ติดเครดิตบูโรอยู่ ถ้ารอให้พ้นอีก 3 ปี ช่วงนี้เก็บเงินไปก่อน อีก 3 ปีจะเก็บได้ 2 ล้านแต่อายุ 47 แล้วจะกู้ซื้อบ้าน?

กว่าจะพ้นเครดิตบูโร  ก็อายุ 47 ปีแล้ว  จะมีเงินเก็บประมาณ 2 ล้าน  

ผมตัวคนเดียว ยังโสด ไม่มีคนร่วมกู้แน่นอน  

ถึงตอนนั้น  เงินเดือนประจำจากฐานเงินเดือนอย่างเดียวจะประมาณ 1 แสนบาท

ผมไม่มีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถอย่างอื่น ไม่มีลูกเมีย  มีบ้านเก่าอยู่ 1 หลังที่ใช้อาศัยอยู่ ผ่อนหมดแล้ว

จากฐานเงินเดือน 1 แสน  ผมจะโดนค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายประมาณ 9,800 บ./ด. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 5,000 บ./ด. และรวมให้เงินเดิอนแม่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าที่จอดรถที่อ๊อฟฟิศ  ค่าครองชีพรายเดือน แล้ว จะมีเงินเก็บเหลือสุทธิประมาณ 55,000 บ./ด. เอง

จากข้อมูลนี้  เป็นไปได้ไหมครับที่ผมจะขอวงเงินกู้ซื้อบ้านประมาณ 4  ล้าน เพื่อซื้อบ้านราคาประมาณ 6 ล้าน โดยใช้เงินออมอีก 2 ล้านวางดาวน์


ผมกังวลกับเรื่องอายุน่ะครับ  เพราะผมทำงานบริษัทเอกชน  พออายุ 47 แล้ว ก็น่าจะเหลือเวลาทำงานต่อไปอีก 13 ปีเอง   ตอนเกษียณ คาดว่าจะได้เงินก้อนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประมาณ 5 ล้าน และคงจะมีเงินเก็บหลังจากหักเงินผ่อนบ้านไว้ลงทุนใน LTF RMF หรือประกันบำนาญเพื่อเลี้ยงตัวหลังเกษียณ  แต่ผมตั้งใจจะทำงานเป็นที่ปรึกษาต่อไปอีกจนถึงอายุ 65 ปี หรือ 70 ปีนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าตอนอายุ 47 ปี จะขอสินเชื่อบ้าน 4 ลบ. ดูแล้วมีโอกาสขอสินเชื่อผ่านนะคะ โดยยอดผ่อนต่อเดือนตกเดือนละ 41,000 บาทอมยิ้ม01

แต่ถ้าเปลี่ยนใจจะรีโนเวทบ้านหลังเดิม ก็เป็นแนวคิดที่ดีค่ะ เพราะจะใช้เงินน้อยกว่า แถมมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ลงทุนสำหรับเกษียณอายุมากขึ้น

เพราะพอลองเอายอดเงินที่จะได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5 ลบ. มาคิดดู โดยคาดว่าจะใช้ในช่วงเกษียณไปอีก 25 ปี จะใช้จ่ายช่วงเกษียณได้ประมาณเดือนละ 16,700 บาท หรือคิดเป็นค่าเงินในวันนี้ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งก็อาจไม่เพียงพอใช้จ่ายช่วงเกษียณค่ะ ดังนั้นเงินที่เหลือในแต่ละเดือน แนะนำใ้ห้นำไปเก็บออมเพื่อเกษียณอายุ ไม่ว่าจะผ่านกองทุน RMF/LTF หรือประกันบำนาญก็ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่