เส้นบางๆที่กั้นระหว่างผิดศีลธรรมและเพื่อนรัก

ติดตาม pantip มานานหลายปี อ่านเรื่องราวคนอื่นมามากมาย ก็เลยอยากแชร์เรื่องราวของตัวเอง ที่ตกอยู่ใน สถานะที่นั่งลำบาก ให้เพื่อนๆทราบบ้าง
    ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน หลังจากผมและแฟน (ภรรยาในปัจจุบัน) เรียนจบ ได้ย้ายภูมิลำเนาจากบ้านนอกเข้ามาทำงานในเมืองหลวง การใช้ชีวิตเราก็ดำเนินชีวิตตามปกติ มีทุกข์ เศร้า เหงา สุข ผสมปนเปกันไป ตัวผมเองปกติเป็นคนที่อัธยาศัยพอใช้ได้ ชอบฟังเรื่องราวชีวิตของคนอื่นที่เล่าจากเจ้าตัว รู้สึกสนุกและคิดว่าตัวเองคงได้ข้อคิดบางอย่างไม่มากก็น้อย ชีวิตจึงมักตกอยู่ในสถานะผู้ฟังและผู้ที่ให้กำลังใจที่ดี
    แต่แล้ววันหนึ่ง ผมได้ก็มาเจอ ผญ คนหนึ่ง บังเอิญรู้จักเนื่องจากเป็นเพื่อนกับพี่ชายที่ผมเคารพ เราได้รู้จักกันและผมได้ช่วยในการเป็นพ่อสื่อให้เธอกับพี่ชายของผม แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ใครจะไปคิดว่าเพราะเหตุนี้จึงทำให้เราสนิทกันไปโดยไม่รู้ตัว เรามักจะคุยโทรศัพท์ด้วยกันเสมอ...ยามที่มีโอกาส ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะที่เธอระบายให้ผมฟัง ไม่ว่าเธอจะเครียดเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องพี่ชายคนที่เธอแอบชอบ ตลอดจนเรื่องอื่นๆ    
ระหว่างที่เราคุยกัน ผมก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันและผมก็มีแฟนแล้ว จนวันหนึ่งแฟนผมท้อง เราจึงตัดสินในแต่งงานกันและหลังจากภรรยาของผมได้คลอดบุตรสุดที่รัก ตอนนั้นผมก็คิดว่า ผมกับเธอคงได้คุยกันน้อยลง ที่ไหนได้กลับคุยกันเหมือนเดิมและเหมือนจะบ่อยขึ้นมากด้วย แน่นอนแฟนผมย่อมไม่รู้ ความรู้สึกตอนนั้นได้เตือนผมว่า ไม่ได้การแล้ว แม้เราจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่หากยังคุยและหากเรื่องราวยังเดินต่อไปอาจจะไม่เหมาะนัก ผมกับเธอจึงตกลงกันว่า เราจะเป็นแค่เพื่อนใจกัน คอยให้กำลังใจกัน และห้ามคิดอะไรมากกว่านั้น
    เวลาล่วงเลยผ่าน เราก็พูดคุยกันมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นเวลาที่ผมไม่ได้อยู่กับครอบครัว จนวันหนึ่งวันเกิดเธอ เธอได้ถามผม และผมได้ตอบเธอกลับไปว่า ผมชอบเธอ และมีแนวโน้มที่เธอก็อาจจะชอบผมเหมือนกัน(แม้เพียงเล็กน้อย) เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกผิดกับครอบครัว กับภรรยา กับลูกที่ผมรัก และรู้สึกผิดกับเธอตอนที่ผมสารภาพกับเธอไป
    การตกที่นั่งลำบกในสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง หากจะถามว่ารักครอบครัว รักลูกหรือเปล่า? ก็ตอบได้เต็มปากว่ารักแน่นอน และสำหรับเธอคนที่คุยด้วยบ่อยๆ ก็พยายามข่มใจตัวเองตลอดว่า ห้ามชอบ ห้ามรัก
    สิ่งที่เล่ามาทั้งหมด ก็แค่อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆรับฟัง เผื่อจะได้ข้อคิดอะไรบ้าง ว่าการจะมีเพื่อนรักต่างเพศที่คุยกันได้ทุกเรื่องราว แต่ต้องข่มใจตัวเองไว้ว่า ห้ามรัก ห้ามชอบ ห้ามคิดถึง ห้ามเป็นห่วง มันช่างเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ถ้าจะถามถึงทางออกและคิดด้านบวก ก็คงเป็นเธอได้เจอกับผู้ชายคนใหม่ ที่เป็นคนดี แต่งงาน มีครอบครัวที่สมบูรณ์ โดยมีเพื่อนรักอย่างผมคอยดูอยู่ห่างๆ  และถ้าจะถามถึงทางออกและคิดด้านลบ มันก็คง “ ไม่มี ”

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่