-------- เชียงคาน ---------
ผมอ่าน รีวิว ใน Pantip มานานแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าเชียงคานเองก็มีคนรีวิวไว้เยอะแล้ว ผมก็อยากจะขอพื้นที่เล็กๆ มาเล่าเรื่องราวของเชียงคานในมุมมองของผมบ้าง
อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนะครับ
ช่วงหยุดยาว 4 วัน
ต้องท้าวความก่อน จริงๆก่อนจะไป ผมก็ประกาศหาเพื่อนร่วมทริปใน Facebook แต่ก็เงียบ..ฮาฮา (สรุปนี่

ต้องไปคนเดียวใช่มั้ย)
ไอเราก็ตัวคนเดียว โชคดีหน่อยมีรถส่วนตัว นอนคิดกลางคืนตื่นเช้ามาก็เก็บกระเป๋า ขับรถออกไป.......... เ ล ย

----------------------------------------------------------------

ผมเลือกใช้เส้นทาง เชียงใหม่-แพร่-อุตรดิตถ์ แล้วเข้า อ.ด่านซ้าย โดยใช้เส้นทาง อ.ชาติตระการ ระยะทางร่วมๆ 600 กิโลเมตร
เฮ้ย! นี่มันเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ชัดๆ แต่เป็น version ถนน 2 เลนส์ นะครับ
วิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางสวยงามครับ แต่เนื่องจากผมขับคนเดียวจึงไม่ได้เก็บภาพไว้ ขอข้ามไปตอนถึงที่พักเลยนะครับ
วันที่ 1
เราได้เข้าพักที่ "มาเลยเด้" ราคาคืนละ 440(ห้องพัดลม) ห้องขนาดพอตัว ห้องน้ำรวมซึ่งสะอาดดีครับ
มุมนี้ทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆที่อยู่บ้านคุณย่า ซึ่งท่านก็จะมีรูปในหลวงและราชินีแขวนอยู่บนผนังเช่นเดียวกัน
เนื่องจากผมถึงเชียงคานช่วงประมาณ 4 โมง ซึ่งก็เป็นเวลาที่เริ่มตั้งร้านภายในถนนคนเดินของพ่อค้าแม่ค้า
ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศของเมือง ส่วนตัวชอบความคลาสสิคของบ้านไม้อยู่แล้ว แต่ก็เริ่มมีบ้านที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตและใช้ไม้สังเคราะห์บ้างแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งผมว่ามันดูขัดแย้งกับบรรยากาศ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ
แสงอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ ตกกระทบลงบนแม่น้ำโขงที่ช่วงนี้เพิ่มระดับสูงขึ้น พร้อมลมเย็นอ่อนๆ โรแมนติกมาก เคยไหมครับที่แอบเอาความรู้สึกของคนที่เราชอบเดินทางมาพร้อมกับเราด้วย บรรยากาศตอนนี้มันช่างทำให้รู้สึกแบบนั้นมากๆ
กินข้าวเสร็จก็แวะจิบชาซักหน่อย และซื้อ Postcard ซักใบ
(ขออนุญาติเซ็นเซอร์หน้าของน้องคนที่เห็นชัดๆนะครับ)
เนื่องจากที่พักอยู่แทบจะติดถนนคนเดิน ตอนค่ำก็นั่งดื่มด่ำบรรยากาศ พร้อมชวนเพื่อนข้างห้องคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
ตรงข้ามเป็นร้านขายของ Handmade พี่เค้าวาดภาพใน Tablet เก่งมาก
นั่งได้ไม่นานฝนตกก็ตก จึงรีบขึ้นนอนและภาวนาให้พรุ่งนี้มีทะเลหมอก ที่ -- ภูทอก --
วันที่ 2
ตื่นเช้า ปรากฎว่าฝนยังคงตกอยู่ ผมเสี่ยงดวงขับรถออกไป ภูทอก จอดรถที่จุดจอดและต่อรถสองแถวขึ้นไปอีก คนละ 25 บาท
ขึ้นไปแล้ว..โอ้โห...มอง

ไรไม่เห็นเลย
สิ่งที่ผมคิดไว้ก่อนขึ้นมา
แต่สิ่งที่ผมเจอ... ร้องไห้หนักมาก
ไอผมมันก็ขี้งกซะด้วย เสียเงินตั้ง 25 บาท ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว ตั้งใจจะเก็บภาพสวยๆให้ได้ นั่งรอมันซะเลย
และแล้วความงกก็ช่วยไว้ ผ่านไปเกือบชั่วโมงฟ้าเริ่มเปิดและเริ่มมีหมอกก่อตัวให้เห็น จึงได้ภาพกลับมา
กลับมาก็นั่งจิบกาแฟฟรีเพลินๆ ที่เกสท์เฮ้าส์ อารมณ์ดี ก็นั่งแต่งกลอนประกอบภาพเล่นๆ
-------------------------------
ภูทอก สูงค้ำคู่... เชียงคาน
แม่น้ำโขงพาดผ่านงามสวยใส
บังเกิดวิวงามจากฝั่งไกล
งามนั่นไซร้ ลือนาม จังหวัดเลย
--------------------------------
เมื่อวานขับรถหลายชั่วโมง บ่ายๆจึงไปนวด ได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่งว่า "ยองเส้น แม่ก้อย" นี่ต้องไปโดน
เดินเข้าร้าน มีผ้าขาวม้าแขวนไว้บนเพดาน สำหรับหมอนวดใช้โหนตัว หลังนวดเสร็จรู้สึกว่าแข้งขามีเรี่ยวมีแรงขึ้นเยอะเลย
แผนช่วงเย็นคือนั่งเรือไปแก่งคุดคู้ครับ แต่ผมไปก็เย็นแล้วจึงไปได้แค่ครึ่งทาง
กลับมาเดินเล่นต่อ และวางแผนไว้แล้วว่าจะจบคืนนี้ที่ร้าน "เจอเลย" บรรยากาศดีมาก จริงๆเล็งไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาแล้ว แต่ฝนตกซะก่อน
หมด 2 ขวด ก็เข้านอนสบายๆครับ
วันที่ 3
ตื่นเช้ามาพร้อมอากาศเย็นๆ ฝนตกปรอยๆ ล้างหน้าแปรงฟัน และออกไปตักบาตข้าวเหนี่ยว พระออกมาบิณฑบาตกันเยอะมาก
บ้านแทบทุกหลังจะเปิดบ้านรอนิมนต์พระให้นักท่องเที่ยวได้ใส่บาต ผมก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าชิวๆ ไปครับ
ช่วงเที่ยงก็ Check out และเดินทางต่อไปยัง -- ภูทับเบิก --
[CR] เ ชี ย ง ค า น - ภู ทั บ เ บิ ก : ไ ม่ ไป ไ ม่ ไ ด้ เ ล ย
ผมอ่าน รีวิว ใน Pantip มานานแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าเชียงคานเองก็มีคนรีวิวไว้เยอะแล้ว ผมก็อยากจะขอพื้นที่เล็กๆ มาเล่าเรื่องราวของเชียงคานในมุมมองของผมบ้าง
อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนะครับ
ช่วงหยุดยาว 4 วัน
ต้องท้าวความก่อน จริงๆก่อนจะไป ผมก็ประกาศหาเพื่อนร่วมทริปใน Facebook แต่ก็เงียบ..ฮาฮา (สรุปนี่
ไอเราก็ตัวคนเดียว โชคดีหน่อยมีรถส่วนตัว นอนคิดกลางคืนตื่นเช้ามาก็เก็บกระเป๋า ขับรถออกไป.......... เ ล ย
----------------------------------------------------------------
ผมเลือกใช้เส้นทาง เชียงใหม่-แพร่-อุตรดิตถ์ แล้วเข้า อ.ด่านซ้าย โดยใช้เส้นทาง อ.ชาติตระการ ระยะทางร่วมๆ 600 กิโลเมตร
เฮ้ย! นี่มันเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ชัดๆ แต่เป็น version ถนน 2 เลนส์ นะครับ
วิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางสวยงามครับ แต่เนื่องจากผมขับคนเดียวจึงไม่ได้เก็บภาพไว้ ขอข้ามไปตอนถึงที่พักเลยนะครับ
วันที่ 1
เราได้เข้าพักที่ "มาเลยเด้" ราคาคืนละ 440(ห้องพัดลม) ห้องขนาดพอตัว ห้องน้ำรวมซึ่งสะอาดดีครับ
มุมนี้ทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆที่อยู่บ้านคุณย่า ซึ่งท่านก็จะมีรูปในหลวงและราชินีแขวนอยู่บนผนังเช่นเดียวกัน
เนื่องจากผมถึงเชียงคานช่วงประมาณ 4 โมง ซึ่งก็เป็นเวลาที่เริ่มตั้งร้านภายในถนนคนเดินของพ่อค้าแม่ค้า
ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศของเมือง ส่วนตัวชอบความคลาสสิคของบ้านไม้อยู่แล้ว แต่ก็เริ่มมีบ้านที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตและใช้ไม้สังเคราะห์บ้างแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสงอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ ตกกระทบลงบนแม่น้ำโขงที่ช่วงนี้เพิ่มระดับสูงขึ้น พร้อมลมเย็นอ่อนๆ โรแมนติกมาก เคยไหมครับที่แอบเอาความรู้สึกของคนที่เราชอบเดินทางมาพร้อมกับเราด้วย บรรยากาศตอนนี้มันช่างทำให้รู้สึกแบบนั้นมากๆ
กินข้าวเสร็จก็แวะจิบชาซักหน่อย และซื้อ Postcard ซักใบ
(ขออนุญาติเซ็นเซอร์หน้าของน้องคนที่เห็นชัดๆนะครับ)
เนื่องจากที่พักอยู่แทบจะติดถนนคนเดิน ตอนค่ำก็นั่งดื่มด่ำบรรยากาศ พร้อมชวนเพื่อนข้างห้องคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
ตรงข้ามเป็นร้านขายของ Handmade พี่เค้าวาดภาพใน Tablet เก่งมาก
นั่งได้ไม่นานฝนตกก็ตก จึงรีบขึ้นนอนและภาวนาให้พรุ่งนี้มีทะเลหมอก ที่ -- ภูทอก --
วันที่ 2
ตื่นเช้า ปรากฎว่าฝนยังคงตกอยู่ ผมเสี่ยงดวงขับรถออกไป ภูทอก จอดรถที่จุดจอดและต่อรถสองแถวขึ้นไปอีก คนละ 25 บาท
ขึ้นไปแล้ว..โอ้โห...มอง
สิ่งที่ผมคิดไว้ก่อนขึ้นมา
แต่สิ่งที่ผมเจอ... ร้องไห้หนักมาก
ไอผมมันก็ขี้งกซะด้วย เสียเงินตั้ง 25 บาท ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว ตั้งใจจะเก็บภาพสวยๆให้ได้ นั่งรอมันซะเลย
และแล้วความงกก็ช่วยไว้ ผ่านไปเกือบชั่วโมงฟ้าเริ่มเปิดและเริ่มมีหมอกก่อตัวให้เห็น จึงได้ภาพกลับมา
กลับมาก็นั่งจิบกาแฟฟรีเพลินๆ ที่เกสท์เฮ้าส์ อารมณ์ดี ก็นั่งแต่งกลอนประกอบภาพเล่นๆ
-------------------------------
ภูทอก สูงค้ำคู่... เชียงคาน
แม่น้ำโขงพาดผ่านงามสวยใส
บังเกิดวิวงามจากฝั่งไกล
งามนั่นไซร้ ลือนาม จังหวัดเลย
--------------------------------
เมื่อวานขับรถหลายชั่วโมง บ่ายๆจึงไปนวด ได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่งว่า "ยองเส้น แม่ก้อย" นี่ต้องไปโดน
เดินเข้าร้าน มีผ้าขาวม้าแขวนไว้บนเพดาน สำหรับหมอนวดใช้โหนตัว หลังนวดเสร็จรู้สึกว่าแข้งขามีเรี่ยวมีแรงขึ้นเยอะเลย
แผนช่วงเย็นคือนั่งเรือไปแก่งคุดคู้ครับ แต่ผมไปก็เย็นแล้วจึงไปได้แค่ครึ่งทาง
กลับมาเดินเล่นต่อ และวางแผนไว้แล้วว่าจะจบคืนนี้ที่ร้าน "เจอเลย" บรรยากาศดีมาก จริงๆเล็งไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาแล้ว แต่ฝนตกซะก่อน
หมด 2 ขวด ก็เข้านอนสบายๆครับ
วันที่ 3
ตื่นเช้ามาพร้อมอากาศเย็นๆ ฝนตกปรอยๆ ล้างหน้าแปรงฟัน และออกไปตักบาตข้าวเหนี่ยว พระออกมาบิณฑบาตกันเยอะมาก
บ้านแทบทุกหลังจะเปิดบ้านรอนิมนต์พระให้นักท่องเที่ยวได้ใส่บาต ผมก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าชิวๆ ไปครับ
ช่วงเที่ยงก็ Check out และเดินทางต่อไปยัง -- ภูทับเบิก --