Why are you labeling people? ทำไมคุณถึงติดป้ายให้คนอื่น?

กระทู้สนทนา
Why are you labeling people?
ทำไมถึงคุณติดป้ายให้คนอื่น

ป้าย ในทางจิตวิทยา หมายถึงคำจำกัดความที่เราแปะให้ผู้อื่น  เป็นการเปรียบเทียบ  เพื่อเป็นการแบ่งประเภทผู้อื่นเข้ากลุ่ม โดยที่ป้ายเหล่านี้อาจจะมาจากข่าวลือ เรื่องเม้าท์ที่ได้ยินมาเกี่ยวกับคนนั้น (ถือว่ายังมีมูล) หรืออาจจะเป็นแค่เขาเดินผ่านแล้วเราเห็นท่าทาง ลักษณะของเขามีเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างจากเราๆ เราจึง”ติดป้าย”ให้เขา

ถ้าพูดอีกนัยนึงก็คือ เวลามีคนเดินผ่าน แล้วคุณกับเพื่อนรอให้เขาเดินผ่านไป หรือถ้าอยู่ในระยะไกลๆก็ชี้ชวนกันให้ดู

“เพื่อนแกยิ้มทำตัวแรงจังวะ”
“แกๆ คนนั้นแต่งตัวแปลกๆ”
“คนชื่อ xx ยิ้มเนิร์ดยิ้ม
“คนชื่อ A รู้สึกว่าเพื่อนฉันบอกมาว่าเพื่อนของเขาบอกมาว่าเขาเป็นเกย์ว่ะ” (ซับซ้อนจัง)
“คนนี้เคยโดนแบนนะแก”

ป้ายเหล่านี้มีทั้งเป็นแง่บวก และแง่ลบ เอาจริงๆคือการตัดสินใจจากภายนอก ถ้าเรามองจริงๆแล้วเขาจะเป็นอย่างที่เราแปะป้ายไว้ให้เขาไหม
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบสังเกตคนอื่น แต่ก่อนก็เป็นคนชอบตัดสินแปะป้ายให้คนอื่น แล้วมองว่า ถ้าป้ายที่เราแปะไว้มันไม่น่าสนใจพอ (ตัวอย่าง ไม่ใช่หนุ่มฮอต นักดนตรี หรือเล่นกีฬา) คือเป็นประเภทแปลกๆ (เนิร์ด หน้าไม่ดี หุ่นไม่ดี โดนแบน พูดมาก นิสัยแปลกๆ) ก็จะมองผ่านไปเลย จนกระทั่งโตขึ้นแล้วมีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไป

เราเคยไปอยู่ต่างประเทศมาช่วงหนึ่ง ถูกฝรั่งเขา label ว่าเป็น Asian ซึ่งถ้าพูดถึงในประเทศไทยมันก็ปกติ แต่เมื่อไปอยู่ที่นู่นเรากลับไม่ชอบ เพราะอยากจะกลมกลืนไปกับพวกเขา ไม่อยากถูกแบ่งแยก ยิ่งมาแปะป้ายที่ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ก็เกิดมาเป็นคนเอเชียนี่นา ยิ่งรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก นี่คือยังไม่ซีเรียสเท่ากับแบกแย่ง Blacks และ Whites ซึ่งถือว่าเป็นการเหยียดสีผิวมากๆและหยาบคาย
(การแบ่งแยกนี่แหละ ที่เป็นด้านลบของการแปะป้ายให้คนอื่น)

ทุกวันนี้ชอบนั่งมอง

คนที่ถูกบอกว่า โดนแบน ไม่น่าคบ เขาก็เฟรนด์ลี่กับเรา หันมายิ้ม หันมาคุย จนเราต้องไปถามแหล่งข่าว(เพื่อนอีกคน)ว่า จริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมไม่เห็นเหมือนที่บอกไว้เลย

หรือคนที่มีเพื่อนเคยบอกว่า คนนั้นเป็นเกย์ด้วย หน้าตาดูหยิ่งๆ แต่พอเอาเข้าจริงแล้วเรียกว่านิสัยน่าคบมากกก บางทียังน่าคบกว่าเราที่ชอบอยู่นิ่งๆเลย

มีครั้งหนึ่งเมื่อตอนอยู่โรงเรียน เราเดินเข้าโรงเรียน เห็นรถเบ๊นซ์สีดำวาววับ และมีคนที่แต่งตัวเหมือนคนขับรถเดินออกมาละเปิดประตูหลังให้ มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเดินลงมา

ที่คิดไว้ก็คงเป็น หลีดโรงเรียน หรือคนในแวดวงที่รู้จักกันทั่วไป(เพื่อนชอบพูดถึง) หรือถ้าไกลตัวหน่อยก็นักเรียนที่แต่งตัวผิดระเบียบเล็กๆ อาจจะกระโปรงหรือกางเกงสั้นหน่อย และที่สำคัญคือต้องใช้กระเป๋าจาคอปแน่ๆ (ที่โรงเรียนมีเทรนด์ใครใช้จาคอปจะถือว่าดูดีหน่อย ไม่ใช่ดูดีด้านหน้าตา แต่เป็นสังคม ซึ่งมันเป็นอะไรที่พูดยาก แต่เหมือนจะรู้ๆกัน) และมี accessory แบรนด์เนมบางอย่างโผล่ออกมาให้เห็น

แต่สิ่งที่เราเห็นคือ คนที่ดูเนิร์ดๆ ใส่ชุดนักเรียนตัวโคร่ง รวบผมตึง ใส่แว่น และสะพายกระเป๋าเป้ของโรงเรียน เป็นคนที่เมื่ออยู่ในโรงเรียนเราจะแทบไม่เคยคุย หรือเกี่ยวข้องเลย (ไม่ใช่เพราะหยาบคาบ แต่เพราะเห็นรูปลักษณ์แล้วนึกว่านิสัยคงเข้ากันไม่ได้)

เราเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เริ่มคุยกับคนมากขึ้น คุยกับคนโดยไม่แบ่งประเภท ให้รู้ว่า background ของพวกเขาคืออะไร

ในคำถามในใจเราที่มีมาตลอดเมื่อมองเพื่อนหลายๆคนที่ควรจะมี label ติดตัวไม่มากก็น้อย
"พวกเขาคิดอะไรอยู่?"

คำถามแค่นี้ จะเป็นตัวที่ทำให้เราค่อยๆเข้าใจว่า ทำไม เพราะอะไร พวกเขาถึงทำตัวแบบนี้ เป็นแบบนี้ หรือแต่งตัวแบบนี้(เพราะป้ายบางอัน เหมือนที่เราบอก ไม่สามารถเลือกเกิดมาได้)

อยากให้”ลอง” มองว่า

“เพื่อนแกยิ้มทำตัวแรงจังวะ” ทำตัวแรงคืออะไร เขาไม่เห็นด้วยกับอะไรหรือเปล่าถึงทำตัวแตกต่างจากคนอื่น แล้วถึงมองว่าแรง
“แกๆ คนนั้นแต่งตัวแปลกๆ” แต่งตัวแปลกคือไม่ใช่สไตล์เหมือนพวกเราๆเหรอ แล้วถ้าเขามีสไตล์ของตัวเองล่ะ?
“คนชื่อ T ยิ้มเนิร์ดยิ้ม” ถ้าให้ T เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบหาความรู้ ไม่ใช่คำว่าเนิร์ดล่ะ?
“คนชื่อ A รู้สึกว่าเพื่อนฉันบอกมาว่าเพื่อนของเขาบอกมาว่าเขาเป็นเกย์ว่ะ”
คนชื่อ A  ก็คือ A ไม่ใช่เกย์ หรือถึงเขามีรสนิยมชอบผู้ชาย ก็เป็นรสนิยมของ A


อยากทราบว่ามีคนคิดแบบเรารึเปล่า หรือว่าคิดยังไงกันบ้าง
(ปล. แท็กห้องไม่ถูกเลย ไม่รู้มันควรอยู่ในห้องไหน)

กระทู้นี้เขียนออกมาได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีย์เรื่อง The Fosters จากคำพูดของ Jude
“What do I have to be anything? Why is everybody go around labeling people all the time? Putting us in boxes..”

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่