น้องสาวป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังค่ะ ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ่อยๆ
ล่าสุดมีอาการติดเชื้อที่ผนังหัวใจ ต้องพักที่โรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนด
จนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อแล้วเท่านั้น คุณหมอจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
ตั้งแต่น้องป่วยก็มีการพูดคุยและให้กำลังใจกันตลอดค่ะ
แต่หลังๆ มานี่สภาพจิตใจน้องแย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีอาการต่อต้าน ไม่รับฟังอะไร
หงุดหงิดง่าย โวยวาย ร้องไห้ จนทำให้คนเฝ้าไข้ (คุณแม่) พลอยใจไม่ดีและเครียดไปด้วย
เราและครอบครัวเกรงว่าคุณแม่จะป่วยไปอีกคนค่ะ
ตัวเราเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนน้องรักษาตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด
ทำได้แค่โทรไปให้กำลังใจ ตอนนี้ที่บ้านตึงเครียดกันไปหมด
จนพี่สาวเราเสนอความเห็นว่า ให้น้องรักษากับแผนกจิตเวชควบคู่กันไปด้วย
ใครเคยมีประสบการณ์ที่ต้องดูแลสภาพจิตใจผู้ป่วย (รวมถึงคนดูแลผู้ป่วย) บ้างคะ
แล้วมีวิธีพูด หรือ ทำอย่างไรเพื่อให้เค้าเข้มแข็ง มีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปได้อีกบ้าง
หากต้องรักษากับแผนกจิตเวชด้วย เราควรอธิบายกับน้องอย่างไรดี เพื่อให้น้องเข้าใจและรับฟัง
ขอบคุณค่ะ
** มือใหม่ค่ะ หากแท็กผิดห้องยังไง ขออภัยด้วยค่ะ
เราจะมีวิธีให้กำลังใจหรือดูแลสภาพจิตใจผู้ป่วยให้เข้มแข็งขึ้นได้ยังไงบ้างคะ
ล่าสุดมีอาการติดเชื้อที่ผนังหัวใจ ต้องพักที่โรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนด
จนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อแล้วเท่านั้น คุณหมอจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
ตั้งแต่น้องป่วยก็มีการพูดคุยและให้กำลังใจกันตลอดค่ะ
แต่หลังๆ มานี่สภาพจิตใจน้องแย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีอาการต่อต้าน ไม่รับฟังอะไร
หงุดหงิดง่าย โวยวาย ร้องไห้ จนทำให้คนเฝ้าไข้ (คุณแม่) พลอยใจไม่ดีและเครียดไปด้วย
เราและครอบครัวเกรงว่าคุณแม่จะป่วยไปอีกคนค่ะ
ตัวเราเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนน้องรักษาตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด
ทำได้แค่โทรไปให้กำลังใจ ตอนนี้ที่บ้านตึงเครียดกันไปหมด
จนพี่สาวเราเสนอความเห็นว่า ให้น้องรักษากับแผนกจิตเวชควบคู่กันไปด้วย
ใครเคยมีประสบการณ์ที่ต้องดูแลสภาพจิตใจผู้ป่วย (รวมถึงคนดูแลผู้ป่วย) บ้างคะ
แล้วมีวิธีพูด หรือ ทำอย่างไรเพื่อให้เค้าเข้มแข็ง มีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปได้อีกบ้าง
หากต้องรักษากับแผนกจิตเวชด้วย เราควรอธิบายกับน้องอย่างไรดี เพื่อให้น้องเข้าใจและรับฟัง
ขอบคุณค่ะ
** มือใหม่ค่ะ หากแท็กผิดห้องยังไง ขออภัยด้วยค่ะ