กสทช.โชว์รายได้ช่องดิจิตอล อาร์เอสนำเวิร์คพอยท์-ช่อง 3-ทรูไล่ติด
กสทช.ถก “ทางรอดทีวีดิจิตอล” ลุยจัดงานสื่อสารแห่งชาติ “ฐากร” ปลื้มยอดผู้ชม 15 เดือนขยับจาก 5.7 แสนคนต่อนาที เป็น 3 ล้านคนต่อนาที เผยรายได้ปีที่ผ่านมา อาร์เอสนำโด่ง 472 ล้านบาท ตามมาด้วยเวิร์คพอยท์, ช่อง 3 เอชดี, ทรูโฟร์ยู, ทีเอ็น-เอ็น ส่วน อสมท. รายได้รั้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เป็นประธานแถลงข่าวงานวันสื่อสารแห่งชาติประจำปี 2558 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 ส.ค.58 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้ชื่องานว่า “NBTC EXPO THAILAND : NET 2015” ภายใต้แนวคิด“ก้าวสู่อนาคตโลกดิจิตอล Future Trend in Digital World” เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอลตามนโยบายรัฐบาล โดยการจัดงานครั้งนี้ ใช้งบประมาณราว 40 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000-20,000 คน
ภายในงานแถลงข่าวยังมีการจัดเสวนา “ทิศทางการอยู่รอดของทีวีดิจิตอล” โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ยอดรับชมทีวีดิจิตอลและสัดส่วนรายได้ของทีวีดิจิตอลปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลของประเทศไทย ที่เปิดให้บริการมาเพียงปีเศษหรือ 15 เดือน โดยปี 57 มีรายได้รวมกัน 3,633 ล้านบาท ขณะนี้ยอดการรับชมเพิ่มเป็น 3 ล้านคนต่อนาที จากเดิม 570,000 คนต่อนาที
ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาก็ขอให้ผู้ประกอบการเสนอแนะมาได้ หากช่วยได้ กสทช.ก็พร้อมสนับสนุน สำหรับการวัดความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) นั้น ขณะนี้มีแนวคิดที่จะให้กำหนดไว้ในเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 4 จี โดยจะสำรวจจากผู้ใช้บริการมือถือที่มีอยู่ในประเทศ 110 ล้านเลขหมายได้ด้วย รวมถึงการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต เป็นอัตราก้าวหน้าไม่เกิน 2% เช่น รายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ไม่ต้องเสีย
นายฐากรกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรายได้ปี 57 ของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 22 ราย มีรายได้รวม 3,633 ล้านบาท
โดย 10 อันดับที่มีรายได้สูงสุด ได้แก่ อาร์เอส 472 ล้านบาท / เวิร์คพอยท์ 452 ล้านบาท / ช่อง 3 เอชดี 433 ล้านบาท / ทรูโฟร์ยู 274 ล้านบาท / ทีเอ็นเอ็น 271 ล้านบาท / เนชั่น 244 ล้านบาท/ ช่อง 7 จำนวน 211 ล้านบาท / ไทยรัฐทีวี 200 ล้านบาท / ช่อง Now 195 ล้านบาท และ ช่อง 3 เอสดี 150 ล้านบาท
สปริงนิวส์ 129 ล้านบาท / ช่อง 3 แฟมิลี่ 122 ล้านบาท / โมโน 113 ล้านบาท / จีเอ็มเอ็ม วันทีวี 97 ล้านบาท / วอยซ์ ทีวี 71 ล้านบาท / จีเอ็มเอ็ม แชนแนล 63 ล้านบาท / พีพีทีวี 42 ล้านบาท / ไบรท์ ทีวี 33 ล้านบาท / อมรินทร์ 27 ล้านบาท / ดีเอ็น บรอดคาสท์ (เดลินิวส์) 11 ล้านบาท / อสมท เอชดี 8 ล้านบาท และ อสมท แฟมิลี่ 6 ล้านบาท
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พีพีทีวี กล่าวว่า กสทช.ควรจะสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามีความเหลื่อมล้ำในการทำธุรกิจ
นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการไทยรัฐทีวีกล่าวว่า..การแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการต้องลงทุนสูง ทำให้รายใหญ่และเป็นรายเดิมยังเป็นผู้คุมตลาด ขณะที่ กสทช.ไม่สามารถออกกฎระเบียบให้แข่งขันอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมได้.
ที่มา: ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/514798 
กสทช.โชว์รายได้ช่องดิจิตอล อาร์เอสนำเวิร์คพอยท์-ช่อง 3-ทรูไล่ติด
กสทช.ถก “ทางรอดทีวีดิจิตอล” ลุยจัดงานสื่อสารแห่งชาติ “ฐากร” ปลื้มยอดผู้ชม 15 เดือนขยับจาก 5.7 แสนคนต่อนาที เป็น 3 ล้านคนต่อนาที เผยรายได้ปีที่ผ่านมา อาร์เอสนำโด่ง 472 ล้านบาท ตามมาด้วยเวิร์คพอยท์, ช่อง 3 เอชดี, ทรูโฟร์ยู, ทีเอ็น-เอ็น ส่วน อสมท. รายได้รั้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เป็นประธานแถลงข่าวงานวันสื่อสารแห่งชาติประจำปี 2558 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 ส.ค.58 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้ชื่องานว่า “NBTC EXPO THAILAND : NET 2015” ภายใต้แนวคิด“ก้าวสู่อนาคตโลกดิจิตอล Future Trend in Digital World” เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอลตามนโยบายรัฐบาล โดยการจัดงานครั้งนี้ ใช้งบประมาณราว 40 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000-20,000 คน
ภายในงานแถลงข่าวยังมีการจัดเสวนา “ทิศทางการอยู่รอดของทีวีดิจิตอล” โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ยอดรับชมทีวีดิจิตอลและสัดส่วนรายได้ของทีวีดิจิตอลปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลของประเทศไทย ที่เปิดให้บริการมาเพียงปีเศษหรือ 15 เดือน โดยปี 57 มีรายได้รวมกัน 3,633 ล้านบาท ขณะนี้ยอดการรับชมเพิ่มเป็น 3 ล้านคนต่อนาที จากเดิม 570,000 คนต่อนาที
ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาก็ขอให้ผู้ประกอบการเสนอแนะมาได้ หากช่วยได้ กสทช.ก็พร้อมสนับสนุน สำหรับการวัดความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) นั้น ขณะนี้มีแนวคิดที่จะให้กำหนดไว้ในเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 4 จี โดยจะสำรวจจากผู้ใช้บริการมือถือที่มีอยู่ในประเทศ 110 ล้านเลขหมายได้ด้วย รวมถึงการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต เป็นอัตราก้าวหน้าไม่เกิน 2% เช่น รายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ไม่ต้องเสีย
นายฐากรกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรายได้ปี 57 ของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 22 ราย มีรายได้รวม 3,633 ล้านบาท
โดย 10 อันดับที่มีรายได้สูงสุด ได้แก่ อาร์เอส 472 ล้านบาท / เวิร์คพอยท์ 452 ล้านบาท / ช่อง 3 เอชดี 433 ล้านบาท / ทรูโฟร์ยู 274 ล้านบาท / ทีเอ็นเอ็น 271 ล้านบาท / เนชั่น 244 ล้านบาท/ ช่อง 7 จำนวน 211 ล้านบาท / ไทยรัฐทีวี 200 ล้านบาท / ช่อง Now 195 ล้านบาท และ ช่อง 3 เอสดี 150 ล้านบาท
สปริงนิวส์ 129 ล้านบาท / ช่อง 3 แฟมิลี่ 122 ล้านบาท / โมโน 113 ล้านบาท / จีเอ็มเอ็ม วันทีวี 97 ล้านบาท / วอยซ์ ทีวี 71 ล้านบาท / จีเอ็มเอ็ม แชนแนล 63 ล้านบาท / พีพีทีวี 42 ล้านบาท / ไบรท์ ทีวี 33 ล้านบาท / อมรินทร์ 27 ล้านบาท / ดีเอ็น บรอดคาสท์ (เดลินิวส์) 11 ล้านบาท / อสมท เอชดี 8 ล้านบาท และ อสมท แฟมิลี่ 6 ล้านบาท
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พีพีทีวี กล่าวว่า กสทช.ควรจะสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามีความเหลื่อมล้ำในการทำธุรกิจ
นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการไทยรัฐทีวีกล่าวว่า..การแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการต้องลงทุนสูง ทำให้รายใหญ่และเป็นรายเดิมยังเป็นผู้คุมตลาด ขณะที่ กสทช.ไม่สามารถออกกฎระเบียบให้แข่งขันอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมได้.
ที่มา: ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/514798