ศาสนาพุทธ กับ ศาสนาคริสต์ มี ความขัดแย้ง ในตัวมันเอง

เมื่อต้นปีได้มีโอกาสไปโบสถ์ "คริสตจักร" แห่งหนึ่ง  แถวพระรามเก้า  ใกล้ ๆ เดอะไนน์ พระราม 9  เขตสวนหลวง  เข้าไปฟัง เขาบรรยายเกี่ยวกับเรื่องศาสนาศริสต์ หรือที่เขาเรียกว่า นมัสการพระเจ้า  ทุกวันอาทิตย์ ตอนแรก ก้อเข้าไป ไม่คิดอะไร แค่ไปอยากรุ้อยาก อยากเห็นเท่านั้น  สืบเนื่องมาจากคนในบริษัทที่ทำงานอยู่ในตอนนั้น ชักชวน เจ้าของบริษัทก็เป็นศริสต์   ตอนแรกๆ ไป เขาตอนรับอย่างดีมาก ยิ่งกว่า แขกที่มาพักในโรงแรมสะอีก  ในใจก็ตั้งใจดีน่ะที่จะไป แต่พอไปๆๆ มาๆๆ ได้สักระยะหนึ่ง ก็เริ่มเห็นแล้วว่า มันไม่ใช้สิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ เขาให้เริ่มทำนู้นทำนี้ แต่พอถึงเวลาที่ต้องพิธีรับบัพติศมา  ผมไม่ไป  เพราะผมคิดว่า มันไม่ใช้สิ่งที่เราเชื่อ เพราะนอนกลางคืนหลับตาที่ไร ก็ยัง คิดถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ตลอดเวลา   จะให้เราละทิ้งสิ่งนี้ไปเลยตลอดชีวิตเลย  คงทำไม่ได้  ใครบอกว่า นับถือคริสต์แล้ว นับถือพุทธได้  ไม่จริง เชื่อไม่ได้คนพวกนี้  เพราะ จิตใจเรา จะห่างจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ออกไป จริงๆๆ  ประกอบกลับผม ไม่ชอบ คนในออฟฟิสบางคน ที่เอาพระเจ้ามาบังหน้า เพื่อจะได้ทำงาน  ที่นั้นต่อ  ทั้งที่ตัวเอง ไม่ได้นับถืออย่างจริงจัง   และประกอบกลับผมได้ยิน คนในโบสถ์ "คริสตจักร" แห่งนั้น พูดกันเรื่องตกปลา  ศาสนาศริสต์ ไม่สอน รือเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มันเป็นบาปในทางพุทธ    ใช้ว่าศาสนาศริสต์ จะไม่ได้ดี พระเจ้า ทรงดีมาก  "แต่ไม่ใช้สำหรับผมแล้วล่ะ"   เพราะเลิกนับถือพระเจ้า  ก็เจอแต่เรื่องเลวร้ายมาตลอด พระเจ้าดีจริงหรือ ใหนบอกว่าพระเจ้ารักคุณ  พอเลิกรักพระเจ้า พระเจ้าก็กลับมาทิมแทง ทำกันอย่างนี้หรือ     "ฮาเลลูยา"    โธ่เอย พระเจ้า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เห็นด้วยกับจขกทค่ะว่า เอาสองศาสนามารวมกันไม่ได้เลย จะเกิดปัญหาทันที อะไรที่ศรัทธาแล้วก็ไปมันให้สุดสักทาง อย่าเหยียบเรือสองแคม

และเห็นด้วยอีกเรื่องคือบางคนก็โหนพระเจ้าใช้พระเจ้าเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ ในจะประวัติศาสตร์ที่คนใช้ศาสนามาบังหน้าข่มเหงรังแกคนอื่น ตัวเราเองก็เจอมาบ้าง  ถึงกับไม่อยากไปโบสถ์เลย แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าที่โบสถ์นั่นก็คนบาปทั้งนั้น คนดีๆ ที่ไหนจะมานั่งอยู่ในโบสถ์ ป่านนี้นั่งอยู่ข้างบัลลังค์ของพระเจ้าร่วมกับพระเยซูแล้วมั้ง

ส่วนข้อความทิ้งท้ายของจขกทนี่เราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเจอสิ่งเลวร้าย เราเจอ... แต่มันทำอะไรเราไม่ได้ค่ะ
ชีวิตคริสเตียนหลังเชื่อพระเจ้าแล้วไม่มีพระคัมภีร์ข้อไหนเคลมว่าชีวิตจะสะดวกสบายไม่เจอเรื่องเลวร้าย อันนั้นมันเทพพระเจ้านกหัวขวานตามสามแยกป่ะคะ จงนับถือเราแล้วเราจะให้โชคให้ลาบบบ 555

ในไบเบิ้ล พระเจ้าเตือนอยู่ตลอดค่ะ ว่า... “ความปลอดภัยบนโลกนั้นไม่ได้รับการรับรองจากพระเจ้า” เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเชื่อในพระเจ้าหรือไม่เชื่อ ทุกคนมีโอกาสเจอกับเรื่องเลวร้ายได้ทั้งนั้น ยิ่งเป็นคริสเตียนยิ่งต้องทำใจไว้ได้เลยว่าเจอมากกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน

แต่ยิ่งมีเรื่องเลวร้ายเยอะ ยิ่งต้องขอบคุณพระเจ้า  เพราะทุกครั้งที่เราชนะความเลวร้ายได้  ในขณะที่คนอื่นๆพ่ายแพ้และกำลังบ่นด่าต่อว่าโทษนั่นโทษนี่ เรากำลังมีสันติสุขได้ท่ามกลางความหายนะต่างๆ นั่นแสดงว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ากำลังเทลงมาในชีวิตของเราแล้ว

และสิ่งเหล่านี้แหละที่มัน  “ทำให้พวกเราปลอดภัย ทั้งๆที่อยู่ในโลกที่ไม่ปลอดภัย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่