ผมก็เล่นหุ้น ศึกษามาได้ซักระยะแล้ว
อ่านๆ ดูกราฟ ดูงบ ดูข่าว อ่านกระทู้ จิ้มๆ(streaming)
แต่ส่วนใหญ่จะทำแบบกั๊กๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก เน้นว่าเรากำลังศึกษาทฤษฏีอยู่..
จนมาถึงจุดนึงเริ่มรู้สึกว่าไม่รู้จะอ่านอะไรแล้ว ไม่ใช่ว่ารู้มันหมดทุกเรื่องแล้วนะแต่คิดว่าถ้าอ่านไปอีกมันเหมือนกับนั่งอ่านคู่มือทีวีแต่ไม่ได้เปิดทีวีดูจริงๆอะ คือ รู้ทฤษฎีแต่ไม่ได้ใช้แล้วบางทฤษฎีก็ไม่รู้จะได้ใช้มั๊ย เปรียบเหมือนรู้ฟังชั่นก์บนรีโมทเยอะเกินความจำเป็น เลยรู้สึกว่าต้องเปิดทีวีบ้างแล้ว คิดได้งั้นก็เลยวางคู่มือลงแล้วเปิดหนังดูซะเลย (ไม่ใช่ละ)
เลยเริ่มซื้อ-ขายจริงๆเลยดีกว่า เอาแบบจริงๆจังๆ จดบันทึกไว้แล้วค่อยมาแก้ข้อผิดพลาดของตัวเอง
ถ้าขาดความรู้ตรงไหนจะได้หามาอ่านได้ถูกจุดหน่อย [ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เน้นพื้นฐานนักเน้นดูกราฟเป็นส่วนใหญ่ แต่คัดหุ้นจากงบคร่าวๆ ผมใช้แนวทางcanslimเพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วเข้าใจดี] ช่วงแรกๆ ก็เริ่มจากการหาหุ้นก่อน หาตัวที่งบดีๆ(ดูพวกกำไร หนี้ roa roe ไรพวกนี้)
แล้วกราฟดูไม่ผันผวนน่ากลัวราคานิ่งๆ ตลาดเคลื่อนไหวไม่น่ากลัว แล้วมารอจังหวะซื้อ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ คัทลอส
โดยไม่ดูข่าวและบทวิเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น รวมถึงไม่อ่านกระทู้ด้วย
เห้ย!! ทำไมมันง่ายจังอะ คือ มันก็มีรายละเอียดเยอะอยู่แหละ แต่โดยรวมรู้สึกว่าไมมันง่ายจังอะ มันดูน้อยๆไม่โปร ไม่ซับซ้อนเลยอะ ฮ่าๆ
แต่ก็มั่นใจอยู่นะ เพราะ ผมค่อนข้างมีทัศนคติที่โอเคกับตลาดหุ้น แล้วเข้าใจระบบกลไกอะไรต่างๆในระดับนึงละ
ก็เลยมาทบทวนแผนการดูอีกที ก็เห็นว่าเออมันก็ครบถ้วนแล้วนะ ถ้าทำได้ตามนี้ก็มีโอกาสกำไรสูงแล้ว(ดูจากกราฟในอดีต)
แล้วก็ทำตามที่วางแผนไว้ครับ ...ครั้งแรกที่ทำตามแผน กำไรร โหๆรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าแผนได้ผลว่ะ ง่ายๆงี้นี่เอง หึหึ
แต่หลังจากกำไรครั้งนั้น ก็ขาดทุนติดๆกันบ่อยครั้งมากขึ้น
ก่อนหน้าที่จะมาจริงจังเนี่ย พอร์ทผมโดยรวมกำไรอยู่(นิดนึง)แต่หลังจากมีแผนการแล้วก็จริงจังมากขึ้น
คราวนี้กลับเป็นว่าพอร์ทติดลบซะงั้น (ติดลบราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์)
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? เราทำพลาดไปตรงไหน? ย่อหน้าต่อไปคือสาระของกระทู้นี้แหละ(ข้างบนน้ำล้วนๆ5555)
ขั้นตอนการวิเคราะห์หาหุ้น กลยุทธ์ หรือเรียกรวมๆก็คือวิธีที่เราใช้คาดการณ์ทิศทางราคาหุ้นเนี่ย
ผมคิดว่า มันค่อนข้างง่ายนะแล้วก็ดูไม่มีอะไรซับซ้อนเลย (ตามวิธีผมนะ)
จากที่ลองย้อนๆดู หุ้นตัวที่เข้าซื้อส่วนใหญ่ก็ขึ้นเลย(หรือไม่ตกชนคัทลอส) ก็คือมาถูกทางอะ
แต่ที่ขาดทุนเพราะ 1.ปล่อยชนคัทลอส 2.เบื่อเลยขายทิ้ง
1.มาดูกันที่ข้อแรกก่อน เอ๊ะมันก็ถูกแล้วหนิก็ตั้งคัทลอสไว้ คัทได้ก็ดีนะมีวินัยดี
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคัทบ่อยไปมันก็ไม่ใช่ละนะ ก็เลยมาทบทวนว่าทำไมเราถึงได้คัทบ่อยจังทั้งๆทีหุ้นมันก็ขึ้นอยู่นะ
คำตอบคือออ... ลืมวางแผนขาย (โครตเบสิคเลยนะอันนี้)
ที่ทำมาตลอดคือหาโอกาสที่หุ้นจะขึ้นแล้วเข้าซื้อ พอมันขึ้นก็ปล่อยให้มันขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยไม่คิดเลยว่า ถ้าจะกำไรต้องขายดิมันไม่ขึ้นไปตลอดชาติหรอกนะ-.-
เหตุผลที่ผิดพลาดตรงนี้เพราะว่า เราหลงคิดว่าจะกินคำใหญ่โดยที่บางทีไม่ได้ดูเลยว่า
จังหวะที่เราซื้อ สภาวะต่างๆมันไม่เอื้ออำนวย(ซึ่งรู้) แต่ก็ยังดันทุรังถือต่อจนกำไรหดลงเรื่อยๆไปถึงจุดคัทลอส
2.เบื่อเลยขายทิ้ง ผู้อ่านหลายคนคงคิดว่ามันง่ายงั้นเลยหรอ
จริงครับ ถ้าเราเข้ามาเล่นจริงๆ แล้วหุ้นที่เราซื้อได้มาจากการวิเคราะห์เอง ไม่ใช่มีคนส่วนใหญ่คอยเชียร์
มันจะรู้สึกเหงาๆอะ เพราะบางทีราคามันนิ่งมากกก และเนื่องจากผมเล่นระยะค่อนข้างยาว
เรื่องเวลาก็ไม่แน่นอน อาจกินเวลาหลายวันหรือเป็นเดือน ไอจุดตรงนี้แหละที่ทำให้เราไม่มั่นคงและอารมณ์แปรปรวน
จนสุดท้ายก็ขายทิ้ง... และมันก็เด้งขึ้นอย่างรวดเร็วววว ปานจรวด จะเข้าก็คงสายไปแล้ว...
1.สิ่งที่ต้องแก้ไขในข้อแรกก็คือ ต้องวางแผนขายด้วย ง่ายๆงั้นแหละ55
2.ส่วนข้อที่สอง เป็นสิ่งที่เป็นข้อเสียของกลยุทธ์ระยะยาวแบบนี้ เพราะมันเบื่อครับ
แล้วมีโอกาสสูงมากที่ชีวิตประจำวันจะมาทำลายแผนการที่ได้วางไว้ทั้งหมด
วิธีที่ผมทำ คือ ต้องจดครับว่าจะทำอะไรบ้างแล้วทำตามที่เขียนเท่านั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องรอจนกว่าตลาดปิดจึงจะวางแผนใหม่ได้
นี่คือ 2 เหตุผลหลักๆว่าทำไมถึงขาดทุนทั้งๆทีมีแผนแล้วก็จริงจังมากขึ้น
แต่นั่นก็ยังไม่หมดครับ อย่าลืมว่าถึงแม้จะไม่ขาดทุนแต่ถ้าพลาดโอกาสทำกำไรก็เท่ากับขาดทุนเช่นกัน
บ่อยครั้งมากที่เริ่มเห็นโอกาส ราคาเริ่มนิ่ง ทุกๆอย่างโอเค แต่ไม่สนใจครับก็นั่งขี้เกียจไปวันๆ
เผลอๆแป๊ปเดียวมันขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟีลตอนนั้นคือ ลุ้นให้มันตก แต่ปรากฎยิ่งแช่ง ยิ่งขึ้นเอาขึ้นเอา แต่จะเข้าก็ไม่ได้แล้ว
ไอจุดตรงนี้แหละที่ทำให้ต้องแบ่งกลุ่มหุ้นให้เป็นระบบมากขึ้น และต้องมาcheckสถานการณ์เกือบทุกวันว่าตัวไหนมีโอกาส
จะได้รอจังหวะวางแผน แล้วเข้าซื้อเลย มันทำให้เรารู้สึกเลยว่าอยู่ในตลาดเนี่ยมันเพิกเฉยไม่ได้จริงๆ
ปัจจุบันมันอาจจะดูไม่ชัดเจน ดูนิ่งๆ แต่ถ้าตามแผนแล้วตรงนั้นมันคือ โอกาส สิ่งที่เราต้องทำคือเข้าซื้อได้แล้ว
แล้วรอดูว่าผลมันจะออกมายังไง
สิ่งที่เจอมาตลอดหลายๆเดือนที่จริงจังมากขึ้นมานี้ มันทำให้ผมรู้ว่า
การเล่นหุ้น มันไม่ได้ยากที่กลยุทธ์หรือวิธีที่เราใช้คาดการณ์มันเลย
แต่สิ่งที่ยากคือ ใจเราเองนี่แหละ
เพราะถ้าลองอ่านทบทวนดีๆจะเห็นว่า ที่ผมไม่วางแผนขายก็เพราะโลภ หวังจะให้หุ้นมันขึ้นเรื่อยๆไม่อยากจะเอากำไรน้อยๆ
หรือ
เบื่อที่ต้องมานั่งรอในหุ้นที่ไม่หวือหวา พอเห็นหุ้นตัวอื่นๆขึ้นแต่ตัวที่เราถือนิ่งมากๆก็เลยขาย โดยที่แผนตัวเองก็วางมาอย่างดีแล้วว่าตัวที่เราถือเนี่ยมันคือโอกาส หน้าที่ของเราคือการรอ...แต่ก็ทำไม่ได้
หรือ
บางครั้งขี้เกียจ ไม่สนใจติดตามการเคลื่อนไหว เพราะคิดว่าหุ้นมันต้องรอเรา ขอนอน ขอเล่นเกมแป๊ปนึงแล้วเดี๋ยวมาดูนะ
พอมาดูอีกทีมันก็วิ่งไปนู่นแล้ว บทเรียนข้อนี้มันทำให้ผมตื่นตัวต่อโอกาสที่มันพร้อมจะวิ่งตัดหน้าเราตลอดเวลา ถ้าเราเพิกเฉยต่อมัน
สำหรับผมแล้วการเล่นหุ้นแม่ngยากตรงนี้แหละครับ
ทุกวันนี้ก็รอให้ตลาดมันอาการดีขึ้นก่อน แล้วจะลองนำแผนการเดิมแต่ใส่ใจกับมันให้มากขึ้นและแก้ข้อผิดพลาดต่างๆมาลองใหม่
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ
ราตรีสวัสดิ์
เล่นหุ้นยากตรงไหน??
อ่านๆ ดูกราฟ ดูงบ ดูข่าว อ่านกระทู้ จิ้มๆ(streaming)
แต่ส่วนใหญ่จะทำแบบกั๊กๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก เน้นว่าเรากำลังศึกษาทฤษฏีอยู่..
จนมาถึงจุดนึงเริ่มรู้สึกว่าไม่รู้จะอ่านอะไรแล้ว ไม่ใช่ว่ารู้มันหมดทุกเรื่องแล้วนะแต่คิดว่าถ้าอ่านไปอีกมันเหมือนกับนั่งอ่านคู่มือทีวีแต่ไม่ได้เปิดทีวีดูจริงๆอะ คือ รู้ทฤษฎีแต่ไม่ได้ใช้แล้วบางทฤษฎีก็ไม่รู้จะได้ใช้มั๊ย เปรียบเหมือนรู้ฟังชั่นก์บนรีโมทเยอะเกินความจำเป็น เลยรู้สึกว่าต้องเปิดทีวีบ้างแล้ว คิดได้งั้นก็เลยวางคู่มือลงแล้วเปิดหนังดูซะเลย (ไม่ใช่ละ)
เลยเริ่มซื้อ-ขายจริงๆเลยดีกว่า เอาแบบจริงๆจังๆ จดบันทึกไว้แล้วค่อยมาแก้ข้อผิดพลาดของตัวเอง
ถ้าขาดความรู้ตรงไหนจะได้หามาอ่านได้ถูกจุดหน่อย [ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เน้นพื้นฐานนักเน้นดูกราฟเป็นส่วนใหญ่ แต่คัดหุ้นจากงบคร่าวๆ ผมใช้แนวทางcanslimเพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วเข้าใจดี] ช่วงแรกๆ ก็เริ่มจากการหาหุ้นก่อน หาตัวที่งบดีๆ(ดูพวกกำไร หนี้ roa roe ไรพวกนี้)
แล้วกราฟดูไม่ผันผวนน่ากลัวราคานิ่งๆ ตลาดเคลื่อนไหวไม่น่ากลัว แล้วมารอจังหวะซื้อ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ คัทลอส
โดยไม่ดูข่าวและบทวิเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น รวมถึงไม่อ่านกระทู้ด้วย
เห้ย!! ทำไมมันง่ายจังอะ คือ มันก็มีรายละเอียดเยอะอยู่แหละ แต่โดยรวมรู้สึกว่าไมมันง่ายจังอะ มันดูน้อยๆไม่โปร ไม่ซับซ้อนเลยอะ ฮ่าๆ
แต่ก็มั่นใจอยู่นะ เพราะ ผมค่อนข้างมีทัศนคติที่โอเคกับตลาดหุ้น แล้วเข้าใจระบบกลไกอะไรต่างๆในระดับนึงละ
ก็เลยมาทบทวนแผนการดูอีกที ก็เห็นว่าเออมันก็ครบถ้วนแล้วนะ ถ้าทำได้ตามนี้ก็มีโอกาสกำไรสูงแล้ว(ดูจากกราฟในอดีต)
แล้วก็ทำตามที่วางแผนไว้ครับ ...ครั้งแรกที่ทำตามแผน กำไรร โหๆรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าแผนได้ผลว่ะ ง่ายๆงี้นี่เอง หึหึ
แต่หลังจากกำไรครั้งนั้น ก็ขาดทุนติดๆกันบ่อยครั้งมากขึ้น
ก่อนหน้าที่จะมาจริงจังเนี่ย พอร์ทผมโดยรวมกำไรอยู่(นิดนึง)แต่หลังจากมีแผนการแล้วก็จริงจังมากขึ้น
คราวนี้กลับเป็นว่าพอร์ทติดลบซะงั้น (ติดลบราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์)
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ? เราทำพลาดไปตรงไหน? ย่อหน้าต่อไปคือสาระของกระทู้นี้แหละ(ข้างบนน้ำล้วนๆ5555)
ขั้นตอนการวิเคราะห์หาหุ้น กลยุทธ์ หรือเรียกรวมๆก็คือวิธีที่เราใช้คาดการณ์ทิศทางราคาหุ้นเนี่ย
ผมคิดว่า มันค่อนข้างง่ายนะแล้วก็ดูไม่มีอะไรซับซ้อนเลย (ตามวิธีผมนะ)
จากที่ลองย้อนๆดู หุ้นตัวที่เข้าซื้อส่วนใหญ่ก็ขึ้นเลย(หรือไม่ตกชนคัทลอส) ก็คือมาถูกทางอะ
แต่ที่ขาดทุนเพราะ 1.ปล่อยชนคัทลอส 2.เบื่อเลยขายทิ้ง
1.มาดูกันที่ข้อแรกก่อน เอ๊ะมันก็ถูกแล้วหนิก็ตั้งคัทลอสไว้ คัทได้ก็ดีนะมีวินัยดี
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคัทบ่อยไปมันก็ไม่ใช่ละนะ ก็เลยมาทบทวนว่าทำไมเราถึงได้คัทบ่อยจังทั้งๆทีหุ้นมันก็ขึ้นอยู่นะ
คำตอบคือออ... ลืมวางแผนขาย (โครตเบสิคเลยนะอันนี้)
ที่ทำมาตลอดคือหาโอกาสที่หุ้นจะขึ้นแล้วเข้าซื้อ พอมันขึ้นก็ปล่อยให้มันขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยไม่คิดเลยว่า ถ้าจะกำไรต้องขายดิมันไม่ขึ้นไปตลอดชาติหรอกนะ-.-
เหตุผลที่ผิดพลาดตรงนี้เพราะว่า เราหลงคิดว่าจะกินคำใหญ่โดยที่บางทีไม่ได้ดูเลยว่า
จังหวะที่เราซื้อ สภาวะต่างๆมันไม่เอื้ออำนวย(ซึ่งรู้) แต่ก็ยังดันทุรังถือต่อจนกำไรหดลงเรื่อยๆไปถึงจุดคัทลอส
2.เบื่อเลยขายทิ้ง ผู้อ่านหลายคนคงคิดว่ามันง่ายงั้นเลยหรอ
จริงครับ ถ้าเราเข้ามาเล่นจริงๆ แล้วหุ้นที่เราซื้อได้มาจากการวิเคราะห์เอง ไม่ใช่มีคนส่วนใหญ่คอยเชียร์
มันจะรู้สึกเหงาๆอะ เพราะบางทีราคามันนิ่งมากกก และเนื่องจากผมเล่นระยะค่อนข้างยาว
เรื่องเวลาก็ไม่แน่นอน อาจกินเวลาหลายวันหรือเป็นเดือน ไอจุดตรงนี้แหละที่ทำให้เราไม่มั่นคงและอารมณ์แปรปรวน
จนสุดท้ายก็ขายทิ้ง... และมันก็เด้งขึ้นอย่างรวดเร็วววว ปานจรวด จะเข้าก็คงสายไปแล้ว...
1.สิ่งที่ต้องแก้ไขในข้อแรกก็คือ ต้องวางแผนขายด้วย ง่ายๆงั้นแหละ55
2.ส่วนข้อที่สอง เป็นสิ่งที่เป็นข้อเสียของกลยุทธ์ระยะยาวแบบนี้ เพราะมันเบื่อครับ
แล้วมีโอกาสสูงมากที่ชีวิตประจำวันจะมาทำลายแผนการที่ได้วางไว้ทั้งหมด
วิธีที่ผมทำ คือ ต้องจดครับว่าจะทำอะไรบ้างแล้วทำตามที่เขียนเท่านั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องรอจนกว่าตลาดปิดจึงจะวางแผนใหม่ได้
นี่คือ 2 เหตุผลหลักๆว่าทำไมถึงขาดทุนทั้งๆทีมีแผนแล้วก็จริงจังมากขึ้น
แต่นั่นก็ยังไม่หมดครับ อย่าลืมว่าถึงแม้จะไม่ขาดทุนแต่ถ้าพลาดโอกาสทำกำไรก็เท่ากับขาดทุนเช่นกัน
บ่อยครั้งมากที่เริ่มเห็นโอกาส ราคาเริ่มนิ่ง ทุกๆอย่างโอเค แต่ไม่สนใจครับก็นั่งขี้เกียจไปวันๆ
เผลอๆแป๊ปเดียวมันขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟีลตอนนั้นคือ ลุ้นให้มันตก แต่ปรากฎยิ่งแช่ง ยิ่งขึ้นเอาขึ้นเอา แต่จะเข้าก็ไม่ได้แล้ว
ไอจุดตรงนี้แหละที่ทำให้ต้องแบ่งกลุ่มหุ้นให้เป็นระบบมากขึ้น และต้องมาcheckสถานการณ์เกือบทุกวันว่าตัวไหนมีโอกาส
จะได้รอจังหวะวางแผน แล้วเข้าซื้อเลย มันทำให้เรารู้สึกเลยว่าอยู่ในตลาดเนี่ยมันเพิกเฉยไม่ได้จริงๆ
ปัจจุบันมันอาจจะดูไม่ชัดเจน ดูนิ่งๆ แต่ถ้าตามแผนแล้วตรงนั้นมันคือ โอกาส สิ่งที่เราต้องทำคือเข้าซื้อได้แล้ว
แล้วรอดูว่าผลมันจะออกมายังไง
สิ่งที่เจอมาตลอดหลายๆเดือนที่จริงจังมากขึ้นมานี้ มันทำให้ผมรู้ว่า
การเล่นหุ้น มันไม่ได้ยากที่กลยุทธ์หรือวิธีที่เราใช้คาดการณ์มันเลย
แต่สิ่งที่ยากคือ ใจเราเองนี่แหละ
เพราะถ้าลองอ่านทบทวนดีๆจะเห็นว่า ที่ผมไม่วางแผนขายก็เพราะโลภ หวังจะให้หุ้นมันขึ้นเรื่อยๆไม่อยากจะเอากำไรน้อยๆ
หรือ
เบื่อที่ต้องมานั่งรอในหุ้นที่ไม่หวือหวา พอเห็นหุ้นตัวอื่นๆขึ้นแต่ตัวที่เราถือนิ่งมากๆก็เลยขาย โดยที่แผนตัวเองก็วางมาอย่างดีแล้วว่าตัวที่เราถือเนี่ยมันคือโอกาส หน้าที่ของเราคือการรอ...แต่ก็ทำไม่ได้
หรือ
บางครั้งขี้เกียจ ไม่สนใจติดตามการเคลื่อนไหว เพราะคิดว่าหุ้นมันต้องรอเรา ขอนอน ขอเล่นเกมแป๊ปนึงแล้วเดี๋ยวมาดูนะ
พอมาดูอีกทีมันก็วิ่งไปนู่นแล้ว บทเรียนข้อนี้มันทำให้ผมตื่นตัวต่อโอกาสที่มันพร้อมจะวิ่งตัดหน้าเราตลอดเวลา ถ้าเราเพิกเฉยต่อมัน
สำหรับผมแล้วการเล่นหุ้นแม่ngยากตรงนี้แหละครับ
ทุกวันนี้ก็รอให้ตลาดมันอาการดีขึ้นก่อน แล้วจะลองนำแผนการเดิมแต่ใส่ใจกับมันให้มากขึ้นและแก้ข้อผิดพลาดต่างๆมาลองใหม่
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ
ราตรีสวัสดิ์