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเค้าคือใคร? ไม่รู้ที่มาที่ไป? รู้แต่ว่าเค้ามากดไลค์ ig เรา เราเลยเข้าไปส่องไป ig เค้าและฟลอโลกลับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเค้าแค่มากดไลค์เราเฉยๆมั้ง และแล้วก็มีรูปหนึ่งที่เค้ามาเม้นให้เราว่า “แก้มยุ้ยๆน่ารัก

” เราก็เห้ยย มาเม้นให้ด้วย น่ารักจัง เด็กคนนี้ดูน่าสนใจ อยากรู้จักมาก แต่ไม่กล้าที่จะเข้าไปเม้นให้เค้าเลย นอกจากกดไลค์รูปไปเรื่อยๆ นานๆทีถึงจะได้กดไลค์เพราะช่วงนั้นทำงานหนักเพื่อไม่ให้ใจคิดเรื่องความรัก ทำงานๆจะได้ลืมเรื่องเก่าๆ จนกระทั้งกลับไทย ได้เข้าไปส่อง ig เรื่อยๆ อ่านแต่ละคอมเม้นของเค้ามีใครมาเม้นอะไรบ้าง ทั้งๆที่รู้ว่ามีคนที่ชอบเค้าเยอะมาก แต่ใจตอนนั้นไม่รู้ทำไมอยากรู้จักเหลือเกิน อยากรู้จักอ่ะ แต่ทำไงได้ละไม่กล้าขอไลน์ ลองค้นหาจากชื่อ ig ลองแอดชื่อเต็ม ลองแอดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง เห้ยย..ได้แล้ว แอดได้แล้ว ลองผิดลองถูกจนได้ไลน์เค้ามา แต่ไม่กล้าทักไป ไม่กล้าถามอะไรเลยได้แต่ส่งรูป "ยิ้ม" ไปให้เค้า และแล้วเค้าก็ตอบเรามาว่า “คนนี้นี่เอง” เราก็แอบดีใจนะที่เค้าจำเราจาก ig ได้ ณ.จุดนั้นจากคนที่ปิดใจ กลายเป็นเปิดใจขึ้นมาเฉยเลย แบบว่าคุยกับเค้าในไลน์ใจมันเต้นตลอด รอดูโทรศัพท์ตลอดว่าเมื่อไหร่เค้าจะว่าง เมื่อไหร่เค้าจะทักมา คือเอาตรงๆอยากรู้จักมาก อยากรู้ว่าเค้าคือใคร มาจากไหน เลยลองแอดชื่อเค้าใน facebook และขอเค้าเป็นเพื่อน ณ.จุดนั้นแอบไปดูประวัติเค้าคราวๆ ได้ความคือ เรียน ม.กรุงเทพ!!!!!!! เด็กนครปฐมด้วย >> บ้านเดียวกัน5555 ซึ่งเราก็เรียน ม.กรุงเทพ แต่ทำไงดีละ? เพื่อจะได้เจอเค้า? จุดนั้นมหาลัยยังไม่เปิด แต่ใจอยากกลับไปหอมาก เพราะแอบถามเค้าว่าอยู่ไหนหรอ เค้าก็ตอบว่าอยู่หอค่ะ เราก็เก็บรายละเอียดเค้าทีละเล็กละน้อย เพราะอยากเจอ อยากรู้จักมากขึ้น....เลยคิดไอเดียว่า เห้ยย เอาขนมไปให้เค้าดีกว่า เผื่อจะได้แอบเจอก็ยังดี ก็ไลน์ไปหาเค้าบอกว่าจะเอาขนมไปให้ แต่สิ่งที่ได้คือฝากไว้ที่ยามเลยค่ะ อยู่กับน้องๆ เดี๋ยวลงไปเอา เราก็นั่งรอสักพัก เมื่อไหร่จะลงมานะ รอประมาณครึ่งชม.ได้ เพื่อนแถวนั้นก็แซวๆว่า เห้ย รอใครบอกดิ คนนั้นเป็นใคร ทำให้เปิดใจได้?!! เราก็เออ ค่อยบอก ค่อยรู้ ขอนั่งอยู่ตรงนี้สักพัก คือได้แต่รอๆๆ จนล้มเลิกความคิด....กลับหอก็ได้ เลยขับรถกลับหอซึ่งห่างจากซอยข้างม.ถัดไปอีก2ซอย หลังจากนั้นก็ได้คุยกันมากขึ้น
และเราเริ่มคิดแผนขึ้นมาอีก ไปฟิวเจอร์กันเพื่อนเลยบอกเพื่อนว่า ๆเดี๋ยวกุขอแวะซื้อชูครีมแป๊บ มันอร่อยย แต่กุจะซื้อไปให้คนหนึ่งๆ อย่าแซวนะ ขอร้อง...เพื่อนหันมาแล้วพูดว่าใคร?? เออ ค่อยรู้ๆ น้องน่ารักดี รู้อย่างเดียวคือทำให้กุเปิดใจได้อ่ะ ทำให้อยากมีความรักอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมนะ เพื่อนก็แซวๆไปเรื่อย อยากเห็นหน้าละใครคือผู้หญิงคนนั้น!!! ขากลับก็ไลน์บอกเค้าว่าซื้อขนมมาฝาก เรียนอยู่ไหม? เค้าตอบว่าเรียนอยู่ เราก็นะ ลงมาเอาได้ไหม เดี๋ยวถึงแล้วบอก เราก็ขอเบอร์หน่อยได้ไหม ถึงจะได้โทรหา และแล้วก็ได้เบอร์เค้ามา 9 ตัว???!!! เราก็เห้ยย เบอร์มี10ตัวไม่ใช่หรอ! เราก็เลยตอบไปว่า งั้นไม่เอาก็ได้ แต่ในที่สุดเค้าก็ให้เบอร์เรามา ตอนนั้นรู้สึกแบบโครตจะดีใจ ได้เจอกันครั้งแรกคือให้ชูครีม ^^ แอบประทับใจในครั้งแรก เพื่อนนั่งอยู่ก็แซวกันมันส์ไปเลย เด็กคนนี้หรอ เราก็ได้แต่ อืมมม เนี้ยละ...คนนี้หล่ะทำให้เปิดใจ หลังจากนั้นก็คุยไลน์กันมากขึ้น วันนั้นเป็นวันลงทะเบียนเรียน เค้าก็ไลน์บอกเราว่าตื่นยัง วันนี้ลงทะเบียนเรียนเลยตื่นเช้า เราก็ตอบไปว่าอ่อ วันนี้ไม่ค่อยสบาย เท่านั้นละ หลังจากนั้น เค้ามาถึงหอเราเลยไม่เกิน20นาที ถามเป็นไรไหม มียาไหม? เราก็ตื่นมาแล้วบอกว่าไปกินข้าวกันดีกว่า เจ็บๆคอ หาอะไรอุ่นๆกินกันเถอะ มื้อแรกของเราคือ MK อาจจะไม่ได้หรู อาจจะไม่ได้เหมือนคนอื่น แต่วันนั้นความรู้สึกบอกว่าคนนี้ละใช่เลย คนนี้ทำให้หัวใจเราเต้นแรง คือมันใช่เลย (ในใจอยากได้เป็นแฟนจังเลย) หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขี้น โทรหากันบ้าง ไลน์หากันบ้าง ไปไหนมาไหนกันบ้าง ขับรถไปรับ-ส่งเค้าที่บ้านตลอด ไม่เคยคิดจะให้เค้ามาเองเพราะเป็นห่วงเค้า ก็คนมันแอบชอบแล้วอ่ะเนอะ จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งอยู่ในห้องของเรา ก็นั่งดูหนัง ฟังเพลง คุยกันบ้าง ตอนนั้นก็มองหน้ากันเขิลๆกันไปตามคนเริ่มคุยละ เราก็บอกเค้าไปตรงๆเลยนะว่าเราชอบเค้ามาก ลองคบกันดูไหม และแล้วเราเลยถามว่าตกลงเราเป็นอะไรกันหรอ? ที่ถามเพราะตอนนั้นใจเราให้เค้าไปแล้ว ซึ่งเค้าก็ตอบเรามาว่า....ไม่รู้สิ! ถ้าพร้อมก็พูดมาละกัน เราก็เลยไปนอนตักเค้า แล้วพูดขึ้นมาว่า"เป็นแฟนกันนะ” เค้าก็ตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้ แล้วพยักหน้า”ค่ะ" หลังจากนั้นเราก็ตกลงเป็นแฟนกันและให้ข้อตกลงกันในบางเรื่อง เราก็บอกเค้าตลอดเลยนะว่าเค้าจบต้องกลับไปอยู่อเมริกานะ เค้าออกนอกประเทศได้ทีละ2ปี เรียนจบต้องอยู่ที่นู้นถาวร ตัวโอเคไหม? ซึ่งตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 3 ก็คิดในใจอีกตั้ง2ปี แต่เราก็คิดนะในระยะเวลานั้นจะทำให้เค้ามีความสุขที่สุด จะพาเค้าไปที่ๆเค้าอยากไป เค้าไม่เคยเที่ยวต่างประเทศแบบ backpack เราก็พาไป เรามีความสุขกันมาตลอด เราก็บอกเค้าเสมอว่าเดี๋ยวเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งเค้าก็บอกกับเราเสมอว่า "เค้ารอได้" เพื่ออนาคตเราเค้ารอได้ พอคบกันสักพักก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนๆกันไป แต่เราก็บอกรักเค้าทุกวัน หอมแก้มเค้าทุกวัน ตื่นไปเรียนก็หอมเค้า แม้กระทั่งเวลางอลกัน เราก็จะทำแบบนั้นตลอดโดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ข้อเสียของเราก็มีเยอะ เราเป็นคนขี้งอล ขี้อ้อน จากเป็นคนพูดไม่ค่อยเพราะก็ปรับเปลี่ยน เพื่อเค้าได้ เค้าก็ยอมปรับเพื่อเรามาเยอะ พอคบไปสักพัก...หลังจากนั้นชีวิตเราก็เปลี่ยนเลยคือจากที่ไม่ชอบไปไหน ก็ชอบเที่ยวไปไหนก็ได้ขอให้มีแฟน ไปไหนก็ได้ขอให้ได้อยู่ด้วย แบบว่าพูดได้เต็มปากเลยว่ารักเกินเผื่อใจ รักจนไม่คิดว่าจะมองใคร เราปรับทัศนคติต่างๆเพื่อให้เข้ากับเค้าได้ อาจจะมีขัดกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมกันมาตลอด เรายอมบ้าง เค้ายอมบ้าง จากเป็นคนไม่ชอบอ่านกระทู้พันทิปก็เริ่มอ่าน จากเป็นคนที่ไม่ชอบดูคลับฟรายเดย์ก็ดู จากนานๆทีดูหนัง ก็ไปเกือบทุกอาทิตย์ กลายเป็นคนที่ลุยๆไปเลย แต่ก็ยังเป็นคนที่แอบขี้กลัวอยู่ กลัวนู้นกลัวนี่ แต่อะไรที่แฟนเราชอบก็จะพยายามทำให้ได้เท่าที่เราทำได้ เพราะคำว่ารักคำเดียวจริงๆหรืออาจจะเรียกได้เลยว่ามากกว่ารัก มี100 ให้100ก็ว่าได้ หลังๆมาเราก็เริ่มคิดเรื่องอนาคตมากขึ้น เพื่อจะพิสูจน์ให้บ้านเค้าเห็นตลอด แต่ก็ไม่ค่อยกล้าเข้าไปนั่งคุยกับที่บ้านเค้าเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเราขี้อาย และแอบกลัวเบาๆ บ้านนี้มีลูกสาวคนเดียวด้วยสิ...ก็ต้องหวงเป็นธรรมดาหละเนอะ เราก็เข้าใจครอบครัวเค้านะ เป็นใครก็อยากให้ลูกเจอคนดีๆ เราก็คิดแล้วว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ ยังคงยืนยันคำเดิม ณ.ตอนนี้เรากลับมาอยู่ที่อเมริกาได้เกือบๆ 3 เดือนแล้ว แต่เราจะกลับไทยวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เพื่อพาแฟนเราไปเที่ยวต่างประเทศและทดแทนความรู้สึกที่ทำให้เค้าเสียไปในช่วงที่เราห่างกัน วันที่ 15 สิงหาคมนี้เราจะคบกันได้ 2 ปีแล้ว เรารู้เค้าเหงา ซึ่งเราก็เป็นเช่นกัน เราบอกกับเค้าเสมอว่าเรามาอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร ทุกวันนี้ทำเพื่ออนาคตของเรา เรารู้สึกว่าช่วงหลังๆเราแทบจะไม่มีเวลาให้กัน อาจจะเป็นเพราะเราทำงานมากไป อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ไกลกัน อาจจะเป็นเพราะเวลาต่างกัน จึงทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้น ไม่เข้าใจกันมากขึ้น แต่เราก็ยังรู้สึกกับเค้าเหมือนเดิม รักเค้ามากเหมือนเดิม ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกโชคดีมากนะที่ได้เจอคนๆนี้ บ้านเรารักเค้าทุกคน เรารักครอบครัวเค้า เราได้พยายามพิสูจน์ให้บ้านเค้าเห็นว่าดูแลเค้าได้ ตั้งแต่วันแรกบ้านเค้าปฎิเสธเรามาตลอด วันนี้ที่บ้านเค้ารับเราได้ เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ต่อให้เค้าทำผิดขนาดไหน เราก็พร้อมจะให้อภัยได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า เราจะดูแลคนๆนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ยอมปล่อยมือเค้าไปไหน...ไม่รู้นะอาจจะเป็นความโชคดีในเวลาที่เหมาะ อาจจะเป็นพรหมลิขิตหรืออะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ให้รู้ว่าตื่นมายังมีกันก็พอ ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิต ถึงไม่มีเวลาให้เหมือนเมื่อวันที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ใจเราไม่คิดจะเปลี่ยน ยังอยู่ที่เดิมและความรู้สึกเหมือนเดิมทุกอย่าง อยากจะบอกทุกคนว่าเวลามีความรักดีๆก็ควรรักษาไว้นะครับ เราไม่รู้หรอกว่าจะเจอคนดีๆแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า เล่าไปก็ยิ้มไป ^^ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ อ่อลืมบอกๆ จขกท.เป็นทอมนะครับ
โชคชะตา พรหมลิขิต จากโลก social มีอยู่จริง จากคนที่เคยปิดใจ
เริ่มเลยละกัน :: เมื่อ2ปีก่อนเคยทรมานและเข็ดกับเรื่องความรักมาในระยะเวลาราวๆเกือบ 6 เดือน มีหลายคนเข้ามาในชีวิตแต่ใจไม่เคยเปิดรับใครเข้ามาได้เลย บ่นกับตัวเองทุกวันเมื่อไหร่จะเจอความรักดีๆ อยากลองคบใครสักคน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนกลัวความรัก ลองก็เปิดใจก็แล้ว แต่ใจไม่ยอมรับใครสักคน *จนกระทั้งวันหนึ่ง มีคนๆหนึ่งที่แทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเค้าคือใคร? ไม่รู้ที่มาที่ไป? รู้แต่ว่าเค้ามากดไลค์ ig เรา เราเลยเข้าไปส่องไป ig เค้าและฟลอโลกลับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเค้าแค่มากดไลค์เราเฉยๆมั้ง และแล้วก็มีรูปหนึ่งที่เค้ามาเม้นให้เราว่า “แก้มยุ้ยๆน่ารัก
และเราเริ่มคิดแผนขึ้นมาอีก ไปฟิวเจอร์กันเพื่อนเลยบอกเพื่อนว่า ๆเดี๋ยวกุขอแวะซื้อชูครีมแป๊บ มันอร่อยย แต่กุจะซื้อไปให้คนหนึ่งๆ อย่าแซวนะ ขอร้อง...เพื่อนหันมาแล้วพูดว่าใคร?? เออ ค่อยรู้ๆ น้องน่ารักดี รู้อย่างเดียวคือทำให้กุเปิดใจได้อ่ะ ทำให้อยากมีความรักอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมนะ เพื่อนก็แซวๆไปเรื่อย อยากเห็นหน้าละใครคือผู้หญิงคนนั้น!!! ขากลับก็ไลน์บอกเค้าว่าซื้อขนมมาฝาก เรียนอยู่ไหม? เค้าตอบว่าเรียนอยู่ เราก็นะ ลงมาเอาได้ไหม เดี๋ยวถึงแล้วบอก เราก็ขอเบอร์หน่อยได้ไหม ถึงจะได้โทรหา และแล้วก็ได้เบอร์เค้ามา 9 ตัว???!!! เราก็เห้ยย เบอร์มี10ตัวไม่ใช่หรอ! เราก็เลยตอบไปว่า งั้นไม่เอาก็ได้ แต่ในที่สุดเค้าก็ให้เบอร์เรามา ตอนนั้นรู้สึกแบบโครตจะดีใจ ได้เจอกันครั้งแรกคือให้ชูครีม ^^ แอบประทับใจในครั้งแรก เพื่อนนั่งอยู่ก็แซวกันมันส์ไปเลย เด็กคนนี้หรอ เราก็ได้แต่ อืมมม เนี้ยละ...คนนี้หล่ะทำให้เปิดใจ หลังจากนั้นก็คุยไลน์กันมากขึ้น วันนั้นเป็นวันลงทะเบียนเรียน เค้าก็ไลน์บอกเราว่าตื่นยัง วันนี้ลงทะเบียนเรียนเลยตื่นเช้า เราก็ตอบไปว่าอ่อ วันนี้ไม่ค่อยสบาย เท่านั้นละ หลังจากนั้น เค้ามาถึงหอเราเลยไม่เกิน20นาที ถามเป็นไรไหม มียาไหม? เราก็ตื่นมาแล้วบอกว่าไปกินข้าวกันดีกว่า เจ็บๆคอ หาอะไรอุ่นๆกินกันเถอะ มื้อแรกของเราคือ MK อาจจะไม่ได้หรู อาจจะไม่ได้เหมือนคนอื่น แต่วันนั้นความรู้สึกบอกว่าคนนี้ละใช่เลย คนนี้ทำให้หัวใจเราเต้นแรง คือมันใช่เลย (ในใจอยากได้เป็นแฟนจังเลย) หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขี้น โทรหากันบ้าง ไลน์หากันบ้าง ไปไหนมาไหนกันบ้าง ขับรถไปรับ-ส่งเค้าที่บ้านตลอด ไม่เคยคิดจะให้เค้ามาเองเพราะเป็นห่วงเค้า ก็คนมันแอบชอบแล้วอ่ะเนอะ จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งอยู่ในห้องของเรา ก็นั่งดูหนัง ฟังเพลง คุยกันบ้าง ตอนนั้นก็มองหน้ากันเขิลๆกันไปตามคนเริ่มคุยละ เราก็บอกเค้าไปตรงๆเลยนะว่าเราชอบเค้ามาก ลองคบกันดูไหม และแล้วเราเลยถามว่าตกลงเราเป็นอะไรกันหรอ? ที่ถามเพราะตอนนั้นใจเราให้เค้าไปแล้ว ซึ่งเค้าก็ตอบเรามาว่า....ไม่รู้สิ! ถ้าพร้อมก็พูดมาละกัน เราก็เลยไปนอนตักเค้า แล้วพูดขึ้นมาว่า"เป็นแฟนกันนะ” เค้าก็ตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้ แล้วพยักหน้า”ค่ะ" หลังจากนั้นเราก็ตกลงเป็นแฟนกันและให้ข้อตกลงกันในบางเรื่อง เราก็บอกเค้าตลอดเลยนะว่าเค้าจบต้องกลับไปอยู่อเมริกานะ เค้าออกนอกประเทศได้ทีละ2ปี เรียนจบต้องอยู่ที่นู้นถาวร ตัวโอเคไหม? ซึ่งตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 3 ก็คิดในใจอีกตั้ง2ปี แต่เราก็คิดนะในระยะเวลานั้นจะทำให้เค้ามีความสุขที่สุด จะพาเค้าไปที่ๆเค้าอยากไป เค้าไม่เคยเที่ยวต่างประเทศแบบ backpack เราก็พาไป เรามีความสุขกันมาตลอด เราก็บอกเค้าเสมอว่าเดี๋ยวเค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งเค้าก็บอกกับเราเสมอว่า "เค้ารอได้" เพื่ออนาคตเราเค้ารอได้ พอคบกันสักพักก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนๆกันไป แต่เราก็บอกรักเค้าทุกวัน หอมแก้มเค้าทุกวัน ตื่นไปเรียนก็หอมเค้า แม้กระทั่งเวลางอลกัน เราก็จะทำแบบนั้นตลอดโดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ข้อเสียของเราก็มีเยอะ เราเป็นคนขี้งอล ขี้อ้อน จากเป็นคนพูดไม่ค่อยเพราะก็ปรับเปลี่ยน เพื่อเค้าได้ เค้าก็ยอมปรับเพื่อเรามาเยอะ พอคบไปสักพัก...หลังจากนั้นชีวิตเราก็เปลี่ยนเลยคือจากที่ไม่ชอบไปไหน ก็ชอบเที่ยวไปไหนก็ได้ขอให้มีแฟน ไปไหนก็ได้ขอให้ได้อยู่ด้วย แบบว่าพูดได้เต็มปากเลยว่ารักเกินเผื่อใจ รักจนไม่คิดว่าจะมองใคร เราปรับทัศนคติต่างๆเพื่อให้เข้ากับเค้าได้ อาจจะมีขัดกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมกันมาตลอด เรายอมบ้าง เค้ายอมบ้าง จากเป็นคนไม่ชอบอ่านกระทู้พันทิปก็เริ่มอ่าน จากเป็นคนที่ไม่ชอบดูคลับฟรายเดย์ก็ดู จากนานๆทีดูหนัง ก็ไปเกือบทุกอาทิตย์ กลายเป็นคนที่ลุยๆไปเลย แต่ก็ยังเป็นคนที่แอบขี้กลัวอยู่ กลัวนู้นกลัวนี่ แต่อะไรที่แฟนเราชอบก็จะพยายามทำให้ได้เท่าที่เราทำได้ เพราะคำว่ารักคำเดียวจริงๆหรืออาจจะเรียกได้เลยว่ามากกว่ารัก มี100 ให้100ก็ว่าได้ หลังๆมาเราก็เริ่มคิดเรื่องอนาคตมากขึ้น เพื่อจะพิสูจน์ให้บ้านเค้าเห็นตลอด แต่ก็ไม่ค่อยกล้าเข้าไปนั่งคุยกับที่บ้านเค้าเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเราขี้อาย และแอบกลัวเบาๆ บ้านนี้มีลูกสาวคนเดียวด้วยสิ...ก็ต้องหวงเป็นธรรมดาหละเนอะ เราก็เข้าใจครอบครัวเค้านะ เป็นใครก็อยากให้ลูกเจอคนดีๆ เราก็คิดแล้วว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ ยังคงยืนยันคำเดิม ณ.ตอนนี้เรากลับมาอยู่ที่อเมริกาได้เกือบๆ 3 เดือนแล้ว แต่เราจะกลับไทยวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เพื่อพาแฟนเราไปเที่ยวต่างประเทศและทดแทนความรู้สึกที่ทำให้เค้าเสียไปในช่วงที่เราห่างกัน วันที่ 15 สิงหาคมนี้เราจะคบกันได้ 2 ปีแล้ว เรารู้เค้าเหงา ซึ่งเราก็เป็นเช่นกัน เราบอกกับเค้าเสมอว่าเรามาอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร ทุกวันนี้ทำเพื่ออนาคตของเรา เรารู้สึกว่าช่วงหลังๆเราแทบจะไม่มีเวลาให้กัน อาจจะเป็นเพราะเราทำงานมากไป อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ไกลกัน อาจจะเป็นเพราะเวลาต่างกัน จึงทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้น ไม่เข้าใจกันมากขึ้น แต่เราก็ยังรู้สึกกับเค้าเหมือนเดิม รักเค้ามากเหมือนเดิม ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกโชคดีมากนะที่ได้เจอคนๆนี้ บ้านเรารักเค้าทุกคน เรารักครอบครัวเค้า เราได้พยายามพิสูจน์ให้บ้านเค้าเห็นว่าดูแลเค้าได้ ตั้งแต่วันแรกบ้านเค้าปฎิเสธเรามาตลอด วันนี้ที่บ้านเค้ารับเราได้ เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ต่อให้เค้าทำผิดขนาดไหน เราก็พร้อมจะให้อภัยได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า เราจะดูแลคนๆนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ยอมปล่อยมือเค้าไปไหน...ไม่รู้นะอาจจะเป็นความโชคดีในเวลาที่เหมาะ อาจจะเป็นพรหมลิขิตหรืออะไรก็แล้วแต่ ขอแค่ให้รู้ว่าตื่นมายังมีกันก็พอ ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิต ถึงไม่มีเวลาให้เหมือนเมื่อวันที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ใจเราไม่คิดจะเปลี่ยน ยังอยู่ที่เดิมและความรู้สึกเหมือนเดิมทุกอย่าง อยากจะบอกทุกคนว่าเวลามีความรักดีๆก็ควรรักษาไว้นะครับ เราไม่รู้หรอกว่าจะเจอคนดีๆแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า เล่าไปก็ยิ้มไป ^^ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ อ่อลืมบอกๆ จขกท.เป็นทอมนะครับ