ข้อคิดที่ได้จาก "การอ่อยผู้ชายครั้งแรกในชีวิต"

เราเขียนบันทึกไว้ค่ะ อ่านแล้วฮาตัวเอง เลยอยากแชร์

การแรดเป็นสิ่งชั่วร้ายมาก เพราะเราหน้าตาไม่สวย หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ดังนั้นเราจึงไม่ควรแรดมาก
เพราะคนหน้าตาสวย ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ดูน่ารักไปหมด แต่คนขี้ริ้วขี้เหร่ไม่ใช่ไง ขี้เหร่แล้วอ่อย มันยิ่งน่าเกลียด ดูไร้ค่า
-วันรับน้อง-
ขณะที่ีเรานั่งอยู่ริมสุดของแถว ก็มีพี่ผู้ชายคนนึง สมมติว่าชื่อพี่เสือละกัน เดินมาพัดให้ แล้วถามว่า "ร้อนรึเปล่า?" เราส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ร้อน
พี่เสือก็บอกว่า "เห็นเหงื่อออกไง" ซักพักก็มีรุ่นพี่อีกคน เดินมาทักเรา แต่เรียกชื่อผิด ทักผิดคน
พี่เสือก็รีบตอบแทนว่า "ไม่ใช่!นี่น้องxxx มุงนี่ลืมชื่อน้องได้ไง โว้ะ" ประมาณนั้น
เรารู้สึกสงสัยว่าพี่เสือ รู้จักชื่อเราได้ไง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกับพี่เสือ
แล้วผ่านไปสักพัก พี่เสือหายไปทำนู่นทำนี่ แล้วก็เดินมาแถวของเราอีก
พี่เสือมองมาที่เรา แล้วบอกว่า "น้องxxxค้าบ เอายาดม ยาหม่องอะไรมั้ย เดี๋ยวเป็นลมไง"
เรารู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายมาพูดแซวเสียงหวานแบบนี้ เราเลยจัดการอ่อยผู้ชายครั้งแรกในชีวิต
้เรามองหน้าพี่เสือ แล้วฉีกยิ้มกว้างเห็นฟัน ตาตี่ลงเล็กน้อย ทันทีที่เรายิ้มให้พี่เสือ เราเห็นในตาของพี่เสือมีประกายออกมา
เหมือนไฟช็อตแบบแปล๊บๆสีขาวออกมาจากลูกตาดำ
แล้วพี่เสือก็มายืมร่มเราไปกางให้เพื่อนที่เป็นลมแดด ตอนที่กำลังจะเดินเข้าอาคาร พี่เสือตะโกนบอกเราว่า
"น้องxxxค้าบ เดี๋ยวพี่คืนร่มให้นะ" เราก็จัดการอ่อยไปอีกลูก คือแทนที่เราจะพยักหน้าตอบรับเป็นปกติ
แต่เรากลับเหลือบตามอง แล้วพยักหน้าเบาๆ ยิ้มอ่อนๆ ทำเป็นผู้หญิงขวยเขิน (ดูละครมากไปนะเรา)
(ถ้าสวยทำแล้วมันคงสวยชวนฝันมาก แต่นี่ขี้เหร่ไง ทำแล้วหน้าคงชวนฮามากกว่า ไม่รู้ตอนนั้นเอาความมั่นใจมาจากไหน)
แล้วเราก็เดินเข้าอาคาร ขณะที่เรานั่งอยู่ในอาคาร พี่เสือก็ตะโกนเสียงดังว่า "น้องxxxอยู่ไหนครับบ"
เราก็ยกมือปานกลาง พี่เสือก็เดินแบบอมยิ้ม เอาร่มมาคืนให้เรา แล้วพูดเสียงหวานๆว่า "ขอบคุณนะครับ"
แต่จุดจบมันอยู่ที่ ตอนกำลังจะลงไปกินข้าว ขณะที่เราอยู่คนหน้าสุดของแถว เพื่อเตรียมออกจากอาคาร
พี่เสือยืนใกล้ๆเรา ตอนที่พี่มองเห็นเรา พี่จ้องหน้าเรา แบบตั้งใจจ้องมาก เหมือนกำลังจ้องโทรทัศน์ ในลูกตาดำของพี่มีประกายไฟออกมา วิ๊งๆ
ปากก็อมยิ้มหวานๆเล็กน้อย
ตอนที่พี่เค้าจ้อง เราทำหน้าไม่ถูก ไม่กล้ายิ้มให้ เดี๋ยวจะดูเป็นการอ่อยเกินไป ก็การอ่อยน่ะมันไม่เข้ากับหน้าตาอันจืดชืดขี้เหร่ของเราน่ะสิ
เราจึงดึงหน้านิ่ง ทำหน้านิ่ง เย็นชา เฉยชาที่สุดในโลกเข้าไว้
ผลลัพธ์ที่ได้คือ พี่เสือจ้องหน้านิ่งๆของเราได้ไม่ถึง10วิ ก็เบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น แสงวิ๊งๆที่ออกมาจากลูกตาดำก็หายไปเลย อารมณ์พี่เค้าเหมือนไม่เหลือความรู้สึกสนใจในตัวเราอีกต่อไป
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทั้งตอนที่เรานั่งอยู่ข้างหลังพี่เสือในตอนกินข้าว หรือตอนเจอพี่เสือขึ้นรถกลับบ้านคันเดียวกับเรา
หรือตอนที่เรานั่งข้างๆพี่เสือในหอประชุม
ไม่ว่าเราจะเจอพี่เสือที่ไหน ในสถานการณ์ใดใด พี่เค้าก็ไม่เคยสนใจเราอีกเลย อารมณ์มันเปลี่ยนขั้วมาก ลูกตาดำที่เคยแสดงออกว่าสนอกสนใจในตัวเรา ก็ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีอารมณ์นั้นออกมาจากตัวพี่เขาเลย สรุปคือ ตอนนี้เหมือนพี่เค้าไม่สนใจเราอีกต่อไปแล้ว ไม่มอง ไม่สน
เราไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะสาเหตุใด
ข้อสันนิษฐานมีอยู่ด้วยกันสองข้อ
ข้อแรก.เราหน้าตาอัปลักษณ์----ตอนที่อยู่ที่สนาม พี่เค้าไม่ได้คิดอะไรกับเรา มีแต่เราที่ิคิดไปเอง แล้วไปยิ้มอ่อยใส่พี่เค้า พอพี่เค้าโดนผู้หญิงยิ้มอ่อยใส่ก็เลยเซอร์ไพรส์ ดังนั้น ตอนอยู่ที่อาคาร พี่เค้าเลยจ้องมองหน้าเราแบบละเอียดๆ แต่พอจ้องดีๆแล้วก็พบว่า
น้องผู้หญิงคนนี้ หน้าตาไม่สวยเลย หน้าตาแย่มาก หน้าตาไม่ดี หน้าตาจืดๆ แถมหน้าสองข้างยังไม่เท่ากันอีก ประหลาดมาก
น้องขี้ิริ้วขี้เหร่ไม่สวยแล้วยังทำเป็นหยิ่ง ดึงหน้านิ่ง เชิดใส่กูอีก กูไม่สนใจมุงหรอกอีปลวก พี่เค้าคงรู้สึกแบบนั้น
ส่งผลให้ เป็นอย่างที่เห็นคือ พี่เค้าจ้องหน้าเราแล้วเบือนหน้าหนี ไม่สนใจเราอีกต่อไป

ข้อสอง.เราทำหน้านิ่งใส่พี่เสือ---ข้อสันนิษฐานข้อนี้ คือตั้งแต่ที่สนาม พี่เค้าก็สนใจในตัวเราอยู่แล้ว ถึงเราจะไม่สวยแต่พี่เค้าอาจจะชอบของแปลก มีรสนิยมชอบสาวสไตล์เราอะไรแบบนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้ พอเรายิ้มอ่อยใส่พี่เค้า พี่เขาก็มีความหวังแรงกล้ามากขึ้น
ตอนอยู่ในอาคาร มันก็เป็นโมเม้นท์ที่มุ้งมิ้ง ที่ผช.จะจ้องผญ.เป็นการลองเชิงดูว่าเราจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบยังไง ถ้าเราเขินหรือยิ้มกลับ พี่เค้าก็คงรุกมากขึ้น อาจมีการจีบเราเกิดขึ้น แต่พอเราตีหน้านิ่ง เชิด หยิ่งใส่พี่เค้า ไม่ยิ้ม ไม่เขิน ทำหน้าตึงๆ พี่เค้าก็เลยคิดว่า
เราไม่เล่นด้วย ไม่สนใจเค้า เค้าก็เลยเสียฟอร์ม ความหวังที่คิดไว้ตอนแรกก็หดหายไป พี่เค้าก็เลยเบือนหน้าหนี ในเมื่อผญ.ไม่เล่นด้วย เค้าก็คงไม่สานต่อ

ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด ตอนนี้ความรู้สึกที่พี่เค้ามีให้เรา มีสองอย่าง
ความรู้สึกแรกคือ--เฉยๆ--ไม่สวยแล้วยังขี้อ่อยอีกนะน้องคนนี้
ความรู้สึกสองคือ--ไม่ชอบ--ไม่สวยแล้วยังมาเชิดใส่กรูอีก
จะเห็นว่า มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีทั้งสองความรู้สึก แต่ความรู้สึกสองจะแรงกว่าหน่อย เพราะไม่ใช่เฉยๆ แต่คือไม่ชอบ
ค.รู้สึกไม่ชอบ สามารถพัฒนาไปสู่เรื่องเลวร้ายต่างๆที่จะเกิดกับตัวเราได้อีกมากมายมหาศาล
ยกตัวอย่างเช่น ไม่ชอบ-->หมั่นไส้ เอาเราไปนินทาให้รุ่นพี่คนอื่นฟังเสียๆหายๆ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนที่เราจะทำอะไรก็ตาม ต้องคิดให้ดีดี คิดแล้วคิดอีก คิดแล้วคิดอีก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ "คน" ยิ่งต้องระวัง
เพราะถ้าทำไปแล้ว มันไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้
สิ่งที่เราทำ มันส่งผลกระทบบเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่