[CR] one day trip : นั่งรถไฟเที่ยวหาดสวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันเดียวด้วยงบ 200 บาท



เนื่องจากสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการปิดเทอม ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเที่ยว ก็เลยตัดสินใจว่า ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนเปิดเทอมเราจะเดินทางไปเที่ยวให้ได้มากที่สุด โดยในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม เราวางแผนว่าจะไปเที่ยวกาญจนบุรีในวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม




แต่บังเอิญกลางดึกคืนนั้นระหว่างท่องโลกอินเทอร์เนต ไปเจอเข้ากับ one day trip ของอมยิ้มท่านหนึ่งเข้า ตามลิงค์ด้านล่าง




เลยทำให้เรารู้ว่า การรถไฟฯ มีบริการรถไฟนำเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ แบบ one day trip ในราคาที่สบายกระเป๋า เราเลยเปลี่ยนใจในคืนนั้นด้วยการโทรไปที่เบอร์ 1690 สายด่วนการรถไฟฯ ในเวลา 4 ทุ่มกว่า เจ้าหน้าที่ปลายสายแจ้งว่าวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม รถไฟนำเที่ยวไปกาญจนบุรีเหลือ 45 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถไปซื้อตั๋วได้ตั้งแต่เวลาตี 5 ของวันที่ 9 เลย พอวางสายโอเค เหลือที่อีกเยอะเลย พอโล่งใจก็เก็บกระเป๋า ชาร์จแบตกล้องและตั้งนาฬิกาปลุกทันที


ในตอนเช้า พอตื่นมาเราก็รีบอาบน้ำแปรงฟันแต่งตัว แบกเป้มารอรถเมล์เพื่อไปหัวลำโพง ปรากฏว่าระหว่างเดินออกจากซอยไปป้ายรถเมล์ รถก็เคลื่อนผ่านหน้าไปเฉยๆ ซะงั้น มีแววซะแล้วทริปนี้ เอาวะ เผื่อเวลาไว้แล้ว เดี๋ยวรถมันก็มาใหม่ ทนรอไปได้อึดใจนึงรถคันต่อไปก็แล่นเข้ามา เราไม่รอช้ารีบขึ้นรถทันที ซึ่งบรรยากาศบนรถเมล์เวลาตี 5 เศษๆ มีสภาพดังรูปด้านล่าง




พอมาถึงสถานีหัวลำโพงในเวลา 6 โมงเศษๆ เราก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋ว แต่แม่เจ้าแถวยาวจัง เหลือบดูนาฬิกา อีก 15 นาทีรถจะออก (รถออก 6.30 น.) ลุ้นจนตัวโก่งเลย จะทันไหมเนี่ย จนแล้วจนรอดก็ได้คิวเราซื้อตั๋ว แต่เค้าลางหายนะยังคงมี
เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่า "ตั๋วรถนำเที่ยวไปกาญจนบุรีเต็มหมดแล้วครับ"
โอ้วแม่ย้อยหอยสังข์ อะไรวะเนี่ยแหกขี้ตาตื่นมาเพื่อเจอสิ่งนี้หรอฟะ
แต่ด้วยหาข้อมูลมาดีเลยถามกลับไป "แล้วขบวนที่ไปสวนสนล่ะครับ มีที่เหลือไหม"
เจ้าหน้าที่จดแป้นพิมพ์จึ้กๆ แล้วบอกว่า "เหลือ 27 ที่ครับ จะรับกี่ที่ดี"
เลยคิดในใจเอาวะไม่ได้กาญ เอาประจวบก็ได้ พร้อมตอบไปว่า "เอาที่นึงครับ"
เจ้าหน้าที่บอกมาว่า "สำหรับรถไปสวนสนมี 2 ราคาคือที่นั่งชั้น 3 ราคา 120 บาท ที่นั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ราคา 240 บาท จะรับแบบไหนดี"
เราเลยบอกไปว่า "เอาชั้น 3 ก็พอครับ"
พอได้ตั๋วก็วิ่งไปขึ้นรถไฟทันที




ต่อไปจะขออธิบายการเดินทางด้วยรูปแล้วกัน โดยเราจะแปะรูปและเล่าเรื่องอธิบายไว้ด้านล่างของภาพ เอานะ เริ่ม !!!



พอเวลา 6.30 น. รถไฟก็เคลื่อนออกจากหัวลำโพง โดยรถไฟนำเที่ยวที่ไปกาญและประจวบเป็นขบวนเดียวกัน แต่จะไปแยกทางที่ชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี บรรยากาศตอนเช้าก็ตามภาพ



รถแล่นมาได้ 40 นาทีก็ถึงชุมทางบางซื่อ อากาศตอนนี้เย็นสบาย มีเมฆเป็นริ้วสลับแสงเรืองทองของดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆลอยสูงขึ้นมา



7.15 น. รถแล่นผ่านสถานีบางซ่อน ก็จะเห็นตลาดสยามยิปซี แหล่งซื้อของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในยามราตรี พอดีมีเพื่อนขายอยู่ที่นี่ เลยเล็งไว้ว่าขากลับจะลงที่นี่แหละ



ราวๆ 7.50 น. รถก็แล่นมาใกล้ถึงสถานีนครปฐม ซึ่งที่สถานีนี้รถไฟจะจอดพักราวๆ 30-40 นาที เพื่อให้นักเดินทางทั้งหลายลงไปสักการะ พระปฐมเจดีย์ และซื้อหาอาหารเช้ากินกัน ระหว่างรอรถเข้าจอดที่สถานี เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟก็มาชี้แจงรายละเอียด การนัดหมายเวลา เนื่องจากรถวิ่งเสียงลมดังมาก บวกกับเจ้าหน้าที่หันหลังพูดใส่โทรโข่ง ทำให้ประสิทธิภาพการรับรู้ข้อมูลของเราลดลง 25% แต่ก็จับใจความสำคัญได้อยู่ว่ารถจะออกจากสถานีนครปฐมเวลา 8.30 น. ขอให้ทุกคนตรงต่อเวลา และเจ้าหน้าที่ก็บอกเวลาตามนาฬิกาตัวเองว่ากี่โมงเพื่อให้นักเดินทางเทียบเวลาของนาฬิกาตัวเองถูก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเบอร์โทรติดต่อเอาไว้กรณีจำเป็นต้องมาช้านิดหน่อยให้โทรมารถก็อาจจะรอต่ออีกสัก 3 นาที 5 นาที



ถึงแล้วสถานีนครปฐม หากมองจากสถานีเดินตรงไปก็จะถึงองค์พระปฐมเจดีย์เลย ตรงไปเท่านั้น สองข้างทางเป็นตลาดเช้า มีร้านขายของ ขายอาหาร 7 eleven แวะซื้ออะไรไปกินบนรถได้ที่จุดพักนี้เลย




อย่างแรกเลย เราเดินแบบบึ่งมาเพื่อไหว้พระปฐมเจดีย์ พอขึ้นถึงฐานองค์พระเสียงเพลงชาติก็ขึ้นเป็นเวลา 8.00 น. พอดิบพอดี



รถออกมาจากสถานีนครปฐมได้ 30 นาที ก็จอดที่ชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี เพื่อแยกขบวนรถออกเป็น 2 ขบวนคือขบวนที่จะไปเที่ยวน้ำตกไทรโยค กับขบวนที่จะไปหาดสวนสน



ทิวทัศน์สองข้างทางรถไฟก็จะเป็นทุ่งนา ไร่อ้อย แปลงการเกษตร สลับภูเขาน้อยใหญ่ อากาศถือว่าดี เย็นสบายไม่ร้อน



เห็นยอดเขาลางๆในสายหมอกนั่นไหม เราไม่รู้ล่ะว่ามันคือเขาอะไร แต่เนื่องจากลักษณะเป็นยอดโดดๆ สูงมองเห็นแต่ไกล เราขอตั้งชื่อมันว่า Lonely mountain ตามชื่อเขาเดียวดายที่ตั้งของนครใต้ขุนเขาเอเรบอร์ในเรื่อง The Hobbit แล้วกัน คอยมองมันเอาไว้ทางฝั่งขวาของรถ เพราะถ้ารถไฟเลยภูเขานี้ไปก็แสดงว่าเราเข้าถึงเขตจังหวัดเพชรบุรีแล้ว



10.23 น. หลังจากเลย Lonely mountain มาสักอึดใจ ก็ถึงสถานีเพชรบุรี เมืองแห่งขนมหวานแล้วครับ



และรถวิ่งต่ออีก 30 นาทีก็ถึงสถานีชะอำ เจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งว่านักเดินทางคนไหนสนใจจะไปเที่ยวหาดชะอำ สามารถลงได้ โดยจะต้องต่อรถโดยสารไปหาดชะอำอีกหน่อย พร้อมกับนัดหมายเวลากลับ เพื่อให้นักเดินทางมาทันรถไฟขากลับ แต่ไม่มีคนไหนสนใจหาดชะอำเลย น่าน้อยใจแทนหาดชะอำจัง



ออกจากชะอำมาอีก 35 นาทีก็ถึงสถานีโปรดของหลายๆคน คือสถานีหัวหิน ว่ากันว่าเป็นถิ่นมีหอย ที่ฝรั่งมานั่งคอยจนหอยติดหินเลยทีเดียว ซึ่งสถานีนี้ก็เช่นเดิมเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าสามารถลงเที่ยวหาดหัวหินได้ แต่ต้องต่อรถโดยสารอีกหน่อยพร้อมนัดเวลากลับ ซึ่งที่นี่มีคนลงไปจึ๋งนึง



รถออกจากหัวหินมาไม่ถึง 10 นาที ก็มาถึงสถานีที่เรารอคอยนั่งจนรากงอกออกมาจากก้น สวนสนประดิพัทธ์ เจ้าหน้าที่แจ้งเวลากลับคือ 15.31 น. หรือจำง่ายๆว่า 15.30 น. ก็ได้ (แล้วจะ 31 ทำไม (= =") ฮ่วย) ว่าแล้วตามนิสัยคนไทย ถ่ายรูปป้ายก่อนเลยว่า "กูมาถึงแล้วนะ"



จากสถานีรถไฟมองไปก็ถึงหาดเลย เดินได้ไม่ต้องต่อรถ ถ้าใครหาหาดไม่เจอแนะนำนั่งรอรถกลับที่สถานีแล้วกัน บ่าย 3 ครึ่งเดี๋ยวรถก็มา (โหดซะงั้น)



พอเดินมาถึงหาดเราก็เช่าเก้าอี้ 20 บาทตลอดวัน หาทำเลร่มๆ เหมาะๆ ก็จับจองเลย ส่วนใครจะพกเสื่อหรือฟลายชีทมาปูเองก็ได้ ไม่เสียค่าที่ใดๆทั้งสิ้น นอกจากเก้าอี้ก็มีโต๊ะไว้วางอาหารด้วยตัวละ 20 เช่นกัน แต่เรามาคนเดียวไม่จำเป็นอ่ะ ขอที่นั่งที่นอนพอละ



สำหรับอาหารการกินเราต้องเดินไปซื้อเอง สำหรับเรา เราเลือกที่นั่งริมหาดใกล้ๆทางไปร้านอาหารและห้องน้ำ เพราะมาคนเดียว เดี๋ยวไม่มีคนเฝ้าของเวลาลุกไปไหน ร้านอาหารตามภาพ ราคาไม่แพงเหมือนตลาดนัดทั่วไป ลูกชิ้นไม้ 10 บาทไรงี้



คนชอบอาหารทะเลก็ต้องร้านนี้ เพราะมีร้านเดียว ราคาก็พอจับต้องได้ หอยแครงลวกถุงใหญ่ 200 เล็ก 100 หอยนางรมชุดละ 100 หอยแมลงภู่ถุงละ 50 บาท เราว่าราคาไม่หวือหวานัก แต่เช่นเดิมเรามาคนเดียวและเน้นประหยัดเลยจบด้วยลูกชิ้น 3 ไม้ 30 บาท /จบ.



คนชอบอาหารตามสั่งก็มี ตรงนี้คล้ายเป็นโรงอาหารนั่งกินได้เลย ราคาก็ทั่วๆไป 30 บาทเป็นราคายืนพื้น



เอาใจคนรักสลัด สัสสสไม่ใช่ sizzler นั่นและ Papaya salad ก็ส้มตำของเรานั่นเอง ราคาตามภาพเนาะ แต่ไก่เราว่าแพงไปนิดน่องติดสะโพก 60-65 บาท (หรือเรางกวะ)









และแล้วก็มาถึงช่วงที่รอคอย แนะนำเปิดเพลงนี้ไปด้วยระหว่างรับชมภาพ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ










คอมโบภาพแบบให้สำลักน้ำเค็ม และเส้นตรงที่สุดขอบฟ้ากันไปเลย หวังว่าคงพอดูได้เนาะ เราเล่นน้ำนิดหน่อยที่จริงก็ไม่ได้เล่นหรอ เดินลงทะเลไปถ่ายรูปมากกว่า เปียกไปครึ่งตัวล่าง (แล้วใครมันเปียกแต่ครึ่งบนวะ) หลังจากนั้นดูนาฬิกาเป็นบ่าย 2 เกือบๆครึ่งเลยไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดหน่อย โดยห้องน้ำที่นี่ ถ้าอาบ 10 บาท ธุระหนักเบาก็ 3 บาท มียาสระผม ครีมนวด สบู่ ทิชชู่บริการ(ขาย)
เสร็จสรรพก็เดินทางกลับตอนบ่าย 3 ครึ่งเป๊ะ

/จบ.


ปล. 15-16 ส.ค. นี้ไม่มีทริปนะครับเนื่องจาก มีงาน bike for mom แนะนำว่าใครจะไปโทรเช็คที่ 1690 ก่อน
ชื่อสินค้า:   หาดสวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่